ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 

จันทน์กะพ้อ บทที่ ๑๓

จันทน์กะพ้อ บทที่ ๑๓




จันทน์กะพ้อตื่นเช้าตามปกติ แต่วันนี้ไม่ได้ไปวิ่งออกกำลังกาย หากหิ้วตะกร้าซึ่งมารดาจัดเตรียมอาหารคาวหวานจัดเป็นสำรับเล็กๆ ไปยังศาลตาปู่ประจำหมู่บ้านกับตาและพ่อ ส่วนแม่กับน้องสาวนั้นเตรียมบายศรีอยู่ที่บ้านกับเพื่อนบ้าน และผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนที่มาบ้านตั้งแต่เช้า

ศาลตาปู่หรือศาลปู่ตาเป็นศาลสถิตดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่คอยคุ้มครองปกปักรักษาหมู่บ้าน เวลาจะคนในหมู่บ้านจะเดินทางไปไหนไกลๆ ก็มักจะมาไหว้ลา แม้ความเชื่อเหล่านี้จะค่อยๆ ลดลง หากครอบครัวเธอก็ยังถือปฏิบัติ ตอนที่เธอจะไปเรียนมหาวิทยาลัยก็มาไหว้ลาเช่นกัน

จันทน์กะพ้อจัดสำรับวางที่หน้าศาลแล้วจุดธูปส่งให้ผู้เป็นตา ตาเมฆขยับผ้าขาวม้าที่พาดบ่าให้เข้าที่ ก่อนจะเริ่มนำสวดและบอกกล่าวตาปู่ เรื่องหลานสาวจะไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ รวมถึงการที่ต้องย้ายไปอยู่กับครอบครัวทางพ่อ ขอให้ตาปู่ช่วยดูแลคุ้มครองให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

“ปกปักฮักสา คุ้มครองลูกหลานเด้อตาปู่”

จันทน์กะพ้อไหว้ตามผู้เป็นตา เธออธิษฐานให้ตาปู่ช่วยดูแลครอบครัวที่บ้าน แม้จะไม่มีลมพัดมา บรรยากาศยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีเหตุการณ์ผิดแปลอกอะไร แต่จันทน์กะพ้อก็รู้สึกสบายใจขึ้น



กลับมาถึงบ้านพานบายศรีและเครื่องคายเตรียมเสร็จเรียบร้อย ความจริงที่บ้านเธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะจัดงานอะไรใหญ่โต แค่ทำพิธีเล็กๆ ในครอบครัวเท่านั้น แต่พอผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านรู้ก็แวะเวียนมาหา หรืออาจจะเพราะมาหาที่พบปะคุยกัน ไม่ว่าจะอย่างไหนก็แล้วแต่จันทน์กะพ้อก็รู้สึกอบอุ่นใจลึกๆ เหมือนมีครอบครัวขนาดใหญ่อยู่ข้างกาย

“มีไผไปฮับหมอสูตรยังล่ะพ่อใหญ่เมฆ”

“ศักดิ์ไปฮับแล้ว เดี๋ยวก็มา” ตาเมฆตอบเพื่อนเกลอที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ก็เหลือกันอยู่ไม่มากนัก ไม่ว่าบ้านใครมีเรื่องอะไรก็ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ

ไม่นานศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นคนไปรับหมอสูตรก็มาถึง หมอสูตรหรือหมอพราหมณ์เป็นคนประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญ ซึ่งเป็นพิธีที่ผูกพันในชีวิตของคนอีสาน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน ได้ลาภยศ เลื่อนตำแหน่ง เจ็บไข้ได้ป่วย ต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ หรือใครจะเดินทางไกลก็จะมีการสู่ขวัญเพราะเป็นขวัญกำลังใจ

จันทน์กะพ้อถูกตามให้มานั่งกลางวง หน้าพานบายศรี หมอสูตรเริ่มบทสวด จันทน์กะพ้อพนมมือมองบายศรีที่มารดาและน้องสาวตั้งใจทำ เหลือบไปมองรอยยิ้มของผู้เป็นตา พ่อกับแม่ และน้องสาว จดจำความรักและความปรารถนาดีของคนในครอบครัวติดตัวไปตลอด ไม่ว่าจะไปอยู่ไหน เธอก็รู้ว่ามีครอบครัวคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ

เสียงสวดท่วงทำนองคุ้นหูดำเนินไปเรื่อยๆ จนจบ หมอสูตรก็หยิบเส้นฝ้ายสีขาวที่สอดไว้กับชั้นบายศรีให้ผู้อาวุโสที่สุดในบ้าน

“ตาเมฆ...เจ้าผูกแขนให้หลาน” 

จันทน์กะพ้อพนมไหว้ตาก่อนจะยื่นมือไป มีมือยืนมาแตะที่ข้อศอก สายตาเธอมองที่เส้นฝ้ายสายสิญจน์ที่ตากำลังผูกพร้อมกับเอ่ยอวยพร ถัดจากนั้นก็เป็นพ่อแม่และผู้เฒ่าผู้แก่ จนข้อมือเธอเต็มไปด้วยเส้นฝ้าย เสร็จพิธีเธอกับน้องก็ช่วยกันไปยกอาหารเลี้ยงแขกซึ่งเป็นขนมจีนน้ำยาที่ช่วยกันทำแต่เช้า และพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน



รถยุโรปคันใหญ่แล่นเข้ามาในบริเวณบ้านเรียกสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนและแคร่หน้าบ้านให้จับจ้องไปด้วยความประหลาดใจและสงสัย เสียงพึมพำถามไถ่ว่าใครเป็นเจ้าของรถหรูหราคันนั้น

“ลุงเกริกกับป้าภาบ่...” แม่อัญชลีเดา เพราะรถคันใหญ่แบบนี้ที่มาบ้านเธอมีอยู่แค่ลุงและป้าของจันทน์กะพ้อเท่านั้น แต่ว่าพรุ่งนี้จันทน์กะพ้อก็จะไปกรุงเทพฯ แล้ว ทั้งสองจะมาอีกทำไม

“บ่น่าแม่นนะแม่” แก้วพิกุลเอ่ย เพ่งมองไปยังคนที่นั่งอยู่ในรถ แม้จะยังไม่เห็นชัดแต่ดูรูปร่างแล้วไม่น่าจะใช่ทั้งสองท่าน แต่น่าจะเป็น... “แก้วว่า...พี่อ้ายของแก้วล่ะมั้ง แม่นบ่อ้ายอ้าย” เธอเอียงไปทางพี่สาวที่มองรถซึ่งจอดนิ่งแล้วเช่นกัน

จันทน์กะพ้อไม่ตอบน้องสาว เธอลุกขึ้น ก้าวไปหาร่างสูงที่ก้าวลงมาจากรถพร้อมยิ้มกว้าง...ประจบเหมือนโกลด์เดนรีทรีฟเวอร์ เจ้าหมายักษ์จอมดื้อตาใส

“โห...คนเต็มบ้านเลย มีงานกันเหรอ”

จันทน์กะพ้อหันไปทางเจ้าของเสียง ขันติยิ้มกว้างไม่ต่างจากเพื่อนซี้ เขาลงมาจากที่นั่งด้านข้างคนขับ และยักคิ้วให้เพื่อนสาวที่มองตาขุ่น

“สงสัยจะมางานศพคนกรุงเทพฯ”

“โอ๊ย...ดีนะที่ฉันมาจากปักษ์ใต้ มึงอ่ะไอ้คุณชาย คนกรุงเทพฯ” ขันติแกล้งร้อง

“อ้ายไม่ใจร้ายให้เขตตายง่ายๆ หรอกเนอะ” เขตชลทำเสียงอ้อนๆ ก็รู้ว่าจันทน์กะพ้อคงมีโมโหบ้าง แต่เดี๋ยวก็ใจอ่อน...เหมือนที่ยอมคุยโทรศัพท์กับเขาทุกวันนี่ไง

“ไม่ต้องมาเนอะ...” จันทน์กะพ้อว่าแล้วก็ถอนหายใจ ไม่เหมาะที่มาพูดอะไรในตอนนี้ “ไปไหว้ตากับพ่อแม่ก่อน...เดี๋ยวค่อยมาเคลียร์กัน ทั้งคู่เลย” เธอปรายตาไปทางขันติด้วย

นี่ก็ชอบนัก...เรื่องของเพื่อนนี่

เขตชลกับขันติเข้าไปไหว้พ่อแม่และตาของจันทน์กะพ้อ รวมถึงคนที่อยู่ในบ้านด้วย เลยรู้ว่าวันนี้ทางบ้านจันทน์กะพ้อจัดบายศรีเล็กๆ ให้กับจันทน์กะพ้อที่จะเดินทางวันพรุ่งนี้ และทั้งสองก็ได้รับการผูกข้อมืออวยพรให้ด้วย



“ใกล้ซิได้กินดองแล้วบ่พ่อใหญ่เมฆ”

ตาเมฆหัวเราะเมื่อถูกเพื่อนร่วมก๊วนแซวหลังจากผูกข้อมือให้เขตชล ความจริงเรื่องการแต่งงานหรือกินดองก็เป็นอีกหัวข้อที่ใครๆ ก็ถามถึงเมื่อเห็นว่าหลานสาวเขาเรียนจบและทำงานแล้ว ยิ่งวันนี้มีผู้บ่าวรูปหล่อไทกรุงเทพฯ มาหาที่บ้านด้วยแล้ว ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนตอนเรียนกับหลานสาวก็เถอะ

“อันนี้กะแล้วแต่ลูกหลานเขาล่ะเด้อ” ตาเมฆตอบยิ้มๆ เรื่องแบบนี้เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งหรอก ลูกหลานรักชอบพอใครเขาก็ไม่คิดจะกีดกั้นขัดขวาง ขอให้เป็นคนดีและรักกันก็เพียงพอแล้ว

แม้จะกลัวจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอยู่บ้างก็ตาม

เขาไม่รู้จักว่าครอบครัวของเขตชลเป็นอย่างไร แต่ดูจากท่าทางแล้วก็มองออกว่าไม่ได้มาจากครอบครัวธรรมดาหาเช้ากินค่ำแน่นอน แต่เท่าที่ดูเจ้าตัวก็เป็นเด็กดี...รวมทั้งขันติเพื่อนซี้อีกคนนั่นด้วย หากทางครอบครัวของเขตชลก็อาจจะต้องการสะใภ้ที่ฐานะทัดเทียมกันก็ได้

แม้จันทน์กะพ้อจะแนะนำว่าเป็นเพื่อนสนิทกันซึ่งเวลามาบ้านก็มากันเป็นกลุ่ม แต่ก็พอดูออกว่าหลานสาวกับเขตชลสนิทกันเป็นพิเศษ หากก็ไม่เคยมีอะไรเกินกว่านั้นแม้จะถูกกึ่งถามกึ่งเย้าอยู่บ่อยๆ ก็ตาม



“โห...พี่อ้ายขับเบนซ์เหรอเนี่ย อย่างรวย” แก้วพิกุลเอ่ยแซว ไม่ได้ตื่นตากับรถคันโตแต่ดีใจที่ได้เจอกับพี่ชายสุดหล่อกับพี่ชายตัวฮา ตอนที่พี่สาวยังเรียนอยู่พวกเพื่อนๆ ตามมาเที่ยวบ้านบ่อยๆ

แหม...เมื่อไหร่พี่เขตชลจะมาเป็นพี่เขยจริงๆ สักทีก็ไม่ได้รู้

ซ้อมเรียกว่า...พี่อ้าย...ที่แปลว่าพี่เขยจนคล่องปากแล้ว

“รถพี่ขันจ้ะน้องแก้ว...ไอ้เขตเป็นคนขับรถเฉยๆ” ขันติเอ่ยขึ้น พวกเขาแยกมานั่งที่แคร่ไม้ใต้ต้นจันทน์กะพ้อ...ต้นไม้ที่ชื่อเดียวกับเพื่อนสาวซึ่งได้มาเห็นของจริงที่บ้านนี้ จันทน์กะพ้อบอกว่าตาเป็นคนหามาปลูกที่บ้าน ปีเดียวกับที่เธอเกิดนั่นแหละ เขาเคยมาตอนที่มันออกดอก...ดอกสีขาวนวลเต็มต้นส่งกลิ่นหอมไปทั้งบ้าน

ส่วนเจ้าของชื่อนั้นหายเข้าไปในตัวบ้าน ทิ้งให้พวกเขาคุยกับแก้วพิกุล

“พี่ขันหน้าไม่ไห้เลยเนอะ” แก้วพิกุลหัวเราะคิกคัก

ขันติหัวเราะตาม ไม่ได้โกรธอะไรเพราะรู้ว่าแก้วพิกุลแซวขำๆ ไปอย่างนั้น เขาเอ็นดูน้องสาวของเพื่อนสนิทเหมือนน้องสาวนั่นแหละ

“ถึงพี่ขันจะหล่อน้อยกว่าไอ้เขตมันนิดนึง แต่พ่อพี่รวยมากนะ...แก้วเปลี่ยนใจจะเรียกพี่ว่าพี่อ้ายแทนไอ้เขตมันไหม”ขันติยักคิ้ว

“ไม่ล่ะ...แก้วชอบคนหล่อ ไม่รวยก็ไม่ว่า รวยมากแก้วก็ไม่ชอบ”

“อ้าว...ทำไมไม่ชอบรวยมาก” ขันติเลิกคิ้ว

“นิสัยไม่ดี”

ขันติหัวเราอย่างชอบใจในคำตอบของน้องสาวเพื่อน เขาเหลือบมองไปทางเพื่อนสนิทที่เอาแต่นั่งยิ้ม อารมณ์ดีมาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ แล้ว

เมื่อคืนนี้จู่ๆ เขตชลก็โทรศัพท์มาชวนเขามาที่บ้านจันทน์กะพ้อ บอกว่าพี่ชายจะตามคนรักซึ่งก็เป็นเพื่อนของจันทน์กะพ้อกลับบ้าน เลยต้องเป็นคนขับรถให้เพราะช่วงนี้พี่ชายทำงานหนัก ต้องมาขับรถตอนเช้ามืดเดี๋ยวจะเหนื่อยเกินไป

โธ่...ไม่ต้องเป็นจันทน์กะพ้อ ตัวเขาเองก็รู้ว่าเป็นข้ออ้างที่อ่อนด้อยมาก

แต่ก็น่าสนุกดี...เขาก็ไม่ได้มาบ้านเพื่อนสาวนานแล้ว

“อ้าว...งั้นน้องแก้วก็ไม่ชอบไอ้เขตสิ มันรวยมาก”

แก้วพิกุลเลิกคิ้ว...มองใบหน้าหล่อๆ ของเพื่อนพี่สาวที่เธออยากให้มาเป็นพี่เขยด้วย

“พี่เขตรวยมากจริงน่ะ” ถึงพี่เขตจะนิสัยดีน่ารักก็เถอะ แต่ถ้าบ้านรวยมากๆ เหมือนกับ ‘คนบ้านนั้น’ ละก็ จะนิสัยเดียวกันหรือเปล่า เธอไม่อยากให้เป็นเหมือนกับเรื่องของอาบุษกับอาก้อง

“หือ...ไม่นะ พี่ไม่รวยเหมือนไอ้ขันนั่นแหละ” เขตชลแทรกขึ้น หลังจากปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันอยู่สองคน ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้

“แต่พ่อมันรวยมาก” ขันติต่อให้

ทั้งสามหัวเราะกันอย่างชอบใจ

“เบื่อพวกคนรวยว่ะ...กินของบ้านๆ ได้ไหม” จันทน์กะพ้อมาพร้อมกับถาดใบใหญ่ซึ่งมีทั้งขนมจีนและชามใส่น้ำยา ผักสด แล้วก็จานช้อนอีกสองชุด เพราะอาหารที่เลี้ยงแขกวันนี้ก็คือขนมจีนน้ำยา มีทั้งกะทิไก่และน้ำยาปลา เมื่อวานศักดิ์สิทธิ์เอามาปลาช่อนจากสระมาหลายตัวได้น้ำยาหม้อใหญ่ แถมด้วยส้มตำชนิดไม่อั้น กับกล้วยบวชชี กล้วยน้ำว้าจากสวนตัดมาเมื่อวานนี้เช่นกัน

“ไม่บอกให้ไปช่วยยก” เขตชลกับขันติรีบลุกขึ้น เขตชลอยู่ใกล้กว่าจึงรับถาดจากมือจันทน์กะพ้อมาวางบนแคร่ เมื่อกี้เห็นเธอเดินตามแม่เข้าไปในบ้าน ไม่นึกว่าจะไปยกอาหารมาให้

“ไม่เป็นไรหรอก กินไปเถอะ” จันทน์กะพ้อบอก ก่อนจะนั่งลงกับทั้งสอง ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เหลือแต่เพื่อนๆ ของตาเท่านั้นที่อยู่คุยกันก่อน

“โอ๊ย...เป็นตาแซบแท้ อยากกินอยู่เด้อ” ขันติพูดสำเนียงอีสานแต่แปล่งอยู่มากเมื่อเห็นขนมจีนน้ำยา มาบ้านเพื่อนสาวทีไร ลาภปากทุกที แม่ทำอาหารอร่อยมาก

แก้วพิกุลยิ้มขำ ช่วยหยิบจานส่งให้เพื่อนพี่สาวทั้งสอง

“อ้ายกับน้องแก้วไม่กินด้วยกันเหรอ” เขตชลถาม เพราะมีจานมาเพียงสองชุด

“แก้วกินมาหลายจานแล้วค่ะ ตั้งแต่เช้านู่น” แก้วพิกุลยิ้มตาหยี ก็เธอเป็นผู้ช่วยแม่ทำอาหารนี่นา เรื่องปล่อยให้ตัวเองหิวนี่ไม่มีทางล่ะ

สองหนุ่มพยักหน้า เริ่มลงมือกินขนมจีน

จันทน์กะพ้อมองเพื่อนทั้งสอง ตอนแรกกะจะเฉ่งสักหน่อย แต่ก็ช่างมันเถอะ พูดไปยังไงสองคนนี้ก็โผล่มาอยู่ตรงนี้แล้ว

แต่...คงเพราะเธอก็ไม่ได้คิดจะโกรธอะไรด้วย

หากก็หมั่นไส้อยู่มาก...

“แล้วพี่ศักดิ์ล่ะ ไม่อยู่เหรอ” เขตชลถามหาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็คุ้นเคยกับคนที่จันทน์กะพ้อบอกว่าเป็นพี่ชาย หาก ตั้งแต่มาถึงยังไม่เห็นเลย

“พาหมอสูตรไปส่งบ้าน เดี๋ยวก็คงมา” จันทน์กะพ้อตอบ ก่อนจะอธิบายเพิ่มเพราะอาการเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัยของทั้งสอง “คนทำพิธีบายศรีน่ะ”

“ทานกันได้ไหมลูก” คุณอัญชลีเดินเข้ามาหากลุ่มลูกสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อก่อนสองหนุ่มนี้ตามจันทน์กะพ้อมาที่บ้านบ่อยๆ พอเรียนจบก็หายกันไป จันทน์กะพ้อบอกว่าขันติกลับไปทำงานที่บ้านที่ปักษ์ใต้ส่วนเขตชลไปเรียนเมืองนอก เธอก็ได้แต่ถามถึงเป็นบางคราว

“อร่อยมากครับแม่” สองหนุ่มตอบแทบจะพร้อมกัน

“แล้วจะค้างที่บ้านหรือเปล่า...เดี๋ยวแม่จะได้จัดห้องไว้ให้”

“ต้องขอความกรุณาแม่ด้วยครับ” เขตชลยิ้ม ก็ตั้งใจอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าแม่ไม่ถามเขาก็คงจะขอเองนั่นแหละ

“เอาเชียวนะ” จันทน์กะพ้อเปรยอย่างหมั่นไส้

“งั้นเดี๋ยวแม่จัดการให้”

“บ่เป็นหยังจ้ะแม่ เดี๋ยวอ้ายจัดการเอง” จันทน์กะพ้อรีบบอกแม่ เรื่องที่นอนของเพื่อนทั้งสอง บ้านเธอก็ยังมีห้องเหลืออยู่ หรือไม่งั้นก็ปูที่นอนที่ห้องโถงชั้นล่างนั่นแหละ เมื่อก่อนก็นอนกันเป็นประจำ บางทีก็ไปนอนที่บ้านสวนด้วยซ้ำ

คุณอัญชลีพยักหน้า ก่อนจะมองสองหนุ่มและเหลือบมองลูกสาวคนโต เจ้าตัวยืนยันที่จะไม่ให้ศักดิ์สิทธิ์ช่วยขับรถพรุ่งนี้ “แหม...เสียดายที่เขตกับขันขับรถมา ไม่อย่างนั้นอ้ายคงมีเพื่อนช่วยขับรถเข้ากรุงเทพฯ”

จันทน์กะพ้อสะดุ้ง รู้ว่าคำพูดของแม่แปลว่าอะไร

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกับอ้ายก็ได้ครับแม่ ไม่มีปัญหา” เขตชลยิ้มกว้าง ถ้าไม่รีบฉวยโอกาสนี้ไว้คงจะโง่มาก และไม่ต้องบอกขันติก็รีบตอบรับเช่นกัน

“อ้าว...แล้วรถ” จันทน์กะพ้อปรายตาไปยังรถหรู ก็ไม่รู้ว่ารถใครหรอกนะ ระหว่างสองคนนี้ ทุกคนรู้ว่าเขตชลรวยมาก แต่ส่วนขันติมีเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้ว่าครอบครัวของขันติเป็นคหบดีชื่อดังของทางใต้

“อ๋อ...นั่นรถพี่ใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนกลับพี่ใหญ่จะได้สวีตกับคุณแพงสองคน ไม่มีพวกเราเป็นกขค.เนอะขัน” เขตชลทำท่าพยักพเยิดกับเพื่อนซี้

“เอาชัดๆ สิ ยังไงกัน” จันทน์กะพ้อกอดอก เสียงเข้ม

“คือว่า...พี่ใหญ่กับคุณแพงกลับมาที่บ้านคุณแพงไง เห็นว่าเมื่อวานพี่ใหญ่ดูเหนื่อยๆ ก็เป็นห่วงน่ะ เขตกับขันก็เลยช่วยพี่ใหญ่ขับรถมา แล้วยืมรถมาบ้านอ้ายนี่ไง เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้พวกเราก็ไปกรุงเทพฯ กับอ้ายได้ เดี๋ยวเขตโทรไปบอกพี่ใหญ่ให้มาเอารถ วันนี้ได้พักแล้วพรุ่งนี้ขับรถเองสบายมาก”

“แหม...คนดี” จันทน์กะพ้อทำเสียงอย่างอ่อนใจและหมั่นไส้กับข้ออ้างของเขตชล ไม่รู้จะพูดอะไรดี โดยเฉพาะเมื่อแม่ยิ้มกว้าง เอ่ยอย่างถูกใจ 

“งั้นก็ดีนะ..แบบนี้แม่จะได้หายห่วง”

คุณอัญชลีกลับเข้าไปในบ้านแล้ว สองหนุ่มยังกินขนมจีนอย่างเอร็ดอร่อย แก้วพิกุลแซวสองหนุ่มเป็นระยะ ไม่นานก็เห็นศักดิ์สิทธิ์ขับรถกระบะของพ่อเข้ามาจอดข้างๆ รถคันหรู ศักดิ์สิทธิ์มองรถไม่คุ้นตาอย่างแปลกใจ ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นว่าเป็นสองหนุ่มเพื่อนของจันทน์กะพ้อนั่นเอง

“สวัสดีครับพี่ศักดิ์” เขตชลกับขันติไหว้ทักทาย ศักดิ์สิทธิ์เดินเข้ามา รับไหว้พร้อมกับยิ้มกว้าง ทักสองหนุ่มกลับอย่างดีใจ

“โอ๊ย...ไม่ได้เจอกันนาน นึกว่าลืมกันไปแล้ว” ช่วงที่จันทน์กะพ้อเรียนมหาวิทยาลัย เวลากลับบ้านก็มีเพื่อนตามมาบ่อยๆ โดยเฉพาะสองคนนี้ ไม่นึกว่านักศึกษาท่าทางน่าจะเป็นลูกคนร่ำรวยจะนับถือเขาเป็นพี่

“ไม่ลืมครับ ยังจำลาบเป็ดของพี่ศักดิ์ได้” เขตชลเอ่ยกลั้วหัวเราะ

“ยังแซบเหมือนเดิมหรือเปล่าพี่” ขันติเสริม เวลามาบ้านเพื่อนสาวนอกจากกับข้าวฝีมือแม่จะอร่อยแล้ว กับแกล้มฝีมือพี่ศักดิ์สิทธิ์ก็เยี่ยมยอด บางทีพวกเขาก็เมาเละกันอยู่ที่บ้านสวนนอกหมู่บ้านกัน

“อ้าว...แบบนี้ต้องลอง ว่าแต่อยู่อีกนานหรือเปล่า จะได้มีเวลาต้มเป็ดให้เปื่อยๆ หน่อย”

“อยู่ทั้งคืนเลยพี่”

“ดีๆ งั้นอ้ายไปสวนก่อน หรือจะไปจับเป็ดกับอ้าย”

เขตชลกับขันติพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน

“ไปด้วยครับ”

จันทน์กะพ้อส่ายหน้าอย่างระอา พอถูกชวนไปสวนก็ตาวาวดีใจกันทั้งคู่

“กินให้เสร็จก่อน เดี๋ยวค่อยไปก็ได้”

 “ครับคุณนาย” สองเสียงประสานกันแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะ โดยเฉพาะเขตชลที่แอบโล่งใจ ท่าทางของจันทน์กะพ้อจะไม่ได้โกรธอะไรนักที่เขาโผล่มา

เจอตัวจริงดีกว่าโทรศัพท์มากมายนัก

“อะไรวะ...” เขาหันไปเมื่อถูกขันติผลักไหล่เบาๆ

“หมั่นไส้คนว่ะ...ยิ้มปากจะฉีกแล้ว”

เขตชลไม่หุบยิ้มแม้จะถูกเพื่อนซี้แขวะ...ก็คนกำลังมีความสุข



==================================================================




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558
6 comments
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 9:15:59 น.
Counter : 2391 Pageviews.

 

โอ๊ยย คนอ่านก็ยิ้มปากจะฉีกเหมือนคุณชายกลางเลยค่ะ

 

โดย: BoBow IP: 27.55.210.165 1 มิถุนายน 2558 16:17:43 น.  

 

หมั่นไส้คุณชายค่ะ 55 แต่สนุกมากค่ะ อยากรู้ว่าอ้ายไปบ้านนั้นแล้วจะเป็นยังไง :)

 

โดย: dream IP: 192.99.14.36 1 มิถุนายน 2558 21:49:19 น.  

 

คุณชายกลางน่ารักๆๆๆๆ

 

โดย: wow IP: 110.78.154.193 2 มิถุนายน 2558 9:02:49 น.  

 

น่ารักอ่ะ

 

โดย: nako IP: 171.6.230.63 2 มิถุนายน 2558 18:27:54 น.  

 

น่ารักอ้ะะะ

 

โดย: thebes IP: 27.145.31.96 2 มิถุนายน 2558 21:22:15 น.  

 

น่ารักค่ะ คุณฬี

 

โดย: pond IP: 101.109.85.179 8 มิถุนายน 2558 9:01:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.