คุนหมิง ต้าลี่ ลี่เจียง 5 วัน 4 คืน ตอนที่สอง ลี่เจียง คุนหมิง กับหิมะแรกของฉัน

สวัสดีค่ะ

การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะมีเพื่อนคนหนึ่งชวนไปลี่เจียงเราก็ไปทำไมมีอะไรเพื่อนบอกภูเขาหิมะมังกรหยกไงสวยนะไอ้เราก็เลยมาเปิดรีวิวเปิดทัวร์ดูราคาไปเรื่อยก็ปิ๊งเลยได้เที่ยวเมืองที่มีหิมะในราคาไม่ถึงสองหมื่นที่ไม่ใช่เกาหลีเอาวะใจง่ายไปกันเลย  จากนั้นก็ไปชวนเพื่อนและญาติได้อีก 17 คน

พวกเราจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่นของแอร์เอเชียไปลงที่เมืองคุนหมิงได้ราคาตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ประมาณคนละ 3,300 – 6,000บาทได้ตั๋วเครื่องบินแล้วเราก็ติดต่อทัวร์ให้จัดไพรเวททัวร์ให้ติดต่อไปหลายบริษัทก็ได้ที่Happy TG ราคาค่าทัวร์คนละ 12,000 บาทค่าทำวีซ่าคนละ 1,100 บาท

โปรแกรมการเดินทางตามนี้ค่ะ

14/1/2015 ออกเดินทาง 9.00 น.ถึงสนามบินคุนหมิงเวลา 12.30 น./ อาหารกลางวัน / เขาชีชาน / ออกเดินทางไปเมืองต้าลี่/ อาหารเย็น /พักโรงแรม N Hotel

15/1/2015 ล่องทะเลสาบเอ๋อไห่ / วัดเจ้าแม่กวนอิม / ตลาดโบราณเมืองต้าลี่/เดินทางไปเมืองลี่เจียง / สระมังกรดำ / เมืองเก่าลี่เจียง/พักโรงแรมแกรนด์ลี่เจียง

16/1/2015 ภูเขาหิมะมังกรหยก / อุทยานน้ำหยก / เดินทางไปเมืองต้าลี่ /พักโรงแรม NHotel

17/1/2015 เดินทางไปเมืองคุนหมิง / ร้านบัวหิมะ,ชา / ร้านหยก/ถนนคนเดินเมืองคุนหมิง / พักโรงแรม long way

18/1/2015 วัดหยวนทง / 13.20 น.เดินทางกลับไทย / 15.05 น.ถึงสนามบินดอนเมือง

สำหรับตอนที่สองนี้จะพาไปเที่ยวเมืองลี่เจียงภูเขาหิมะมังกรหยกตะเวนร้านรัฐบาล และ เมืองคุนหมิง ค่ะ

หลังจากที่พวกเราเดินเที่ยวในตลาดแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปเมืองลี่เจียงกันค่ะใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง  ระหว่างการเดินทางไกด์แนะนำให้พวกเรากินยาสมุนไพรปรับสภาพเมื่ออยู่ในที่สูงเพื่อปรับสภาพร่างกายไม่ให้มีอาการวิงเวียนแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเพราะวันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางไปภูเขาหิมะมังกรหยกซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง4,000 กว่าเมตร  ยาหนึ่งกล่องจะมีอยู่สิบขวดราคากล่องละ 100 หยวนแบ่งกันกินกล่องละสองคน ก็กินคนละห้าขวดหลังอาหารห้ามื้อตกคนละ 50 หยวน ตอนแรกเราก็ลังเลไม่กล้ากินแต่คนในรถเค้ากินกันหมดก็เลยกินกับเค้าด้วยรสชาติออกหวานเฝื่อนเหมือนน้ำจับเลี้ยงแต่ในหนึ่งขวดมันปริมาณนิดเดียวยังไม่ทันรับรสก็หมดขวดแล้ว

เมื่อถึงเมืองลี่เจียงแล้วไกด์ก็ลงไปจ่ายค่าเข้าเมืองและรับไกด์ท้องถิ่นเมืองลี่เจียงมาอีก1 คนการท่องเที่ยวในเมืองลี่เจียงถ้ามาเป็นกรุ๊ปทัวร์ต้องใช้ไกด์ประจำเมืองด้วยนะคะสำหรับกรุ๊ปเราเที่ยวด้วยกันสองวันก็ไม่เห็นเค้าทำอะไรนะไม่ได้ยินเสียงเค้าเลยด้วยซ้ำแค่มานั่งประดับรถให้เห็นว่ากรุ๊ปนี้มีไกด์ประจำเมืองแล้วนะและพวกเราต้องจ่ายค่าทิปไกด์ด้วย2 วัน วันละ 10หยวนต่อลูกทัวร์หนึ่งคน

ระหว่างที่ไกด์ไปจ่ายเงินพวกเราก็ลงไปถ่ายรูปสัญลักษณ์เมืองลี่เจียงกันค่ะจากนี้ก็ได้เวลาเที่ยวในเมืองลี่เจียงกันแล้ว

สระน้ำมังกรดำ มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่นี่ยังเป็นบ่อน้ำธรรมดาอยู่มาวันหนึ่งชาวบ้านเห็นมังกรดำโผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำแห่งนี้ชาวหน่าซีมีความเชื่อเรื่องมังกรอยู่แล้วจึงตั้งชื่อบ่อน้ำนี้ว่า บ่อน้ำมังกรดำ

เดินเข้าไปด้านในกันค่ะที่นี่เค้าจะจัดตกแต่งเป็นสวนสาธารณะ มีการจัดแบ่งส่วนเป็นบ่อน้ำในและบ่อน้ำนอกมีสะพานหินอ่อนกั้นน้ำในบ่อผุดขึ้นมาจากใต้ดินในลักษณะเป็นตาน้ำน้ำใสจนมองเห็นก้นบ่อได้เลย

เที่ยวในเมืองลี่เจียงแบบกรุ๊ปทัวร์เนี่ยเราจะได้ยินชื่อบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหนังสือพิมพ์บ้านพระอาทิตย์อยู่บ่อยๆเพราะเค้าเคยมาลงทุนค้าขายที่นี่ ไกด์บอกว่าศาลาสีแดงในรูปข้างล่างคือท่านนี้มาสร้างเพื่อฉลองวันเกิดให้แม่ของเค้าและคืนนี้เราจะไปนอนกันที่โรงแรมแกรนด์ลี่เจียงซึ่งก็เป็นโรงแรมที่เค้าเคยเป็นเจ้าของ

โรงแรมแกรนด์ลี่เจียงจะอยู่ในบริเวณที่สามารถเดินไปเมืองเก่าได้เลยหลังจากที่เข้าโรงแรมเช็คอินกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเดินเที่ยวเมืองเก่าลี่เจียงกันค่ะ

ส่วนตัวเราว่าของที่ขายที่เมืองเก่าไม่ค่อยน่าสนใจแต่ถ้าเดินเอาบรรยากาศก็สวยอยู่นะ พวกเราอยากได้รองเท้าบูทเดินหิมะสำหรับใส่เที่ยวที่ภูเขาหิมะมังกรหยกก็เลยเดินไปช๊อปในเขตเมืองใหม่ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลแค่ถนนกั้นเมืองเก่ากับเมืองใหม่ไว้รองเท้าบูทแบบถูกจะอยู่ที่ราคา 50 – 60 หยวนแล้วแต่ต่อรองแบบที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นคุณภาพดีหน่อยจะอยู่ที่ราคาประมาณ150 หยวนขึ้นไปได้รองเท้าแล้วก็กลับโรงแรมนอนเอาแรงวันรุ่งขึ้นจะได้เห็นหิมะแล้ว

16/1/58พวกเราตื่นกันตั้งแต่ตีห้าไกด์แจ้งว่าอยากให้พวกเราเริ่มออกเดินทางไปภูเขาหิมะมังกรหยกกันตั้งแต่7 โมงเช้าเพื่อให้ทันชมการแสดง IMPRESSIONLIJIANG ตอน 11 โมงซึ่งปกติการแสดงจะมีวันละหลายรอบแต่เนื่องจากช่วงที่พวกเราไปอากาศหนาวการแสดงเลยลดเหลือวันละสองรอบถ้าเราออกเดินทางกันแต่เช้าคนก็จะไม่เยอะและก็จะได้มีเวลาเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกกันนานหน่อย

ระหว่างทางไกด์แวะซื้อออกซิเจนกระป๋องให้ชาวคณะราคาประมาณกระป๋องละ60หยวน ที่จริงพวกเราก็กินยาปรับสภาพกันมาแล้วแต่เพื่อความสบายใจก็เลยซื้อเผื่อเอาไว้แม่เพื่อนเราเป็นพยาบาลเค้ากินยาขยายหลอดเลือดกันเอาไว้ก่อนเลย

เมื่อเดินทางมาถึงภูเขาหิมะมังกรหยกก็เปลี่ยนไปนั่งของอุทยานเพื่อเดินทางสู่จุดนั่งกระเช้าที่ระดับความสูง3,356 เมตร จากนั้นก็นั่งกระเช้าขึ้นจุดชมวิวสูงสุดซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล4,506 เมตรที่นี่พวกเราเจอทัวร์ไทยอีกกรุ๊ปหนึ่งซึ่งเราแอบอิจฉาเค้าว่าได้ไกด์หล่อยังกะพระเอกฮ่องกงแต่อีกวันหนึ่งเราเจอฤทธิ์ไกด์คนนี้ซึ่งทำให้เราประทับใจไกด์ของกรุ๊ปเรามากๆไว้ค่อยเล่าให้ฟังนะคะ

นั่งกระเช้าใหญ่ประมาณ30 นาทีก็ขึ้นไปถึงจุดชมวิวสูงสุดไกด์ให้เวลาพวกเรา 30นาทีสำหรับที่ตรงนี้ตอนแรกก็คิดว่าให้เวลาน้อยไปแต่พอไปเจออากาศแล้วถึงเข้าใจว่าเวลาที่ไกด์ให้นะโอเคแล้วอุณหภูมิบนเขาตอนนั้น -4องศา อยู่ได้ซักพักก็เท้าชาแล้วค่ะ

เราไม่ได้เดินขึ้นบันไดไปชมวิวด้านบนนะคะได้ยินคนที่เค้าไปบอกว่ามีเนินเล่นสไลด์ด้วยบนจุดชมวิวสูงสุดนี้มีคนในกรุ๊ปเราคนหนึ่งที่เค้ามีปัญหาใจสั่นหายใจลำบาก เพราะปกติเค้าก็มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว พี่เค้าก็เลยนั่งกระเช้ากลับไปก่อน ส่วนคนอื่นๆ แม้แต่คุณอา แม่เพื่อนวัย 50อัพก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะถ่ายรูปกันบนจุดชมวิวจนจุใจแล้วก็นั่งกระเช้ากลับไปที่จุดขึ้นกระเช้าค่ะ

ไกด์เล่าว่าสาเหตุที่ภูเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าภูเขาหิมะมังกรหยกเพราะภูเขาแห่งนี้เมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายมังกรกำลังเลื้อยบนพื้นสีขาวของหิมะที่ปกคลุมอยู่ดูราวกับหยกขาวที่ตัดกันสีน้ำเงินของท้องฟ้าคล้ายมังกรขาวกำลังล่องลอยอยู่บนฟากฟ้าเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าภูเขาหิมะมังกรหยก

ก่อนไปกินอาหารกลางวันได้เวลาชมโชว์ IMPRESSION LIJIANG  ซึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับจางอี้โหมว การแสดงใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง

เวทีการแสดงถูกสร้างขึ้นใกล้กับภูเขาหิมะมังกรหยกเหนือระดับน้ำทะเล 3,100 เมตรโดยใช้วิวจริงของภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลังประกอบการแสดง การแสดงในโชว์นี้จะเป็นการสะท้อนเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกับภูเขาหิมะมังกรหยกอันศักดิ์สิทธิและประเพณีของชนกลุ่มน้อยของเมืองลี่เจียง ใช้ทีมนักแสดงชนกลุ่มน้อยพื้นเมืองกว่า500 คน

ถามเราว่าโอเคกับโชว์นี้ไหม เราเฉยๆ นะคือเราฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง อ่านคำบรรยายภาษาอังกฤษก็ไม่ทัน แต่คุณไกด์ก็มาอธิบายบนรถแบบฉากต่อฉากให้พวกเราด้วยค่ะ

จบจากการแสดงพวกเราไปกินอาหารกลางวันกันค่ะก่อนที่จะมาไกด์บอกว่าอาหารมื้อนี้อาจจะไม่ถูกปากเท่าไหร่เพราะจะเป็นอาหารแบบชนเผ่าแท้ๆเอาเข้าจริงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะคะ กินอิ่มแล้วไปเที่ยวกันต่อที่อุทยานน้ำหยก

อุทยานน้ำหยก (Jade Dragon Village) ตั้งอยู่ริมสายธารน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลลงมาจากการละลายของหิมะบนภูเขาหิมะมังกรหยกซึ่งเป็นต้นชีวิตของชาวน่าซีที่อาศัยอยู่ในลี่เจียง   ในอุทยานน้ำหยกนี้จะมีบ่อน้ำผุดศักดิ์สิทธิซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวน่าซีเค้าจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเอาเหรียญไปโยนลงในบ่อน้ำผุดโดยแต่ละคนจะต้องยื่นตรงจุดปีนักษัตรประจำปีเกิดของตัวเองแล้วโยนเหรียญไปในบ่อถ้าโยนเหรียญลงไปในตะกร้าก็จะได้รับแผ่นซีดีที่เล่าเรืองราวของชนเผ่าเป็นรางวัล

รูปปั้นสีทองนั้นเป็นรูปสักการะของเทพเจ้าผู้คุ้มครองภูเขาหิมะมังกรหยกตามความเชื่อในวัฒนธรรมตงปาของชาวน่าซี

ที่อุทยานน้ำหยกจะมีน้ำตกอยู่สามชั้นซึ่งถือว่าเป็นการกำเนิดน้ำตกมังกรสามชั้นได้แก่ มังกรออกถ้ำ" เป็นน้ำตกชั้นแรก "มังกรเล่นน้ำ"เป็นน้ำตกชั้นที่สอง และน้ำตกชั้นที่สามชื่อว่า "มังกรโบยบิน"

ภายในอุทยานน้ำหยกจะมีวัดอยู่ด้วยนะคะแต่เราไม่ได้เดินเข้าไปในวัด  และก็จะมีชาวชนเผ่าเอาตัวจามรีและหมาภูเขามาคอยให้บริการถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวด้วยค่ะค่าบริการ10 หยวน

ช่วงบ่ายพวกเราก็เดินทางกลับเมืองต้าลี่กันค่ะระหว่างทางไกด์ประจำเมืองลี่เจียงพาพวกเราไปเข้าร้านขายสาหร่ายสไปรูลิน่าพวกเราก็ฟังการบรรยายกันไป ไกด์ถามว่ามีใครสนใจจะซื้อไหมไม่มีก็กลับ ร่ำลาไกด์ประจำเมืองลี่เจียงจ่ายค่าทิปไกด์2 วันกันแบบคุณมาทำอะไร

ใช้เวลาทางเดินทางจากลี่เจียงไปต้าลี่ประมาณสองชั่วโมงกลับไปนอนโรงแรมเดิม พวกเราถึงเมืองต้าลี่ประมาณ 6 โมงเย็นกะว่าจะหารถไปเที่ยวในเมืองแต่ไกด์บอกว่าโรงแรมนี้อยู่นอกเมืองและไม่ค่อยมีรถก็เลยเดินช๊อปปิ้งกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างโรงแรมหมดวันที่ 3 ค่ะ

17/1/2558 วันนี้ยกให้เป็นวันเดินทางและการทัวร์ร้านรัฐบาลค่ะ พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่แปดโมงเช้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงไปเมืองคุนหมิง สภาพอากาศวันนี้แย่มากฝนตกปรอยๆ และสองข้างทางเหมือนหิมะเพิ่งตก ด้วยความที่อากาศหนาวน้ำมันรถก็มีแข็งตัวบ้าง คนขับรถต้องจอดรถเอาไฟรนถังน้ำมันเพื่อให้น้ำมันละลายเป็นระยะๆ ได้ยินครั้งแรกเราก็อึ้งนะเอาไฟไปรนน้ำมันระเบิดมาทำไงหว่า แต่ไกด์เค้าก็บอกว่าเป็นเรืองปกติของเมืองหนาวไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องกังวล

เมื่อเดินทางถึงเมืองคุนหมิงก็เเริ่มทัวร์ร้านรัฐบาลกันค่ะ ร้านแรก ร้านบัวหิมะและศูนย์นวดแพทย์แผนโบราณจีน ร้านแรกผ่านไปด้วยดีเพราะมีคนในกรุ๊ปซื้อของ คนขายเค้าเลยไม่เซ้าซีปล่อยพนักงานมานวดพวกเราซึ่งก็ให้สินน้ำใจพนักงานนวดไปตามสะดวก

ร้านที่สอง ร้านชาซึ่งก็อยู่ที่เดียวกับร้านบัวหิมะ มีสาวจีนมาสาธิตการชงชา เสนอขายชานู่นี่นั่นตอนแรกราคาแพงมากสุดท้ายเหลือกล่องละ 50 หยวน แต่เราไม่ซื้อนะตื้อยังไงเราก็ไม่ซื้อ ไกด์เขาคอยช่วยกันลูกทัวร์จากพนักงานขายนะถ้าไม่มีไกด์คอยกันคงต้องมีเสียทรัพย์ตัดความรำคาญกันมั่ง

ร้านที่สาม ร้านหยกเข้าร้านนี้บอกได้เลยว่าไมเกรนขึ้น สถานการณ์ตึงเครียดจนพวกเราทนไม่ไหวเดินออกจากร้านกันเลย ซึ่งแน่นอนพนักงานร้านมากันพวกเราไว้ไม่ให้ออกไป แต่มีพนักงานสาวคนหนึ่งบอกเราว่าให้ไปถามไกด์ของคุณว่าจะยอมให้พวกเรากลับไหม  เราก็เดินไปบอกไกด์ว่าไม่ไหวแล้วขอกลับได้ไหม ไกด์น่ารักมากกลับเลยครับพี่ขึ้นรถได้เลย พวกเราก็เลยวิ่งกลับไปที่รถกันแต่มีคนในกรุ๊ป 2 คนถูกกันไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าออกมาได้ยังไง ขึ้นเราแล้วทุกคนเงียบไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรเกรงใจไกด์ด้วยแหละ ถ้าใครอยากรู้ว่าพวกเราไปเจออะไรที่ร้านหยกหาอ่านในกูเกิ้ลได้เลยนะคะ "ร้านหยกทัวร์จีน" เหตุการณ์เหมือนกันเลยค่ะ

หลังจากทัวร์ร้านรัฐบาลแล้วไกด์ก็พาพวกเราไปช๊อปปิ้งกันที่ถนนคนเดินเมืองคุนหมิงแต่ด้วยความที่ฝนตกพวกเราเลยแยกย้ายกันไปเดินในห้าง

ช่วงวันแรกๆไกด์เค้าแนะนำกระเป๋ายี่ห้อท้องถิ่นยี่ห้อหนึ่งชื่อห้องกูไม่แน่ใจว่าภาษาอังกฤษสะกดยังไงนะคะตอนที่เค้าแนะนำเราก็ไม่ได้สนใจตอนที่อยู่ลี่เจียงก็ว่าจะไปหาดูแต่ร้านปิดมาเจอที่คุนหมิงกระเป๋ายี่ห้อนี้สวยคุณภาพดีอย่างที่ไกด์เค้าแนะนำจริงๆค่ะกระเป๋าสตางค์ราคาอยู่ที่ประมาณสองพันกว่าบาทกระเป๋าสะพายราคาประมาณสามพันบาทขึ้นไป

ช็อปปิ้งเสร็จแล้วไปทานมื้อเย็นกันเป็นสุกี้เห็ดก็ไปเจอกับทัวร์ไทยที่ได้เจอที่ภูเขาหิมะมังกรหยกด้วยความที่ทั้งสองกรุ๊ปเป็นไพเวททัวร์แบบไม่มีหัวหน้าทัวร์แล้วกรุ๊ปเราไม่ได้เอาน้ำจิ้มสุกี้อะไรไปด้วยกรุ๊ปนี้เค้าก็เลยเอาน้ำจิ้มสุกี้น้ำปลา พริกป่น มาแบ่งให้พวกเรา คุณไกด์รูปหล่อของเค้าก็ดุลูกทัวร์ว่าเอาให้ทำไมเดี๋ยวไกด์ประจำกรุ๊ปของเราก็จะว่าเค้าได้ว่าเห็นเค้าดูแลลูกทัวร์ไม่ดีเหรอกรุ๊ปใครก็กรุ๊ปมันอย่าไปก้าวก่ายกันแต่พี่ๆก็บอกว่าสำหรับคนไทยถือเป็นน้ำใจแก่กันเราไม่ถือซึ่งพวกเราก็ต้องขอขอบคุณมากสำหรับน้ำใจนะคะ คนไทยเราไม่ถือจริงๆและไกด์เราเค้าก็ไม่ได้ดุพวกเราที่รับของอะไรจากกรุ๊ปอื่นด้วยเรางี้กินข้าวไม่อร่อยกันเลยไหนจะเพิ่งจะเจอฤทธิ์ร้ายหยกมายังจะมาเจอเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก

คืนนี้พวกเรานอนที่โรงแรมลองเวย์ซึ่งโรงแรมอยู่ติดกับตลาดกลางคืนพวกเราไปเดินซื้อสตรอว์เบอร์รี่กันค่ะราคากิโลละ20หยวน หวานอร่อยลูกโตๆ

18/1/2558 วันสุดท้ายของการเดินทางฝนตกอีกแล้วหมอกลงหนักด้วย ลูกทัวร์เริ่มใจคอไม่ดีกลัวว่าเครื่องบินจะดีเลย์เราจะบินกันในภาวะเครื่องบินสั่นหรือเปล่า ในรูปนี้มีสิ่งที่เราชอบอยู่สองอย่างคือร่มคลุมรถ,เสื้อกันฝนและ ไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์

ก่อนที่เราจะไปสนามบินก็ได้เที่ยวกันที่สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายสำหรับทริปนี้ที่วัดหยวนทงที่วัดนี้จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 24 พระหัตถ์และรูปปั้นของพระสังกัจจายปางก่อนที่จะเป็นพระสังกัจจายองค์อ้วนท้วนที่เราเคยเห็นซึ่งพระสังจัจจายจะมีประวัติว่าท่านเคยเป็นพระรูปงามมาก่อนซึ่งก็จะมีสาวๆมาคอยติดพันท่านจึงปล่อยตัวให้อ้วน

เดินบันไดปีนเขาขึ้นไปหน่อยก็จะเจอหอพระซึ่งมีพระพุทธชินราชจำลองที่อดีตนายกรัฐมนตรีเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ได้มอบให้เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีพุทธศาสนิกชนระหว่างไทย-จีน

วัดหยวนทงสร้างในสมัยราชวงศ์ถังเป็นวัดหลวงเก่าแก่ประจำเมืองคุนหมิงเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติยาวนานกว่า1,200 ปี

จากวัดหยวนทงเดินทางไปสนามบินคุนหมิงใช้เวลาประมาณ30 นาที ตามโปรแกรมเราจะมีอาหารมื้อกลางวันด้วยแต่ไกด์เกรงว่าจะใช้เวลานานไม่ทันขึ้นเครื่องเลยสั่งเบอเกอร์ของ KFC ให้กินระหว่างรอขึ้นเครื่อง ในสนามบินคุนหมิงมีร้านกังฟูด้วยนะคะเสียดายไกด์เตรียมอาหารกลางวันไว้ให้แล้วเลยอดกิน

ที่เมืองจีนห้ามนำส้มออกนอกประเทศนะคะผลไม้อื่นนำออกได้หมด และก็ไม่ให้โหลดพาวเวอร์แบงด้วยให้ถือขึ้นเครื่องเลย ตอนที่โหลดกระเป๋าสแกนไม่ผ่านดีที่ไกด์ยังอยู่ช่วยโหลดของเลยสื่อสารกันได้ว่าให้ถือพาวเวอร์แบงขึ้นเครื่องห้ามโหลด

จบทริปคุนหมิงต้าลี่ ลี่เจียง ประทับใจไกด์ประจำทริปมากดูแลพวกเราอย่างดี ดูแลดีจนพวกเรากลัวเขาขาดทุนสำหรับห้องน้ำจีนก็ตามสภาพนะคะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆ คนกลัว ไกด์เค้าบอกว่าทุกวันนี้ห้องน้ำทันสมัยขึ้นมากแต่ความสะอาดมันอยู่ที่คนใช้มากกว่าถึงแม้จะทำให้ดีอย่างไรแต่ถ้าคนไม่รักษาความสะอาดก็ไม่มีประโยชน์ 

จบการรีวิวสำหรับทริปนี้ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update : 24 กรกฎาคม 2559 13:39:25 น. Counter : 3762 Pageviews.		0 comments
Share Tweet