|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
จอมใจบ้านมีดบิน.... เมื่อความรักอันตรายยิ่งกว่ามีดดาบ
ใครที่ยังไม่เคยดูหนัง หรืออ่านหนังสือมาก่อน หากอ่านแล้วจะพาลงงเอานะครับ และสำหรับคนที่ดูหนังแล้วอยากอ่านหนังสือด้วย ก็อย่าอ่านนะครับ เพราะผมจะเฉลยตอนจบซึ่งหากรู้ไปแล้ว จะอ่านไม่สนุกได้นะครับ
อย่างที่สัญญากันไว้ครับว่า จะนำเรื่องความแตกต่างระหว่างในภาพยนตร์เรื่องนี้กับในหนังสือนิยาย ของหลี่เฝิงมาบอกกันให้ทราบ ก่อนที่ผมจะลืมเรื่องไปมากกว่านี้ ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวอีกครั้ง(กันการโดนแทง) ว่าดูหนังเรื่องนี้นานมาแล้ว และยังไม่มีโอกาสได้ดูซ้ำอีกเลย จึงอาจทำให้จำรายละเอียดต่างๆในหนังได้ไม่ค่อยดีนักครับ
จอมใจบ้านมีดบิน หรือ House of Flying Daggers เป็นภาพยนตร์จีนกำลังภายในลำดับที่ 2 ของผู้กำกับนามระบือ จางอี้โหมว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กำกับในดวงใจของผมครับ ถัดมาจาก Hero ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ได้รับความชื่นชมจากผู้ชมทั่วโลกเลยทีเดียว ผมเคยได้ดูหนังของเขาเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น(Hero, HOFD,Happy Times,Not One Less และ The Road Home) แต่ก็รู้สึกชื่นชอบผู้กำกับคนนี้เป็นอย่างมาก
อี้โหมวเป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ และอัจฉริยภาพในการรวมเอาศิลปะในการสร้างภาพยนตร์และการพานิชย์ ได้อย่างกลมกลืน ไม่น่าเกลียด เช่นเดียวกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก หรือ พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด เลยทีเดียว หนังของอี้โหมวจึงเป็นหนังที่ดูง่าย เข้าถึงผู้ชมได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย และมีความเป็นศิลป์อย่างชัดเจน เห็นได้จากการถ่ายภาพ พล็อตเรื่องที่เรียบนิ่งแต่น่าติดตาม อีกทั้งสีสันและวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา หลายๆคนอาจบอกว่า ไม่ชอบหนังของเค้าเพราะคิดว่าดูเป็นการจงใจปั้นแต่งภาพต่างๆให้ออกมาวิจิตรงดงามเกินความเป็นจริง ทว่าในข้อนี้ผมกลับมองว่าเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เพราะทั้งนี้ภาพที่งดงามก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องปลอบประโลม และกลบเกลื่อน ความมืดหม่นเศร้าสร้อยของเรื่องราวในหนัง เช่นเดียวกับเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวังและความเสียสละในหนังเรื่องนี้
ประเด็นหลักของเรื่องเกิดขึ้นจากเรื่องราวของความรักสามเส้า ที่ดูเหมือนกับจะไม่มีอะไรเลย แต่อี้โหมวเองก็สามารถทำให้มันดูเป็นหนังที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ ดังที่กล่าวในนิยายว่า
"ความรักมีทั้งดีเลว ความรักที่ดีเจิดจรัส ดุจคริสตัล ความรักที่เลวร้าย คล้ายหลุมดำที่น่ากลัว"
นิยายเรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของหลี่เฝิงครับ ซึ่งเป็นมือเขียนบทคู่ใจของอี้โหมวเอง แปลโดยน.นพรัตน์ และพิมพ์จำหน่ายโดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ราคา 190 บาทครับ ต่อไปนี้ผมจะเขียนถึงตัวนิยายนะครับ(ไม่ขอพูดถึงหนังมาก เพราะลืมรายละเอียดไปค่อนข้างเยอะแล้ว)
เรื่องราวความรักสองด้านนี้ ดำเนินผ่านการบอกเล่าของตัวละครหลักอย่างมือปราบหลิว การเล่าเรื่องใช้สรรพนามว่าข้าพเจ้า ไปตลอดทั้งเรื่อง(เพราะเป็นการแอบมองดูของตัวละครตัวนี้) เริ่มต้นเป็นการอธิบายถึงภูมิหลังและลักษณะต่างๆของตัวละคร เริ่มที่ หลิวผู้ซึ่งไม่มีความโดดเด่นใดๆเลย เป็นเพียงมือปราบธรรมดาๆคนหนึ่ง มีเพลงดาบที่ใช้ได้ ทว่าเป็นคนพูดน้อยและไม่บ่อยที่จะชักดาบจากฝัก จิน มือปราบหนุ่มรูปงามเป็นรุ่นน้องของหลิว มีความว่องไวในเพลงดาบ นิสัยรักพวกพ้อง ตรงไปตรงมา รักสนุก และเป็นที่รักของคนทั่วไป(อ่านไปแล้วก็รู้สึกว่าตรงกับคาแรกเตอร์ของทาเคชิ คาเนะชิโร่ในหนังมากๆครับ เหมือนกับเขียนขึ้นจากคนๆนี้เลย) และสุดท้าย เสี่ยวเม่ย(แปลว่าน้องสาว) ที่เป็นหญิงงาม ตาบอด รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร(ตรงกับภาพของจางจื่ออี้เป็นอย่างมากเช่นกัน) ผู้ซึ่งกลายเป็นตัวการสำคัญทำให้เรื่องราวความรักขมวดปมแน่นและดำเนินไปสู่จุดจบอันสะเทือนใจ
ข้อดีของการใช้สรรพนาม ข้าพเจ้าก็คือ เปรียบเสมือนเป็นการบอกเล่าจากตัวละครเองให้ผู้อ่านได้รับทราบซึ่งทำให้รู้สึกน่าติดตาม และเกิดความไว้วางใจในตัวละครนี้ ผมคาดว่าเป็นเพราะผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านมีความเชื่อถือคำบอกเล่าของตัวละครตัวนี้ คิดว่าเป็นคนดี ในขณะที่จะค่อยๆเผยธาตุแท้ ความเห็นแก่ตัว และการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลทำให้ผู้อ่านตั้งข้อสงสัย และท้ายที่สุดจบด้วยการหักมุมเป็นการสร้างความประหลาดใจให้เกิดอีกต่อหนึ่ง ข้อดีอีกข้อก็คือ การใช้สรรพนาม ข้าพเจ้าบอกเล่าตลอดทั้งเรื่องยังทำให้ ผู้อ่านลืมเลือนชื่อของตัวละครตัวนี้(เพราะผมก็ลืมเหมือนกัน) ทำให้ดูกลายเป็นคนที่ไม่น่าจดจำและลึกลับ ดังที่กล่าวไว้ว่า "ข้าพเจ้าแซ่หลิว เป็นมือปราบธรรมดาผู้หนึ่ง" ซึ่งมีการกล่าวเช่นนี้ซ้ำๆอีกหลายครั้งทีเดียว
สำหรับผมนั้น นิยายเล่มนี้เป็นนิยายจีนเรื่องแรกที่อ่านเลย จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับนักเขียนคนอื่นๆได้ แต่เพื่อนผมที่เป็นแฟนนิยายจีนคนหนึ่งบอกว่า ลีลาในการเขียนของหลี่เฝิง ยังไม่อาจเทียบชั้นปรมาจารย์อย่างโกวเล้งหรือกิมย้งได้ แต่สำหรับผมถือว่าเขียนได้ดีทีเดียวครับ อาจน่าเบื่อไปบ้างในช่วงแรก(อาจเป็นเพราะผมทราบเรื่องจากในหนังมาก่อนแล้วก็เป็นได้) แต่ในตอนท้ายที่เรื่องราวใกล้จะจบ(ตั้งแต่บทที่ 8 เป็นต้นไป) ผมรู้สึกตื่นเต้น ลุ้นระทึกและอยากติดตามไปจนจบเลยครับ
การอ่านนิยายจีนนั้น มีข้อเด่นไม่เหมือนกับของชาติอื่นๆ โดยเฉพาะนิยายกำลังภายในย้อนยุค ทั้งนี้ เพราะผู้เขียนมักจะสอดแทรกความคิด ขนบ ประเพณี รวมถึงปรัชญาต่างๆที่มีประโยชน์รวมถึงแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองในอดีตของแดนมังกรแห่งนี้ให้แก่ผู้อ่านได้รับทราบกัน การอ่านนิยายเรื่องนี้ทำให้ผมได้เข้าใจถึงลักษณะนิสัย และการกระทำต่างๆ ของตัวละครทุกๆตัวมากยิ่งขึ้น(เพราะในหนังไม่ได้อธิบายให้ละเอียด ถึงสาเหตุการกระทำต่างๆ) นอกจากนี้ยังมีจุดจบที่ต่างกันออกไปด้วย ซึ่งจะรวบรวมเรื่องราวในหนังสือเอาไว้ดังนี้นะครับ (คาดว่าคนส่วนใหญ่คงเคยดูหนังมาแล้วแต่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือกัน)
1.หลายๆคน อาจจะคิดว่าทำไมหลิวจึงเลือกให้จินเดินทางไปกับเสี่ยวเม่ย ถ้ารู้ๆกันอยู่ว่า จินรูปหล่อกว่าตน อาจทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ และที่สำคัญจินเองก็ไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของเจ้าสำนักมีดบินเลยด้วยซ้ำ ทำไมเค้าต้องกลายไปเป็นแพะด้วย ข้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ เพราะจากการที่ได้อ่านมารู้สึกว่าเป็นเพราะหลิวเป็นคนที่จิตใจคับแคบ ไม่รักพวกพ้องจริง เห็นแก่ตัว และที่สำคัญในนิยายเฉลยว่า หลิวเองนี่แหละที่เป็นมือสังหารหลิวหยุนเฟยเจ้าสำนักมีดบิน ตามแผนการที่วางไว้กับตั่วเจ้ ในใจหลิวผมคิดว่าเค้ารู้สึกอิจฉาจินมาตลอด และท้ายที่สุดก็ตัดสินใจทำลายจินด้วยวิธีนี้นี่เอง
2.ตั่วเจ้ จริงๆแล้วเป็นชู้รักกับหลิวหยุนเฟย มีความมักใหญ่ใฝ่สูงอยากเป็นเจ้าสำนักและได้เคล็ดวิชามีดบินสังหาร จึงสมคบคิดกับหลิวซึ่งก็เป็นมือสังหารลับๆของสำนักมีดบินเช่นกัน ร่วมกันฆ่าหลิวหยุนเฟย(เป็นหนอนบ่อนไส้นี่เอง)
3.หลิวหยุนเฟย จริงๆเป็นคนจิตใจคับแคบเช่นกัน การกระทำของสำนักที่บอกว่าทำเพื่อล้มล้างราชสำนักที่ชั่วช้าเป็นการกระทำบังหน้า จริงๆแล้วเขามักใหญ่ใฝ่สูงและอยากขึ้นมาเป็นใหญ่ในยุทธภพ เสี่ยวเม่ยเองจริงๆก็แล้วเป็นลูกสาวของหลิวหยุนเฟย(ข้อนี้ต่างจากในหนัง เพราะในหนังนั้นเสี่ยวเม่ยมาเฉลย เอาตอนจบว่าเธอเป็นเพียงสมาชิกพรรคคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนลูกสาวเจ้าสำนักตัวจริงไม่รู้เพลงยุทธ์เลย) ในอดีตเคยตาบอด และได้รักษาตาหายแล้วแต่หลิวหยุนเฟยเองก็ปกปิดไม่บอกใคร เพราะความไม่ไว้วางใจใครเลย(เกรงว่ามีหนอนบ่อนไส้) แม้กระทั่งตั่วเจ้ซึ่งเป็นคนรักลับๆก็ตาม ที่เลวไปกว่านี้ก็คือ เมื่อทราบว่าหลิวหลงรักเสี่ยวเม่ย ก็ใช้ให้เสี่ยวเม่ยซึ่งเป็นลูกสาวตนเองไปปรนเปรอบำเรอหลิวให้ตายใจ (โดยที่มองว่าหลิวเป็นเพียง มีดสังหารเล่มหนึ่งของตนเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ หนังก็ไม่ได้มีการพูดถึง)
4.หลิวเริ่มโกรธที่หลิวหยุนเฟยไม่สนับสนุนให้ความรักของตนสมหวัง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าหลิวรักเสี่ยวเม่ยมากจริงๆ ตั่วเจ้เอง มองข้อนี้ออกจึงใช้เป็นโอกาสสมคบคิดกับหลิวสังหารหลิวหยุนเฟย แล้วตั้งตัวเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ โดยสัญญาว่าหากตนได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก จะช่วยให้หลิวได้สมหวังในรัก
5.ตอนจบเรื่องนี้ ต่างกับในหนังพอสมควรครับ หลิวไม่ตาย คนที่ตายมีเพียงเสี่ยวเม่ย และจินที่ตายตามกันไปท่ามกลางหิมะ ไม่มีการปามีดบินออกไปอย่างในหนังนะ (เศร้ามากครับ)
..........ขอแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากผมเพิ่งมาทราบทีหลัง ว่านิยายเรื่องนี้ แต่งขึ้นภายหลังจากที่หนังได้สร้างออกมาแล้ว เรื่องราวการกระทำต่างๆของตัวละคร จึงแตกต่างจากในหนังพอสมควร และเกิดมาจาการตีความส่วนตัวของผู้เขียนคือ หลี่เฝิงเองครับ ต้องขอขอบคุณทุกความเห็นที่แสดงเข้ามาทำให้ผมได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆครับ........... อาวุธสำคัญในเรื่องนี้ก็คือมีดบินครับ หลายคนอยากได้เคล็ดวิชากันมาก ทว่าในท้ายที่สุดแล้วเคล็ดวิชาที่แท้จริง หาใช่มีดบินสังหารไม่ เพราะความรักที่บ้าคลั่งต่างหากล่ะที่ทำให้คนเรากลายเป็นไม่ใช่คน ทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทำกัน (ข้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะในนิยาย เคล็ดวิชาจริงๆ คือการใช้คนเปรียบดังมีดดาบ ของหลิวหยุนเฟย ดังที่กล่าวว่า
"ตัวมันมิใช่คน มีดในมือก็มิใช่มีด มิน่าเล่ามันอาศัยเพลงมีดดาบ ก่อตั้งสำนักมีดบินอันยิ่งใหญ่ มันยุยงให้ทุกผู้คนฆ่าฟันกันเอง ใช้อารมณ์ความรู้สึก ความต้องการและจุดอ่อนของผู้คนให้เป็นประโยชน์ โดยที่มันมิต้องลงมือด้วยตนเอง มันถึงกับใช้มีดบินดักนกแกล้มสุรากลางพื้นหิมะ ทั้งนี้เพราะมันทราบว่าหากจะฆ่าคนมิต้องใช้มีดดาบ นี่จึงเป็นเคล็ดลับในชีวิตมัน" )
สุดท้ายผมขอจบด้วยบทเพลงซึ่งเสี่ยวเม่ยได้ขับกล่อมไว้ในหนังอย่างไพเราะ แสดงให้เห็นฤทธานุภาพของความรัก อย่างน่ากลัวดังนี้ครับ " ถิ่นเหนือมีนงราม งามเลิศล้ำหาใดปาน ยิ้มเดียวล่มนคเรศ แย้มยิ้มซ้ำล่มเขตแคว้น แม้นล่มนรเรศล่มเขตแคว้น ยากพานพบยุพเรศ....” (ประพันธ์โดย หลี่เอี้ยนเหนียน สมัยราชวงศ์ฮั่น) หากเขียนแล้วอ่านงงๆ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ คาดว่าคราวนี้คงไม่ถูกด่าว่ากลวงอีก ยินดีรับคำติชมนะครับ(อย่าติ แรงไปแล้วกัน ผมจะหมดกำลังใจเอา อิอิ) ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
Create Date : 13 พฤษภาคม 2548 |
|
22 comments |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2548 13:15:38 น. |
Counter : 13837 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ผู้แซ่ฝู่ IP: 210.213.42.131 13 พฤษภาคม 2548 12:24:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: it ซียู IP: 202.44.7.68 13 พฤษภาคม 2548 12:40:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: PB เองฮับ IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 13:24:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: PB เองฮ่ะ IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 13:57:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: merf1970 13 พฤษภาคม 2548 14:06:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: FF>> IP: 202.133.166.111 13 พฤษภาคม 2548 14:34:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอกเอง IP: 202.57.143.124 13 พฤษภาคม 2548 16:49:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 13 พฤษภาคม 2548 20:42:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: อพันตรี (อพันตรี ) 13 พฤษภาคม 2548 22:18:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: pb IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 22:49:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: POGGHI 17 พฤษภาคม 2548 15:16:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ... IP: 203.188.23.183 17 พฤศจิกายน 2549 18:07:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพียงตะวัน IP: 203.172.51.70 20 มกราคม 2550 21:40:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: อรอุมา IP: 125.24.167.228 29 มกราคม 2550 19:11:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ประมุขพรรคดอกไม้แดง IP: 125.26.116.153 9 กันยายน 2551 16:53:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฐรณิศร์ IP: 118.173.204.144 4 กุมภาพันธ์ 2552 15:58:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: แวะมา IP: 27.55.171.77 1 มีนาคม 2556 23:34:11 น. |
|
|
|
| |
|
|
อ่านจบแล้วอึ้งกลัวที่จะรัก ไม่มีรักก็ไม่มีทุกข์
แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่ารัก ก็คือใจคน ยากนักจะหยั่งลึก
เข้ามาอ่านแต่ไม่ทราบข้อแตกต่างของหนังสือกับหนัง เห็นคุณเล่าแต่เรื่องจากหนังสือไม่เห็นเล่าถึงจากทางภาพยนตร์บ้าง
ไม่งง แต่ไม่ได้ point ตามที่ตั้งไว้(link ตามมาจาก pantip)