เช้าวันใหม่เราเดินทางออกจากที่พักมุ่งหน้าสู่ หาดกะตะ กะรน และไปสิ้นสุดที่แหลมพรหมเทพ ก่อนกลับแวะมาเล่นน้ำทะเลกันที่หาดในหาน เราใช้เวลาในการเดินทางเพื่อไปชมแหลมพรหมเทพด้วยรถมอเตอร์ไซด์ประมาณ 20 นาที โดยระหว่างทางเราแวะที่จุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้แบบครอบคลุม อันได้แก่ หาดกะตะน้อย หาดกะตะและหาดกะรน เป็นจุดที่ทำให้เรามองเห็นหาดที่มีลักษณะคล้ายเวิ้งจำนวนสามเวิ้งด้วยกัน แสงแดดที่สาดส่องกระทบกับน้ำทะเลสีฟ้าครามบวกกับต้นไม้เขียวขจีริมชายหาดก็ทำให้เราผ่อนคลายไปได้อีกแบบหนึ่ง จากนั้นเรามุ่งหน้าไปสู่จุดชมวิวซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของจังหวัดภูเก็ตเลยก็ว่าได้ นั่นคือแหลมพรหมเทพซึ่งเป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่า”แหลมเจ้า” จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเองก็ไม่พลาดที่จะมาเที่ยวชมจุดๆ นี้ จากนั้นเราก็แวะไปเล่นน้ำทะเลกันก่อนที่จะกลับสู่ตัวเมืองกันที่หาดในหาน ซึ่งค่อนข้างเงียบและหาดทรายขาวสะอาด ด้านหลังของชายหาดเป็นบึง ชาวบ้านเรียกว่า”หนองหาน” ระหว่างทะเลและบึงมีเพียงหาดทรายของหาดในหานกั้นอยู่เท่านั้น เราเช่าเปลนอนและเล่นน้ำกันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง วันที่เราเล่นน้ำกันนั้นคลื่นสูงมากพอตัวเลยครับ เกือบประมาณหนึ่งเมตรได้ เหมาะแก่การเล่นโต้คลื่นและผู้ที่ชอบความท้าทาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมเรื่องของความปลอดภัยกันด้วยนะครับ
สี่โมงเย็นเราเดินทางกลับมาถึงที่พัก เพื่ออาบน้ำและเตรียมตัวไปย่ำราตรีกันครับ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี ก็คงหนีไม่พ้นผับและบาร์ทั่วไป อีกทั้งมีโชว์แปลกๆ ที่เอาไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติอย่างพวกเราก็ขอบายครับ นอกจากนี้ยังมีร้านให้เลือกหลากหลายที่ย่านถนนบางลา ยาวประมาณกิโลกว่าได้ สุดถนนจะเป็นชายหาด โดยบริเวณชายหาดมีร้านอาหารทะเลให้เลือกรับประทานกันอย่างจุใจ
เช้าวันต่อมาก่อนเตรียมตัวกลับกรุงเทพในช่วงเย็น เรายังมีเวลาไปเดินชมบรรยากาศยามเช้าที่บริเวณหาดป่าตองและร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึก แถมปิดท้ายด้วยห้างดังย่านป่าตอง นั่นคือ จังซีลอน ศูนย์รวมสินค้ามากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างจุใจ ทั้งอาหารพื้นเมือง ของที่ระลึกทำมือ ไม้แกะสลัก หรือแม้แต่สินค้าแบรนด์ก็มีให้เลือกครับ ส่วนตอนบ่ายเราแวะซื้อของฝากขึ้นชื่อเมืองภูเก็ตนั่นคือ น้ำพริกกุ้งเสียบและเต้าซ้อหรือขนมเปี๊ยะภูเก็ตที่เราคุ้นเคยซึ่งเค้าออกแบบกล่องขนมให้เป็นลวดลายสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในภูเก็ต นับว่าเป็นไอเดียสร้างสรรค์ที่ดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว
การเดินทางท่องเที่ยวภูเก็ตในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเพื่อนร่วมเดินทาง ผู้คนที่ได้พบเห็น สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และความประทับใจหลายๆ อย่างที่บรรยายไม่หมด เมืองไทยของเรายังมีอะไรดีๆ อีกเยอะที่รอให้เราไปเยี่ยมชมและดื่มด่ำกับมันอย่างเต็มที่ โดยที่เราต้องถือคติเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีและอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวที่เราไปด้วย เพื่อให้สถานที่นั้นๆ อยู่คู่กับเมืองไทยไปอีกยาวนาน.
By Paii
ติดตามที่เที่ยวอื่นๆ ได้ที่เรื่อง:>>เรื่องเล่าเมาท์จากไทย