For One More Day
เรื่องนี้จะแบ่งเป็นภาคๆ ภาค midnight, morning, noon, และก็ night เรื่องนี้อาจจะงงๆไปบ้างเพราะคนเขียนเล่าทั้งเรื่องปัจจุบันกับเรื่องอดีตไปด้วยกัน พยายามเข้าใจกันหน่อยล่ะกันเนอะ Midnight เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แม่ของ Charley เสียชีวิตไปโดยที่เค้าไม่ได้มีโอกาสที่จะล่ำลา หลังจากนั้น เค้าก็ดื่มเหล้าหัวราน้ำ กลายไปคนขี้เหล้าไป ทั้งๆที่สมัยมหาลัยเค้าเคยเป็นดาวทีมเบสบอล เขาแต่งงานและมีลูกอายุ 14 ปี หนึ่งปีหลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต เขาเอาเงินไปลงทุนกับเพื่อนที่ทำงานแล้วก็เจ๊ง ทำให้เขายิ่งดื่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนต้องแยกทางกับภรรยาผู้ซึ่งเอาลูกไปอยู่ด้วย เมื่อสมัยที่เขายังเด็กอยู่ พ่อของเขาสอนว่าเขาต้องเลือกระหว่างจะเป็นลูกชองพ่อหรือลูกของแม่ และเขาก็เลือกที่จะเดินตามพ่อ แต่แล้วพ่อของเขาก็แยกกับแม่เมื่อตอนเขาอยู่ ป. 5 และหลังจากนั้น เค้าก็เป็นเดินตามรอยของแม่เรื่อยมา เขาได้รับจดหมายจากลูกสาวที่ส่งมาบอกว่าเธอได้แต่งงานแล้วพร้อมกับภาพถ่ายในวันงานแต่งงาน เขารู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับเชิญ จึงโทรไปหาภรรยาเก่าก่อนที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังที่วางสายจากภรรยา เขาก็หยิบปืนแล้วขับรถมุ่งไปบ้านเดิมที่เขาเคยอยู่กับแม่ของเขา แต่แล้ว เขาก็ขับรถชนรถกะบะคันหนึ่งตอนที่กำลังจะกลับรถไปเข้าทางเข้าบ้าน แต่เขาก็ยังกระเสือกกระสนหาทางกลับไปบ้าน Morning เมื่อเขากลับถึงบ้านก็เจอแม่ที่เสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อแม่ของ Charley เห็นตัวเขาที่เต็มไปด้วยเผลก็เอายามาทาให้ และทำอาหารเช้าให้ทาน แต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เขาเจอนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถาม ตั้งแต่ที่เขายังเด็กอยู่ แม่ของเขาชอบเขียนโน้ตเล็กๆให้เวลาสำคัญๆ ครั้งแรกที่เขาได้จดหมายคือตอนที่เขาเข้าโรงเรียนครั้งแรก โดยที่อาจจะลืมไปว่าเขายังอ่านหนังสือไม่ได้เลย หลังจากที่พ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน เพื่อนบ้านต่างก็ดีต่อทั้งเขาและน้องสาวของเขามาก แต่กลับไม่ชอบแม่ของเขาเท่าไร เพราะแม่ของเขาสวย และน่ารัก ดังนั้น สำหรับผู้หญิงทั่วไปแล้ว แม่ของเขาก็เหมือนกับศัตรูดีๆนี่เอง แต่สำหรับผู้ชาย ก็เหมือนเป็นโอกาสไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เพื่อนของ Charley ส่องกล่องส่องทางไกลไปที่บ้านของเขาเพื่อแอบดูแม่ของเขาหลังจากทำงาน ตอนที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า Charley ทนไม่ได้จึงเข้าไปต่อยเพื่อนพวกนั้น บ้านของเขาไม่ได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยงใดๆของเพื่อนบ้าน ทั้งงานวันคริตสมาสหรืองานอื่นๆ เพราะผู้หญิงต่างอิจฉาแม่ของ Charley ที่ยังสวยสดใสอยู่ และกลัวว่าแม่ของ Charley จะมายุ่งกับสามีของพวกเขา แม่ของเขาเคยเป็นนางพยาบาลมาก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นช่างทำผมแล้ว เขาเดินไปแม่ไปที่บ้านที่นัดไว้ ระหว่างทาง แม่ของเขาก็หยุดที่ต้นไม่ต้นหนึ่งที่สลักคำว่า ได้โปรด ไว้ แม่ของเขาบอกว่าหล่อนเป็นคนมาสลักไว้เอง มาขอลูกซึ่งก็คือ Charley เพราะหลังจากที่แต่งงานกับพ่อของเขามาถึงสามปีแล้วก็ยังไม่มีลูกเสียที แม่ของเขายังบอกอีกว่า เด็กบางคนมักจะลืมไปว่าตัวเองเป็น พรที่พระเจ้าประทานมาให้ คำพูดนี้ทำให้ Charley รู้สึกเสียใจกับความคิดอยากฆ่าตัวตายของตัวเอง บ้านหลังแรกที่ไปคือบ้านของ Rose ทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุของ Charley ซึ่งจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าคนที่ขับรถชนคือ Charley เอง ตอนที่แม่ของ Charley ยังเป็นพยาบาลอยู่นั้น เขาเคยช่วยแต่งหน้าให้คนป่วยเพราะว่าแม่ของเขาคิดว่าการที่มาเป็นคนป่วยนั้นไม่จำเป็นว่าต้องดูโทรมเสมอไป แต่นั่นก็ทำให้เธอมีปัญหากับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน และวันที่เธอถูกไล่ออก ก็เป็นครั้งแรกที่เธอมารับลูกกลับบ้าน น้องสาวของ Charley ดีใจที่แม่มารับ แต่ Charley กลับไม่ยินดี แม่ของเขาบอกว่าจะพาไปทานไอศกรีม แต่เขากลับบอกว่าต้องไปซ้อมเบสบอล ทำให้แม่ของเขาที่รู้สึกแย่กับการที่ตัวเองโดนไล่ออกมาอยู่แล้วยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ เมื่อเด็กเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น มักจะตีตัวออกห่างจากพ่อแม่ตัวเอง และรู้สึกเสียหน้าเวลาพ่อแม่อยู่ด้วย Charley ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน เสียงโทรศัพท์ที่บ้าน Rose ดังขึ้น Charley จึงต้องไปรับเพราะแม่ของเขากำลังทำผมให้ Rose อยู่ เสียงในโทรศัพท์นั้นเรียกชื่อเขาและบอกว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ด้วยความกลัว เขาจึงวางสายไป แล้วจึงพักหลับขณะที่รอแม่ทำผมให้ Rose เมื่อแม่ของเขาทำผมให้ Rose เสร็จก็ลากันกลับ Rose บอกว่าเธอต้องแต่งตัวสวยเพราะเธอจะไปพบสามีของเธอ แต่ Charley ก็ไม่กล้าถามว่าที่ไหน และเขาก็มารู้ทีหลังจากแม่เขาว่า Rose จะตายวันนี้แล้ว เขาแปลกใจว่าทำไมแม่ของเขาถึงรู้เพราะว่า Rose ยังดูแข็งแรงอยู่เลย
Create Date : 22 มิถุนายน 2550
1 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2550 23:42:45 น.
Counter : 798 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
การที่เราเอาหนังสือที่เราอ่านอยู่นั้นมาย่อลงใน blog ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีคนอ่านมากมายหรอก แต่แค่เป็นการกระตุ้นตัวเองให้ตั้งใจอ่านเข้าไว้ และนึกเสมอว่ายังมีคนที่ยังรออ่านใน Blog อยู่ (หรือเปล่า)