Group Blog All Blog
|
มัลดีฟส์ 3 วัน 2 คืน 18,000 ก็ไปได้นะแต่........... สวัสดีค่ะ มัลดีฟส์ทริปนี้เดินทางวันที่ 3 - 5 พฤษภาคม 2562 ไปกับพี่สาว 2 คน เดินทางด้วยสายการบินรแอร์เอเชียรวมอาหาร 1 มื้อไม่ซื้อนน.กระเป๋า 7,370 บาท จองตั๋วโปรล่วงหน้าเกือบ 1 ปี ค่าประกันการเดินทาง 213 บาท โรงแรม Paradise Island resort and Spa ห้องการ์เด้นวิลล่าห้อง 2 คนรวมบุฟเฟ่อาหารเย็นและอาหารเช้าคนละประมาณ 3,800 บาท จองผ่าน booking.com เลือกจ่ายเงินที่โรงแรม ค่าเรือสปีดโบ้ทไปกลับโรงแรมคนละประมาณ 3,300 บาท โรงแรม New Town Inn รวมค่ารถรับส่งสนามบินไม่รวมอาหารเช้า คนละประมาณ 1,240 บาท จองผ่าน Agoda เลือกแบบจองก่อนจ่ายเงินที่หลัง ค่าอาหาร ค่ารถค่าเรือ ซื้อของต่างๆ นานาอีกประมาณ 2,000 บาท ซิมโทรศัพท์ไม่ซื้อใช้ไวไฟโรงแรม มัลดีฟส์ไม่แพงก็ไปได้ แต่มัลดีฟส์ของคุณจะเป็นแบบก็ไหนขึ้นอยู่กับงบประมาณนะคะ สำหรับเรา ด้วยความที่โจทย์ของเราคืออยากถ่ายรูปกับวิลล่ากลางน้ำ ซึ่งทริปนี้ก็ตอบโจทย์เราแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่สุด มันยังขาดอะไรไป การเดินทางของเราจะเป็นยังไงไปดูกันเลย วันที่ 3 พ.ค. 2562 ออกเดินทางจากดอนเมือง 9.30 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.40 ชั่วโมงถึงมัลดีฟส์เวลา 12.30 เวลาที่มัลดีฟส์ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง พอเครื่องใก้ลจะแลนด์วิวข้า เราเลือกพักที่โรงแรม Paradise Island Resort & Spa ห้องราคาถูกที่สุดการ์เด้นว จากสนามบินเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงโรงแรมค่ะ เรือจอดที่ท่าเรือถ่ายรูปกั ป้ายแผนที่โรงแรม เรือจะจอดแ เข้าห้องพักเก็บกระเป๋าเรีย น้ำใสมากถ่ายมุมไหนก็สวย ราคาห้องพัก Water Villa คื เสียดายวันที่ไปเมฆเยอะถ่าย ตรงนี้เป็นห้องอาหารสำหรับแ ห้องนี้คืนละประมาณ 20,000 บาท น้ำทะเลใสมาก ซุมน้ำใสๆ ให้ดูชัด ๆ เดินสำรวจรอบเกาะแล้วก็มาว่ สี่โมงเย็นของมัลดีฟส์ก็ประ เดินสำรวจรอบเกาะรอเวลาอาหา บริเวณด้านข้างของวิลล่ากลา ห้องพัก Beach Front คืนละประมาณ 12,000 บาท ไม่มีอะไรทำก็ชมวิวทะเลไปเร เวลาประมาณหนึ่งทุ่มจะมีโชว เวลาทุ่มครึ่งได้เวลาอาหารเ จะมีทั้งอาหารตะวันตก ตะวันออก อาหารอินเดีย แต่ที่อลังการมากคือเบเกอรี เช้าวันที่ 2 เราตื่นกันตั้งแต่ตีห้า ไม่รู้จะรีบตื่นมาทำไมก็เด เวลา 7.30 ได้เวลาอาหารเช้าก็จะมีทั้ง ห้องพักการ์เด้นวิลล่าที่เร อุปกรณ์ในห้องก็จะออกแนวเรโ เรานัดเรือกลับสนามบินประมา นั่งเรือมาประมาณ 10 นาทีก็ถึงสนามบิน วันนี้เราจ ระหว่างทางไปโรงแรมคนขับก็ถามโปรแกร ไม่รอช้า ไปถึงโรงแรม 10.30 ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินก็ฝากก มาเลถืเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลก เรารู้สึกได้ว่าค่อนข้างแออัด สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เราตั้งใจจะเดินเที่ยวให้ครบแต่อากาศร้อนมาก เลยไปแค่ พระราชวังมูลีอาเก Muliaage / มัสยิดฮูกุรุมิสกิ Hukuru Miskiy / อุทยานสุลต่าน Sultan park แล้วก็ไปช็อปปิ้งในห้างซื้ออินทผาลัมและชา ราคาไม่แพงและรสชาติดีมาก ด้วยความที่เราไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เราเลยไม่สามารถเดินตาม Gps ได้ว่าสถานที่ไหนอยู่ตรงไหน ก็เลยเดินเลียบท่าเรือไปเรื่อยๆ จนมาเจอตลาดสดค่ะ ตลาดสดของเค้าก็จะเป็นเหมือนห้องสังกะสีอยู่ฝั่งเดียวกับท่าเรือ ของที่ขายส่วนมากก็จะเป็นผัก ผลไม้ อาหารแห้ง น้ำตาลมะพร้าว ในรูปคือพริกที่เค้าว่าเผ็ดที่สุดในโลก และสคูลพายราคาสองชิ้น 1 us เราชิมแล้วรสชาติเหมือนเปลือกมะพร้าวที่หอมๆ ค่ะ ความจริงที่ไทยก็มีนะคะเคยเห็นที่สัตหีบ ตอนแรกเรามีโปรแกรมจะไป เกาะ Villingili กัน แต่ไม่ไหวอากาศร้อนมากๆ เลยตัดสินใจนั่งเรือกลับฮูลฮุมาเล ดีกว่าค่าเรือคนละ 10 รูฟิย่า กะว่าไปพักเอาแรงที่โรงแรมแล้วตอนเย็นค่อยไปเดินเล่นชายหาดกัน นั่งเรือไปประมาณ 20 นาที เวลาประมาณบ่ายสองก็ถึงท่าเรือฮูลฮุมาเล เรานั่งรถบัสสาย N2 ค่ารถคนละ 3 รูฟิย่า นั่งไปประมาณ 5 ป้ายก็ถึงโรงแรมป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงแรมเลยสะดวกมาก พนักงานโรงแรมแนะนำว่าประมาณห้าโมงเย็นจะมีตลาดนัด เปิดขายของอยู่ติดกับโรงแรม เราก็เลยไปเดินเล่นตลาดนัดกันบรรยากาศก็เหมือนตลาดนัดบ้านเราค่ะ มาเดินเล่นกันต่อที่ชายหาดหลังโรงแรมเจอคนมาทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกันด้วย เรากินอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารอินเดียของโรงแรม ซึ่งรสชาติไม่ถูกปากเอาซะเลย ข้าวผัดอินเดีย จานละประมาณ 160 บาท เค็มมาก นานชีทประมาณ 60 บาทอร่อยดี ต้มยำกุ้งประมาณ 130 บาทไม่มีความอร่อยเลย เช้าวันที่ 3 ตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า เราจองโรงแรมมาแบบไม่รวมอาหารเช้าและเมื่อได้กินมื้อค่ำที่ร้านอาหารของโรงแรมแล้วเลยตัดสินในกินขนมปังที่ซื้อจากร้านมินิมาร์ทเป็นอาหารเช้าดีกว่า กินอิ่มแล้วเราไปเดินเล่นที่เกาะฮูลฮุมาเลกันต่อ รอบนี้เราเดินไปฝั่งตรงข้ามกับเมื่อวานเพื่อไปมัสยิด Masjid Hamad bin Khalifa Al-Thani กลับไปเดินเล่นชายหาดกันอีกรอบ ที่เห็นในรูปเป็นสระว่ายน้ำกลางทะเล เพราะทะเลที่นี่คลื่นค่อนข้างแรง เค้าก็จะทำแนวกั้นคลื่น เดินเที่ยวในมัลดีฟส์เราไม่เจออาหารทะเลเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นไก่ และปลาทูน่า เดินสำรวจบ้านเรือนของคนท้องถิ่นแล้ว เวลาประมาณ 9 ก็ให้รถของโรงแรมไปส่งที่สนามบินค่ารถ 10 ua ที่สนามบินมาเล หลังจากเช็คอินผ่านตม. มาแล้วมีดิวตี้ฟรีให้ช็อปปิ้ง และมีร้านอาหารให้เลือกกินอยู่หลายร้านนะคะ เครื่องออกเวลา 12.25 เดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงก็ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ จบทริปมัลดีฟส์ 3 วัน 2 คืน 18,000 บาท ซึ่งถ้าถามว่าไปกลับมาแล้วรู้สึกอย่างไร เราตอบได้เลยว่าก็ไม่ได้แย่แต่ยังไม่สุด แนะนำว่าถ้ามีเวลาน้อยแบบเราวันที่สองให้เลือกไปทริปดำน้ำ แล้วค่อย กลับมาเดินเที่ยวเมืองมาเลตอนเย็นดีกว่า ขอบคุณที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ |
kumyotha
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Friends Blog
Link |