Group Blog All Blog
|
ก้าวผ่านความกลัวขับรถเที่ยวดูใบไม้เปลี่ยนสีที่คิวชูเหนือ ตอนที่ 2 ฟุคุโอกะ ซางะ สวัสดีค่ะ พูดถึงญี่ปุ่น ประเทศยอดฮิตขวัญใจชาวไทยส่วนตัวก็อยากไปมากแต่พอเห็นแผนที่รถไฟฟ้าใต้ติดทีไรอ่อนใจทุกที แต่พอมีสายการบินเจ็ทสตาร์มาเปิดบินตรงกรุงเทพ - ฟุคุโอกะ ด้วยราคาโปรที่ไม่แพงมากและการเดินทางที่ดูไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ก็เลยชวนอาไปเที่ยวคิวชูเหนือกัน ตอนแรกชวนกันไปแค่ 5คนไปๆ มา ๆ กลายเป็น 14 คนไปได้อย่างไร จากที่คิดว่าจะนั่งรถไฟเที่ยวกันเอง (คงวุ่นวายน่าดูไม่ไหวแน่)จัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว (ทัวร์ถามมีงบประมาณเท่าไหร่ ตอบว่าประมาณคนละ 35,000 บาทไม่รวมตั๋วเครื่องบินทัวร์บอกราคานี้เป็นไปไม่ได้) ก็เลยลองเสนอลูกทัวร์ดูว่าเช่ารถขับกันเองไหวไหม ลูกทัวร์ก็อิดออดกันมั่งจะขับกันไปยังไงรู้ทางเหรอ? ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง? แต่ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุดไม่ต้องเหนื่อยแบกกระเป๋าและประหยัดงบด้วยว่าแล้วไปดูโปรแกรมการเดินทางกันค่ะ 1/11/2015 เดินทางไปฟุคุโอกะนั่งรถไฟเที่ยวศาลเจ้าไดซาฟุ ช็อปปิ้งร้านดองกี้ นอนโรงแรม Toyoko inn Hakata-guchi Ekimae 2/11/2015 ขับรถเที่ยวหมู่บ้านยุฟุอิน นอนโรงแรม 3/11/2105 บ่อน้ำพุร้อน 6 บ่อ เดินทางกลับฟุคุโอกะ ช๊อปปิ้งห้างคาแนลซิตี้ นอนโรงแรม 4/11/2015 ขับรถเที่ยวศาลเจ้ายูโทกุ อินะริบุฟเฟ่ขาปูหมูดำคุโรบุตะ ช๊อปปิ้งห้างโยบาดาชิฮากะตะ นอนโรงแรม 5/11/2015 เดินทางกลับกรุงเทพ สำหรับตอนนี้เราจะมาต่อวันที่ 3-5 กันค่ะ 3/11/58 พวกเราตื่นมากินอาหารเช้าของโรงแรม เค้าจะจัดเป็นเซตเมนูไว้มีข้าวเปล่า ซุป ปลาย่าง สลัด ชา กาแฟ น้ำส้ม สำหรับคนที่กินแบบจัดหนักมื้อเช้ารับรองว่าไม่อิ่มแน่นอนค่ะ ที่เมืองเบปปุเค้าจะดังเรื่องน้ำพุร้อน วันนี้เราจะไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน Jigoku Meguri กันค่ะ คนไทยเรียกว่าบ่อน้ำพุร้อนนรก ขับรถจากโรงแรมไปไม่ถึง 15 นาทีก็เห็นป้ายสีฟ้าเด่นมาแต่ไกล ที่บริเวณนี้จะมีบ่อน้ำพุร้อน 6 บ่อ ส่วนอีก 2 บ่อจะอยู่ห่างออกไปอีกที่หนึ่ง ก่อนอื่นไปซื้อตั๋วเข้าชมกันก่อนค่าเข้าชมถ้าเป็นบ่อๆ ก็ราคาบ่อละ 400 เยน ถ้าเหมา 8 บ่อราคารวม 2,400 เยน พวกเราซื้อเหมากะว่าจะดูให้ครบแปดบ่อ แต่เอาเข้าจริงแนะนำว่าถ้าไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้นำ้พุร้อน เอาแบบแยกบ่อดีกว่า เพราะแค่บ่อสองบ่อก็เบื่อแล้วหละ ที่บ่อน้ำพุร้อนจอดรถฟรีค่ะแล้วที่นี่เค้าจะดังเรื่องพุดดิ้งที่ทำโดยผ่านความร้อนของน้้ำพุแต่เราว่าไม่อร่อยนะมันขม หรือเป็นเฉพาะร้านหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ชื่อน้ำพุทั้ง 8 บ่อรายละเอียดตามนี้ค่ะ บ่อที่ 1 มีชื่อว่า Umi Jigoku (Sea Hell) เป็นบ่อน้ำใส สีฟ้าควันพวยพุ่ง มีสระบัว และเสาแดงอยู่หน้าบ่อด้วย บ่อที่2 มีชื่อว่า OniishibozuJigoku (Monk's Hell) หรือบ่อโคลนเดือด น่าจะเป็นโคลนที่เขาเอามาทำโคลนพอกหน้าหรือเปล่า บ่อที่ 3 ชื่อว่า Yama-Jigoku(Mountain Hell) แนวหินกับควัน บ่อนี้ค่อนข้างโทรมค่ะ เค้าเลยต้องมีสัตว์มาทำให้มีอะไรน่าสนใจมากขึ้น มีหนูตัวเท่าหมู ฮิปโป นกยูง ฯลฯ บ่อที่ 4 ชื่อว่า Kamado Jigoku(Cooking Pot Hell) น้ำใสมากเห็นไปถึงก้นบ่อเลยส่วนตัวว่าบ่อนี้สวยสุด บ่อที่ 6 ชื่อบ่อ Shiraike-Jigoku (White Pond Hell) ตรงนี้มีปลาสวยงามให้ชมด้วยค่ะ เวลา ณ ตอนนั้นก็เกือบเที่ยงแล้วค่ะ แล้วอย่างที่บอกว่าอาหารเช้ากินไม่อิ่ม ก่อนจะกลับเข้าเมืองฟุคุโอกะพวกเราเลยแวะกินอาหารกลางวันกันก่อนร้านนี้อยู่ติดกับทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนเลย เป็นบุฟเฟ่คล้ายซิสเลอร์ สั่งเมนเมนูหนึ่งจาน ก็ได้กินสลัดบาร์ฟรี เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเมนเมนูมา ราคาประมาณหัวละ 300 บาทค่ะ กินอิ่มแล้วพวกเราก็เดินทางกลับโรงแรม Toyoko inn Hakata-guchi Ekimae ขากลับเริ่มคล่องใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมงไม่มีหลง ถึงโรงแรมประมาณบ่ายสามก็เช็คอินพักผ่อนกันซักพักก็ได้เวลาช็อปปิ้งค่ะ ที่โรงแรมไม่มีที่จอดรถให้นะคะ ต้องจอดไว้ที่เค้าเก็บเงินหน้าโรงแรมเสียค่าบริการคันละประมาณพันกว่าบาทต่อคืน (แพงเน๊าะ) ได้เวลาช็อปปิ้งพวกเราเดินไปช็อปกันที่ Canal city กะว่าจะไปซื้อเครื่องสำอางค์กับรองเท้า แต่พอดูๆ แล้วราคาแพงกว่าดองกี้ เลยเดินไปซื้อที่ร้านดองกี้ที่สถานี Nakasu kawabata ไม่ไกลค่ะ เดินได้สบายเลย ช็อปปิ้งเรียบร้อยก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับโรงแรม สถานี Hakata Exit west 5 หมดวันที่ 3 4/11/2015 ตามโปรแกรมที่จัดมาวันนี้เราจะขับรถไปเที่ยวเมืองซางะและเมืองนางาซากิ แต่ด้วยเหตุที่คนขับรถเราไม่กล้าเนี่ยแหละเลยต้องตัดให้เหลือแต่ไปศาลเจ้ายูโทกุ อินะริ (Yutoku Inari Shrine) ไปตามรอยกลกิโมโน กันค่ะ จาก Hakata ไป ศาลเจ้ายูโทกุ อินะริ เมือง Kashima จังหวัดซางะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมงตลอดสองข้างทางจะเป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณ และทุ่งนา สวยมาก ที่ศาลเจ้านี้ เป็นสถานที่หนึ่งที่ใช้ถ่ายทำเรื่องกลกิโมโน แต่ๆๆๆ พวกเราไม่เคยมีใครเคยดูเรื่องนี้เลยค่ะ บริเวณศาลเจ้ามีต้นซากุระหลายต้น ถ้าไปช่วงซากุระบานคงสวยมาก เดินเที่ยวที่นี่ต้องใช้แรงพอสมควรเพราะมีทั้งบันไดและทางเดินขึ้นเขา ด้านข้างศาลเจ้าเค้ามีถนนคนเดินไว้ให้ช็อปปิ้งด้วยนะคะ สินค้าที่ขายก็จะคล้ายกันเป็นพวกขนม ตะเกียบ ของที่ระลึก ฯลฯ กลับจากศาลเจ้า พวกเราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารแถวที่พักรถบนไฮเวย์ค่ะ อาหารอร่อยราคาก็ไม่ต่างจากร้านค้าข้างนอก กินแล้วก็เดินทางกลับโรงแรมให้ลูกทัวร์พักผ่อนกันซักหน่อย เราและคนขับรถก็เอารถไปคืนที่ Nippon rent a car สาขา Hakata exit เราไม่ได้เติมน้ำมันรถนะ บริษัทเค้าก็ให้จ่ายค่าน้ำมันรถแล้วก็ค่าทางด่วนที่ไม่รวมใน Express pass เสร็จแล้วก็เดินกลับโรงแรม ได้เวลาที่ร้าน บุฟเฟ่ขาปูหมูดำคุโรบุตะเปิดก็ออกเดินไปกินบุฟเฟ่กันค่ะ CR.To owner ขอบคุณเจ้าของรูปด้วยค่ะ สาขานี้ร้านเปิดเวลา 5.30 PM ค่ะ ตอนที่ไปถึงร้านยังไม่มีลูกค้า มีแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียว ลุงป้าเจ้าของร้านเค้าเปิดประตูร้านออกมาต้อนรับพวกเรากันเลย แล้วก็มีพนักงานแค่ลุงกับป้าสองคน บุฟเฟ่เค้าไม่จำกัดเวลานะ คิดค่าบริการคนละ 2500 เยน บังคับสั่งน้ำคนละ 1 แก้วราคาประมาณ 400 เยน ค่าเซอร์วิสชาร์จ 400 เยน ภาษีอีก 8%(ก็ไม่บอกตัวเลขตรงๆนะกว่าจะคำนวณได้ว่าตกลงหัวละเท่าไหร่) สรุปแล้วจะอยู่ที่ประมาณคนละ 3,564 เยน ป้าเค้าเสริฟให้เราแค่ 2 ชุดนะ แล้วต้องกินอาหารชุดเดิมให้หมดด้วยถึงจะเสริฟชุดใหม่ พอเสริฟได้ 2 ชุดป้าก็หายเข้าหลังร้าน เรียกยังไงก็ไม่เสริฟเพิ่มละ รสชาติอาหารโอเคเลยค่ะ กินอิ่มแล้วก็ถึงเวลาช็อปปิ้งค่ะ พวกเราได้ยินชื่อเสื้อผ้ายี่ห้อ GU กันมาพอสมควรว่าเป็นแบร์นน้องขอยูนิโคล่ คุณภาพอาจจะสูงแบร์ดพี่ไม่ได้แต่ราคาถูก ก็เลยเลือกไปช็อป GU กันที่ห้าง Yodobashi Hakata ช็อปปิ้งเสื้อผ้ากันสนุกสนามเดินอยู่สองร้าน GU กับ ABC MART ร้านขายเสื้อผ้ากับร้านขายรองเท้า สองร้านนี้อยู่ตรงข้ามกัน ช็อปจนร้านปิดแล้วก็กลับโรงแรมนอน หมดวันที่สี่ค่ะ แผนที่ห้าง CR To Owner ขอบคุณเจ้าของรูปค่ะ 5/11/2015 วันสุดท้ายของการเดินทาง ตื่นกันแต่เช้ากินอาหารเช้าของโรงแรมแล้ว เราบอกให้พนักงานโรงแรมเรียกรถแท็กซี่ไปส่งที่สนามบินตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ พอเจ็ดโมงเช้าแท็กซี่ก็มาจอดรอหน้าโรงแรม 4 คัน ค่ารถแท็กซี่คันละประมาณ 2,000 เยนไม่คิดค่ากระเป๋าเพิ่มค่ะ ปิดทริปฟุคุโอกะ กับการเดินทางในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยทำกันมาก่อน ขอแค่มีความกล้าเราก็สามารถทำได้แน่นอน บ๊ายบายคิวชูเหนือ ไว้เจอกันใหม่นะ |
kumyotha
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Friends Blog
Link |