7 พฤติกรรมการกินที่คุณควรหลีกเลี่ยง และถ้าหากคุณทำได้การลดน้ำหนักที่คุณพยายามอยู่ก็จะประสบผลสำเร็จและยั่งยืนตลอดไปอีกด้วย แถมยังได้สุขภาพที่ดีเยี่ยมกลับคืนมา ดูเด็กขึ้น ผิวพรรณสดใส มันคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแปลง ลองทำกันดูนะคะ
1. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
การดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบแบบโดมิโนเชียวล่ะ เมื่อดื่มไปแล้วสติสัมปชัญญะก็จะลดลง ขณะที่ความอยากอาหารเพิ่มสูงขึ้น ยังไม่รวมแคลอรี่ที่อยู่ในเครื่องดื่มเหล่านั้นอีกนะ ส่งผลให้คุณบริโภคแคลอรี่เข้าไปเป็นจำนวนมหาศาล และเหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นบ่อยซะด้วยเนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองดื่มเข้าไปมากเท่าไรแล้ว คุณควร ลด ละ เลิกเครื่องดื่มมึนเมาเหล่านี้ หรือไม่ก็จำกัดการดื่ม เช่น สัปดาห์ละครั้ง ดื่มเต็มที่ได้ไม่เกิน 2 แก้ว เป็นต้น
2. รับประทานอาหารลดน้ำหนัก
ฉันเกลียดอาหารลดน้ำหนักซึ่งมักเต็มไปด้วยสารเติมแต่งและส่วนประกอบก็อ่านออกเสียงยากไปไหนเนี่ย! เอาล่ะเรามายอมรับความจริงกันดีกว่าว่าพวกเขาแค่ใส่ส่วนประกอบที่คุณไม่ชอบลงไป ลูกค้านับไม่ถ้วนบอกว่าหลังจากที่กินอาหารหรือขนมสำหรับลดน้ำหนักแล้ว พวกเขายังหิวโซและในหัวมีแต่อาหารซึ่งทำให้ต้องแอบกินเพิ่มเข้าไปอีก ไม่ว่าซีเรียล 1 ช้อน หรือ 2 ช้อน (ไม่แน่ก็มีช้อนที่ 3 ด้วยนะ) ผลที่ตามมาคือพวกเขาได้รับแคลอรี่หนักกว่าเดิม ผลการวิจัยในปี 2010 พบว่าอาหารเพื่อสุขภาพ (ที่ไม่ใช่อาหารลดน้ำหนักนะ อย่าเข้าใจผิด) จะเผาผลาญได้เร็วกว่าอาหารแปรรูปราว 50% ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพแทนที่จะเป็นอาหารลดน้ำหนัก ทิ้งอาหารลดน้ำหนักไปซะแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ในปี 2015 กันดีกว่า โดยเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเช่น ผัก ผลไม้ คาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ หรือไขมันดีๆทั้งหลาย แทนอาหารลดน้ำหนักที่มีแต่จะทำให้คุณหิวโหยมากกว่าเดิม
3. หมกมุ่นอยู่แต่อาหารเพื่อสุขภาพ แต่กลับทำให้อ้วนกว่าเดิมอีก
หลายคนตกหลุมรักอาหารเพื่อสุขภาพอย่างผักใบเขียว ถั่ว อโวคาโด้ และเมล็ดธัญพืช แต่ปัญหาคือบางครั้งพวกเขารับประทานมากเกินไป ซึ่งปริมาณมันเยอะมากจนเขาสามารถนั่งกินได้ทั้งวันเลยล่ะ แถมเขายังใส่ผลไม้และรับประทานคู่กับเครื่องดื่มสมูธตี้อีก โอ๊ย!อ้วนหนักกว่าเดิมแน่ๆ ความจริงคือแม้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพจะอุดมไปด้วยสารอาหารและเพิ่มการเผาผลาญ แต่คุณก็ควรจัดปริมาณให้เหมาะสมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผลไม้หนึ่งมื้อควรมีขนาดเท่าลูกเทนนิส ส่วนข้าวโอ๊ตก็ให้น้อยลงมาหน่อย และถ้าเติมถั่วหรือธัญพืชไปด้วยก็เอาขนาดแค่ลูกกอล์ฟก็พอ เป็นต้น
4. งดมื้ออาหาร
มั่นใจว่าคุณคงเคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว การงดมื้ออาหารจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ 2 ประการ
1) ร่างกายของคุณจะเผาผลาญแคลอรี่น้อยลง
2) โอกาสที่คุณจะรับประทานในตอนกลางคืนจะเพิ่มสูงขึ้น หรือตบะแตกระหว่างวัน
ทางที่ดีคุณควรรับประทานอาหารมื้อใหญ่ก่อนที่จะถึงเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนอาหารมื้อเล็กๆก็รับประทานในช่วงที่ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก และอย่าปล่อยให้ท้องว่างเกิน 4-5 ชั่วโมง
5. ครุ่นคิดอยู่กับการนับแคลอรี่
นอกจากคุณภาพและปริมาณแคลอรี่ที่คุณบริโภคเข้าไปคือปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักแล้ว การนับแคลอรี่ก็อาจส่งผลตรงกันข้ามกับที่คุณคิดเอาไว้นะ การศึกษาหนึ่งพบว่าการนับแคลอรี่จะทำให้ผู้หญิงเครียดกว่าเดิม และความเครียดก็จะทำให้ระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความอยากอาหารสูงขึ้น ทำให้คุณรับประทานแต่อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและน้ำตาล อันที่จริงตารางแคลอรี่ที่ปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ก็ไม่รู้ว่าตรงตามแคลอรี่จริงๆหรือเปล่า แต่เชื่อเหอะว่ายังมีวิธีลดน้ำหนักที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่านั้นอีก
6. การหลีกเลี่ยงไขมันดี
แม้นักโภชนาการจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขจัดความคิดที่ว่าการรับประทานไขมันนั้นจะทำให้คุณอ้วน เพราะเรามีทั้งไขมันดีที่รับประทานเข้าไปแล้วมีประโยชน์ กับไขมันที่ไม่ดีทีเราควรหลีกเลี่ยง แต่ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังกลัวไขมันอยู่ดี มีบางคนไม่ยอมกินอะโวคาโด้เนื่องจากมันมีไขมันสูง (แต่เป็นไขมันดีนะ) การกินไขมันดีคือกลยุทธอันชาญฉลาดในการลดน้ำหนัก ทั้งยังช่วยชะลอการแก่ก่อนวัยและป้องกันโรคต่างๆรวมถึงโรคอ้วนด้วย ไขมันดีมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ มันจะช่วยให้คุณอิ่มนานยิ่งขึ้น ผลการวิจัยเผยว่าน้ำมันมะกอก, อะโวคาโด้และถั่วต่างๆจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ช่วยยับยั้งความอยากอาหาร ไขมันในพืชจะเร่งอัตราการเผาผลาญและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักโดยที่ไม่ต้องอดอาหารหรือบริโภคแคลอรี่ให้น้อยลง ลองทำไข่เจียวยัดไส้อะโวคาโด้, เติมน้ำมันมะพร้าวลงไปในเครื่องดื่มสมูธตี้, ใส่ถั่วลงในข้าวโอ๊ตบด, ใช้น้ำมันมะกอกราดเป็นน้ำสลัด, หรือรับประทานดาร์กช็อกโกแลตเป็นของหวานทุกวันดูสิ
7. กินตามใจปาก
นิสัยการกินอาหารที่เกิดจากความเบื่อ ความเครียด ความโกรธ หรือแม้แต่ความสุขคืออุปสรรคหมายเลข 1 ของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้คนส่วนใหญ่เอะอะอะไรก็เลี้ยงฉลองมันลูกเดียว ไม่ว่าจะทีมบอลไทยชนะ, ถูกแกล้งที่โรงเรียน, หรือเจ็บตัวที่ร้านหมอฟัน นี่คือการกระทำที่ได้รับการยอมรับจากสังคมและเป็นอุปสรรคที่ยากจะเอาชนะได้ แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ลองหาตัวเลือกอื่นที่เป็นการฉลอง อาจจะเป็นการออกกำลังกายหรือไปทำบุญเป็นอาสาสมัครก็ได้ รับรองว่าไม่นานน้ำหนักของคุณจะต้องลดลง
วิธีทั้งหมดนี้อาจไม่ได้ผลในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้คือสิ่งสำคัญและจะทำให้คุณประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน