Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2548
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 

จอมใจบ้านมีดบิน.... เมื่อความรักอันตรายยิ่งกว่ามีดดาบ

ใครที่ยังไม่เคยดูหนัง หรืออ่านหนังสือมาก่อน หากอ่านแล้วจะพาลงงเอานะครับ และสำหรับคนที่ดูหนังแล้วอยากอ่านหนังสือด้วย ก็อย่าอ่านนะครับ เพราะผมจะเฉลยตอนจบซึ่งหากรู้ไปแล้ว จะอ่านไม่สนุกได้นะครับ

อย่างที่สัญญากันไว้ครับว่า จะนำเรื่องความแตกต่างระหว่างในภาพยนตร์เรื่องนี้กับในหนังสือนิยาย ของหลี่เฝิงมาบอกกันให้ทราบ ก่อนที่ผมจะลืมเรื่องไปมากกว่านี้ ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวอีกครั้ง(กันการโดนแทง) ว่าดูหนังเรื่องนี้นานมาแล้ว และยังไม่มีโอกาสได้ดูซ้ำอีกเลย จึงอาจทำให้จำรายละเอียดต่างๆในหนังได้ไม่ค่อยดีนักครับ

จอมใจบ้านมีดบิน หรือ House of Flying Daggers เป็นภาพยนตร์จีนกำลังภายในลำดับที่ 2 ของผู้กำกับนามระบือ จางอี้โหมว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กำกับในดวงใจของผมครับ ถัดมาจาก Hero ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ได้รับความชื่นชมจากผู้ชมทั่วโลกเลยทีเดียว ผมเคยได้ดูหนังของเขาเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น(Hero, HOFD,Happy Times,Not One Less และ The Road Home) แต่ก็รู้สึกชื่นชอบผู้กำกับคนนี้เป็นอย่างมาก

อี้โหมวเป็นผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์ และอัจฉริยภาพในการรวมเอาศิลปะในการสร้างภาพยนตร์และการพานิชย์ ได้อย่างกลมกลืน ไม่น่าเกลียด เช่นเดียวกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก หรือ พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด เลยทีเดียว หนังของอี้โหมวจึงเป็นหนังที่ดูง่าย เข้าถึงผู้ชมได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย และมีความเป็นศิลป์อย่างชัดเจน เห็นได้จากการถ่ายภาพ พล็อตเรื่องที่เรียบนิ่งแต่น่าติดตาม อีกทั้งสีสันและวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา หลายๆคนอาจบอกว่า ไม่ชอบหนังของเค้าเพราะคิดว่าดูเป็นการจงใจปั้นแต่งภาพต่างๆให้ออกมาวิจิตรงดงามเกินความเป็นจริง ทว่าในข้อนี้ผมกลับมองว่าเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เพราะทั้งนี้ภาพที่งดงามก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องปลอบประโลม และกลบเกลื่อน ความมืดหม่นเศร้าสร้อยของเรื่องราวในหนัง เช่นเดียวกับเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวังและความเสียสละในหนังเรื่องนี้

ประเด็นหลักของเรื่องเกิดขึ้นจากเรื่องราวของความรักสามเส้า ที่ดูเหมือนกับจะไม่มีอะไรเลย แต่อี้โหมวเองก็สามารถทำให้มันดูเป็นหนังที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ ดังที่กล่าวในนิยายว่า


"ความรักมีทั้งดีเลว ความรักที่ดีเจิดจรัส
ดุจคริสตัล ความรักที่เลวร้าย
คล้ายหลุมดำที่น่ากลัว"


นิยายเรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของหลี่เฝิงครับ ซึ่งเป็นมือเขียนบทคู่ใจของอี้โหมวเอง แปลโดยน.นพรัตน์ และพิมพ์จำหน่ายโดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ราคา 190 บาทครับ ต่อไปนี้ผมจะเขียนถึงตัวนิยายนะครับ(ไม่ขอพูดถึงหนังมาก เพราะลืมรายละเอียดไปค่อนข้างเยอะแล้ว)

เรื่องราวความรักสองด้านนี้ ดำเนินผ่านการบอกเล่าของตัวละครหลักอย่างมือปราบหลิว การเล่าเรื่องใช้สรรพนามว่าข้าพเจ้า ไปตลอดทั้งเรื่อง(เพราะเป็นการแอบมองดูของตัวละครตัวนี้) เริ่มต้นเป็นการอธิบายถึงภูมิหลังและลักษณะต่างๆของตัวละคร เริ่มที่ หลิวผู้ซึ่งไม่มีความโดดเด่นใดๆเลย เป็นเพียงมือปราบธรรมดาๆคนหนึ่ง มีเพลงดาบที่ใช้ได้ ทว่าเป็นคนพูดน้อยและไม่บ่อยที่จะชักดาบจากฝัก จิน มือปราบหนุ่มรูปงามเป็นรุ่นน้องของหลิว มีความว่องไวในเพลงดาบ นิสัยรักพวกพ้อง ตรงไปตรงมา รักสนุก และเป็นที่รักของคนทั่วไป(อ่านไปแล้วก็รู้สึกว่าตรงกับคาแรกเตอร์ของทาเคชิ คาเนะชิโร่ในหนังมากๆครับ เหมือนกับเขียนขึ้นจากคนๆนี้เลย) และสุดท้าย เสี่ยวเม่ย(แปลว่าน้องสาว) ที่เป็นหญิงงาม ตาบอด รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร(ตรงกับภาพของจางจื่ออี้เป็นอย่างมากเช่นกัน) ผู้ซึ่งกลายเป็นตัวการสำคัญทำให้เรื่องราวความรักขมวดปมแน่นและดำเนินไปสู่จุดจบอันสะเทือนใจ

ข้อดีของการใช้สรรพนาม ข้าพเจ้าก็คือ เปรียบเสมือนเป็นการบอกเล่าจากตัวละครเองให้ผู้อ่านได้รับทราบซึ่งทำให้รู้สึกน่าติดตาม และเกิดความไว้วางใจในตัวละครนี้ ผมคาดว่าเป็นเพราะผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านมีความเชื่อถือคำบอกเล่าของตัวละครตัวนี้ คิดว่าเป็นคนดี ในขณะที่จะค่อยๆเผยธาตุแท้ ความเห็นแก่ตัว และการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลทำให้ผู้อ่านตั้งข้อสงสัย และท้ายที่สุดจบด้วยการหักมุมเป็นการสร้างความประหลาดใจให้เกิดอีกต่อหนึ่ง ข้อดีอีกข้อก็คือ การใช้สรรพนาม ข้าพเจ้าบอกเล่าตลอดทั้งเรื่องยังทำให้ ผู้อ่านลืมเลือนชื่อของตัวละครตัวนี้(เพราะผมก็ลืมเหมือนกัน) ทำให้ดูกลายเป็นคนที่ไม่น่าจดจำและลึกลับ ดังที่กล่าวไว้ว่า "ข้าพเจ้าแซ่หลิว เป็นมือปราบธรรมดาผู้หนึ่ง" ซึ่งมีการกล่าวเช่นนี้ซ้ำๆอีกหลายครั้งทีเดียว

สำหรับผมนั้น นิยายเล่มนี้เป็นนิยายจีนเรื่องแรกที่อ่านเลย จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับนักเขียนคนอื่นๆได้ แต่เพื่อนผมที่เป็นแฟนนิยายจีนคนหนึ่งบอกว่า ลีลาในการเขียนของหลี่เฝิง ยังไม่อาจเทียบชั้นปรมาจารย์อย่างโกวเล้งหรือกิมย้งได้ แต่สำหรับผมถือว่าเขียนได้ดีทีเดียวครับ อาจน่าเบื่อไปบ้างในช่วงแรก(อาจเป็นเพราะผมทราบเรื่องจากในหนังมาก่อนแล้วก็เป็นได้) แต่ในตอนท้ายที่เรื่องราวใกล้จะจบ(ตั้งแต่บทที่ 8 เป็นต้นไป) ผมรู้สึกตื่นเต้น ลุ้นระทึกและอยากติดตามไปจนจบเลยครับ

การอ่านนิยายจีนนั้น มีข้อเด่นไม่เหมือนกับของชาติอื่นๆ โดยเฉพาะนิยายกำลังภายในย้อนยุค ทั้งนี้ เพราะผู้เขียนมักจะสอดแทรกความคิด ขนบ ประเพณี รวมถึงปรัชญาต่างๆที่มีประโยชน์รวมถึงแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองในอดีตของแดนมังกรแห่งนี้ให้แก่ผู้อ่านได้รับทราบกัน การอ่านนิยายเรื่องนี้ทำให้ผมได้เข้าใจถึงลักษณะนิสัย และการกระทำต่างๆ ของตัวละครทุกๆตัวมากยิ่งขึ้น(เพราะในหนังไม่ได้อธิบายให้ละเอียด ถึงสาเหตุการกระทำต่างๆ) นอกจากนี้ยังมีจุดจบที่ต่างกันออกไปด้วย ซึ่งจะรวบรวมเรื่องราวในหนังสือเอาไว้ดังนี้นะครับ (คาดว่าคนส่วนใหญ่คงเคยดูหนังมาแล้วแต่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือกัน)

1.หลายๆคน อาจจะคิดว่าทำไมหลิวจึงเลือกให้จินเดินทางไปกับเสี่ยวเม่ย ถ้ารู้ๆกันอยู่ว่า จินรูปหล่อกว่าตน อาจทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ และที่สำคัญจินเองก็ไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของเจ้าสำนักมีดบินเลยด้วยซ้ำ ทำไมเค้าต้องกลายไปเป็นแพะด้วย ข้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ เพราะจากการที่ได้อ่านมารู้สึกว่าเป็นเพราะหลิวเป็นคนที่จิตใจคับแคบ ไม่รักพวกพ้องจริง เห็นแก่ตัว และที่สำคัญในนิยายเฉลยว่า หลิวเองนี่แหละที่เป็นมือสังหารหลิวหยุนเฟยเจ้าสำนักมีดบิน ตามแผนการที่วางไว้กับตั่วเจ้ ในใจหลิวผมคิดว่าเค้ารู้สึกอิจฉาจินมาตลอด และท้ายที่สุดก็ตัดสินใจทำลายจินด้วยวิธีนี้นี่เอง

2.ตั่วเจ้ จริงๆแล้วเป็นชู้รักกับหลิวหยุนเฟย มีความมักใหญ่ใฝ่สูงอยากเป็นเจ้าสำนักและได้เคล็ดวิชามีดบินสังหาร จึงสมคบคิดกับหลิวซึ่งก็เป็นมือสังหารลับๆของสำนักมีดบินเช่นกัน ร่วมกันฆ่าหลิวหยุนเฟย(เป็นหนอนบ่อนไส้นี่เอง)

3.หลิวหยุนเฟย จริงๆเป็นคนจิตใจคับแคบเช่นกัน การกระทำของสำนักที่บอกว่าทำเพื่อล้มล้างราชสำนักที่ชั่วช้าเป็นการกระทำบังหน้า จริงๆแล้วเขามักใหญ่ใฝ่สูงและอยากขึ้นมาเป็นใหญ่ในยุทธภพ เสี่ยวเม่ยเองจริงๆก็แล้วเป็นลูกสาวของหลิวหยุนเฟย(ข้อนี้ต่างจากในหนัง เพราะในหนังนั้นเสี่ยวเม่ยมาเฉลย เอาตอนจบว่าเธอเป็นเพียงสมาชิกพรรคคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนลูกสาวเจ้าสำนักตัวจริงไม่รู้เพลงยุทธ์เลย) ในอดีตเคยตาบอด และได้รักษาตาหายแล้วแต่หลิวหยุนเฟยเองก็ปกปิดไม่บอกใคร เพราะความไม่ไว้วางใจใครเลย(เกรงว่ามีหนอนบ่อนไส้) แม้กระทั่งตั่วเจ้ซึ่งเป็นคนรักลับๆก็ตาม ที่เลวไปกว่านี้ก็คือ เมื่อทราบว่าหลิวหลงรักเสี่ยวเม่ย ก็ใช้ให้เสี่ยวเม่ยซึ่งเป็นลูกสาวตนเองไปปรนเปรอบำเรอหลิวให้ตายใจ (โดยที่มองว่าหลิวเป็นเพียง มีดสังหารเล่มหนึ่งของตนเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ หนังก็ไม่ได้มีการพูดถึง)

4.หลิวเริ่มโกรธที่หลิวหยุนเฟยไม่สนับสนุนให้ความรักของตนสมหวัง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าหลิวรักเสี่ยวเม่ยมากจริงๆ ตั่วเจ้เอง มองข้อนี้ออกจึงใช้เป็นโอกาสสมคบคิดกับหลิวสังหารหลิวหยุนเฟย แล้วตั้งตัวเป็นเจ้าสำนักคนใหม่ โดยสัญญาว่าหากตนได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก จะช่วยให้หลิวได้สมหวังในรัก

5.ตอนจบเรื่องนี้ ต่างกับในหนังพอสมควรครับ หลิวไม่ตาย คนที่ตายมีเพียงเสี่ยวเม่ย และจินที่ตายตามกันไปท่ามกลางหิมะ ไม่มีการปามีดบินออกไปอย่างในหนังนะ (เศร้ามากครับ)

..........ขอแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากผมเพิ่งมาทราบทีหลัง ว่านิยายเรื่องนี้ แต่งขึ้นภายหลังจากที่หนังได้สร้างออกมาแล้ว เรื่องราวการกระทำต่างๆของตัวละคร จึงแตกต่างจากในหนังพอสมควร และเกิดมาจาการตีความส่วนตัวของผู้เขียนคือ หลี่เฝิงเองครับ ต้องขอขอบคุณทุกความเห็นที่แสดงเข้ามาทำให้ผมได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆครับ...........

อาวุธสำคัญในเรื่องนี้ก็คือมีดบินครับ หลายคนอยากได้เคล็ดวิชากันมาก ทว่าในท้ายที่สุดแล้วเคล็ดวิชาที่แท้จริง หาใช่มีดบินสังหารไม่ เพราะความรักที่บ้าคลั่งต่างหากล่ะที่ทำให้คนเรากลายเป็นไม่ใช่คน ทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทำกัน (ข้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะในนิยาย เคล็ดวิชาจริงๆ คือการใช้คนเปรียบดังมีดดาบ ของหลิวหยุนเฟย ดังที่กล่าวว่า

"ตัวมันมิใช่คน มีดในมือก็มิใช่มีด มิน่าเล่ามันอาศัยเพลงมีดดาบ ก่อตั้งสำนักมีดบินอันยิ่งใหญ่ มันยุยงให้ทุกผู้คนฆ่าฟันกันเอง ใช้อารมณ์ความรู้สึก ความต้องการและจุดอ่อนของผู้คนให้เป็นประโยชน์ โดยที่มันมิต้องลงมือด้วยตนเอง มันถึงกับใช้มีดบินดักนกแกล้มสุรากลางพื้นหิมะ ทั้งนี้เพราะมันทราบว่าหากจะฆ่าคนมิต้องใช้มีดดาบ นี่จึงเป็นเคล็ดลับในชีวิตมัน" )


สุดท้ายผมขอจบด้วยบทเพลงซึ่งเสี่ยวเม่ยได้ขับกล่อมไว้ในหนังอย่างไพเราะ แสดงให้เห็นฤทธานุภาพของความรัก อย่างน่ากลัวดังนี้ครับ
" ถิ่นเหนือมีนงราม
งามเลิศล้ำหาใดปาน
ยิ้มเดียวล่มนคเรศ
แย้มยิ้มซ้ำล่มเขตแคว้น
แม้นล่มนรเรศล่มเขตแคว้น
ยากพานพบยุพเรศ....”
(ประพันธ์โดย หลี่เอี้ยนเหนียน สมัยราชวงศ์ฮั่น)

หากเขียนแล้วอ่านงงๆ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ คาดว่าคราวนี้คงไม่ถูกด่าว่ากลวงอีก ยินดีรับคำติชมนะครับ(อย่าติ แรงไปแล้วกัน ผมจะหมดกำลังใจเอา อิอิ) ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2548
22 comments
Last Update : 16 พฤษภาคม 2548 13:15:38 น.
Counter : 13837 Pageviews.

 

ไม่ได้ดูหนังแต่อ่านจากหนังสือ
อ่านจบแล้วอึ้งกลัวที่จะรัก ไม่มีรักก็ไม่มีทุกข์
แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่ารัก ก็คือใจคน ยากนักจะหยั่งลึก
เข้ามาอ่านแต่ไม่ทราบข้อแตกต่างของหนังสือกับหนัง เห็นคุณเล่าแต่เรื่องจากหนังสือไม่เห็นเล่าถึงจากทางภาพยนตร์บ้าง
ไม่งง แต่ไม่ได้ point ตามที่ตั้งไว้(link ตามมาจาก pantip)

 

โดย: ผู้แซ่ฝู่ IP: 210.213.42.131 13 พฤษภาคม 2548 12:24:34 น.  

 

ไม่ได้อ่านหนังสือ ไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรดี
แต่สำหรับหนังแล้ว ชอบความเห็นคุณ grappa มากครับ

>> บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่ดี จะชอบก็ไม่เต็มปาก จะไม่ชอบก็ไม่เชิง

หลังๆ รู้สึกว่าจางอี้โหมว เป็นหลวงประดิษฐ์
ไปหน่อย (นรา เป็นคนคิดคำนี้ ) แกประดิษฐ์ซ้า

ดู Hero นั่นปะไร โดยส่วนตัวชอบเฮียจางสมัยเป็นผู้กำกับหนุ่มกบฎเลือดร้อน หนึ่งในผู้กำกับรุ่น 5

ชอบที่แกทำหนังวิพากษ์สังคมจีนสมัยใหม่อย่าง Keep Cool มากว่า เด๋วนี้ดูแก Propaganda ให้รัฐบาลจีนยังไงไม่รู้

ถูกใจคอมเมนต์นี้จริงๆ

ป.ล. เช็คตัวสะกดด้วยนะ
- เป้น
- สำนักพิมพื

 

โดย: it ซียู IP: 202.44.7.68 13 พฤษภาคม 2548 12:40:29 น.  

 

เดี๋ยวจะรีบแก้ไขตามคำแนะนำครับ

เรื่องที่ผมไม่ได้เล่าในหนังเพราะคิดว่า เพื่อนๆในห้องเฉลิมไทยส่วนใหญ่คงเคยดูหนังกันมาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านหนังสือน่ะ แต่เดี่ยวจะปรับปรุงใหม่ให้ละกันครับ(ที่ไม่อยากเล่าถึงหนังมากเพราะลืมๆไปเยอะด้วยครับ กลัวโดนด่าว่าข้อมูลมั่วอีกอะจิ)

 

โดย: เลิฟแอดดิค 13 พฤษภาคม 2548 13:10:52 น.  

 

ห่างชั้นครับ...ห่างมากๆๆๆๆๆๆ
ถ้าพูดในแง่ของความเป็นนิยายบู๊เฮี๊ยบ.....
นอกจากหลี่เฝิง จะเอา บทต้นฉบับของจางอี้โหม่ว มาปู้ยี่ปู้ยำ เปลี่ยนประเด็น ของหนังไปหมดแล้ว....
ลีลาความเป็นเรื่องราวที่เล่าผ่านทางตัวอักษร ยังขาดเสน่ห์อย่างมากด้วย....

แต่ถ้าหากมองในแง่ของนักเขียนมือใหม่ และแง่ของนิยายขนาดสั้น นับว่า เป็นเรื่องราวที่สนุกสนานใช้ได้เลยทีเดียว....

ใน hero หลี่เฝิงทำได้ดีกว่าใน HOFD ครับ....
เพราะสามารถใช้กลยุทธการเล่าเรื่องแบบ....สถาณการณ์ต่างกันแต่ชักนำไปสู่เหตุการณ์เดียวกัน....
ซึ่งหลี่เฝิงทำได้อย่างสมบูรณ์ และรายละเอียดความเหลื่อมซ้อนกันของเรื่องราวนับว่าเนียนมากๆ....
ที่สำคัญคือเสน่ห์ของนิยายกำลังภายใน มีอยู่อย่างครบรส....ไม่ว่าจะเป็นอาวุธของเหล่าจอมยุทธ หรือท่าคอมโบที่ใช้ในระหว่างการต่อสู้....

ทว่าใน HOFD นั้น...หลี่เฝิงไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยชอบกลครับ....
ประเด็นลูกเล่นการเล่าเรื่องที่ผ่านจากปากของคนคนหนึ่ง โดยบีบให้ผู้อ่านเป็นบุคคลที่ 4 เฝ้ามองบุคคลที่ 3 (เหลียว)ซึ่งกำลังจับตามองการกระทำของบุคคลที่ 1 และ 2 อยู่ (จินกับเสี่ยวเม่ย) มันสามารถใส่ลูกเล่นและความน่าติดตามได้มากกว่านี้...
แล้วยิ่งมีการใช้ความลับ คำโปปดมดเท็จ และการเสแสร้งหลอกลวงเข้ามาเป็นดีเทลในการเล่าเรื่องเพิ่มขึ้นไปอีก....เรื่องราวโดยรวมควรมีมิติมากกว่านี้...โดยเฉพาะมิติทางด้านอารมณ์และเรื่องราวการต่อสู้ภายในจิตใจของตัวละครทั้ง 3 ตัว...แต่จุดโฟกัสท้งหมด กลับกายเป็นภาพเบลอๆ ไม่สามารถ หาแก่นหลักในการเล่าเรื่องได้ดีเท่าที่ควร....
ยิ่งถ้ามองในเสน่ห์ของความนิยายกำลังภายใน ยิ่งล้มเหลวครับ....
ท่าคอมโบต่างๆ อาวุธของตัวละคร (ไม่นับมีดสั้นนะครับ) ต่างขาดเสน่ห์ ทำให้เรื่องราวโดยรวมไม่ค่อยน่าติดตามเท่าที่ควรครับ....




จากใจจริง

 

โดย: PB เองฮับ IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 13:24:40 น.  

 

คุณ PB เองฮับมีนิยายจีนเรื่องไหนแนะนำมั้ยครับ เอาแบบสั้นๆนะ ผมอ่่านช้า

 

โดย: เลิฟแอดดิค 13 พฤษภาคม 2548 13:37:05 น.  

 

ล่อโกวเล้งเลยครับเพ่....
เรื่องสั้นๆ แต่มันส์ถึงกึ๋นทั้งนั้นครับ....
หรือจะอ่าน hero ก้ได้นะครับ...
เรื่องนี้ หลี่เฝิงก็แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างสุดยอดเช่นเดียวกัน....
ลองไปดูของสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์ ดูนะครับ....
นิยายจีนดีๆ อยู่ในรูปเล่มสวยงามทั้งนั้น....น่าสะสมมากๆ....
มีทั้งยาวทั้งสั้น หลากหลายดีครับ....


จากใจจริง

 

โดย: PB เองฮ่ะ IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 13:57:13 น.  

 

ชอบในป่าไผ่อ่ะ เห้นแล้วคิดถึง ข้าวหลาม ฮิๆ

 

โดย: merf1970 13 พฤษภาคม 2548 14:06:00 น.  

 

โกวเล้ง มีเรื่องสั้นชุด อยู่หลายเรื่อง ถ้าอยากเริ่มอ่านเรื่องสั้นๆลองให้ทางร้านเช่าแนะนำดู

แต่ถ้าเข้าวงการวิทยายุทธแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อ่าน มังกรหยก ฤทธิมีดสั้น และ เดชคัมภีร์เทวดา น่ะครับ
( หนังสือกำลังภายในที่ ดูเล่มใหญ่ๆ ที่จริง ตัวพิมพ์ใหญ่มาก และเว้นบรรรทัดห่าง มากกก เหมือนกันครับ อ่านไม่นานก็จบ

 

โดย: FF>> IP: 202.133.166.111 13 พฤษภาคม 2548 14:34:18 น.  

 

จริงๆผมชอบมังกรหยกกับกระบี่เย้ยฯมากครับ แต่อ่านการ์ตูนเอาน่ะ รวมทั้งดุพวกละครด้วย(แต่ละครเนี่ยไม่ค่อยสนุกเท่าการ์ตูนครับ) โดยเฉพาะที่อ.หลี่จื้อชิงวาดสวยมากครับ สนุกมากด้วย)

 

โดย: เลิฟแอดดิค 13 พฤษภาคม 2548 15:01:58 น.  

 

เคยบ้ามังกรหยกมากกกก... โดยเฉพาะตอนที่ผมเล่นมังกรหยกออนไลน์ด้วยครับ แต่ตอนนี้ยอมแพ้แล้ว มันสูบเวลาผมมากเกินไป

 

โดย: เลิฟแอดดิค 13 พฤษภาคม 2548 15:03:17 น.  

 

เรื่องนี้ไม่น่าจะเรียกนิยายครับ จริง ๆ ต้องเรียกว่าบทขยาย
บทภาพยนตร์มากกว่า คือเป็นการเอาบทหนังมาขยายความ
แล้วปั่นออกมาเป็นนิยาย ความเรียบร้อยในการให้รายละเอียด
บวกกับความงามในแบบฉบับนิยายกำลังภายในจึงน้อย

จริง ๆ หนังเรื่องนี้ถือเป็นจุดด่างพร้อยในบรรดาหนังของ
จางอี้โหมวเลยนะครับ เพราะนอกจากภาพที่สวยงามตาม
ฟอร์มของเค้าอย่างอื่นถือว่าแย่มาก ๆ โดยเฉพาะที่หลวม
อาจจะเพราะเป็นหนังที่จับเอาตัวแสดงมาเขียนเป็นตัวละคร
(ที่คุณสงเกตว่าตัวละครนิยายบุคลิกเหมือนตัวแสดงก็ใช่เลย)
เพราะเป็นการเก็บเกี่ยวความสำเร็จจาก อิงสง ครับ

แล้วจริง ๆ งานของจางอี้โหมวถ้าจะเทียบเค้าจะอยู่ในแนว
Formalist ในช่วงแรกครับ คือใช้ศิลปะแบบหนัง
สร้างงานออกมา แต่พอยุคหลังเค้ากลายเป็นงานลักษณะ
Neo-Raelistic แทน อย่างเรื่อง Not one less
หรือ The Roadhome นี่ใช่เลย

เอาว่าความต่างระหว่างกับ (สิ่งที่คุณคิดว่าเป็น) นิยาย
ที่จริงก็คือการหาจุดขายเพื่อจะได้ขายได้ 2เด้งแค่นั้นเอง

 

โดย: เอกเอง IP: 202.57.143.124 13 พฤษภาคม 2548 16:49:31 น.  

 

เอ๊ะ รู้สึกไปๆมาๆ มีคนไม่ชอบหนังเรื่องนี้กันเยอะจัง ผมแปลกหมู่อยู่คนเดียวรึเปล่าเนี่ย เพราะผมชอบน่ะครับ (ไม่คิดว่าเค้าทำออกมาไม่ดีน่ะ) อาจไม่ได้ชอบมากมาย แต่ก็ชอบอะครับ

(สิ่งที่ผมเข้าใจว่าเป็น) นิยายเนี่ย ตกลงหลี่เฝิงเค้าเขียนขึ้นทีหลังจากหนังสร้างแล้วเหรอครับ ไอ้ผมก็หลงนึกว่าเขียนไว้ก่อนแล้วมามาให้จางอี้โหมวดู แล้วค่อย เขียนเป็นบทภาพยนตร์อีกที (ปล่อยไก่ตัวฬหญ่วิ่งวุ่นไปหมด ตามเก็บไม่ทันเลยครับ)

ยังไงก็ขอขอบคุณความเห็นทุกคนนะครับ ผมได้ความรู้เพิ่มเติมมากจริงๆ ไว้ว่างๆจะไปหานิยายจีนของโกวเล้งมาอ่านบ้าง(เพื่อนผมที่เป็นแฟนนิยายจีน เค้าบอกว่าเค้าชอบโกวเล้งมากกว่ากิมย้งน่ะครับ อิอิ)

 

โดย: เลิฟแอดดิค 13 พฤษภาคม 2548 17:24:29 น.  

 

เมื่อความรักอันตรายยิ่งกว่ามีดดาบ

คำคม มาก ๆ นับถือ ๆ

 

โดย: Bluejade 13 พฤษภาคม 2548 20:42:30 น.  

 

ชอบหนังเรื่องนี้มากๆเลยอ่ะคะ ภาพสวย พระเอกหล่อ นางเอกก็สวย

 

โดย: อพันตรี (อพันตรี ) 13 พฤษภาคม 2548 22:18:49 น.  

 

ผมชอบหนังเรื่อง HOFD มากๆครับ....
แต่ไม่อยากอธิบายยาวๆแล้ว....
เพราะเบือ่ที่จะต่อล้อต่อเถียงกับแฟนคลับหนังอีกเรื่องที่ไม่อยากกล่าวชื่อถึง....
เหอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



จากใจจริง

ปล. ใช่แล้วครับ นิยายที่หลี่เฝิงแต่งนั้นเป็นการแต่งหลังจากบทหนังที่เขาแต่งร่วมกับจางอี้โหม่วอีกที แต่ผมไม่เห็นว่ามันเป็นส่วนขยายของบทภาพยนตร์เลยครับ เพราะนิยายของหลี่เฝิงนั้น เบี่ยงเบนประเด็นของหนังที่จางอี้โหม่วทำไว้เสียดิบดีแต่แรกอย่างไม่เหลือชิ้นดี.....ดั้งนั้นจะถือว่าเป็นส่วนขยายไม่ได้ครับ !!!

 

โดย: pb IP: 203.151.140.111 13 พฤษภาคม 2548 22:49:03 น.  

 

..

แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมให้ B นะครับ

เนื้อเรื่องบางส่วน ไม่มีเหตุผลเท่าไหร่ - - แต่คำพูดในหนัง - การถ่ายภาพ - องค์ประกอบศิลป์ งดงามมาก

..

 

โดย: POGGHI 17 พฤษภาคม 2548 15:16:30 น.  

 

ใครมีเพลงประกอบละคร ส่งด่วนด้วยน้า
ozone_LP@hotmail.com

 

โดย: ... IP: 203.188.23.183 17 พฤศจิกายน 2549 18:07:51 น.  

 

หนังเรื่องนี้เพิ่งได้ดูเมื่อวานเอง ดูแล้วหลงเลย นางเอกก็สวยมากๆ( จางซื่อยี่) พระเอกก็หล่อ (ทาเคชิ) เป็นหนังดี ให้แง่คิด ภาพ ฉาก สวยมาก

 

โดย: เพียงตะวัน IP: 203.172.51.70 20 มกราคม 2550 21:40:56 น.  

 

 

โดย: อรอุมา IP: 125.24.167.228 29 มกราคม 2550 19:11:13 น.  

 

ไม่เวิร์ค

 

โดย: ประมุขพรรคดอกไม้แดง IP: 125.26.116.153 9 กันยายน 2551 16:53:42 น.  

 

อยากดูอยู่นราธิวาสไม่รู้ใครมีแผ่นส่งให้หน่อยครับ
เพราะชอบมานานแล้ว

 

โดย: ฐรณิศร์ IP: 118.173.204.144 4 กุมภาพันธ์ 2552 15:58:56 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะที่เล่าให้ฟัง ยังไม่ดูเลย วันนี้ว่างๆหาเพลงฟังมาสะดุดเพลงประกอบละครและนางรำสวยๆเลยค้นข้อมูลค่ะ อ้อ! แล้ว หนังเรื่อง Hero. ก็ดูตั้งสามทีแนะกว่าจะเข้าใจ ถือว่ามีแต่คนเก่งๆๆผลิตผลงานมาให้เราดูเป็นบุญจริงจริ๊ง!!

ส่วนในมุมมองของหนังสือและหนังที่ทำออกมาเบี่ยงประเด็นที่แตกต่างกัน ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกค่ะ คิดเสียว่า"มันคือความงามทางวรรณกรรม"ก็เท่านั้น ดูไปดูมาก็เพลินไปเองละอย่าไปคิดมาก

 

โดย: แวะมา IP: 27.55.171.77 1 มีนาคม 2556 23:34:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เลิฟแอดดิค
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เลิฟแอดดิค's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.