Bangkok Opera presents Ayodhya : มหาอุปรากร เรื่อง อโยธยา โดย บางกอก โอเปร่า

มะดันบรรยาย

เมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมได้ไปชมการแสดงมหาอุปรากร หรือโอเปร่า เรื่อง อโยธยา ในรอบพรีวิว ซึ่งจัดโดย บางกอก โอเปร่า

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันอังคารก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้ไปชมคอนเสิร์ต แจสกีตาร์ดูเอ็ท ที่ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน ตลาดหลักทรัพย์ พบจบคอนเสิร์ตวันนั้นพี่หนึ่งก็ได้ชวนว่า พรุ่งนี้มีโอเปร่ารอบพรีวิว สนใจไปดูไหม เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หลายคนสนใจไปดูกัน พอผมทบทวนดูแล้วว่าพรุ่งนี้ไม่มีธุระอะไร ก็เลยตกปากรับคำว่าพรุ่งนี้ไม่พลาดแน่

ในรอบพรีวิว บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาครับ คงเป็นเพราะกลางสัปดาห์ แต่ก็มีคนมาชมพอสมควร
จริงๆผมอยากจะเรียกรอบนี้ว่ารอบซ้อมใหญ่มากกว่า เพราะหลายๆอย่างยังไม่ลงตัว โดยที่ผู้กำกับชาวเนเธอแลนด์ก็ได้ออกตัวไว้แต่ก่อนการแสดงแล้วว่านี่ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบ
แต่เอาเข้าจริงๆผมกลับชอบเวอร์ชั่นซ้อมใหญ่นี้มากกว่า เพราะนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังได้ความรู้อะไรหลายๆอย่าง เพราะเราจะเห็นทีมงานทำโน่นทำนี่ ระหว่างที่มีการแสดง ระหว่างที่เล่นตรงไหนไม่ถูกใจผุ้คุมวงออเครสตร้า หรือนักแสดงทำเวทีเสียงดังจนดนตรีล่ม ก็มีการเอ็ดการโวยกันตรงนั้นเลย ซึ่งในการแสดงจริงๆคงไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้
แต่สิ่งเดียวที่ไม่ปลื้มในรอบนี้ก้คือ นางสีดาออมเสียงไว้ใช้ในรอบแสดงจริง ทำให้ไม่สามารถเสพอรรถรสของเสียงอันไพเราะของเธอได้ไม่เต็มอิ่ม แต่สำหรับพระราม ทศกัณฑ์ หนุมานแล้ว เต็มที่ครับงานนี้

รู้สึกประทับใจกับการแสดงครับ อิ่มเอม ทั้งในแง่ของดนตรีอันไพเราะ เสียงร้องอันทรงพลังและเต็มไปด้วยอารมณ์ของนักแสดง และโปรดักชั่น ที่ถึงแม้จะยังไม่เต็มที่ก็ตาม ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบฉาก รวมทั้งการนำสื่อและเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาประยุกต์ใช้ ก็ทำให้เราชมรามเกียรติ์ได้อย่างรื่นรมย์ครับ

ขอบคุณผู้จัดงาน และขอบคุณพี่หนึ่งที่ชวนไปชมด้วยครับ คราวหน้ามีอะไรชวนอีกนะครับ

ผมแวะไปค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับมหาอุปรากรณ์เรื่องนี้มาฝากครับ เห็นว่าในรอบแสดงจริง สมเด็จพระเทพฯได้เสด็จมาทอดพระเนตรการแสดงครั้งนี้ด้วยครับ

ข้อมูลจากสนุกดอทคอม

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการแสดงมหาอุปรากร เรื่อง อโยธยา รามเกียรติ์มิติใหม่

เมื่อค่ำวานนี้(16 พ.ย.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ยังหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทอดพระเนตร
การแสดงอุปรากร เรื่อง อโยธยา รามเกียรติ์มิติใหม่ ซึ่งจัดแสดงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

ข้อมูลจากบางกอกโอเปร่าดอทคอม

นำเสนอโดย บางกอกโอเปร่า ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์โอเปร่า วันที่ 16, 18 และ 19 พฤศจิกายน 2549 ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (หอประชุมใหญ่) เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในศุภวาระครองสิริราชสมบัติ 60 ปี

สมเถา สุจริตกุล ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประพันธ์มหาอุปรากร ‘อโยธยา’ โดยนำ ‘รามเกียรติ์’ บทกวีอมตะอันเป็นตำนานดึกดำบรรพ์ของเอเซียอาคเนย์มาถ่ายทอดโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การดนตรีที่ท่านจะได้สัมผัส ‘รามเกียรติ์’ ในรูปแบบมหาอุปรากรสมบูรณ์แบบมาตรฐานสากล ทั้งเป็นการดำเนินเรื่องในมุมมองของนางสีดาซึ่งเป็นมิติใหม่ที่ยังไม่มีผู้ใดนำเสนอมาก่อน เริ่มตั้งแต่นางถูกลักพาไป ก่อให้เกิดศึกชิงนางอันยืดเยื้อและนำมาซึ่งวาระสุดท้ายของกษัตริย์ทศพักตร์จนถึงพระรามพานางสีดาคืนสู่อโยธยา และจบลงที่พระรามพานางสีดาขึ้นไปเสวยสุข ณ ยอดเขาไกรลาศเพื่อกำหนดความหมุนเวียนขั้นต่อไปแห่งจักรวาล (จากตำนานเล่มที่ 7 ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย)

การที่จะย่นย่อเนื้อเรื่องอันพิสดารและมีความยาวเป็นพิเศษมาเสนอตั้งแต่ต้นจนจบภายในระยะเวลาเพียง 1 รอบการแสดงย่อมเป็นไปได้ยาก ผู้ประพันธ์จำเป็นต้องนำเสนอในรูปแบบการแสดงภาพแห่งความหลัง โดยประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตจากมุมมองของนางสีดาย้อนกลับมาปรากฏให้เห็นด้วยระบำหลากหลายลีลา หนังตะลุง และอื่นๆ อันเป็นวิธีดำเนินเนื้อเรื่องแบบเอเซีย ทั้งนี้โดยยึดถือโครงสร้างของมหาอุปรากรตะวันตกเป็นหลัก และนำดนตรีแห่งภาคพื้นเอเซียมาร้อยเรียงผสมผสานกับดนตรี ‘นีโอ-โรแมนติค’ ยุคปัจจุบัน

สมเถา สุจริตกุล คีตกวี กล่าวถึงผลงานชิ้นใหม่ของเขาว่า “ผมได้ทุ่มเทความฝัน จินตนารมณ์ และพลังใจทั้งหมดในช่วงชีวิตครึ่งศตวรรษแห่งการสรรค์สร้างให้ ‘อโยธยา’ หลังจากใช้ชีวิตในต่างประเทศนานถึง 30 ปีจนเป็นที่รู้จักและยอมรับของนานาชาติ ผมตัดสินใจสร้างผลงานอันเกิดจากแรงบันดาลที่ได้รับจากประเทศบ้านเกิด ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ ผมตระหนักดีว่าการนำเสนอมหาอุปรากรไม่ใช่เพียงการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นการถ่ายทอดความคิดและมุมมองในรูปแบบที่เหมาะสมกับสังคมร่วมสมัยและวัฒนธรรมปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่ยึดมั่นกับความเชื่อของฮินดู กล่าวคือ ความยิ่งใหญ่แห่งผู้ครองนครยังเป็นหลักสำคัญที่บ่งบอกถึงวรรณะแห่งมนุษยชาติ ด้วยเหตุนี้ พระรามในเรื่องรามเกียรติ์จึงเป็นทั้งมนุษย์และผู้เป็นเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ เป็นบรมกษัตริย์ประเสริฐสุดในภพทั้งสอง และเป็นสัญลักษณ์สูงส่งสุดยอดแห่งอุดมการณ์

‘อโยธยา’ เป็นมหาอุปรากรเรื่องแรกที่บางกอกโอเปร่าได้รับความร่วมมือจากคณะมหาอุปรากรแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อความวิจิตรอลังการของมหาอุปรากรประวัติศาสตร์ นายฮันส์ นิวเวนเฮาส์ ผู้ก่อตั้งโอเปร่าสตูดิโอแห่งเนเธอร์แลนด์ จะเดินทางมาทำหน้าที่กำกับการแสดงด้วยตนเอง โดย อาจารย์ฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที ผู้อยู่เบื้องหลังความมหัศจรรย์แห่งผลงานระดับโลกของสยามนิรมิตและภูเก็ตแฟนตาซี ทำหน้าที่ออกแบบฉาก

‘อโยธยา’ นำแสดงโดยนักร้องอุปรากรระดับโลก อาทิ ไมเคิล ชานส์ เจ้าของเสียงเคาน์เตอร์เทนเน่อร์อันดับหนึ่งซึ่งหายากยิ่ง ผู้จะรับบทพระพิฆเนศวร์ ดาราเสียงสวรรค์ แนนซี หย่วน ผู้สร้างชื่อเสียงมาแล้วทั่วโลกในบทมาดามบัตเตอร์ฟลาย และบท ‘แม่นาก’ อันลือลั่น มิสหย่วนจะสร้างความประทับใจอีกครั้งในบทนางสีดา จอห์น แอเมส เจ้าของเสียงเบสส์กำมะหยี่ ในบท ‘ทศกัณฐ์’ และนักร้องอุปรากรไทยเจ้าบทบาท สรัญ สืบสันติวงศ์ ในบท ‘หนุมาน’ ร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียง ออร์ฟิอุส นักระบำ และวงดุริยางค์วงใหญ่ประกอบด้วยเครื่องดนตรี 100 ชิ้น อำนวยเพลงโดย ไมสโตร สมเถา สุจริตกุล รวมศิลปินและทีมงานทั้งสิ้นกว่า 200 คน

อนึ่ง เนื่องจากภาษาไทยได้ถูกกำหนดโดยอักขระ การขับร้องมหาอุปรากรโดยใช้ภาษาไทยจึงเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ สมเถา สุจริตกุล นักเขียนรางวัลหลากหลายรวมทั้ง World Fantasy Award แห่งสหรัฐอเมริกา ภายใต้นามปากกา ‘เอส. พี. สมเถา’ จึงประพันธ์เนื้อร้อง ‘อโยธยา’ เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้ชมสามารถสัมผัสความไพเราะแห่งอรรถรสอย่างละเอียดและต่อเนื่อง บางกอกโอเปร่าได้มอบหมายให้ ถ่ายเถา สุจริตกุล ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ทำการแปลเนื้อร้องและจัดทำคำบรรยายประกอบการแสดงตลอดเรื่อง

ผลงานของบางกอกโอเปร่าได้สร้างความประทับใจให้ชาวโลกและเป็นที่กล่าวขวัญถึงในนิตยสารต่างๆ รวมทั้ง Opera Now ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดแห่งวงการและใน New York Times รวมทั้ง International Herald Tribune ความยิ่งใหญ่แห่งมหาอุปรากรประวัติศาสตร์ซึ่งคีตกวีไทยประพันธ์ขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีมหามงคล 2549 จึงได้รับความสนใจจากต่างประเทศเป็นพิเศษ เห็นได้จากการที่ ‘อโยธยา’ ได้รับเลือกเป็นภาพปกนิตยสารฉบับสำคัญ Opera Now ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2549 พิมพ์จำหน่ายในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ นับเป็นเกียรติประวัติอันสูงส่ง ทั้งยังแสดงว่าผลงานของคนไทยได้เป็นที่ยอมรับในระดับโลกแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ

มหาอุปรากรประวัติศาสตร์ ‘อโยธยา’ กำหนดเปิดแสดง ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (หอประชุมใหญ่) วันที่ 16, 18 และ 19 พฤจิกายน 2549 เวลา 20.00 น. สอบถามรายละเอียดและสำรองบัตรล่วงหน้าได้ที่บางกอกโอเปร่า (มูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) เลขที่ 232/14-16 ถนนสุขุมวิท 22 คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ (02) 663-3236 และ (02) 663-3237 โทรสาร (02) 663-3237 อี-เมล์ //www.bangkokopera.com
บัตรราคา 500 – 1,000 – 1,500 – 2,000 – 2,500 และ 5,000 บาท ลด 20 เปอร์เซ็นต์สำหรับสมาชิกบางกอกโอเปร่า นิสิตนักศึกษาที่นำบัตรมาแสดง ลดครึ่งราคาทุกที่นั่ง (ยกเว้นบัตรราคา 500 บาท) สถาบันการศึกษาและผู้สนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะ โปรดติดต่อขอส่วนลดพิเศษได้ที่บางกอกโอเปร่า

ข้อมูลจาก - sanook.com และ bangkokopera.com
ภาพจาก - bangkokopera.com

ภาพเก็บตกบรรยากาศการแสดง

รูปที่ผมถ่ายมาใช้ไม่ได้ซะส่วนใหญ่เพราะเป็นกล้องคอมแพคแบบอัตโนมัติ แต่ก็พอมีมาให้ชมสักสี่ห้าภาพครับ

คุณสมเถาและผู้กำกับชาวเนเธอแลนด์ครับ



คุณสมเถา คุมวง Orchestra



พระรามกับทศกัณฑ์กำลังต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงนางสีดา



ฉากจบของเรื่อง แต่ก่อนหน้าจะจบนิดนึง ผมประทับใจเสียงร้องของพระคเณศมากครับ
ซึ่งร้องโดย ไมเคิล ชานส์ เจ้าของเสียงเคาน์เตอร์เทนเน่อร์
สมแล้วที่เขาเรียกว่านักร้องเสียงสวรรค์ ที่ซึ่งไม่มีการแบ่งเพศ 55 เพราะฟังแล้วคุณจะไม่อยากสรุปเลยว่าคือเสียงของเพศไหน



จบแล้วหล่ะครับบบบบบบ ไว้มีอะไรน่าสนใจจะมาเล่าให้ฟังใหม่

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549		4 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2549 14:57:35 น.
Counter : 1737 Pageviews.
Share Tweet