แหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงราย ตอนที่ 2
วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวในเมืองเชียงรายกันต่อนะคะ เริ่มจากการไปทำบุญที่วัดพระสิงห์กันก่อนค่ะ
ขอบคุณแผนที่จาก www.paiduaykan.com
วัดพระสิงห์ เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่แต่โบราณกาล และเป็นศาสนสถานอันเป็นศูนย์รวมใจของชาวเชียงรายมาอย่างยาวนาน มูลเหตุที่ได้ชื่อว่า วัดพระสิงห์ นั้นเชื่อกันว่า น่าจะมาจากการที่ครั้งหนึ่ง วัดนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของไทยในปัจจุบัน คือ พระพุทธสิหิงค์ หรือที่เรียกกันในชื่อสามัญว่า พระสิงห์
พระอุโบสถสร้างขึ้นราวปีพ.ศ. 1251 - พ.ศ. 1252 ปีฉลู-ปีขาล เดือน 8 ขึ้น 12 ค่ำ วันเสาร์ เวลา 12.00 น. (พ.ศ. 2432 ถึง พ.ศ. 2433) รูปทรงเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน โครงสร้างเดิมเป็นไม้เนื้อแข็ง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้มีสภาพสมบูรณ์ และสวยงามยิ่งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2504 และครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2533 โดยพระราชสิทธินายก เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธปฏิมาศิลปะล้านนาไทย พุทธศตวรรษที่ 21 ปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทอง หน้าตักกว้าง 204 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 284 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถมีพุทธลักษณะสง่างาม ประณีต ที่ฐานมีจารึกอักษรธรรมล้านนาไทยว่า กุลลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพยากตา ธมฺมา อันหมายถึง ปริศนาธรรมระดับปรมัตถ์ในทางพระพุทธศาสนาที่ระบุว่า สภาวะธรรมทั้งปวงมี 3 ประเภท คือ 1.ธรรมทั้งหลายที่เป็น กุศล ก็มี 2.ธรรมทั้งหลายที่เป็น อกุศล ก็มี 3.ธรรมทั้งหลายที่อยู่นอกเหนือจาก กุศลและอกุศล ก็มี
พระเจดีย์ เป็นพุทธศิลป์แบบล้านนาไทย สร้างในสมัยเดียวกันกับพระอุโบสถ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง คือ พ.ศ. 2492 ครั้งหนึ่ง โดยท่านพระครูสิกขาลังการ เจ้าอาวาสในขณะนั้น และอีกหลายครั้งในสมัยต่อมา โดยท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
ต้นสาละลังกาเป็นไม้มงคลเนื่องในพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ คือ เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับสำเร็จสีหไสยาสน์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมกิตติโสภณ นำมาจากประเทศศรีลังกา และนำมาปลูกไว้ที่วัดพระสิงห์เมื่อ พ.ศ. 2512
ระฆังสมโภชเชียงรายครบรอบ 750 ปี ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โรงเรียนศรีปริยัติวิทยากร
อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงราย
ฟ้าหลังฝน สวยงามจริง ๆ ค่ะ
ช่วงเย็นจะมีการแสดง แสง สี เสียง
ดอกไม้รอบ ๆ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
หอนาฬิกาเชียงราย ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่สวยที่สุดในประเทศไทย สร้างสรรค์และออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ที่สร้างวัดร่องขุ่นนั่นเอง มีระบบแสง สี เสียง เริ่มเวลา 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่ม ซึ่งชาวเชียงรายเรียกกันว่า "สี่แยกหอนาฬิกา"
หมูยอชื่อดังในเชียงราย "สุจินต์ หมูยอ"
"โรงแรมสุขนิรันดร์" อยู่เยื้อง ๆ กับ "สุจินต์ หมูยอ"
กลับบ้านก่อนค่ะ เดี๋ยวบล๊อกหน้าจะพาไปเที่ยวกันต่อนะคะ
ขอบคุณที่แวะเยี่ยมชมและทักทายกันนะคะ
Create Date : 29 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2557 14:06:11 น. |
|
9 comments
|
Counter : 4999 Pageviews. |
|
|