จันทน์กะพ้อ บทที่ ๙
เขตชลอาศัยจังหวะที่มารดาหันไปตามเสียงทักของเพื่อนแล้วรีบถอยฉากเพราะขืนอยู่ต่อก็คงต้องถูกมารดาลากไปรู้จักกับเพื่อนคนโน้นคนรู้จักคนนี้ซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วก็จะมีลูกสาวหลานสาว มาแนะนำอยู่ตลอด ก็ไม่ได้อยากจะขัดใจมารดาเป็นคนขับรถก็พอไหว แต่จะให้ไปอยู่ในงานด้วยก็เห็นจะไม่ไหว
เขาไม่ใช่พี่ใหญ่ที่มีความอดทนสูงขนาดนั้น
แต่ตอนนี้พี่ใหญ่ก็รอดตัวไปแล้วเพราะมีหวานใจตัวจริงเสียงจริงให้คุณแม่ปลื้มลูกสาวคนใหม่
ไอ้เขต...
เขตชลหันไปตามเสียงก็เห็นว่าวิชชายืนกวักมือเรียกอยู่มุมหนึ่งเขารีบก้าวเข้าไปหา
รีบไปเหอะ...เดี๋ยวแม่หันมาเจอวิชชาเอ่ยแล้วรีบเดินนำเพื่อนออกไปจากบริเวณโถงใหญ่กลางห้างซึ่งมักเป็นบริเวณสำหรับจัดงานอีเวนต์ต่างๆเขารีบชิ่งหนีจากมารดาแล้วก็เหลือบเห็นเขตชลทำแบบเดียวกัน
เขตชลไม่ทักท้วงอะไร รีบจ้ำตามเพื่อนทันทีจนออกห่างจากโซนจัดงานแล้วทั้งคู่จึงทอดฝีเท้าลงมองหน้ากันแล้วหัวเราะเพราะรู้ว่าเพิ่งประสบชะตากรรมเดียวกันมา
นั่งร้านนี้เหอะ...วิชชาพยักหน้าไปยังร้านน้ำชา เพราะถึงจะหนีออกมา แต่ก็ต้องเตร็ดเตร่อยู่แถวนี้รอเวลาไปรับมารดาเสร็จงานอยู่ดี
เขตชลมองร้านน้ำชาตกแต่งสไตล์บ้านชนบทอังกฤษแล้วก็ขำผู้ชายตัวโตสองคนมานั่งอยู่ท่ามกลางความอ่อนหวานขนาดนี้
กูว่าสาวๆพวกนั้นต้องคิดว่าเราเป็นคู่เกย์แน่เลยว่ะเขตชลเอ่ยเมื่อนั่งลงที่มุมซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัวแล้วตั้งแต่พวกเขาเดินเข้ามาในร้านก็เห็นสาวๆที่นั่งอยู่ก่อนหันมามองก่อนจะหันไปซุบซิบ...เพราะพวกเขามากันสองคนทำให้สายตาของสาวๆนั้นเปลี่ยนไป
วิชชาแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
เดี๋ยวนี้ถ้าผู้ชายไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนอาจจะถูกมองเป็นคู่เกย์ได้ไม่ยาก
เดินกับผู้หญิงก็ถูกหาว่าเจ้าชู้อยู่กับผู้ชายก็กลายเป็นเกย์
ไม่ว่ายังไงก็โดนนินทาอยู่ดี
เออ...สนองความอยากรู้อยากเห็นของสาวๆ เขาหน่อยไหมวิชชาหลิ่วตา
เขตชลหัวเราะ
พอเลยมึง...เออ...แป๊บนะเขตชลรีบห้ามเพื่อนก่อนที่จะกลายเป็นวัตถุดิบจินตนาการของสาวๆเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็เป็นขันติ ถึงกรุงเทพฯ แล้วเหรอ
ขันติบอกว่าเพิ่งลงเครื่อง
เออ...มาสิ กูอยู่กับไอ้วิชที่ห้างลักษณา เขาบอกเพื่อนเออ...อยู่อีกนาน รีบตามมา
วิชชาเลิกคิ้ว
ไอ้ขัน เพิ่งกลับมาจากใต้เขตชลตอบสายตาคำถามของเพื่อน
อ้อ...ที่ว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลใช่ไหมวะ
อือ...ไม่เป็นไรมากแล้ว มันก็เลยกลับมา
วิชชาพยักหน้า พอมาเล่นบาสเก็ตบอลด้วยกันบ่อยๆพวกเขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ส่วนเพื่อนเก่าๆสมัยมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนักเพราะต่างก็ทำงานยุ่งกัน ทั้งสองจึงสั่งชุดน้ำชามาระหว่างคุยกันไม่นานขันติก็มาถึง
เฮ้ย...ร้านนี้เนี่ยนะ ขันติมาถึงร้านที่เพื่อนบอกมองร้านอย่างเหลือเชื่อ เขาแทบก้าวขาไม่ออก ถ้าไม่เห็นว่าเขตชลกับวิชชานั่งอยู่แล้วเขาไม่มีทางเข้ามาเป็นอันขาด
นั่งๆ เลยมึง เขตชลรีบบอกเพื่อนก่อนที่ขันติจะโวยวายไปมากกว่านี้ขนมอร่อยนะ... พวกเขารอขันติไปพลางนั่งคุยกัน ชุดน้ำชาชุดใหญ่ที่มีทั้งขนมและของว่างแทบเต็มโต๊ะก็พร่องไปเยอะ
เขาไม่ได้ติดชาแบบพี่ชายหรือพ่อแม่แต่ก็ดื่มอยู่บ้าง
ขันตินั่งลงแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ดีที่เขามานั่งอยู่ท่ามกลางความอ่อนหวานอย่างนี้...แต่พอดูหน้าหล่อๆของเขตชลกับวิชชาและการแต่งกายแม้จะลำลองแต่ก็ดูดีชนิดเดินเข้างานเลี้ยงอะไรสักอย่างได้ก็รู้สึกว่าทั้งคู่ไม่ได้แปลกแยกเลย ดูเข้ากับร้านนี้แบบสุดๆ
ไม่เหมือนตัวเขา...แปลกแยกสุดๆ
พวกมึง...คราวหน้าคราวหลังบอกก่อนนะกูจะได้ไม่ต้องถ่อสังขารมา ดูแขนกูสิ ขนลุกเลยนะเว้ย
เขตชลหัวเราะ ก็เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนอยู่เหมือนกันแต่ก็อดขำหน้าขันติไม่ได้
เปลี่ยนบรรยากาศมั่งสิวะเวลาพาสาวมามึงจะได้ไม่เขินไง พวกสาวๆ เขาชอบร้านแบบนี้นะโว้ย
เออ...ไอ้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงแน่จริงก็พาคุณนายใหญ่มาสิ ขันติเบ้ปาก
กูพามาแน่...คุณนายเขาชอบขนมอร่อยๆเขตชลยักคิ้ว คุยข่มแต่ก็ยังต้องลุ้นอีกเยอะนั่นแหละ...หวังว่าจันทน์กะพ้อจะใจอ่อนเร็วๆ
โว้ย...หมั่นไส้คนโว้ย
วิชชาหัวเราะถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่เชื่อว่าเขตชลจะมีเพื่อนสไตล์ขันติได้ก็อย่างที่ขันติบอกนั่นแหละ...ในสายตาเขา เมื่อก่อนเขตชลดูคุณชายสุดๆ
กูจะได้รู้จัก คุณนายบ้างไหมวะอยากรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่เขตชลชอบ
แน่นอน...แต่มึงห้ามมาหลงเสน่ห์คุณนายเด็ดขาด เขตชลยิ้มเขาคิดว่าจันทน์กะพ้อกับวิชชาน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยากยิ่งคุยกันด้วยบาสเก็ตบอลยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ก่อนจะนึกได้ พวกมึงเชื่อไหม...โลกมันกลมสุดๆ ว่ะ คุณนายเป็นเพื่อนกับคุณแพง
หือ...แพงน่ะนะ วิชชาเลิกคิ้ว นึกถึงเพื่อนสาวที่เขาเคยพึงใจอยู่ก่อนจะตัดใจเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เพราะพะนอขวัญมีคนรักแล้ว
ใครวะคุณแพง ขันติสงสัย
เออ...มึงยังไม่เคยเจอคุณแพงนี่นะคุณแพงเป็นแฟนพี่ใหญ่ ว่าที่พี่สะใภ้กู แล้วก็เป็นเพื่อนกับไอ้วิชด้วย
ขันติพยักหน้า... ครอบครัวเขตชลที่เคยเห็นบ่อยๆก็คือพ่อกับแม่ของเขตชลเพราะท่านมักไปเยี่ยมลูกชายที่ขอนแก่นบ่อยๆ ส่วนพี่ใหญ่นั้นเห็นแต่รูปบ้างแล้วก็เขตชลพูดถึงบ้าง หน้าตาดี โปรไฟล์หรูขนาดนั้น แฟนคงจะสวยและหรูสมกัน...คงเป็นคนในแวดวงเดียวกันนั่นแหละ
แล้วเป็นเพื่อนกับคุณนายใหญ่ได้ไงวะหรือว่าคุณนายใหญ่ไปรู้จักกับพวกไฮโซกับเค้าด้วย ก็คุณนายใหญ่ของไอ้คุณชายนี่เด็กต่างจังหวัดเต็มขั้น
เห็นว่าเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม มาแยกกันตอนมหาลัยคุณแพงเรียนที่เดียวกับวิช ส่วนคุณนายไปเรียนที่เดียวกับพวกเรา เขตชลอธิบาย
ขันติเลิกคิ้ว...แปลกใจที่แฟนของพี่ใหญ่ไม่ใช่แบบที่เขาคิด
นึกว่าจะเป็นไฮโซเหมือนกันเสียอีก...แต่ก็อย่างว่าทีไอ้คุณชายยังตามคุณนายใหญ่ต้อยๆ
เออ...แล้วที่เข้ามากรุงเทพฯนี่ก็จะมาเรียนต่อป.โท เขตชลต่อท้าย พร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
ก็เลยเข้าทางมึงเลยสิ ขันติหัวเราะทั้งหมั่นไส้เพื่อนสนิทแต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมจันทน์กะพ้อถึงคิดเปลี่ยนมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯเพราะเจ้าตัวเคยพูดอยู่ว่าจะเรียนต่อที่เดิม
เขตชลยิ้มพลางยักไหล่ ทำให้เพิ่มน่าความหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก
ถามหน่อยสิวะ...คุณนายกับคุณนายใหญ่ของพวกมึงนี่วิชชาเอ่ยปาก เขาสังเกตว่าเวลาเรียกหญิงสาวที่เขตชลชอบนี่ขันติจะเรียกว่าคุณนายใหญ่ ส่วนเขตชลจะเรียกว่าคุณนายเฉยๆแน่นอนว่าน่าจะไม่ใช่ชื่อของหญิงสาวคนนั้น
เขตชลกับขันติเลิกคิ้ว มองวิชชาที่ยกมุมปากนิดๆ
ชื่ออ้ายหรือเปล่าวะ
เฮ้ย...มึงรู้จัก ขันติเป็นคนอุทานออกมาส่วนเขตชลยังอึ้ง
วิชชายิ้มกว้าง...โลกมันกลมและบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ
พอเขตชลพูดถึงพะนอขวัญกับเพื่อน และเพื่อนที่ว่าจะมาเรียนปริญญาโทต่อก็ทำให้เขานึกถึงวันที่เจอพะนอขวัญที่ห้างนี้เลยเขายังประทับใจคำพูดสุดแสบของเพื่อนพะนอขวัญอยู่เลย
ไม่ใช่แค่รู้จัก...กูเพิ่งนั่งกินขนมกับอ้ายที่ร้านนี้เมื่อไม่กี่วันนี้เอง
เฮ้ย...จริงเหรอวะ เป็นขันติที่อุทานอีกรอบ
เออสิวะ ถ้าคุณนายของไอ้เขต ชื่ออ้ายเป็นเพื่อนกับแพงล่ะก็...คนเดียวกันแน่ๆ วิชชายักคิ้ว มองเขตชลอย่างขำๆคุณนายมึงนี่...โคตรน่ารักเลยว่ะ ไม่ใช่เรื่องหน้าตา หากนิสัยใจคอที่แม้ได้คุยกันไม่นานแต่ก็รู้ว่าคนๆนี้น่าคบหาเป็นเพื่อน...แต่ก็แสบใช่เล่นล่ะนะ
มึงอย่ารักก็แล้วกัน...ไม่งั้นมึงเตรียมอกหักได้เลยเขตชลพูดยิ้มๆ
วิชชากับขันติหัวเราะอย่างชอบใจ
ตกลงพวกเรานี่ก็วนๆ รู้จักกันไปหมดเลยสิขันติเอ่ยกลั้วหัวเราะ ไม่นึกว่าทุกอย่างจะบังเอิญขนาดนี้ การได้มีเพื่อนดีๆเพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว
ขันติหยุดหัวเราะเมื่อสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นหญิงสาวสองคนที่ก้าวเข้ามาในร้าน...ดูเหมือนว่าสองสาวจะมองมายังโต๊ะเขา
เด็กพวกมึง... เขาปรายตาไปยังเพื่อนทั้งสองก็เพราะสายตาของสองสาวที่มองมาไม่ได้มีเป้าหมายที่เขา
ญาติกูโว้ย...กับเพื่อนเค้ามั้ง วิชชาเอ่ยแล้วลุกขึ้นยืนเพราะสองสาวเดินมาทางพวกเขา เขาเปิดยิ้ม หวัดดีพลอย...เอ่อ...เขาไม่แน่ใจนักว่าเพื่อนของพลอยภัทรนั้นชื่ออะไรเขาเห็นเธอมากับพลอยภัทรตอนงานวันเกิดคุณย่า
นีน่าไง...จำไม่ได้เหรอ เพื่อนพลอยสวยขนาดนี้พลอยภัทรเอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนจะยิ้มให้ชายหนุ่มอีกสองคนที่ลุกขึ้นเธอรู้จักเขตชลแต่อีกคนนั้นไม่รู้จัก ทั้งคู่ค้อมศีรษะนิดๆ และยิ้มตอบกลับ
วิชชาหัวเราะและค้อมศีรษะให้เพื่อนของญาติสาวนิดๆ
ขอโทษครับ...สงสัยความสวยของนีน่าจะทำให้สมองเลอะเลือน
ไม่เป็นไรค่ะหวังว่าต่อไปจะอยู่ในความจำของคุณวิชบ้าง ณัฐนนทยายิ้มน้อยๆก่อนจะหันไปทางเขตชลแล้วพนมมือไหว้เขา สวัสดีค่ะคุณเขตชล
เขตชลรีบรับไหว้ก่อนจะเอ่ย
เอ่อ...ไม่ต้องไหว้ผมก็ได้ครับคุณนีน่า อ่า...ตามสบายเถอะครับ เขาจำได้ว่านีน่าเป็นพนักงานในอังสนาและเธอก็ยังเป็นเพื่อนกับพะนอขวัญอีกด้วย
ขอบคุณค่ะ ณัฐนนทยายิ้มสบตาคมกล้าแม้จะนึกขัดใจอยู่บ้าง ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เจอกันก็ไม่เคยเห็นสายตาของเขตชลเปลี่ยนไปเลยสักนิด ไม่มีแววสนใจตามประสาผู้ชาย ทั้งๆที่เธอมั่นใจความสวยและดูดีของตัวเอง เพราะขนาดวิชชากับผู้ชายอีกคนนั่นก็ยังมองเธอ
อ้อ...นี่ขัน เพื่อนของฉันกับเขตนะวิชชาเป็นคนแนะนำขันติที่ยังไม่รู้จักทั้งสอง นี่พลอย...ญาติกูกับนีน่าเพื่อนพลอย
สวัสดีครับ ขันติเอ่ยทักทาย พร้อมเปิดยิ้มกว้าง
พลอยภัทรเหลือบมองเพื่อนสาว เธอรู้ว่าณัฐนนทยาอยากจะสานต่อกับหนุ่มๆกลุ่มนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตชล หากยังสงวนท่าที
แต่จะสนุกอะไรถ้าทำตามใจเพื่อนสาวแบบนั้น
ไม่กวนแล้ว...วิชกับเพื่อนตามสบายเถอะพลอยก็นัดกับเพื่อนไว้ เดี๋ยวคงมา เธอกลั้นหัวเราะ เพราะรู้ว่าเพื่อนสาวไม่พอใจแต่ก็ยังยิ้มได้อยู่เหมือนเดิม แล้วเจอกัน...
เมื่อสองสาวเดินไปนั่งโต๊ะว่างที่อีกด้านของร้านสามหนุ่มก็นั่งลง
ว้าว...สวยแพ็กคู่เลยว่ะ ขันติเหลียวมองตาม
มึงนี่... เขตชลโคลงศีรษะ
ทำไมคุณนีน่าต้องไหว้มึงด้วยวะไอ้คุณชาย
เขาอยู่ฝ่ายการตลาดของที่บริษัท สนใจเหรอวะเขตชลตอบ ความจริงเขาก็ไม่ค่อยชินเลยที่ต้องรับไหว้พวกพนักงานของอังสนาเมื่อก่อนเขาจึงพยายามเลี่ยงที่จะเข้าไปออฟฟิศใหญ่แต่ตอนนี้เลี่ยงไม่ได้เพราะเขาต้องประชุมแทบทุกวัน
กูว่า...กูอยากเป็นญาติกับไอ้วิชมากกว่าว่ะขันติหันไปหาวิชชา
แต่กูไม่อยากว่ะ วิชชาเอ่ยทันที
เขตชลหัวเราะชอบใจ วิชชาแกล้งแสดงท่ารังเกียจขันติและไม่ยอมตอบคำถามขันติเรื่องของพลอยภัทร มีเพื่อนคุยกันได้ถูกคอแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าชีวิตดีกว่าแต่ก่อนมากตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศเขาก็ทำงานไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจที่ต้องรู้จักกันบ้างหาก...สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด
เขาถอนหายใจยาว ทำให้ขันติต้องหันมาถาม
เป็นอะไรวะ
อยากไปหาคุณนายว่ะ
ไม่อยากจะรอให้ถึงวันที่จันทน์กะพ้อเข้ามากรุงเทพฯเลย
สมน้ำหน้า ขันติเอ่ยอย่างขำๆ จนเขตชลถลึงตาใส่ยิ่งทำให้เขาหัวเราะดังขึ้น เช่นเดียวกับวิชชา
ช่วยไม่ได้...อยากทำตัวเองเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++