BlogGang.com : : คนดีผีคุ้ม : หนีร้อนไปสเปน 2009

หนีร้อนไปสเปน 2009 - Madrid # 2

จริง ๆ แล้วเราอยู่ใน madrid กันหลายวัน แต่การเดินทางมันก็จะออกซ้ำ ๆ กันอยู่ เพราะเริ่มต้นของวันเราก็จะเดินผ่าน Pueta del sol ผ่านหมีปีนต้นสตอร์ ผ่าน Plaza Mayor เหมือน ๆ กันทุกวัน ก่อนที่จะไปเริ่มทำอะไรที่มันแตกต่าง

รูปนี้เป็น A must อีกที่ของ madrid - Palacio Real de Madrid หรือ Royal Palace of Madrid อิฉันได้ยิน ได้อ่านมาเยอะว่าข้างนอกเนี่ยธรรมด๊า ธรรมดา แต่ข้างในนี่สุดยอดไปเลย เรามาแวะกันที่นี่ในวันแรกที่มาถึง ก็เมียงมองอยู่แค่ด้านหน้า และคิดว่าเดี๋ยววันหลังเราค่อยมาดูข้างในอีกที ปรากฎว่าวันที่เราตั้งใจจะมาเก็บรายละเอียดด้านใน อิฉันกะอาเฮียโดนแหล่งช็อปปิ้งดักเอาไว้ไม่ให้ออกจากร้าน มารู้ตัวกันอีกทีก็เหลืออีกไม่กี่นาที palace จะปิดแร้ววว

ก็อดไปตามระเบียบค่ะ

อ้ะ ดูด้านหน้า (ก็ยังดีฟระ)

ข้าง ๆ จะมีโบสถ์ แวะเข้าไปดูข้างในใหญ่โตมโหฬาร ของจริงสวยดีค่ะ แต่ไหงรูปถ่ายออกมาได้เยี่ยงนี้

ถ้าจะเที่ยวให้ได้ทั่ว ๆ เมือง สิ่งที่อิฉันกะอาเฮียมักจะทำกันไม่ว่าไปเที่ยวเมืองไหน ๆ ก็คือ ก่อนอื่นเราจะนั่งรถนำเที่ยว 2 ชั้นให้ครบรอบก่อน พร้อมกับนั่งส่องแผนที่ไปด้วย เท่านั้นเราก็พอจะประเมินพื้นที่รอบ ๆ ที่เราน่าจะแวะกันได้แล้ว ซึ่งเจ้ารถ 2 ชั้นนี่มันก็จะเป็นแบบโดดขึ้นโดดลงได้ทั้งวัน (หรือสองวัน) หลังจากนั้นเราถึงเจาะลึกไปแต่ละที่ค่ะ

อันนี้ อิฉันซื้อเป็นตั๋วแบบสองวัน + ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ / ที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่งจะใช้คุ้มมากหากเราได้เข้าไปเที่ยวจริง ๆ ราคา 58 ยูโร อาเจ๊คนขายแกพูดอังกฤษรัวเร็วจนแม้กระทั่งคนอังกฤษแท้ ๆ อย่างอาเฮียถึงกับมึน และรีบควักตังค์ให้แต่โดยดี ส่วนอิฉันฟังออกแค่ว่าตั๋วมันจะใช้ได้ 2 วันนะ รวมตั๋วค่าเข้าเท่าโน้น เท่านี้ ยูจะได้ประโยชน์มากนะ แต่พอมาดูค่าเข้าสถานที่ ๆ เราจะไปจริง ๆ เนี่ยมันไม่คุ้มอ้ะ

ใครจะซื้อตั๋วอันนี้ลองคำนวณดูดี ๆ นะคะ (ซึ่งจริงๆ แล้วจากที่ดูใน Net ตอนที่เราไปราคามันแค่ 21 ยูโรสำหรับตั๋วรถ 2 วัน ) ที่เรามึน ๆ หลงซื้อไปจึงราคาโคตรรรรจะแพง

เส้นทางการเดินรถจะมี 2 route ซึ่งเราสามารถใช้ได้ทั้ง 2 route เลย คือ Historical madrid กับ Modern madrid

นี่ ขึ้นรถวิ่งดุ่ย ๆ มาซักแป๊บก็เจอประท้วง

ประท้วงอะไรกันก็ไม่รู้ ก็เห็น friendly กันดี โบกมือให้นักท่องเที่ยวด้วย

รถวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ก็ผ่านสถานที่สำคัญหลายที่ ชื่ออะไรกันมั่งก็จำไม่ได้ค่ะ

หลังจากที่เราไปนั่งรถมา 1 รอบ ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยซื้อตั๋วและขึ้นจากหน้าพิพิธภัณฑ์ปราโด้ และกลับมาลงที่ปราโด้ ตอนที่เราลงจากรถ ฝนก็เริ่มตกซู่ใหญ่ อิฉันซึ่งนั่งบ่นเรื่องค่าตั๋ว (รถ 2 ชั้น + ตั๋วพิพิธภัณฑ์) ที่เราหลงซื้อมาในราคาแพงหูฉี่ก็เริ่มเห็นประโยชน์ของการมีตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยอยู่ในมือ เพราะตอนนี้คนเข้าแถวยาวเฟื้อยยยยยเพื่อซื้อตั๋วเข้าปราโด้กันแบบเปียก ๆ และหนาวสุด ๆ เราซึ่งมีตั๋วอยู่แล้วแค่วิ่งเข้าอีกทางซึ่งไม่ต้องต่อแถว

Museo Nacional del Prado เป็นหนึ่งในสถานที่ A must ของ Madrid (//www.museodelprado.es/ ) แม้แต่อิฉันซึ่งเป็นคนที่ต่อมความสามารถและความรู้ด้านศิลปะเข้าขั้นติดลบ เมื่อเข้าไปแล้วยังรู้สึกทึ่งและกับบางรูปภาพแทบจะไม่อยากละสายตาออกมาเลย มีอยู่รูปนึงเค้าวาดได้แบบภาพมันออกมาเป็นแบบ 3 มิติเลยอ่ะค่ะ น้ำตาแม่ชีนี่เหมือนกับเป็นหยดออกมาจริง ๆ อิฉันยืนมองภาพนั้นเป็น 10 นาที เห็นแล้วขนลุก ภาพส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาพทางศาสนาคริสต์ เป็นภาพพระเยซูซะมาก วาดได้แบบเห็นกล้ามเนื่อทุกกล้าม เส้นเลือดทุกเส้น หยดเลือดทุกหยด เห็นถึงความเจ็บปวดของแต่ละคน ศรัทธาและความเชื่อ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาได้จริงๆ เสียดายที่ข้างในเค้าห้ามถ่ายรูป แต่ถ้าหากใครได้ไป Madrid ต้องหาเวลาแวะที่นี่นะคะ สุดยอดศิลปะของโลกมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว

ออกจาก Prado ฝนหยุด เราก็เดินต่อมานิดนึง แวะที่ Botanic Garden ซึ่งค่าเข้าก็รวมอยู่ในตั๋วชุดราคาแพงนั่น เลยแวะซะเลย

ดอกไม้สวยดีค่ะ

ดอกไม้คู่กะสาวงาม
อยากรู้จังเจ้าดอกนี้เค้าเรียกอะไร.. อาเฮียแกบอกว่ามันคือลูปิน

Lupin อ้ะต้นมันพุ่งขึ้นฟ้าเฟร้ย ไม่ใช่ห้อยเป็นพวงอย่างงี้

เดินออกมาจากสวน เห็นเค้าปลูกต้นไม้ขึ้นไปตามกำแพงอย่างงี้

กลางวันแวะทานอาหารอินเดียนกันค่ะ โอย นึกแล้วหิวจัง เค้าทำได้รสชาติแบบที่อิฉันชอบเลย

อิ่มแล้ว เราก็ไปต่อค่ะ พย๊าม พยามที่จะใช้ไอ้ 58 ยูโรให้คุ้มค่าที่สุด เราไปต่อกันที่สนามของ Real madrid ตอนนี้น้องโด้ของอิฉันคงมาวิ่ง ๆ อยู่แถวนี้แล้วสินะ

สนาม Bernabeu ของ Real Madrid น่าประทับใจ อิฉันไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ แบบแท๊แท้ของฟุตบอล ก็ยัง enjoy กับการมาดูทัวร์สนามนี้ คิดว่าเค้าทำได้ยอดเยี่ยมค่ะ เมื่อหลายปีก่อนไปที่ Camp Nou Stadium ที่ Barcelona ก็ยังไม่ประทับใจเท่านี้

มีประวัติอะไรมากมาย

มีพวกถ้วยที่ได้ตอนมาเตะที่ไทย แบ่งไว้เป็น section tournament ต่างประเทศเลย

ถ้วยรางวัลเรียงรายมหาศาล

นักเตะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

ลงลิฟท์มาเดินทัวร์ชั้นล่าง

เค้าให้มานั่งกันที่นั่งนักเตะเลยเชียวนะ น้องโด้ของอิฉันคงจะมานั่งแถวนี้แหล่ะค่ะ

นักบอล (ชรา) วิ่งลงสนาม

ห้องอาบน้ำ

ห้องประกาศข่าว

วันถัดมา เราไปที่ Parque del Retiro ซึ่งเป็นสวนสาธารณะหลักของ Madrid มีพื้นที่ถึง 130 hectares เทียบเป็นไทยก็ไม่รู้กี่ไร่น่ะนะคะ แต่รู้ว่าใหญ่โตมโหฬารเดินกันไม่หวาดไม่ไหวทีเดียว

ที่นี่เค้าจะมีพวกนิทรรศการ หรือมางานแสดงโชว์ศิลปะกันอยู่เรื่อย ๆ ตอนที่อิฉันไปมันเป็นตัวพวกนี้

มีกระทิงด้วย

ยังคงปล่อยแก่อย่างต่อเนื่อง

มันคืองานเน้

ในสวนมีทะเลสาบมหีมา

ยังเล่นไม่เลิก อาเฮียแต๋วแตก

อันนี้ เป็นมื้อสุดท้ายที่ madrid ก่อนบินกลับค่ะ Kebub ข้าง ๆ สถานีตำรวจ อร่อยที่สุด

Trip เยี่ยมญาติปี 2009 ก็จบแค่นี้ค่ะ สเปนเป็นประเทศที่มีอะไรให้ดูเยอะ เป็นเมืองตัวแม่ของศิลปะ อาคารตึกรามบ้านช่อง สวน พิพิธภัณฑ์ มีให้ดูไม่มีเบื่อ ผู้คนก็สนุกสนานกันดี Madrid เป็นเมืองที่ไม่ยอมหลับยอมนอน โรงแรมที่อิฉันพักนั้นมันอยู่ติดกับเธค ตอนคืนวันศุกร์ (หรือเช้าวันเสาร์) นี่สุดยอดจริง ๆ สะดุ้งตื่นมาตอนตีห้ากว่า ๆ เพราะได้ยินเสียงคนเฮฮาปาร์ตี้คุยกันออกรส มองลงไปดูเห็นคนเพิ่งออกจากเธคกัน กำลังจะกลับบ้าน

Madrid เป็นเมืองน่าเที่ยว แต่หากมีเวลาจำกัดและต้องเลือกไปเที่ยวระหว่างเมืองใหญ่ 2 เมืองที่สเปน ระหว่าง Madrid และ barcelona อิฉันเลือก Barcelona ค่ะ รู้สึกมันทันสมัยกว่า มีอะไรเด็ด ๆ ให้ดูเยอะกว่า แม้แต่ living statue ที่ la Rumba ก็ดูดีกว่าที่ Madrid มากมาย แต่อย่างว่า Madrid เป็นเมืองหลวงนี่นา เลยอาจทำให้ดู formal ตึกอาคารดูขึงขังมากกว่า (เกี่ยวไหม?

) ให้อารมย์เหมือนเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพกับเชียงใหม่น่ะค่ะ เชียงใหม่ดู Relax ดูท่องเที่ยวได้ชิลล์ ๆ กว่า แต่ก็แล้วแต่คนนะคะ บางคนอาจจะชอบ Madrid มากกว่าก็เป็นได้