MorMor .. W=^-^=W
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Pan’s Labyrinth .. แฟนตาซีจิตหลอน ..

เมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนส่งภาพจากหนังเรื่อง Pan’s Labyrinth มาให้ มม ดู ..



.. แค่ภาพแรกที่เห็นก็ปิ๊งซะแล้ว ..

.. จัดเป็นหนังเรื่องแรกในรอบปีนี้ ที่ มม ตั้งใจไว้ว่า ยังไงก็ต้องไปดูให้ได้ ..

.. และแล้ว ในที่สุด .. เมื่อวานนี้ มม ก็ได้ไปดู Pan’s Labyrinth สมใจ .. แล้วก็ไม่ผิดหวัง .. หนังเค้าดีสมคำร่ำลือ สมกับที่ตั้งหน้าตั้งตารอดูจริงๆ ..



.. หลังจากบรรทัดนี้เป็นต้นไปจะมีสปอยเนื้อเรื่องหลุดออกมาเป็นจำนวนมาก .. ใครไม่อยากอ่านสปอย ก็ปิดบล็อคนี้ไปนะ ..

..






Pan’s Labyrinth .. เป็นเรื่องของหนูน้อยโอฟิเลีย ผู้เสียพ่อไปในช่วงสงคราม ซ้ำแม่ก็ยังไปแต่งงานใหม่กับทหารจอมโหด (เนื่องจาก มม จำชื่อแกไมได้ ดังนั้นหลังจากนี้จะขอเรียกว่า กัปตัน ) เนื่องจากกัปตันต้องการให้ลูกชายเกิดมาปุ๊บ ก็เห็นหน้าพ่อปั๊บ ดังนั้น โอฟิเลียจึงต้องย้ายบ้านตามแม่มาอยู่กลางป่า กลางสนามรบซะอย่างงั้น ( .. ก็กัปตันแกเป็นนายทหารนี่นา แกก็ต้องไปรบสิ) .. ที่นั่นเองที่โอฟิเลียได้พบกับ เขาวงกตเก่าแก่ แฟรี่ ฟอน และอื่นๆ อีกมากมาย.. แล้วการผจญภัยของหนูน้อยโอฟิเลียก็ได้เริ่มต้นขึ้น ..





หนังจงใจเปิดเรื่องแบบ เทพนิยาย .. เล่าเรื่องของเจ้าหญิงผู้สาบสูญ และการรอคอยอย่างมีความหวังของพระราชาผู้เป็นบิดา .. ว่าสักวัน ธิดาองค์น้อยจะกลับมา .. ก่อนจะนำพาผู้ชมเข้าสู่เรื่องราวของโอฟิเลีย .. ทำประหนึ่งว่า ตลอดเวลาอีก 2 ชั่วโมงต่อไปนี้ คุณผู้กำกับใจดี จะมาเล่านิทานก่อนนอนให้เด็กน้อยโชคดีที่หลงเข้ามาฟังอย่างงั้นแหละ .. ( .. แต่เด็กคนไหนได้ฟังนิทานเรื่องนี้ .. คาดว่าคงนอนฝันร้ายไปอีกหลายปีแน่ๆ)

ว่าแล้ว คุณ ผกก ก็เริ่มเล่าเรื่องของเจ้าหญิงโอฟิเลียผู้ซึ่งเพิ่งจะค้นพบความจริงว่า แท้จริงแล้วเธอเป็นธิดาของพระราชาแห่งโลกใต้พิภพกลับชาติมาเกิดใหม่ .. และหากเธอต้องการกลับไปเป็นเจ้าหญิงตามเดิม ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการปฏิบัติภารกิจที่กำหนด 3 ข้อ ให้สำเร็จก่อนพระจันทร์เต็มดวง ..

.. แต่เนื่องจาก คุณ ผกก แกใจดี .. กลัวว่าคุณผู้ใหญ่ที่พาหนูน้อยหลงเข้ามานั่งฟังนิทานจะเบื่อ ก็เลยสลับฉากด้วยการ เล่าเรื่องสงครามร้อนๆ ให้ฟังเป็นระยะๆ ซะอย่างงั้น ..

.. หนูน้อยโอฟิเลียก็เลยลำบากต้องวิ่งไปมาระหว่างเทพนิยายกับหนังสงครามไปโดยปริยาย ..




คำถามยอดฮิตที่ผู้ชมนิยมถามกันหลังดูหนังเรื่องนี้จบ คงจะหนีไม่พ้น .. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงหรือโอฟิเลียจิตหลอนคิดไปเอง ??

หลายคนเลือกที่จะเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นโอฟิเลียจิตหลอนคิดไปเอง .. ในขณะที่อีกหลายคนก็เชื่อว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ

.. จัดว่าเป็นความอัจฉริยะของ ผกก อย่างยิ่ง .. ที่สามารถสร้างเหตุผลที่หนักแน่นมารองรับได้ทั้งสองฝั่ง ..

เริ่มจากพื้นฐานที่ว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังสำหรับ "ผู้ใหญ่" ผู้ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะไม่เชื่อเรื่องเทพนิยาย .. (หรือเคยเชื่อแต่เลิกเชื่อไปนานแล้ว) .. การจะทำให้ผู้ใหญ่เชื่อว่า เทพนิยายหลอนๆ ในเรื่องนี้เป็นความจริงย่อมทำได้ยากกว่าทำให้เชื่อว่ามันไม่จริง ..

ดังนั้น แทบตลอดทั้งเรื่อง .. น้ำหนักของเหตุผลด้านเทพนิยายถูกวางลงบนตาชั่งในใจคนดูอย่างต่อเนื่อง ..เราจึงได้เห็นโอฟิเลียในภาคเทพนิยายมีความสมจริงเป็นอย่างยิ่ง .. ตัวอย่างเช่น ..

เราจะไม่เห็นภาพโอฟิเลียยืนพูดคนเดียว หรือทำท่าให้สงสัยได้ว่ามีอาการทางจิต แบบที่หนังจิตหลอนเรื่องอื่นๆ ชอบทำ .. (ยกเว้นช่วงท้ายเรื่อง)

เมื่อเธอไปมุดตอไม้ในภารกิจแรก ก็สกปรกมอมแมมกลับมาจริงๆ ..

สิ่งของต่างๆ ที่เธอใช้มีอยู่จริง จับต้องได้ ไม่ว่าจะโดยตัวเธอเองหรือตัวละครอื่นๆ ในเรื่อง

เมื่อเธอนำรากไม้ที่อยากกลายเป็นเด็กไปเลี้ยงไว้ใต้เตียงของแม่ก็ทำให้แม่กลับหายป่วยได้จริงๆ (และเมื่อรากไม้ถูกทำลาย แม่ก็ตายไปจริงๆ) ..

การใช้ชอร์คสร้างประตูก็ดูสมจริง และสามารถทำให้เธอเข้าไปในห้องของกัปตันได้จริงๆ จนยากที่จะเชื่อว่า หนูน้อยจะใจร้ายกับคนดูขนาดแกล้งขีดชอร์คเป็นช่องประตูทิ้งไว้ แล้วฉวยโอกาสตอนกล้องหันไปถ่ายคนอื่น เปิดประตูห้อง วิ่งตึ๊กๆๆ เข้าไปในห้องกัปตันหน้าตาเฉย


และเพื่อไม่เห็นตาชั่งเอนเอียงไปทางด้านเทพนิยายจนเอียงกะเท่เร่เกินไปนัก .. จึงต้องมีการถ่วงวางน้ำหนักลงบนตาชั่งด้านจิตหลอนบ้างเป็นระยะๆ ด้วยคำพูดและการกระทำของตัวละคร "ผู้ใหญ่" ในเรื่อง

รวมไปถึงการใช้ภาพความโหดร้ายของมนุษย์และสงครามเป็นแบ็คกราวด์ของเรื่อง (และกระหน่ำความโหดร้ายต่างๆ เหล่านั้นเข้าใส่คนดูเป็นระยะๆ) เพื่อตอกย้ำว่า ไม่ว่าเหตุการณ์เทพนิยายที่เกิดขึ้นจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ตัวโอฟิเลียนั้นมีชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง (อันแสนโหดร้าย) อย่างแน่นอนนะจ๊ะ



.. จนกระทั่งถึงช่วงท้ายเรื่อง .. น้ำหนักฝั่งเทพนิยายบนตาชั่งดูจะมากกว่าฝั่งจิตหลอนอยู่มากโข ..

แต่แล้ว คุณ ผกก (ซึ่งคงเป็นคนยุติธรรมไม่ใช่น้อย) ก็เริ่มเล่นตลกด้วยการโยนหินก้อนเบ่อเร่อ หน้าตาเหมือนหัวของพระราชินีแห่งอาณาจักรใต้พิภพ ใส่คนดูดังโครม ..

ถึงตอนนี้ คนดูซึ่งเป็น "ผู้ใหญ่" ก็รีบรับหินก้อนนั้นไปวางบนตาชั่งฝั่งจิตหลอนทันที .. พร้อมกับความรู้สึกอยากได้ก้อนหินหน้าตาเหมือนหัวพระราชาเพิ่มอีกสักก้อน จะได้ฟันธงลงไปได้เลยว่าโอฟิเลียจิตหลอน .. (แต่คุณ ผกก แกใจร้ายไม่ยอมโยนมาให้)

.. ยัง ยังไม่พอ .. แกยังกระชากหนูโอฟิเลียที่กำลังจะได้เสวยสุขในเทพนิยาย กลับมาเล่นบทสุดท้ายในหนังสงครามต่อให้จบอีกด้วย ..

.. ถึงตรงนี้ น้ำหนักฝั่งจิตหลอนก็มาแรง แซงโค้งชนะไปในชั่วพริบตา ..

.. แต่ก็อย่างที่บอก .. คุณ ผกก แกเป็นคนยุติธรรม .. ดังนั้น ดอกไม้เล็กๆ ที่ผลิดอกอยู่บนอดีตต้นไม้ตายซากจึงถูกบรรจงวางลงบนตาชั่งฝั่งเทพนิยายเป็นการปิดท้าย ..

.. ส่งผลให้ น้ำหนักแห่งเหตุผลของทั่งสองฝั่งเท่ากันพอดิบพอดี .. (ด้วยการคำนวนอย่างดิบดีของคุณ ผกก แกนั่นแล) ..

เมื่อเล่าเรื่องทั้งหมดจบลงแล้ว .. คุณ ผกก ใจร้าย ก็หันมามองคนดูที่นั่งอึ้งอยู่เต็มโรงอย่างสะใจ เปิด end credits แล้วก็เดินจากไปหน้าตาเฉย ..


.. คงเป็นเรื่องยากที่ใครจะฟันธงลงไปได้ว่า ..

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงหรือโอฟิเลียจิตหลอนคิดไปเอง ??

แต่ภายหลังจากหายอึ้งกับหนังแล้ว .. เมื่อได้มีโอกาสมานั่งจัดระเบียบและให้น้ำหนักกับหลักฐานที่คุณ ผกก แกเอามาวางกองไว้ให้ใหม่อีกครั้ง .. คำถามที่คนดูทุกคนสามารถตอบได้ก็คือ ..

"เชื่อ" หรือไม่ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง เป็นเรื่องจริง ?






Create Date : 17 เมษายน 2550
Last Update : 17 เมษายน 2550 3:18:18 น. 8 comments
Counter : 3350 Pageviews.

 
มีเรื่องให้คุยกันได้เรื่อย ๆ สำหรับเทพนิยายสีเทาเรื่องนี้
แต่อย่างน้อย ถ้าจะจินตนาการโลกแฟนตาซีขึ้นมาเอง ทำไมคุณน้องไม่นึกถึงเทพนิยายใส ๆ ให้มันชื่นใจซะหน่อยน้อ

ปล.รอสอยแผ่น 3 พับของแม่สายแน่นอนเรื่องนี้


โดย: ตาอิน วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:8:53:06 น.  

 


น่าดูจังแฮะ

ชอบหนังหลอนๆ แบบเนี้ย



โดย: นจ IP: 125.24.132.174 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:14:22:30 น.  

 
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันครับ ชอบมากๆ
ได้ไปดูมาแล้วที่สกาล่า

สำหรับผม หนังเรื่องนี้ไม่ได้หลอนเท่าไหร่นัก แต่ฉากที่รุนแรงก็รุนแรงสมจริงสมจังมาก
เด็กดูก็คงกลับไปหลอนแน่


โดย: นายกาเมศ วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:14:58:48 น.  

 
น่าดูมากๆ เเต่อยู่โคราช คงต้องรอดีวีดีสถานเดียวครับ


โดย: bigwores วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:15:30:33 น.  

 
เพิ่งไปดูมาครับ กลายเป็นหนังในใจเรื่องหนึ่งของปีนี้ไปแล้ว แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อย(แต่สำคัญ)เต็มไปหมด

แต่ผมว่าผกก.ยังใจร้ายไม่จริงครับ ทำท่าว่าจะโหดแต่ก็ยังโหดไม่เต็มสตรีม ถ้าเป็นผมนะตอนจบจะให้มืดกว่านี้อีก

ที่ว่ายังใจดีน่ะ ง่ายๆเลย ตอนต้นเรื่องมันสร้างภาพของโลกใต้บาดาลพิภพไม่ได้สดใสแบบวังในตอนท้ายเรื่องนี่หน่า ผมยังจินตนาการเลยว่าที่เจ้าหญิงหนีขึ้นมาที่โลกมนุษย์ เพราะข้างล่างมันมืดมนเหมือนอยู่ในฝันร้ายแบบเทะนิยายกริม แต่ไหงตอนจบถึงกลายเป็นเทพนิยายแบบแอนเดอร์สันได้เนี่ย

ถ้าเป็นผมนะ จะให้โอฟิเลียกลับราชวังที่เหมือนถ้ำหรืออุโมงค์มืดทึบเฉอะแฉะ หรือไม่ก็วังที่เหมือนศูนย์บัญชาการทหาร ให้คนดูรู้สึกไปเลยว่าเธอหนีเสือปะจระเข้ หนีโลกของความจริงที่โหดร้าย กลับไปเจอโลกแห่งความฝันที่ร้ายยิ่งกว่า เพราะว่าที่นั่นเธอต้องมีชีวิตอยู่อย่างมีความทุกข์ชั่วนิจนิรัดร์ (suffering ever after)



โดย: Kino (das Kino ) วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:22:29:27 น.  

 
^
^
.. ใจร้าย


โดย: แม่มดพันปี วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:0:09:45 น.  

 
น่าดูจังเลย

กราฟฟิกสวยยยย ^^


โดย: piccy IP: 124.120.247.80 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:8:08:46 น.  

 
เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อตะกี๊ค่ะ ไม่รู้สึกเลยซักแว๊บ ว่าหนูโอฟิเลียเค้าคิดไปเอง จนมาอ่านที่มม.ว่าไว้
บางที ผู้กำกับอาจจะใส่น้ำหนักฝั่งโลกแห่งความเป็นจริงน้อยไป สำหรับผู้ใหญ่ติดนิทานล่ะมั้ง


โดย: เร่ร่อน วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:11:46:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่มดพันปี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Blog นี้ ตบแต่งโดย หมาเลี้ยงแกะ และ แม่นางเจ็งลี่ จ้า ^o^

=^-^= .. หนำเลี๊ยบน่ารัก
>



Friends' blogs
[Add แม่มดพันปี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.