ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

นิยาย: เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอล ? : ตอนที่ 4 : เหตุปั่นป่วนที่นรกขุมที่ 3

 

    ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ มีผมสยายยาวสวยงาม ดูท่าทางมีความสง่างาม ด้วยเรือนผมสีดำอมม่วงดูลึกลับ เขามีใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ดวงตาทั้งคู่นั้นกับดูมีเสน่ห์อย่างลึกล้ำ และมีลักษณะของรัศมีของคนที่ดูทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง เพียงแค่คนนี้ๆ มองไปทางด้านไหน เหล่า ‘คนบาป ‘และ ‘สัตว์นรก ‘ทั้งหลายที่อยู่ในครรลองของสายตาของเขาล้วนแต่มีอาการเงียบสงบไปตามๆ กัน ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงขึ้นมาแม้แต่ซักนิดเลยทีเดียว แสดงให้เห็นถึงตบะบารมีที่เหนือชั้นยิ่งกว่ารูปร่างที่เห็นภายนอกมากมายยิ่งนัก ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มคนนี้นั้นถ้ามองจากภายนอกแล้ว จะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าให้กะประมาณอายุจากใบหน้าแล้ว อายุน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 กว่าปีเศษๆ เท่านั้น ซึ่งทุกๆ ที่ๆ ชายหนุ่มผู้นี้ย่างกรายไปนั้น ก็จะมีไอของสิ่งที่คล้ายๆ กับว่าจะเป็นหมอกลอยเลื่อนครอบคลุมอยู่ตลอดเวลา จนยากที่จะบรรยายความรู้สึกที่ได้สัมผัสได้ถูก ส่วนชายหนุ่มอีกสองคนที่เดินตามมาข้างหลังนั้น ก็ดูเป็นชายหนุ่มที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และก็ไม่ได้มีลักษณะอะไรที่แตกต่างจากคนปกติมากนัก ยกเว้นการที่ส่วนหัวของทั้งสองคนนั้นมีส่วนที่คล้ายๆ ปีกของนกงอกออกมา แต่ก็ถูกเก็บพับเอาไว้ในลักษณะเรียบร้อย และรัศมีแห่งบารมีภายในตัว ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปเป็นอย่างมาก ทำให้เพียงแค่ได้มองไปก็สัมผัสได้เลยถึงความ ‘ไม่ธรรมดา ‘ ของทั้งสามคนนี้ สมกับที่เป็นถึงระดับ ‘เทพเจ้า ‘ ของ ‘พิภพยมโลก สาขาตะวันตก ‘ซึ่งเมื่อ ‘สายชล ‘ ได้เห็นภาพของทั้งสามคนอย่างชัดเจนก็ได้แต่นึกขึ้นมาในใจอย่างชื่นชมว่า

      ‘อื้อหือ....ทั้งสามคนนี้ช่างสง่างามจริงๆ สมกับเป็นถึงระดับเทพเจ้าของทางตะวันตกเขา ตั้งแต่เกิดมาเราก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ได้มองเห็นแล้วรู้สึกทั้งความสง่างามและความน่าเกรงขามขนาดนี้เลยแฮะ ‘

ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างจากทั้งสองสาวเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนต่างรู้สึกถึงความน่าเกรงขาม จนคล้ายๆ จะเป็นความ ‘น่าสะพรึงกลัว ‘ ที่ซ่อนเอาไว้อยู่ มากกว่าจะรู้สึกถึงความเสน่ห์หาแบบรักใคร่หรืออะไรในลักษณะนั้น ซึ่งน่าจะเป็นเพราะ ‘อำนาจบารมี ‘ ที่ทั้งสามคนนั้นแผ่ออกมาจนรู้สึกได้ชัดเจนนั่นเอง

‘ทั้งหมด....ทำความเคารพ ท่าน ‘ฮาเดส ‘, ท่าน ‘ฮิปนอส ‘และ ท่าน ‘ทานาทอส ‘ ‘

สิ้นเสียงการร้องตะโกนเพื่อให้มีการแสดงความเคารพจากตัวแทนยมฑูตผู้ควบคุมแถว เหล่า ‘คนบาป ‘และ ‘สัตว์นรก ‘ทั้งหลายต่างก็ทำการยืนขึ้นและโค้งคำนับราวกับการทำความเคารพผู้นำประเทศซักประเทศหนึ่งเหมือนตอนมีชีวิตเป็นมนุษย์กันอยู่เลยทีเดียว ซึ่งทางเทพ ‘ฮาเดส ‘ก็ได้ทำการยกมือขึ้นเป็นเชิงการทักทาย และก็ได้ทำสัญญาณให้เหล่าผู้ที่มาเฝ้าชมบารมีของตนทั้งหลายนั้น ได้นั่งลงให้เรียบร้อยตามปกติได้แล้ว จากนั้นท่าน ‘ยมบาลฯ’ จึงได้เดินออกมาทำการกล่าวต้อนรับ ‘อาคันตุกะ ‘ ทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง

      ‘Oh….Nice to meet you….ว่าแต่ว่าวันนี้เราพูดภาษาไทยกันนะครับ พูดไทยได้ใช่ไหมครับ? ‘

ท่านพญายมฯแห่งพิภพยมโลกเขตเอเซีย กล่าวให้คำต้อนรับกับอาคันตุกะที่มาอย่างเป็นกันเอง

    ‘I ‘m fine…สบายมากครับ พวกเราทั้งสามเป็นถึงระดับเทพเจ้า มีอายุขัยมาแล้วหลายพันปีเรื่องภาษาเราสามารถพูด-ฟังได้หลายภาษาโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว จะภาษาไทย,จีน,ญี่ปุ่น พวกเราสื่อสารได้หมดแหล่ะครับ นักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นเขายังรู้เลยเรื่องนี้ เจอกันทีไรในการ์ตูนก็คุยภาษาญี่ปุ่นกันในเล่มตลอด แล้วนี่นิยายไทย จะให้ตัวละครพูดภาษาอังกฤษกันยาวๆ ไอ้คนเขียนมันเขียนไม่ได้หรอกครับ ดังนั้นให้ตัวละครในเรื่องพูดภาษาไทยน่ะถูกแล้ว....พวกคนอ่านก็อย่าสงสัยกันให้มากเลย อ้าว พูดมานอกเรื่องเสียตั้งเยอะ ไม่เกี่ยวๆ ...ส่วนประเทศไทย พวก I ก็มาเที่ยวออกบ่อยจะตายครับ ผู้คนทางยุโรปก็มาเที่ยวที่นี่กันเยอะมากมายยกเว้นอีตอนที่มีโรคระบาดกันทั่วโลกอ่ะนะช่วงนั้นก็จะไม่ค่อยมีคนมา แต่ถ้าปกติคนยุโรปก็มาเที่ยวกันเยอะอยู่ ยิ่งช่วงหน้าหนาวนี่ก็มีบินมาเที่ยวหนีความหนาวกันเป็นเดือนๆ ซึ่งพวกเราพอมาทีไทยทีไร พวกเราก็ได้ทั้งงานกลับไปด้วยและก็ได้ท่องเที่ยวไปทั่วไทยอีก แค่ได้คิดว่าจะได้กินผัดกระเพราแบบไทยแท้ๆ ที่มีใบกระเพราผัด ไม่ใช่เอาหัวหอม เอาแครอทมาผัดแบบในยุโรปที่กุ๊กบางคนมันมั่วซั่ว ทำขึ้นมาได้ยังไงไม่รู้ ดูในโลกออนไลน์ยังปวดตับแทน มาได้กินผัดกระเพราอร่อยๆ ต้นตำรับจริงๆ ที่ประเทศนี้เพียงแค่นั้นก็ฟินสุดๆ แล้วครับ แถมสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ ที่ก็สวยงามน่าท่องเที่ยวมาได้ไม่รู้เบื่อด้วยครับ ‘
 

  ‘ข้าฯ ‘ทานาทอส ‘ขอเป็นตัวแทนกล่าวแสดงความขอบคุณ ในความร่วมมือกันของพิภพยมโลก ทั้งสองภูมิภาคแห่งนี้ ในการทำระบบ ‘คัดกรองและแยกแยะเหล่าคนบาป ‘โดยเป็นการส่งผ่านข้อมูลระหว่างสองเครือข่ายเน็ตเวิร์คขุมนรกขนาดใหญ่ระดับทวีป ที่ในขณะนี้สามารถเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์คถึงกันได้ทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือทำงานล่าช้าเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ด้วยระบบเครือข่ายซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพันาขึ้นมาเชื่อมต่อกันเป็นอย่างดี โดยบุคลากรของนรกภูมิทั้งสองนรกภูมิใหญ่ แถมระบบทั้งหมดยังรองรับด้วยระบบ Cloud ในการเก็บข้อมูลต่างๆ เข้าสู่เซิร์ฟเวอร์รวมอย่างมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งการพัฒนารูปแบบในการทำงานเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ Network ต่างๆ ให้มีความปลอดภัยด้วย Firewall ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบแพ็คเกจต่างๆ และการเก็บข้อมูลต่างๆ ในระบบ Blockchain ที่ยอดเยี่ยมก็ดำเนินการไปได้ด้วยดีอย่างยิ่ง ต่อไปปัญหาการตามเหล่าวิญญาณร้ายที่หลบหนีการจับกุมของเหล่ายมทูตมาลงฑัณฑ์ หรือความผิดพลาดต่างๆ เช่น การไปเก็บวิญญาณที่ยังไม่ถึงที่ตายมาก่อนเวลาอันควรที่เกิดขึ้นในอดีต คงจะลดน้อยลงใกล้เคียงกับ 0 หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วก็เป็นได้ ‘

                   ‘สายชล ‘ ที่ได้ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ของแถวเมื่อได้ฟังดังนั้น จึงหันมาบอกกับสองสาวที่หันหน้ามามองกันแล้วทำตาปริบๆ โดยที่ ทั้ง ‘แสงเดือน ‘ และ ‘แววดาว ‘ ก่อนที่จะสิ้นอายุขัยก็ทำงานเป็นแม่ค้าขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป กับ แม่ครัวร้านอาหารไทย-อีสานแค่นั้นเอง เรื่องเกี่ยวกับอะไรจำพวกนี้ เมื่อพวกเธอได้ฟังเข้าไปนี่ทำเอาหน้าของทั้งสองคนนี่กลายเป็นเครื่องหมายคำถาม ยืนเกาหัวกันแกรกๆจนหนังหัวแทบหลุดกันเลยทีเดียว มีแต่ชายหนุ่มนี่แหล่ะที่เคยทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาบ้าง ถึงแม้จะยังไม่ถึงขั้นได้เคยทำเทคโนโลยีระดับสูงขนาดนี้ เพราะเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการทั่วไป แต่ก็ยังดีที่เขายังพอจะรู้ในเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง เขาก็เลยอธิบายให้ทั้งสองสาวได้ฟังให้พอเข้าใจขึ้นมาบ้าง โดยสรุปภาพรวมเอาแค่นิดเดียวก็พอ โดยชายหนุ่มได้อธิบายไปประมาณว่ามันหมายถึงระบบการเก็บข้อมูลต่างๆ ที่ปลอดภัยและสมบูรณ์แบบได้รับการสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้วด้วยความร่วมมือของหลายๆ ฝ่ายทั้งทาง ‘พิภพนรก ‘ และ  ‘พิภพสวรรค์ ‘ นั่นเอง

อ่านนิยายตอนนี้ต่อ

https://www.readawrite.com/c/e4c1933b001495554ee3edaf0801d2de




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2565   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2565 14:18:20 น.   
Counter : 465 Pageviews.  

นิยาย: เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอล ? : ตอนที่ 3 : สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งยมโลก:

    
    เสียงพูดคุยกันต่างๆนานาดังขึ้นมาในหมู่ของเหล่าบรรดา ‘ คนบาป ‘ ที่มาออกันอยู่ด้านหน้าบริเวณศาลาต้อนรับ ‘ แขกผู้มาเยือน ‘ จากพิภพยมโลกด้านอื่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเหล่า ‘ คนบาป ‘ ที่ได้มาร่วมชุมนุมต้อนรับ ‘ แขกผู้มาเยือน ‘ ในครั้งนี้นั้น จะเป็น ‘ คนบาป ‘ ที่กำลังจะได้หลุดพ้นโทษของตนเอง หรือไม่ก็เป็นพวกคนที่เตรียมตัวสำหรับการไปรับโทษสถานเบาอีกเพียงเล็กน้อยในนรกบางขุมเท่านั้น และอีกหลายๆคนก็กำลังเตรียมตัวเพื่อจะรอการไปกำเนิดใหม่ หรือกระทั่งคนที่เตรียมจะได้ไปขึ้นสวรรค์รับจากได้ชดใช้โทษไปแล้วก็ยังมี เพราะว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลยว่ามนุษย์ที่ลงนรก ก็คือคนที่ชั่วช้าเป็นอย่างมากอย่างเดียวเสมอไป ที่บางคนอาจจะต้องลงมายังนรกนั้น ก็เป็นเพราะว่าอาจจะมีเรื่องที่เคยทำผิดทำพลาดไปบ้าง นั่นเอง ( อย่างพวกของ สายชล ของเรานี่แหล่ะ ) แต่ถ้าเคยทำเรื่องดีๆเช่นกัน พวกเขาหลังจากได้รับการลงโทษทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะไปยังภพภูมิต่างๆที่ดีได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์หรือว่าสรวงสวรรค์ ก็สามารถจะเป็นไปได้ทั้งนั้น  ความดีก็เป็นเรื่องของความดี ความชั่วหรือการทำผิดต่างๆก็เป็นเรื่องของความชั่วความไม่ดีที่ไม่สามารถชดใช้แทนกันได้ เป็นเรื่องที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง ส่วนใหนที่คนๆนั้นทำดีก็ย่อมจะได้รับผลดีในภายหลัง แต่ส่วนไหนทำบาปทำเรื่องไม่ดีไป ก็ต้องมาชดใช้ผลกรรมซึ่งก็ว่ากันไปตามสิ่งที่แต่ละคนได้ทำลงไปนั่นเอง เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลที่ไม่สามารถชดใช้โทษ หรือว่ารับผลบุญต่างๆแทนกันได้อย่างเด็ดขาด

     เสียงฮือฮาพูดคุยต่างๆของเหล่าผู้คนในที่นั้น เริ่มที่จะสงบเงียบเสียงลง เมื่อมีการปรากฏกายของคนกลุ่มหนึ่งที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ในชุดการแต่งกายที่ดูเท่ห์ทันสมัยในสไตล์สากลเลยทีเดียว โดยเป็นชุดสูทอย่างหรูหราสง่างาม อย่างไรก็ตามเอกลักษณ์บางอย่างที่ใครๆต่างก็รู้ว่า กลุ่มคนที่เข้ามาในที่นี้เป็นใครนั่นก็คือเครื่องประดับ และ ชฏาต่างๆที่มีการสวมใส่เอาไว้บนศีรษะอย่างสวยงาม จึงเป็นภาพที่ดูแปลกตาเหมือนกัน
   
     และคนกลุ่มนี้นั้นก็เป็นผู้ใดไปไม่ได้ นั่นก็คือ ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของพิภพนรกสาขาเอเซีย อย่าง ท่านพยายมราช และ สองเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้เป็นเสมือนผู้ช่วยในระดับ มือซ้าย-มือขวา หรือ เลขานุการของท่านพยายายมราชทั้งสองท่านก็คือ ท่านสุวรรณ - สุวาน นั่นเอง
     ซึ่งชุดสูทที่ทันสมัยที่ทั้งสามคนได้ใส่มานี้ ได้รับการดีไซน์และตัดเย็บมาจากเหล่าแฟชั่นนิสต์ชื่อดังหลายคนที่ได้ลงมาชดใช้กรรมในนรกเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ได้รับกรรมกันไปตามปกติเหมือนเหล่า ‘ คนบาป ‘ ตนอื่นๆ แต่ในช่วงที่ว่างเว้นจากการลงฑํณฑ์และได้พักผ่อน  ทางนรกภูมินั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่ หรือ ยมฑูตต่างๆ มาขอศึกษาหาความรู้ในด้านแฟชั่นและด้านศิลปะด้วยเหมือนกัน โดยแลกกับการที่ผู้ที่มีความสามารถด้านศิลปะเหล่านี้จะได้ ‘ เบี้ยหัวกระโหลก ‘ มาใช้จ่ายเพิ่มเติมในนรก หรือไม่ก็ได้ลดโทษที่เป็น ‘ ลหุโทษ ‘ ลงนิดหน่อยทำให้พ้นโทษได้เร็วขึ้นเป็นต้น  นัยว่า นรกในปัจจุบันนั้นก็ต้องมีการพัฒนาให้ทันสมัยในทุกๆด้าน ไม่ให้ต่างจากพิภพมนุษย์บนโลกเบื้องบนมากจนเกินไปนั่นเอง รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆในนรกด้วย ก็ได้เหล่า ‘ คนบาป ‘ ที่เคยเป็นนักวิชาการในด้านต่างๆ ที่ก็มีการแวะเวียนมาลงนรกกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติ เพราะว่าด้วยความเป็น ‘ มนุษย์ ‘ ของคนเรานั้น มันก็ยากเหลือเกินที่จะหาใครซักคนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเที่ยงแท้ไปเสียทุกอย่าง ส่วนใหญ่มนุษย์เรานั้นก็ต้องมีการทำผิดหรือทำพลาดหรือเผลอทำเรื่องไม่ดีกันบ้างเป็นเรื่องปกติ เพราะเหตุนี้ นรกในอดีตหรือปัจจุบันนั้น ก็เลยคลาคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายมาตลอด ส่วน ‘ สวรรค์ ‘ นั้น เป็นที่ๆแสนสวยงามก็จริง แต่ก็ดูเงียบเหงาและคนก็มีคนขึ้นไปน้อยเต็มทน ขึ้นไปอยู่ได้ไม่นานแป๊บเดียวก็ลงไปเกิดเป็นมนุษย์กันหมดแล้ว ส่วนที่ขึ้นไปอยู่นานๆ ชีวิตนั้นก็ออกจะมีแนวทางการปฏิบัติเดิมๆ เรียบๆ เน้นความสบายใจ สมถะ นั่งชมทุ่งหญ้า ชมธรรมชาติ หรืออะไรไปตามเรื่องตามราว ไม่มีอะไรที่หวือหวาเป็นพิเศษไปอยู่แบบนั้นนั่นแหล่ะ นานๆทีก็จะมีปาร์ตี้ฉลองกันบ้างพอสังเขป จะไถมือถือที่ซื้อจากร้านค้าในสวรรค์ ดูนั่นดูนี่ช่องสัญญาณบนสวรรค์ก็มีแต่เรื่องของ ‘ ธรรมมะ ‘ และเรื่องของการทำความดีล้วนๆ ไอ้จะไปดูอะไร ‘ เจ๋งๆ ‘ แบบในโลกมนุษย์นั้นลืมไปได้เลย เพราะการควบคุมสื่อต่างๆบนสวรรค์นั้น กระทำผ่าน ‘ Single Gateway ของระบบ ‘ Network สวรรค์ ‘ เท่านั้น เพื่อให้สื่อต่างๆในสวรรค์นั้นมีแต่เรื่องของ ‘ ธรรมมะ ‘ และการทำความดีเป็นหลักเพื่อหนุนเสริมการบรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตล้วนๆนั่นเอง หรือถ้าจะหาความสุขในการเสพรสอาหาร ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารทิพย์แค่มองเห็น หรือได้กินนิดๆหน่อยๆ ก็แทบจะอิ่มทิพย์ไปพักใหญ่แล้ว ซึ่งชาวสวรรค์นั้นก็อยู่แบบนั้นกันไป จนกว่าจะหมดบุญที่เก็บสะสมเอาไว้ แล้วก็จะเตรียมลงไปเกิดเป็นมนุษย์ต่อไป

อ่านตอนนี้ต่อ :  https://www.readawrite.com/c/e3ed38e01045ea89cc4d1a56c8353f73




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2565   
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2565 11:55:50 น.   
Counter : 292 Pageviews.  

นิยาย: เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอล ? : ตอนที่ 2 : แขกผู้มาเยือนจากอีกฟากฝั่งของพิภพยมโลก




    ชายหนุ่มและหญิงสาวอีก 2 คนต่างก็เดินมาถึงสถานที่  ‘ ดงต้นงิ้ว ‘ เรียบร้อยแล้ว และหลังจากได้สวัสดีทักทายกันตามธรรมเนียมที่ดีกับเหล่าอสูรผู้คุมเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็เตรียมตัวเพื่อจะปีนต้นงิ้วหนามเหล็กที่จะว่าไปแล้วหนามเหล็กก็สึกกร่อนลงไปมากๆแล้ว แถมกว่าจะปีนได้วันหนึ่งๆนี่ยังต้องรอคิวกันนานมากๆ เพราะว่าวันหนึ่งๆมีเหล่า ‘ คนบาป ‘ มาปีนกันไม่รู้กี่ล้านคน นี่ขนาดมี ‘ ดงต้นงิ้ว ‘ อยู่ไม่น้อยนะ ก็ยังไม่พอต่อความต้องการเท่าไหร่หรอก แล้วตามสเต็ปแล้วพอเหล่า คนบาป ปีนต้นงิ้วไปซักพัก ก็จะมีพวกอีกาปากเหล็กบินมาจิกตีตามคอนเซ็ตป์ แต่ทุกวันนี้ เหล่าอีกาปากเหล็กหลายตัวก็ออกแนวขี้เกียจ ทีนี้ก็จะบินมาจิกมั่ง ไม่จิกมั่ง จนบางทีเหล่าผู้คนต้องเป่านกหวีดเรียกจนคอเจ็บ เพราะอีกาบางตัวบางตัวก็จิกจนปากสึกปากทู่ไปหมดแล้ว พวกมันก็เหนื่อยก็ท้อกับจำนวนคนเป็นเหมือนกัน  และผู้คุมส่วนใหญ่ก็จิ้มหอกไปเรื่อยเปื่อยเปาะๆแปะๆ ก็นะคนมันเยอะ คิดสภาพคนต้องไปยืนจิ้มหอกยกแทงๆ แค่ชั่วโมงเดียว ก็แขนเป็นเหน็บมือสั่นกันแล้ว แทงมาก เหนื่อยมาก เบี้ยหัวกระโหลกก็ได้เท่าเดิมอยู่ดี ทุกคนก็เลยทำการลงโทษไปพอเป็นพิธีเท่านั้นแหล่ะ ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะประชากรในโลกมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อหลายพันปีก่อนคนมันยังไม่เยอะ เดี๋ยวนี้แค่คนผิดศีลข้อ 3 แค่ประเทศใหญ่ๆ อย่างจีนหรืออีกหลายๆประเทศในย่านที่ยมโลกฝั่งเอเซียต้องรับผิดชอบ ประชากรที่ต้องมาลงนรกขุมนี้ก็แน่นจนไม่รู้จะแน่นยังไงแล้ว แต่พื้นที่ของนรกภูมิฝั่งเอเซียนี่ก็มีที่เท่าๆเดิมแบบสมัยก่อนนี่แหล่ะ เพราะจะขยายขึ้นไปบนพื้นพิภพโลกก็ไม่ได้ ส่วนบริเวณใต้ต้นงิ้วนั้นก็ผู้คนก็แน่นกันมากจนพอปล่อยมือตกลงมา ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คือตกมากระแทกพื้นแหลกเหลว แต่เดี๋ยวนี้พอปล่อยมือตกลงมา ก็มีคนมารับๆไว้เพียบเลย ซึ่งพวกอสูรผู้คุมก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับรีบเร่งให้ไปต่อคิวทำรอบใหม่เสียด้วยซ้ำ บางทีก็ยังมีบอกให้ปีนๆไป แค่ 2 – 3 เมตร ก็ปล่อยตัวลงมาได้แล้ว เพราะเหล่า ‘ คนบาป ‘ ยังรอคิวให้ปีนอีกเยอะเลยทีเดียว ดังนั้นต้องเร่งทำรอบหน่อย เดี๋ยวเป้าการลงโทษไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น เสีย KPI แล้วโบนัสจะไม่ได้อีก ดังนั้นต้องรีบทำรอบให้เยอะๆ เพื่อให้ได้คนบาปไปเข้ารอบการลงโทษให้มากๆ ตามมาตรฐาน จะมารอให้ปีนไปสูงๆ แบบสมัยก่อนที่คนมาลงนรกกันน้อยๆ หรอก คงไม่ทันกินหรอก เวลานับมาตรฐานการทำงานเขานับว่า งานคือ ‘ คนบาป ‘ ขึ้นไปบนต้นงิ้วเท่าไหร่ ไม่ได้วัดว่าใครจะตกมาท่าสวยยังไง เจ็บปวดทรมานแค่ไหนซักหน่อย ไอ้พวกนั้นไม่มีใครมานั่งวัดเอาเป็นผลงาน เพราะมันประเมินค่าเป็นตัวเลขไม่ได้ แล้วที่สำคัญจะว่าไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่านรกจะลงโทษไปทำไมก็ไม่รู้ เพราะตอน ‘ คนบาป ‘ จะไปเกิดก็ให้กิน ‘ น้ำลืมอดีตชาติ ‘ อีกต่างหาก สุดท้ายแล้วก็ลืมทุกอย่างกันเกือบทุกคน จะมีแค่คนที่พอจะ ‘ ระลึกชาติ ‘ ได้ก็ไม่กี่คน ที่พอจะจำได้ในว่าเคยตกนรกขุมไหนบ้าง ซึ่งก็นานๆทีจะมีซักคน ซึ่งจริงๆแล้วน้ำนี่น่าจะไม่ต้องกิน เผื่อพวกคนทำชั่วในโลกทั้งหลายจะได้นึกขึ้นได้ว่าเคยตกนรกมาก่อน จะได้ไม่ทำชั่วอีก ซึ่งเรื่องนี้ชายหนุ่มก็ยังคิดสงสัยเหมือนกัน แต่เขาก็ทำแบบนี้ตามๆกันมาเป็นพันๆปีแล้วนี่นะ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตัวเองก็ตกลงมาในนรกไปแล้ว เขาให้ทำอะไรก็ทำแหล่ะ อย่าไปฝืน ทำให้มันจบๆ จะได้รอไปเกิดใหม่อีกที

    ชายหนุ่มเดินไปต้นงิ้วที่สภาพแสนจะสมบุกสมบัน ก่อนจะก้าวขาไปที่หนามแท่งแรก แต่เขาก็เห็นว่าตัวของหนามนั้นก็แสนจะห่อเหี่ยวหมดสภาพเต็มที่แล้ว ก็อย่างว่าแหล่ะ ไม่รู้ว่าวันนี้กว่าจะมาถึงรอบที่เขาได้เหยียบนี่ ก็โดนเหยียบไปกี่เท้าแล้วก็ไม่รู้ โดยที่ชายหนุ่มพอก้าวไปเหยียบหนามต้นงิ้วได้หน่อยหนึ่ง หนามก็หักตามคาด ชายหนุ่มก็เลยลงมาที่พื้นแล้ว บอกให้พวกผู้คุมทราบ แต่ผู้คุมก็โบกให้เขาไปต่อคิวรอบใหม่ได้แล้ว ซึ่งเขาก็ผายมือบอกกับผู้คุมประมาณว่า ‘ เขายังไม่ทันปีนเลย ถึงเป็น ‘ คนบาป ‘ ก็จริง แต่ก็มีสปิริตนะครับ... แต่ผู้คุมก็โบกไม้โบกมือแบบไล่ๆเขาเหยงๆ ให้ไปต่อคิวรอปีนรอบใหม่ไปเลย เพราะทางนั้นนับรอบให้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้น ก็เลยต้องจำต้องยอมรับสภาพไปตามนั้น แล้วก็เตรียมที่จะเดินกลับไปต่อคิวใหม่ ทันได้นั้นก็ได้ยินเสียงที่เหมือนมีอะไรที่กำลังจะตกลงมา พอเงยหน้าขึ้นไป ก็เห็นร่างๆหนึ่งกำลังหล่นลงมาที่เขา และด้วยความตกใจก็เลยเผลอยื่นมือออกไปรับ แล้วร่างๆหนึ่งก็ตกลงมาในอ้อมกอดของเขาอย่างแรง จนเกือบจะหน้าคะมำไปทั้งคู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครคนใหนเลย ก็คือสาวเจ้าคนที่เพิ่งมีเรื่องให้โวยวายกับเขาไปก่อนหน้านี้นี่เอง ซึ่งตอนแรกคนทั้งสามคนก็เดินแยกจากกันไปหมดแล้ว ต่างคนก็ไปรับโทษของแต่ละคนกันไป แต่สุดท้ายก็ยังได้กลับมาเจอกันอยู่ดี ชายหนุ่มได้อุ้มหญิงสาวไป พลางมองสบตากับคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนที่ทั้งสองคนจะมองตากันอยู่แบบนต่างก็นิ่งงันกันไปพักหนึ่ง โดยที่ไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรต่อกัน และในที่สุดจะมีเสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า

    ‘ อย่าได้ใจไปนะยะ...แล้วนี่นายจะอุ้มฉันไปถึงไหน....วาง....วางฉันได้แล้ว !!! พวกผู้ชายนี่ พอใจดีเข้าหน่อย ก็ถือโอกาศถึงเนื้อถึงตัวเลย นี่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหล่นลงมาให้นายช่วยนะยะ...

    ว่าแล้วหญิงสาวก็สะบัดมือปัดใส่หน้าของชายหนุ่มไปเบาๆ ดังเพี๊ยะ!!! พอเป็นการตักเตือน เหมือนกับบอกว่าอย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันนะ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ทำรุนแรงอะไร ก่อนที่จะเดินจากไปช้าๆ ได้ไม่กี่ก้าว ก่อนจะหันมาบอกชายหนุ่มว่า

    ‘ อ้าว...ยืนบื้ออยู่ได้....รีบเดินตามมาเร็วๆ ซิ เดี๋ยวกว่าจะครบรอบในวันนี้ ก็ช้าพอดีหรอก โอ้เอ้จริงนายเนี่ย....เป็นผู้ชายก็อย่าชักช้าซิ...รีบๆเดินตามมาไปเข้าคิวใหม่ได้แล้ว !!!

     ชายหนุ่มถึงกับออกลูกมึนๆงงๆ เอ้า ตกลงจะเอายังไงกับเราเนี่ย พอจะอยู่ใกล้ๆกัน ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจ แต่พอทำท่าไม่สนใจ ก็ทำท่ามาโวยใส่ แบบนี้จะให้เขาทำยังไงต่อดีล่ะเนี่ย ?

อ่านตอนนี้ต่อ : https://www.readawrite.com/c/cc81c92d0751a5993e69224981e28e48
 




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2565   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2565 20:24:22 น.   
Counter : 256 Pageviews.  

นิยาย : เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอล ? : ตอนที่ 1 : นรกขุมที่ 3 ของเหล่าคนบาป



    เรื่องย่อ :  ' สายชล '  วิญญาณบาปที่กำลังจะชดใช้กรรมหมด ใกล้จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว แต่ด้วยเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง ทำให้แทนที่เขาจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ กลับต้องไปเกิดเป็นปลาแซลมอนแทนซะอย่างนั้น อิหยังฟระเนี่ย!!! เรื่องราวนี้ ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันทั้งสามโลก ทั้งเทพ ทั้งคนทั้งมนุษย์ ยันหมีกริซลี่ วุ่นวายอีรุงตุงนังกันไปหมด เรื่องราวนี้จะเป็นยังไง จะจบลงที่ตรงไหน ขอเชิญติดตามกันต่อไปได้เลยจ้า 

**************************************************

    เสียงคนร้องครวญครางมากมาย ภายใต้บรรยากาศที่มืดทะมึนของขุมนรก เป็นภาพที่คุ้นชินของดวงวิญญาณของชายหนุ่มที่เห็นภาพอันน่าเวทนาและน่ากลัวต่างๆ มาจนแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเองก็วันนี้ก็ลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวจะไปรับโทษทัณฑ์ประจำวัน ที่เป็นเรื่องที่ทำเป็นกิจวัตรประจำวันจนชินชาไปเสียแล้ว กับการลงฑัณฑ์ประจำวันที่เกิดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาไม่ได้สนใจอยากจะนับวันนับคืนอะไรกับมันแล้ว ก็เห็นเขาพูดๆ กันว่าเดี๋ยวใกล้พ้นโทษเมื่อไหร่ เดี๋ยวพวกยมฑูตก็มาตามตัวไปรับการแจ้งคิวเพื่อเตรียมตัวจะได้ไปในภพภูมิใหม่กับกับท่านยมบาลผู้เป็นใหญ่ในยมโลกแห่งนี้เองแหล่ะ ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจนับวันนับคืนมันหรอกถึงกำหนดพ้นโทษเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็รู้ตัวเองแหล่ะ

      วันนี้ก็เช่นเหมือนกับวันเดิมๆก่อนหน้านี้ที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันผ่านไปซักกี่วันแล้ว เขากับชุดเสื้อผ้าแบบปอนๆ ตามที่เป็นเครื่องแบบของผู้ที่อยู่ในนรกภูมิที่เป็นเครื่องแบบที่ผู้ถูกลงฑํนฑ์นั้นใส่กันเป็นปกติโดยถ้วนหน้าจะมีสีแตกต่างกันไปบ้างตามแต่นรกขุมที่อยู่ ซึ่งขุมนรกที่เขาอยู่นั้นเป็นขุมนรกขุมที่ 3 ในส่วนของผู้ที่ ‘ผิดลูก ผิดเมียเขา ‘ หรือ ‘ขุมนรกต้นงิ้ว ‘ ที่มีชื่อเสียงนั่นเอง ซึ่งตัวของเขานั้นก็ได้ใช้กรรมในนรกขุมนี้มานานพอสมควรแล้ว หลังจากไปใช้กรรมในนรกขุมอื่นๆ มานิดๆ หน่อยๆ มาแล้ว จนน่าจะเหลือนรกขุมนี้นี่แหล่ะ ที่เขานั้นใช้เวลาอยู่กับสถานที่แห่งนี้มานานที่สุด จริงๆ แล้วชายหนุ่มนั้นเป็นคนที่จัดว่านิสัยดี และเป็นคนดีมากคนหนึ่งเลยตอนที่มีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความที่พลาดพลั้งไปมีอะไรกับหญิงสาวที่มีสามีแล้วไปหลายครั้ง โดยเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอคนนั้นมีสามีอยู่แล้วเพราะผู้หญิงคนนั้นพูดโกหกกับเขา กว่าจะเลิกรากันไปได้ ก็ไปมีสัมพันธ์สวาทด้วยกันไปเสียหลายครั้ง ก็เลยทำให้เขาต้องมารับกรรมอยู่ในนรกขุมนี้ อย่างไรก็ตามด้วยความที่เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนเลย ทำให้บทลงโทษที่ทางนรกกำหนดให้นั้น ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษไปบ้างพอสมควร ด้วยขาดเจตนา แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องติดอยู่ในขุมนรกขุมนี้อยู่นานพอดูเลยทีเดียว

    ชายหนุ่มเผลอคิดอะไรเพลินไปหน่อย จึงเผอิญเดินไปชนเข้ากับร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่กำลังต่อแถวเดินไปขึ้นต้นงิ้วเหมือนกันอย่างจัง เสียงดัง ‘โครม ‘จนหญิงสาวถึงกับล้มลงก้นจำเบ้ากับพื้น แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นรอบๆ ตัว แล้วก็ก้มหน้า ก้มตา เหมือนจะเดินต่อไป แต่กลับเป็นหญิงสาวอีกคนเข้ามาต่อว่า ต่อขานแทนเพื่อนของตัวเองแทน

‘นี่นาย....เดินยังไงเนี่ย ถึงชนคนอื่นเขาซะล้มคว่ำเลย แล้วคำ ‘ขอโทษ ‘ล่ะมีบ้างไหม? ‘

หญิงสาวที่มีรูปร่างเล็กกว่ามายืนต่อว่าต่อขานแทนเพื่อนสาวของตัวเอง ทำเอาชายหนุ่มต้องทำการขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่เลยทีเดียว

          ‘ช่างเขาเถอะ....หกล้มแค่นี้ เดี๋ยวเราก็ต้องไปปีนต้นงิ้ว แล้วโดนกาปากเหล็กจิก แล้วก็ต้องหล่นมากระแทกพื้นเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว ถ้าเทียบกันแล้วเรื่องแค่นี้มันแทบไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว ‘

หญิงสาวที่มีรูปร่างวิญญาณที่สูงใหญ่กว่าอีกคน พูดขึ้นมาเสียงเรียบๆ แบบคนที่ไม่ถือสาอะไรเลยจริงๆ

            ‘พวกผู้ชายส่วนใหญ่มันก็เป็นเสียแบบนี้แหล่ะ....ไม่มีความรับผิดชอบแถมยังหลอกลวงเก่ง ที่ฉันต้องมาติดอยู่ในนรกบ้าๆ แบบนี้ ก็เป็นเพราะไอ้พวกผู้ชายกระล่อนนี่แหล่ะ มันหลอกฉันว่าไม่มีเมีย จนฉันไปหลงรัก หลวมตัวไปอยู่กินกับมัน สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ เมียหลวงมันตามมาเอาคืนฉันจนเกือบตาย จนพอหมดอายุขัยจริงๆ แล้ว ก็ดันต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้อีก ถ้าฉันกลับไปเป็นคนเมื่อไหร่ ไอ้พวกผู้ชายเจ้าชู้นี่ ฉันจะเล่นงานมันให้ปางตายเลย คอยดูแม่ซิ!!! ‘

หญิงสาวที่ร่างเล็กกว่ายังเหมือนมี ‘น้ำโห ‘อยู่ พูดจาสาบส่งแบบคนที่รู้สึกเคียดแค้นชิงชังในสิ่งที่เคยได้ประสบพบเจอมาในอดีตกาล ก่อนที่จะชี้นิ้วไปยังชายหนุ่มที่ยังทำหน้าสลด ก่อนถามขึ้นมาว่า

      ‘อย่างนายนี่จะว่าไปแล้วก็ดูหน้าตาใช้ได้อยู่นะ หล่อเหลาไม่เลวเลยทีเดียว ไปเป็นนายแบบได้สบาย แต่เมื่อนายมาอยู่ในนรกขุมนี้ นายคงเคยใช้หน้าตาแบบนี้ไปหลอกล่อผู้หญิงให้หลงใหลล่ะซิ ถึงตกมาอยู่นรกขุมนี้เหมือนกัน ใช่ไหมล่ะ?ถ้าสมมุตินายอยากคบกับพวกฉันสองคนพร้อมๆกัน ก็คงไม่พ้นใช้เล่ห์กลหลอกล่อเหมือนกับผู้ชายเจ้าชู้ทั่วไปใช่ไหมล่ะ?

    หญิงสาวร่างเล็กพูดจาเหมือนเชิงดูถูกชายหนุ่มขึ้นมาแบบเต็มๆ แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มนั้นทำหน้าสลดอยู่ แถมไม่ได้แสดงอาการโกรธเคืองก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายความโกรธลง แต่ก็ยังทำท่าตั้งแง่เกี่ยวกับคำถามเหมือนยังอยากได้คำตอบอยู่เหมือนเดิม

    ‘เอ่อ....ผมก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงหรอกนะครับ....เอ่อ....แต่ถ้าต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นจริงๆ ผมก็คงบอกพวกคุณทั้งสองคนพร้อมๆ กันแหล่ะครับ ผม่ไม่ชอบการโกหกเหมือนกัน ‘

       ชายหนุ่มตอบไปแบบไม่รู้ว่าจะหาคำพูดอะไรที่ดีกว่านั้นมา เพราะเป็นคำถามที่เขาไม่ทันคาดคิดเหมือนกันจริงๆ

‘โอ้ย....บ้าบอ....เชอะ....เนี่ยนะคำตอบ...!!! นายใช้สมองคิดหรือเปล่าเนี่ย อีตาบ้า วอนโดนตบซะเปล่าๆ ถ้าพูดไปตรงๆ แบบนั้นอ่ะ...โดนตบปากแตก ได้กินลาบเลือดก่อนไปถึงร้านลาบพอดี ประสาทหรือเปล่าเนี่ย ตาบื้อเอ๊ย....!!! ‘

      หญิงสาวบ่นขึ้นมาแบบละเหี่ยใจ....แต่ในใจของเธอก็แอบประทับใจในความซื่อจนดูเซ่อของชายหนุ่มคนนี้อยู่เหมือนกัน

อ่านตอนนี้ต่อ :  https://www.readawrite.com/c/85590a85d435caef5a453f9a4bddd493




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2565   
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2565 22:05:09 น.   
Counter : 194 Pageviews.  

นิยาย ดวงตาพลังจิต Season 2 : วิญญาณอาฆาต ที่สะพานเก่า – Path 4 – ความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึง



อีบุ๊คตัวเต็มของซีซั่น 2 ออกแล้วน้า ตำเลยๆ : https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NToiODAxNDYiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo2OiIyMTUxNTAiO30 

หมายเหตุ ตอนฟรี ของซีซั่น 2 จบแค่นี้น๊า แต่ในอีบุ๊ค จะมีอีก 3 ตอนสนุกเลยจ้า 

***************************************************************************************

      เรือของชายหนุ่มและหญิงสาวกำลังแล่นเข้าไปหาเจ้าผีร้ายที่ยืนคุมเชิงอยู่บนสะพานไม้เก่าๆ ในระยะที่ไม่ไกลมากแล้ว เจ้าผีร้ายเห็นได้ทีดังนั้นจึงยื่นลิ้นอันอันยาวยืดเข้ามากะว่าจะจู่โจมไปที่ใบหน้าของ ‘เกส’ จะด้วยเป็นการจู่โจมอย่างหยอกล้อ หรือยังไงก็แล้วแต่ๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวแล้วร้องโหยหวนออกมาเสียงดังลั่นเมื่อ หญิงสาวได้เอื้อมมือไปจับลิ้นของมันที่เป็นเสมือนพลังวิญญาณที่แรงกล้าจนสามารถสัมผัสกับตัวของมนุษย์ได้ แต่ในตอนนี้ ลิ้นที่ยืดยาวนั้นเหมือนกำลังถูกเผาใหม้เป็นควันลอยกรุ่นขึ้นมา เมื่อมือของหญิงสาวไปแตะถูกเข้ากับลิ้นอันแสนน่าขยะแขยงนั่น.....

‘ โอ๊ยยยย....อีผู้หญิงบ้า....แกทำอะไรของแกวะ....อ๊ากกกก...ลิ้นของข้าใหม้ไปหมดแล้ว ‘

     เจ้าผีร้ายคร่ำครวญโอดโอยขึ้นมาก่อนที่จะส่งเสียงคำรามก่นด่าหญิงสาวขึ้นมาจนเสียงดังเลยทีเดียว ซึ่งหญิงสาวก็ได้แต่แสยะยิ้มแล้วก็พูดออกมาว่า

     ‘ ก็สมควรกับผีปากเสียอย่างแกแล้วล่ะ....รสชาติของยันต์ปราบผีที่ฉันติดตัวมาเป็นยังไงบ้างล่ะ...แซ่บดีถึงใจไหมล่ะ ‘

     ฉับพลันไอ้ผีร้ายก็รีบเปลี่ยนท่าที่เป็นขึงขังจริงจังมากยิ่งขึ้น พลางใช้แขนที่ยาวยืดฟาดไปยังหญิงสาวที่ก็ยกมือขึ้นรับได้ทันอยู่ข้างหนึ่ง ก่อนที่จะทำให้มือข้างนั้นต้องลุกไหม้กลับไปด้วยผ้ายันต์พิฆาตวิญญาณผืนเล็ก แต่มืออีกข้างหนึ่งที่พุ่งมายังจุดอับสายตาที่พันผ้ากันแผลไว้นั้น ถูกต้านเอาไว้ด้วยท่อนแขนของชายหนุ่มซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนแขนข้างนั้นกำลังถูกดึงกระชากออกจากตัวด้วยกำลังแรงที่คนธรรมดาไม่อาจจะมองเห็นได้ทีเดียว แต่ในที่สุดเขาก็รวบรวมแรง กระชากแขนของตัวเองออกจากพลังวิญญาณที่น่าเกลียดน่ากลัวของเจ้าผีร้ายที่มาห่อหุ้มแขนของเขาออกจนได้ แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาอยู่เหมือนกัน เมื่อเรือที่ทั้งสองคนพายมาเริ่มเสียการทรงตัวลอยเคว้ง และเริ่มเสียการทรงตัวจนน่าหวาดเสียวว่าจะจมน้ำเลยทีเดียว

    ‘ บ้าชะมัด...ในการสู้กับมันกลางน้ำแบบนี้เราเสียเปรียบมันแฮะ...พื้นที่ในการยืนของเราไม่มีทั้งต้องสู้กับมันด้วย แถมยังต้องคำนึงถึงกระแสน้ำตามธรรมชาติอีก แบบนี้เห็นท่าว่าจะไม่สวยแล้วซิแฮะ ถ้ามีโอกาศได้ดวลกับมันบนบก ก็พอสู้ไหวได้ง่ายอยู่ ‘
 
หญิงสาวร่างเล็กบ่นพึมพำ...แล้วก็รีบทำมือมาพนม แล้วพูดกับชายหนุ่มว่า
 

‘ แบบนี้ต้องรีบเรียกพวกลุงภูติพรายให้มาช่วยเสียแล้ว....’

 
    แต่เจ้าผีร้ายก็เหมือนจะรู้แผนการณ์ของหญิงสาวมันจึงรีบยื่นมือที่มีพลังวิญญาณอันร้ายกาจเข้ามารบกวน ไม่ให้หญิงสาวได้ตั้งสมาธิเลย ซึ่งหญิงสาวก็ต้องคอยเอามือที่ผ้ายันต์คอยปัดป่ายพลังวิญญาณรูปมือที่น่าเกลียดน่ากลัวที่คุกคามมาตลอด ยังดีที่เจ้ากุมารทองที่เพิ่งลุกกลับมาสู้กับเจ้าผีร้ายได้อีกครั้งก็พอจะขัดแข้งขัดขาเจ้าผีร้ายมันได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถจะชิงความได้เปรียบจากเจ้าผีร้ายได้เลย ทำได้แต่ช่วยไม่ให้เจ้าผีร้ายเล่นงานทั้งสองคนตามอำเภอใจได้แค่นั้น ซึ่งตัวของชายหนุ่มเองก็ไม่สามารถช่วยหญิงสาวกับเจ้ากุมารทองได้มากนัก เพราะต้องสู้กับพลังธรรมชาติคือความแรงของกระแสน้ำด้วย ไม่ใช่แค่สู้กับพลังวิญญาณเพียงอย่างเดียว ซึ่งพลังแห่งธรรมชาตินี่ก็ไม่สามารถประมาทได้เลย และชายหนุ่มก็จินตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้าเรือต้องคว่ำไปสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เจ้าผีร้ายนี่ดูเหมือนจะเป็นพวกไม่มีสมองแต่จริงๆไม่ใช่เลย มันมีหัวคิดไม่เลวเลยทีเดียว สมกับที่อ้างว่าเป็นนักเลงใหญ่ที่คนกลัวในหลายพื้นที่ ถ้าไม่ติดประมาทไปเอง จนตัวเองถึงที่ตายในที่สุดก็ไม่ใช่ว่าใครจะเอาชนะได้ง่ายๆเหมือนกัน ทุกสิ่งที่มันได้ลงมือในวันนี้ เหมือนกับว่ามันน่าจะรอคอยและเตรียมการณ์เอาไว้แล้วไม่ใช่อยากจะทำก็ทำขึ้นมาเลย เป้าหมายมันคงอยากได้ ‘เกส’ ที่เป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณสูงส่งกว่าใครๆในย่านนี้ แม้แต่ถ้าจะมาเทียบกับตัวเขาเองให้ไปเป็นบริวาร ไม่ใช่ซิ....ไปเป็นเหมือน ‘เมียผี’ ของมันจริงๆ

อ่านต่อ :  https://www.readawrite.com/c/9f33ab259873638af0c251ece2df1b21
 




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2565   
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2565 16:54:11 น.   
Counter : 264 Pageviews.  

1  2  3  4  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]