ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
จันทน์กะพ้อ บทที่ ๑๗

จันทน์กะพ้อ บทที่ ๑๗

จันทน์กะพ้อระบายลมหายใจช้าๆ ก่อนจะแย้มริมฝีปากน้อยๆ นัยน์ตาคมกริบที่สบตาเธออยู่นั้นเดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็ไม่คิดจะเดาอยู่แล้ว ไม่รู้ก็ไม่มีปัญหาอะไร จันทน์กะพ้อเกือบเผลอยักไหล่

สายตาเลื่อนไปยังร่างบางที่ลงจากอีกด้านของรถและมายืนคู่กับร่างสูงใหญ่

ปู่กับน้องสาวของปู่

“คุณพ่อคุณอา...หลานอ้ายมาถึงแล้วครับ” คุณเกริกเกียรติเอ่ยขึ้นแทรกความเงียบที่เกิดขึ้น เขาหันไปทางหลานสาวแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ

จันทน์กะพ้อพนมมือไหว้ผู้เป็นปู่และย่า ริมฝีปากยังคงแย้ม มองตอบดวงตาทั้งสองคู่อย่างไม่กริ่งเกรง หากก็ไม่ได้เอ่ยอะไร

น่าจะอายุไล่เลี่ยกับตาเมฆของเธอ รูปร่างสูงใหญ่นั้นยังคงผึ่งผายไม่ทรุดโทรม ดูดีกว่าคนวัยเดียวกันมาก ก็คล้ายตาเมฆนั่นแหละ ไม่ใช่หน้าตาคล้าย เป็นบรรยากาศที่คล้ายกัน แต่เป็นตาเมฆในเวอร์ชั่นที่ดูหยิ่งทระนง...

“แล้วก็เพื่อนของอ้าย...เขตกับขันค่ะ” คุณศศิภาแนะนำสองหนุ่มที่ผู้เป็นบิดาสามีปรายตามา เธอยิ้มกว้างเผื่อว่าบรรยากาศอึมครึมจะดีขึ้นบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล เพราะสีหน้าบิดาสามียังราบเรียบ ไม่บ่งบอกว่าดีใจหรือโกรธกันแน่ ส่วนอีกท่านคือ คุณอาน้ำทิพย์...น้องสาวคนเดียวของประมุขบ้านอักขรลักษณา

คุณอาน้ำทิพย์ได้สมรสกับหม่อมเจ้าชายวิษณุรังสรรค์ พ่อม่ายลูกติดหนุ่มเนื้อหอมในสมัยนั้น ซึ่งท่านถึงชีพิตักษัยไปแล้วหลายปี หม่อมน้ำทิพย์จึงครองตัวอยู่คนเดียวที่วังใหญ่เนื่องจากท่านไม่มีลูก...ความจริงท่านก็เคยมีธิดา หากคุณหญิงตัวน้อยก็เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนคุณชายของหม่อมคนก่อนก็แต่งงานกับหญิงสาวชาวฝรั่งเศสและอยู่ต่างประเทศโดยตลอด

ตอนนี้หม่อมน้ำทิพย์ย้ายมาอยู่ที่บ้านอักขรลักษณาชั่วคราว เพราะปิดวังซ่อมแซมครั้งใหญ่

หากเธอคิดว่า...หม่อมน้ำทิพย์ย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้เพราะจันทน์กะพ้อมากกว่า

สองหนุ่มเองก็พนมไหว้ ก่อนจะเหลือบไปทางเพื่อนสาว เห็นรอยยิ้มของจันทน์กะพ้อแล้วรู้สึกอยากจะถอนหายใจแรงๆ เพื่อนสาวเตรียมตัวจะป่วนรวนแหลก

“ขนอะไรกันมาเยอะแยะ” น้ำเสียงเรื่อยๆ หากดวงตาเรียวยาวที่ปรายไปยังกระบะท้ายทำให้จันทน์กะพ้อยิ้มมากขึ้น เธอสบตากับ ‘คุณย่า’

“ตามธรรมเนียมก็ต้องมีของฝากญาติพี่น้องสิคะ มามือเปล่าเดี๋ยว...ชาวบ้านเขาจะนินทาเอา” จันทน์กะพ้อยิ้มหวาน ดวงตาใสนั้นเป็นประกายระยิบระยับ “พอดีบ้านเราทำนาทำสวน ก็เลยมีแต่ของจากนาจากสวน มีทั้งข้าวเหนียวข้าวเจ้า สีมาให้พร้อมแล้วก็มีทั้งข้าวขาวแล้วก็ข้าวกล้องด้วย โอ๊ะ...บ้านเราปลูกข้าวอินทรีย์ เป็นของโอท็อบเชียวนะคะ นอกจากนั้นมีกล้วย ขนุน มะพร้าว แหม...ไม่ใช่หน้ามะม่วง อ้อ...ปลาร้าอีกไห แต่อันนี้ไม่ได้ฝากใคร...กลัวอยู่กรุงเทพฯ แล้วปลาร้าในเส้นเลือดจะต่ำลงเลยเอามาด้วย”

“ยายอ้าย...” คุณศศิภาทั้งขำทั้งอ่อนใจ จันทน์กะพ้อเปิดฉากรวนชัดเจน คุณอาของสามีหน้าตึงไปนิดหน่อย ส่วนคุณพ่อนั้นยังคงสีหน้าเรียบเฉย แต่สามีเธอนั่นแทบกลั้นขำไม่อยู่ จนเธอต้องแอบหยิบแขนไว้

“คนบ้านนอกก็มีได้แค่นี้แหละค่ะ ไม่มีของดีๆ แพงๆ หรอกค่ะ เอ๊ะ...แต่จริงๆ ข้าวอินทรีย์ก็ดีแล้วก็แพงด้วยนะคะป้าภา เห็นว่าคนกรุงเทพฯ เขาชอบกัน อ้อ...ไม่สิๆ ต้องเรียกว่าข้าวออร์แกนิกมันถึงหรูหน่อย” จันทน์กะพ้อหันมายิ้มหวานกับผู้เป็นป้า  

คุณศศิภาอยากจะหยิกหลานสาวนักเชียว

“เอาเถอะ...เข้าไปคุยกันในบ้าน” คุณไกรฤกษ์เอ่ยเป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงปกติ ก่อนจะก้าวเข้าไปในตัวตึก โดยมีหม่อมน้ำทิพย์เดินตาม หากปรายตามองหลานสาวอีกครั้ง จันทน์กะพ้อฉีกยิ้มกว้างตอบ

“นั่นสิ...พวกเราเข้าบ้านกัน เดี๋ยวป้าให้คนมาขนของ” คุณศศิภามองหาสาวใช้ที่อยู่ไม่ไกล วันนี้ใครๆ ก็ตื่นเต้นกันทั้งบ้านที่จะได้เจอจันทน์กะพ้อ คนบ้านนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนเก่าแก่อยู่กันมานาน

“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ” เขตชลเอ่ยขึ้นเมื่อจันทน์กะพ้อปรายตามา

ก็...เป็นเรื่องที่จันทน์กะพ้ออยากเผชิญด้วยตัวเอง

“จ้ะ...งั้นป้าให้คนไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรครับ พวกเราไปแท็กซี่สะดวกกว่า”

“งั้นไปส่งที่ถนนใหญ่ก็ได้ หน้าบ้านไม่ค่อยมีรถผ่านมาหรอกจ้ะ”

“เอาแบบป้าภาว่านั่นแหละ...ขอบใจทั้งสองคนนะ เดี๋ยวค่อยเจอกัน” จันทน์กะพ้อสรุป สองหนุ่มจึงพยักหน้า ไหว้ลาลุงกับป้าของเพื่อนสาว แล้วกลับไปหยิบกระเป๋าเป้ในรถ ก่อนจะขึ้นรถที่เพิ่งมาส่งประมุขทั้งสองของบ้านออกไป

“เข้าบ้านกัน...” คุณศศิภาโอบหลานสาว เดินเข้าตัวตึกด้วยกัน




“เป็นห่วงคุณนายใหญ่ล่ะสิ”

เขตชลเหลือบไปมองเพื่อนสนิท ก่อนจะเบนสายตากลับมายังด้านหน้าเช่นเดิม พวกเขาอยู่ในรถแท็กซี่มาได้สักครู่แล้ว หลังจากที่ลงจากรถของบ้านอักขรลักษณาที่ออกมาส่ง

“ก็...นะ” เขารู้ว่าขันติเองก็เป็นห่วงจันทน์กะพ้อเช่นกัน

“นั่นสินะ...เวลาอยากจะทำตัวร้ายๆ คุณนายใหญ่เขาก็ทำได้ดีมากซะด้วย” ขันติเอ่ยมากึ่งขำกึ่งอ่อนใจ หากก็เป็นห่วงอย่างที่เขตชลรู้สึกนั่นแหละ

ดูก็รู้ว่าจันทน์กะพ้อพร้อมที่จะป่วน...ถึงได้รีบไล่พวกเขากลับกันก่อน

“ฮือ...” เขตชลพยักหน้า

รอยยิ้มหวานระยับของจันทน์กะพ้อไม่ได้ทำให้พวกเขาวางใจหรอก จันทน์กะพ้อไม่ใช่คนที่พวกเขาจะต้องกังวลเรื่องที่จะถูกรังแก เกรงแต่เจ้าตัวจะทำอะไรที่อาจจะนึกย้อนให้เสียใจทีหลัง

ยังไงก็เป็นสายเลือดเดียวกัน...แถมคนนั้นยังเป็นปู่กับย่า




จันทน์กะพ้อมองห้องโถงกว้างเมื่อเธอก้าวผ่านประตูใหญ่เข้ามาในตัวบ้าน ห้องโถงใหญ่กรุหินอ่อนทั้งพื้นและผนังเปิดโล่งสองชั้น มีแชนเดอร์เลียร์ขนาดใหญ่ห้อยจากเพดานชั้นสอง ตรงกลางคือบันไดกว้างทอดขึ้นมีชายพักก่อนจะแยกออกไปสองฝั่งปีกซ้ายขวาของตัวตึก

เหมือนกำลังอยู่ในฉากละครย้อนยุค

“เชิญคุณๆ ที่ห้องสีทองค่ะ”

คุณเกริกเกียรติสบตาภรรยา คุณพ่อคิดอะไรถึงใช้ห้องรับแขกใหญ่ ทั้งๆ ที่มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น

เขามองหลานสาว

รอยยิ้มบนริมฝีปากบางกับดวงตาเป็นประกายสุกใส

เฮ้อ...เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะลบเลือนอดีต

จันทน์กะพ้อเหลือบมองผู้เป็นลุงและป้า ดูเหมือนทั้งสองจะสะดุดไปกับ ‘ห้องสีทอง’ หมายความว่าต้องเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาสินะ




ห้องสีทอง...สีทองสมชื่อ

จันทน์กะพ้อกวาดตาเร็วๆ ในห้องที่เธอก้าวเข้าไป ห้องโออ่า เครื่องเรือนแบบยุโรปสีทอง ผ้าม่าน พรม ของตกแต่งล้วนแต่มีสีทองเป็นองค์ประกอบหลัก ทุกชิ้นให้ความรู้สึกหรูหรา...แล้วก็มากไป

บนโซฟาใหญ่กลางห้องคือประมุขของบ้านอักขรลักษณาและหม่อมน้ำทิพย์

“นั่งลงสิ...” หม่อมน้ำทิพย์เอ่ยเมื่อเห็นว่า ‘หลานสาว’ ยังคงยืนนิ่ง เมื่อหลานชายและหลานสะใภ้นั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างกาย

จันทน์กะพ้อแย้มริมฝีปากเพิ่มขึ้น เพราะสายตาที่ต่อจากคำพูดของผู้เป็นย่าก็คือ ...หรือจะยืนค้ำหัวผู้หลักผู้ใหญ่

ร่างโปร่งค่อยๆ ทรุดตัวลง...แล้วนั่งพับเพียบกับพื้น

“ยายอ้าย...ทำไมนั่งกับพื้นล่ะ” คุณศศิภาท้วง

“ก็...ปกติอยู่ที่บ้านนั่งกับพื้นนี่คะ อย่างดีก็มีเสื่อปู ลืมไปว่าคนกรุงเทพฯ เขานั่งเก้าอี้กัน” จันทน์กะพ้อยังคงตอบด้วยรอยยิ้มฉาบน้ำตาล “แต่จริงๆ นั่งขัดสมาธิมากกว่าพับเพียบนะคะ”

คุณศศิภาค้อนน้อยๆ ให้หลานสาว รู้ล่ะว่าเจ้าตัวตั้งใจรวนเต็มที่ หากที่จันทน์กะพ้อพูดก็ไม่ผิดหรอกเพราะเวลาไปที่บ้านทางโน้น ก็เห็นจันทน์กะพ้อกับน้องสาวนั่งกับพื้นข้างๆ ตั่งที่ตาเมฆนั่งเป็นประจำ หากไม่ใช่ด้วยความรู้สึกแบบตอนนี้เป็นแน่

เจ้าตัวร้ายเอ๊ย...

จะว่าอย่างไรดีล่ะ...เธอและสามีก็รู้อยู่ว่าจันทน์กะพ้อรู้สึกอย่างไร การจะให้จันทน์กะพ้อมาแสดงอาการดีอกดีใจซาบซึ้งที่ได้พบกับคุณปู่นั้น...ไม่มีทางเป็นไปได้

“แสดงว่ารู้สึกว่าที่นี่เหมือนบ้านแล้วล่ะสิ” คุณเกริกเกียรติยิ้มน้อยๆ มองหลานสาวที่ตอนนี้ตาโตขึ้นมาทันที เจ้าตัวคงไม่คิดว่าที่นี่จะเป็นบ้านหรอก แต่เผลอพูดไปเพราะต้องการจะป่วนคุณพ่อกับคุณอา

จันทน์กะพ้ออยากจะร้องโอ๊ยขึ้นมาดังๆ นี่เธอเผลอให้ลุงเกริกย้อนกลับเสียแล้ว

ลุงเกริกนี่จริงๆ เลย ทำให้เธอเกือบเสียกระบวนทีเดียว

“คงไม่กล้าคิดอย่างนั้นหรอกค่ะ” จันทน์กะพ้อหันไปยังผู้ที่นั่งเงียบอยู่ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้อง น้ำเสียงยังคงรื่นเริงอยู่เช่นเดิม “แค่ได้มาอาศัยชั่วคราวก็ดีใจจะแย่”

คุณไกรฤกษ์สบตาวาววับที่มองตอบอย่างไม่พรั่นพรึง ไม่เกรงกลัว อย่างเช่นเด็กวัยเดียวกันที่ถูกเขามอง ใบหน้านวลนั้นมีรอยยิ้มบนริมฝีปากหากดวงตากลับไร้รอยยิ้ม

ดีใจจะแย่...แปลได้ว่าไม่ดีใจเลยสินะ

“จะเรียนต่อใช่ไหม”

จันทน์กะพ้อกะพริบตา ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าคำแรกที่พูดคุยกับ ‘ปู่คนนั้น’ จะเป็นแบบไหน นัยน์ตาคมกล้าที่มองเธอก็ยังเป็นแววตาที่อ่านไม่ออกอยู่เช่นเดิม

“ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้ตั้งใจก็แล้วกัน”

“ค่ะ” จันทน์กะพ้อตอบเพียงเท่านั้น ทำให้ห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ

“จริงสิ...แล้วเรื่องสอบเป็นยังบ้าง จะสอบเมื่อไรจ๊ะ” คุณศศิภาเอ่ยตัดความเงียบ เธอเองก็ยุ่งๆ ที่เพิ่งกลับมาไทย แล้วจันทน์กะพ้อก็ไม่ได้บอกอะไร

“เดือนหน้าค่ะ หวังว่าจะผ่าน” จันทน์กะพ้อเอ่ยตามความรู้สึกจริงๆ คงเพราะห่างเหินห้องสอบไปนาน เลยอดตื่นเต้นไม่ได้

“อะไรกัน...นึกว่าจะเริ่มเรียนแล้ว” หม่อมน้ำทิพย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แล้วนี่ถ้าสอบไม่ผ่าน...”

“ก็กลับบ้านนอกสิคะ” จันทน์กะพ้อเอ่ยทันที เธอมองไปยัง ‘คุณย่า’ ว่ากันตามจริงแล้วสมัยสาวๆ คงจะเป็นคนที่สวยมาก แม้ตอนนี้จะอายุมากแล้วก็ยังเห็นเค้าความงามตามธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านมีดหมอกระชากวัย

“แปลว่าเธอคิดว่าตัวเองจะสอบไม่ผ่าน”

“ใครจะคิดว่าตัวเองสอบตกตั้งแต่แรกล่ะคะ” จันทน์กะพ้อยิ้มระรื่น “แต่ถ้ามันจะตกก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเก็บของกลับบ้าน”

“นี่เธอ...”

“แหม...แต่กว่าจะสอบก็มีเวลาอยู่กรุงเทพฯ อีกตั้งเดือนนะคะ น่าจะสนุกแย่”

หม่อมน้ำทิพย์เม้มริมฝีปากนิดๆ เหลือบตามองผู้เป็นพี่ชาย สายตาของพี่ชายจับอยู่ที่ใบหน้านวลของ ‘หลานสาว’ตั้งแต่เห็นแวบแรกก็นิ่งไป

ก็ไม่ถึงกับเหมือน...แต่ก็มีบางส่วนคล้ายคลึง

ใบหน้านี้คงทำให้นึกถึงคุณพี่เรือนแก้ว...ภรรยาของคุณพี่

แต่นอกจากใบหน้าแล้วก็คงไม่มีอะไรคล้ายคลึงกับคุณพี่เรือนแก้ว

คุณพี่เรือนแก้วเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน กิริยามารยาทนุ่มนวล...เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน

แต่เด็กคนนี้...

“ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามธรรม เขาเก่ง แล้วก็เรียนจบมาจากที่เดียวกับที่เธอจะสอบ” คุณไกรฤกษ์เอ่ย ทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว ประหลาดใจท่วมท้น

คุณศศิภาแทบอยากเขย่าแขนสามี คุณเกริกเกียรติพยักหน้านิดๆ

บางที...สิ่งที่พวกเขาหวังอาจจะใกล้เข้ามาแล้ว

“ธรรม...” จันทน์กะพ้อเอยทวน หรือว่าจะเป็น...เธอคิดถึงวันที่ไปห้างลักษณากับจันทน์กะพ้อแล้วก็ได้เจอกับผู้จัดการของห้างที่ชื่อ...ธรรม

“ธรรมเป็นหลานชายทางคุณย่าเรือนแก้วจ้ะ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ห้างลักษณา วันนี้ออกไปตั้งแต่เช้า แต่เดี๋ยวเย็นๆ ก็คงกลับ อ้ายก็คงจะได้เจอกัน” คุณศศิภาเป็นคนอธิบาย เมื่อเช้าธรรมบอกว่าต้องไปดูอีเวนต์ที่จัดขึ้นที่ห้าง ตอนเย็นจะกลับมา เพราะเธอบอกว่าอยากจะให้โต๊ะอาหารเย็นอยู่พร้อมหน้ากันสักวัน

เป็นคนที่เธอเคยเจอจริงๆ ด้วย ผู้ชายคนนั้นก็ดูเหมือนจะสำรวจเธอด้วยดวงตาคมกริบ เป็นคนที่ดูเฉลียวฉลาด...ก็คงจะเก่งล่ะนะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้กินตำแหน่งสูงขนาดนั้นในอายุไม่มากเท่าไร เพราะคนอย่าง ‘คุณปู่’ คงไม่มอบตำแหน่งให้เพราะเป็นหลาน...แต่ก็ไม่แน่ เธอก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับบ้านนี้เสียด้วยสิ

หลานทางคุณย่าเรือนแก้ว

ถ้าไม่มีเธอก็คงจะเป็นหลานคนเดียวของบ้านอักขรลักษณา...รึเปล่านะ

“ค่ะ...ดีจริงๆ นะคะ จะได้มีที่ปรึกษาเก่งๆ”

หม่อมน้ำทิพย์มองยิ้มระรื่นหน้าเป็นอย่างไม่ชอบใจนัก

“แต่เธอน่าจะไปเรียนกับยายหญิงมากกว่านะ”

จันทน์กะพ้อเลิกคิ้ว...มีชื่อตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้ว

“หญิงเป็นหลานที่ฉันเลี้ยงมา เขาเก่งงานบ้านงานเรือน งานฝีมือสำหรับผู้หญิง แล้วก็มารยาทดี”

“ว้าว...เป็นกุลสตรีสมบูรณ์แบบเลยใช่ไหมคะ อยากเจอจังเลย” จันทน์กะพ้อกลั้นหัวเราะ “อยู่ที่บ้านนี้ด้วยหรือเปล่าคะ”

“จ้ะ...หญิงตามมาดูแลคุณย่าที่บ้านนี้ เดี๋ยวก็คงได้เจอกัน” คุณศศิภาเป็นคนตอบ ก่อนจะร้องเบาๆ เมื่อเห็นว่าคนที่ถูกพูดถึงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู “มาพอดีเลย...เข้ามาสิจ๊ะหญิง”

จันทน์กะพ้อมองไปยังประตูห้องรับแขก มีหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนและกระโปรงยาวดูเรียบร้อยแต่ก็ไม่ได้เชยเสียทีเดียว ที่สำคัญ...เป็นคนสวยมาก

ดวงหน้าหวานละมุนแบบฉบับสาวหวาน...หากดวงตารียาวมองมาที่เธอด้วยแววตานิ่งเฉย

จันทน์กะพ้อขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อพิศใบหน้าสวยนั้นอีกครั้ง

เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




Create Date : 30 มิถุนายน 2558
Last Update : 30 มิถุนายน 2558 11:50:12 น. 14 comments
Counter : 13251 Pageviews.

 
มาแว้ววววววว ขอบคุณค่ะ


โดย: wow IP: 110.77.235.240 วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:14:34:36 น.  

 
คุณฬีฬาคะ จันทน์กะพ้อ พูดข้อความนี้"“ธรรม...” จันทน์กะพ้อเอยทวน หรือว่าจะเป็น...เธอคิดถึงวันที่ไปห้างลักษณากับจันทน์กะพ้อแล้วก็ได้เจอกับผู้จัดการของห้างที่ชื่อ...ธรรม" น่าจะเป็นพะนอขวัญมากกว่านะคะ เนื่องจากจันทร์กะพ้อเป็นคนพูดข้อความนี้ คะ


โดย: snitch IP: 210.1.55.222 วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:15:52:17 น.  

 
คุณนายใหญ่ไม่น่าจะเปิดฉากป่วนก่อนเลย น่าจะลองดูเชิงก่อนว่าจะมาไม้ไหนกัน....ส่วน ธรรมกับหญิง นี่ จะมาร้ายหรือดี แต่น่าจะมาไม่ค่อยดีหรือปล่าวคะ แหะ แหะ เดาไปก่อน...เพราะดูเหมือนจะไม่ใช่สายเลือดโดยตรงเลยสักคน...


โดย: ต่างแดน IP: 94.23.252.21 วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:18:51:01 น.  

 
มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาละ จะเป็นฝ่ายใครก็ไม่รู้


โดย: nasa IP: 110.78.186.107 วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:21:54:29 น.  

 
สนุกค่ะรออ่านต่อค่ะ


โดย: อาราเร่ IP: 58.10.157.233 วันที่: 1 กรกฎาคม 2558 เวลา:0:09:31 น.  

 
หนูมารอพี่ที่บล็อกนี้ทุกวันเลย


โดย: jawjaw วันที่: 8 กรกฎาคม 2558 เวลา:13:58:43 น.  

 
คิดถึงคุณฬีอยู่นะ


โดย: บอล IP: 182.53.86.33 วันที่: 15 กรกฎาคม 2558 เวลา:8:18:05 น.  

 
หญิงนี่ต้องเป็นคู่รักกับน้องอรแน่ๆเลย


โดย: แคท IP: 192.99.14.34 วันที่: 16 กรกฎาคม 2558 เวลา:16:14:50 น.  

 
รอ ๆๆ ด้วยความคิดถึงนะคะ ไม่ต้องอัพก็ได้ค่ะ ออกมาเป็นเล่มเลยก็ได้น๊า อิอิอิ


โดย: Nan IP: 110.77.183.66 วันที่: 26 กรกฎาคม 2558 เวลา:15:09:57 น.  

 
เมื่อไหร่หนังสือจะรวมเล่มคะ


โดย: kalaya IP: 202.28.25.66 วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:8:14:44 น.  

 
หายไปนานแล้วนะค่ะ คือจะลงแค่นี้ใช่ไหมค่ะ แล้วหนังสือออกงานหนังสือรอบนี้ไหมค่ะ


โดย: พิม IP: 94.23.252.21 วันที่: 14 ตุลาคม 2558 เวลา:3:05:05 น.  

 
เมื่อไหร่จะออกเล่มค่ะอยากอ่านต่อมากสนุกนะคะขอบคุณรออยู่นะ


โดย: กอล์ฟ IP: 171.99.47.71 วันที่: 10 มกราคม 2559 เวลา:14:25:19 น.  

 
รออ่านนานเกินไปแล้วจ้า


โดย: ่jong IP: 203.172.195.28 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:9:53:27 น.  

 
จะลงต่อหรือปล่าวค่ะ หรือลงแค่นี้ค่ะ


โดย: แม่น้องกัส IP: 203.144.220.246 วันที่: 17 พฤษภาคม 2559 เวลา:7:31:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.