สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

เทศกาลกินเจกับการรับประทานอาหารเจอย่างถูกหลัก.......



ข้อควรปฏิบัติในการรับประทานอาหารเจ


1.) พืชผักและผลไม้ เป็นของคู่กันเสมอ นอกจากผักสดๆ
ที่นำมาปรุงเป็นอาหารแล้ว คนกินเจจำเป็นต้องรับประทานผลไม้สดๆ
หลังอาหารทุกมื้ออย่างสม่ำเสมอ การเลือกซื้อผักผลไม้เพื่อนำมาปรุง
และการบริโภคในแต่ละวันควรจัดให้ได้ครบตามสีของธาตุทั้ง 5 ดังนี้

1. สีแดง (แดงส้ม, แสด, ชมพู) สัญลักษณ์ ธาตุไฟ

2. สีดำ (น้ำเงิน, ม่วง) สัญลักษณ์ ธาตุน้ำ

3. สีเหลือง (เหลืองแก่, เหลืองอ่อน) สัญลักษณ์ ธาตุดิน

4. สีเขียว (เขียวเข้ม, เขียวอ่อน) สัญลักษณ์ ธาตุไม้

5. สีขาว (ขาวนวล, ขาวสะอาด) สัญลักษณ์ ธาตุโลหะ


ตารางผัก, ผลไม้ แบ่งตามทั้ง 5 หมู่สี ผัก ผลไม้

แดง มะเขือเทศ, พริกสุก, หัวแครอท ฯลฯ มะละกอ, ส้ม, แตงโม ฯลฯ

ดำ มะเขือม่วง, เผือก, เห็ดหูหนู ฯลฯ ละมุด, ลูกหว้า, องุ่น ฯลฯ

เหลือง ฟักทอง, ข้าวโพด, พริกเหลือง ฯลฯ มะม่วง, กล้วย, ทุเรียน ฯลฯ

เขียว ผักคะน้า, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้ง ฯลฯ ฝรั่ง, ชมภู่, มะเฟื่อง ฯลฯ

ขาว หัวผักกาดขาว, ผักกาดขาว, กระหล่ำดอก มะพร้าว, น้อยหน่า ฯลฯ


ผักผลไม้ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเป็นประเภทยาก เช่น พวก
ผักผลไม้เมืองหนาว ควรยึดหลักราคาถูก ประหยัด แต่มีคุณ
ประโยชน์สูง จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รู้จักฉลาดกิน ฉลาดใช้ ประหยัด
ยอด ประโยชน์เยี่ยม


ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผักผลไม้หลายหลาก
ตลอดปีเราสามารถหามาบริโภคได้ไม่ขาดแคลน จึงควรเลือกซื้อ
มาปรุงและบริโภคให้ครบทั้ง 5 สี โดยสลับเปลี่ยนหมุนเวียนนำมา
บริโภคในแต่ละวันโดยไม่ซ้ำกัน และไม่ควรเลือกทานเฉพาะ
อย่างหนึ่งอย่างใดที่ตนชอบ โดยไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์หลายๆ
ท่านเลือกรับประทานผักผลไม้เฉพาะอย่างเพื่อความอร่อยเท่านั้น
เป็นการรับประทานอาหารเจที่ยังไม่ถูกหลัก


2.) เมล็ดธัญพืช นอกจากผักผลไม้ที่ต้องรับประทานให้ครบทุกสี
เป็นประจำแล้ว เมล็ดธัญพืชได้แก่ ถั่ว ถั่วแปลกแข็งทุกประเภท
พืชที่เป็นหัวในดิน เช่น เผือก มัน กลอย มีคุณค่าทางโภชนาการ
สูงมาก โดยเฉพาะเมล็ดถั่วมีสารอาหารครบทุกหมู่ ได้แก่ คาร์โบ
ไฮเดรต คือแป้งและน้ำตาล โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่หลาย
ชนิด คนที่กินเจควรรับประทานถั่วทั้ง 5 สีเป็นประจำ ได้แก่ ถั่วแดง
ถั่วดำ ถั่งเหลือง ถั่วเขียว ถั่วขาว


ถั่วทั้ง 5 สีนี้ ราคาไม่แพงมีอยู่แพร่หลาย บางทีก็ทำเป็นของหวาน
ต่างๆ เช่น ถั่วดำบวช ถั่วแดงต้มน้ำตาล ถั่วเหลืองน้ำกะทิ (เต้าส่วน)
ถั่วเขียวต้มน้ำตาลกรวด ถั่วลิสงอบ หรือเคลือบน้ำตาล ลูกเดือยบวช
ถั่วขาวกวน ฯลฯ สำหรับถั่วขาวไม่ค่อยจะมีการปลูกแพร่หลายใน
ประเทศไทย แต่ก็สามารถรับประทานถั่วลิสงซึ่งให้ประโยชน์
ทดแทนกันได้


ทุกคนควรรับประทานถั่วดังกล่าวหมุนเวียนไปให้คบทุกสีจะทำให้
ร่างกาย ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ และช่วยเสริมให้อวัยวะ
หลักสำคัญภายในทำงานได้ดียิ่งขึ้น


เนื้อเมล็ดในของพืชผัก อันได้แก่ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง
เมล็ดแตงโม มันฮ่อ นับเป็นของขบเคี้ยวที่คนกินเจรู้จักดี เนื้อใน
ของเมล็ดพืชดังกล่าว เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและ
วิตามินมากมายหลายชนิด ซึ่งทรงคุณค่าทางโภชนาการอย่างยิ่ง

ถั่วทั้ง 5 สีที่ให้คุณประโยชน์ต่ออวัยวะหลักภายใน

1. ถั่วแดง (RED BEANS) ให้คุณต่อหัวใจ

2. ถั่วดำ (BLACK BEANS) ให้คุณต่อไต

3. ถั่วเหลือง (SOY BEANS) ให้คุณต่อม้าม

4. ถั่วเขียว (GREEN BEANS) ให้คุณต่อตับ

5. ถั่วขาว (WHITE BEANS) ให้คุณต่อปอด


ธาตุทั้ง 5 สี ถั่วแต่ละสี บำรุงอวัยวะ ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุ
ไม้ ธาตุโลหะ แดง ดำ เหลือง เขียว ขาว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง
ถั่วเขียว ถั่วขาว หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด


3.) การได้รับประทานสาหร่ายทะเลทั้งสดและแห้งพร้อมทั้งใช้เกลือ
ทะเลมาปรุงลงในอาหาร ทั้ง 2 อย่างนี้มีไอโอดีน ซึ่งจะสามารถป้องกัน
โรคคอพอกได้เป็นอย่างดี


4.) งาขาวและงาดำ ในอาหารและขนมคนกินเจควรใช้งาปรุงผสมด้วย
เสมอ ไม่ว่าจะเป็นงาขาวหรืองาดำ เพราะในเมล็ดงามีกรดไขมันไล
โนเลอิค (LINOLEIC ACID) ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมากแต่ร่างกาย
ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้


สำหรับผู้ทำอาหารเจรับประทานเอง ให้นำงาขาวมาล้างเอาผงฝุ่นออก
จนสะอาดดี ตักใส่ตะแกรงทิ้งไว้ให้หมาดแล้วใช้ไฟอ่อนๆ คั่วในกระทะ
จนสุกเหลืองพอเย็นจึงนำมาโขลกหรือ ปั่นให้แตกด้วยเครื่อง จะทำ
ให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันที่อยู่ในเมล็ดดียิ่งขึ้น งานที่บดแล้วจะมี
กลิ่นหอมสามารถนำใช้ปรุงอาหาร และขนมได้ทุกประเภท ทำให้
มีรสดี หอมน่ารับประทาน โดยปกติผู้ที่กินเจควรรับประทานงานใน
ปริมาณวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ก็นับว่าเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย


5.) ผู้ที่กินเจ ไม่ควรรับประทานรสจัดเกินไป เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด ขมจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด รสชาติที่จัดมากๆ จะส่งผลไปถึงอวัยวะหลักดังนี้

รสขม ส่งผลต่อ หัวใจ
รสเค็ม ส่งผลต่อ ไต
รสหวาน ส่งผลต่อ ม้าม
รสเปรี้ยว ส่งผลต่อ ตับ
รสเผ็ด ส่งผลต่อ ปอด


6.) หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง
เครื่องกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ควรหันมารับประทานอาหารสดที่
ปรุงใหม่ๆ จะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า


7.) เครื่องดื่ม คนกินเจควรดื่มน้ำผลไม้สดๆ ตามธรรมชาติ เช่น น้ำส้ม
น้ำมะเขือเทศ น้ำสับปะรด น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก น้ำมะตูม ฯลฯ น้ำผลไม้ดังกล่าวจะทำให้ร่างกายและผิวพรรณสดชื่นเปล่งปลั่ง เราควร
งดน้ำหวานที่ปรุงแต่งรสและเจือสีสังเคราะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงพิษภัยจาก
สิ่งปลอมปน


นอกจากการดื่มน้ำผลไม้สดๆ แล้ว ทุกคนต้องดื่มน้ำสะอาดให้ได้
วันละ 8 แก้ว เป็นประจำ


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นหลักความรู้ในการปรุงและบริโภคอาหารเจ
ซึ่งคนกินเจต้องยึดถือปฏิบัติ เพื่อให้ได้มาซึ่งพลานามัยที่สุขสมบูรณ์
พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ







 

Create Date : 21 กันยายน 2551
3 comments
Last Update : 21 กันยายน 2551 9:41:14 น.
Counter : 678 Pageviews.

 

ช่วงนี้
ทานเจเหมือนกันค่ะ
แต่เป็นเจ "เขี่ย" นะคะ
คือ เขี่ยเนื้อสัตว์ออกน่ะค่ะ

 

โดย: โสดในซอย 21 กันยายน 2551 10:05:13 น.  

 

ขอบคุณค่า จะเริ่มตามเทศกาลน่ะคะ

 

โดย: โยเกิตมะนาว 21 กันยายน 2551 13:59:10 น.  

 

ดีจังค่ะ
ปีที่แล้วกินเจแบบงูงู ปลาปลา เพราะไม่มีข้อมูลเลย
ปีนี้จะได้ทำถูกเสียที

 

โดย: tj-takm 21 กันยายน 2551 14:43:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
21 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.