Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
11 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 
น่านนะสิ :: ตอนที่ 4 กระซิบรัก ณ น่าน



น่านนะสิ








30 มกราคม 2561  เช้าวันที่ 3 ของการเดินทางสู่ จ.น่าน  วันนี้เราตื่นเช้าสักหน่อยเพราะต้องเดินทางกลับบ้านที่เชียงรายแล้ว ช่วงเช้านี้ก็แวะไหว้พระในตัวเมืองน่านเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันก่อนค่ะ

เมื่อคืนเราพักที่เฮือนข่วงน่าน ไม่มีอาหารเช้าเราก็แวะไปทานเกาเหลาเลือดหมูในตลาด จากนั้นก็ได้เวลาท่องเที่ยวกันแล้ว สถานที่แรกที่แวะไปวันนี้


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

เดิมเป็นที่ประทับของพระเจ้าสุริยพงษ์ผลิตเดชฯ พระเจ้าน่าน ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2446 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น มีมุขด้านหน้า หลังคามุงด้วยไม้แป้นเกล็ด บนเนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา ครั้นเมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้ายถึงพิราลัย เจ้านายบุตรหลานของเจ้าผู้ครองนครน่านจึงได้มอบหอคำหลังนี้พร้อมที่ดินให้แก่รัฐบาล เพื่อใช้เป็นอาคารศาลากลางจังหวัดน่าน ต่อมาเมื่อกระทรวงมหาดไทยได้ก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ขึ้น กรมศิลปากรจึงได้ขอรับมอบอาคารเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ขึ้นในปี พ.ศ. 2517 และประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการขึ้นในปี พ.ศ. 2528 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2530


ภายในอาคารจะมีโบราณวัตถุที่สำคัญ

1. งาช้างดำ มีลักษณะเป็นงาปลียาว 97 เซนติเมตร วัดโดยรอบตรงส่วนใหญ่ที่สุด 47 เซนติเมตร โพรงตอนโคนลึก 14 เซนติเมตร สีออกน้ำตาลเข้มไม่ดำสนิท มีจารึกอักษรล้านนาว่า "กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน" หรือประมาณ 18 กิโลกรัม สันนิษฐานว่าเป็นงาข้างซ้ายเพราะมีรอยเสียดสีกับงาชัดเจน ชาวจังหวัดน่านถือว่า งาช้างดำเป็นวัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่านและถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดน่าน เป็นวัตถุโบราณที่หายากและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันงาช้างดำเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

ในส่วนของ ครุฑ ที่แบกรับงาช้างดำไว้นั้น แกะสลักจากไม้สักทั้งท่อนโดยช่างสกุลน่าน สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2469 เนื่องจากช่วงนั้นมีข่าวว่าเจ้าเมืองฝ่ายเหนือบางเมืองคิดแข็งข้อก่อการกบฏต่อราชวงค์จักรี เจ้าผู้ครองนครน่านจึงสั่งให้ทำพระครุฑพ่าห์ขึ้นมาแบกรับงาช้างดำวัตถุคู่บ้านคู่เมืองไว้ เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า "นครน่านในยุคนั้นยังคงจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์อยู่ไม่เสื่อมคลาย..."

2. หีบพระธรรมไม้แกะสลัก ฝีมือช่างสกุลน่าน

3. สมุดข่อยอาณาจักรหลักคำกฎหมายเมืองน่าน

4. ครุฑยุคนาค ฝีมือช่างล้านนา

5. ศิลาจารึกหลักที่ 64 อักษรสุโขทัย กล่าวถึงการกระทำสัตย์สาบานช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อเกิดศึกสงครามระหว่างเจ้าพระยาผากอง เจ้าผู้ครองนครน่าน และพระมหาธรรมราชาที่ 2 กษัตริย์แห่งสุโขทัย

6. ศิลาจารึกหลักที่ 74 อักษรธรรมล้านนา กล่าวถึงพญาพลเทพกุรไชย เจ้าเมืองน่าน ได้ทำการบูรณะพระมหาวิหารให้วัดหลวงกลางเวียง (วัดช้างค้ำ)

(ประวัติคัดมาบางส่วนจาก วิกิพีเดีย)





พิพิธภัณฑสถานเปิดเข้าชมวันพุธ - อาทิตย์ แต่วันที่เรามาคือวันอังคาร  Smiley  อดเข้าชมสิคะ Smiley





ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็แวะมาแล้วเดินไปถ่ายรูปรอบ ๆ ด้านนอกก็ได้ค่ะ









ภายในพิพิธภัณฑ์ เป็นที่ตั้งของวัดน้อย วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย จากคำบอกเล่าที่สืบทอดต่อกันมาเชื่อว่า พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 63 เป็นผู้สร้างขึ้น โดยสาเหตุมาจากครั้งหนึ่งที่พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลถึงจำนวนวัด ทั้งหมดในเมืองน่านแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ปรากฏว่าในกราบบังคมทูล คราวนั้นพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯได้นับ จำนวนวัด เกินไปหนึ่งวัด จึงได้หาทางทำการสร้างวัดน้อย แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้ครบตามจำนวนที่กราบบังคมทูลไป ซึ่งการเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5 นั้นจากหลักฐานปรากฏว่า มีเพียงครั้งเดียวคือ ในพ.ศ.2416 จึงสันนิษฐานกันว่าวัดน้อยแห่งนี้คงได้ทำการสร้างหลังจากนั้น รูปทรงของวัดเป็นวิหารก่ออิฐ ถือปูน ขนาดกว้าง 1.98 เมตร ยาว 2.34 เมตร สูง 3.35 เมตร แบบศิลปะล้านนา สกุลช่างน่านมีพระพุทธรูปและแผงพระพิมพ์ไม้ประดิษฐานอยู่ภายใน วัดน้อยแห่งนี้ 

(ข้อมูลจาก ไปด้วยกัน.คอม)





เดินมาด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ มีซุ้มต้นลีลาวดีที่สวยงามมากค่ะ ใครมาที่นี่ก็ไม่พลาดจะแวะถ่ายรูปสวย ๆ กัน





















มองเห็นพระธาตุช้างค้ำ อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน

































เก็บภาพเรียบร้อย เราก็ข้ามมาอีกฝั่งเพื่อไปที่วัดภูมินทร์





แต่ก่อนเข้าไปในวัด ขอแวะตรงข้ามวัดก่อนนะคะ พอดีคอแห้งอยากทานกาแฟ





เห็นป้าย Cafe' Amazon  ตอนที่เราเคยมาเมื่อ 5 ปีก่อนตรงนี้ก็เคยเป็นร้านกาแฟแต่ไม่ใช่ของ Amazon นะคะ













กาแฟมาแล้ว ชื่นใจหายร้อนเลย เสียดายมาน่านครั้งนี้อากาศร้อนมาก ขนเสื้อกันหนาวมาจากบ้านหลายตัวแทบไม่ได้ใส่เลยค่ะ Smiley





ยืนถ่ายรูปนี้จากร้านกาแฟ วัดภูมินทร์ก็อยู่ตรงข้ามนี่เอง





หายเหนื่อย หายร้อนแล้วก็ทำจิตใจให้สงบเดินเข้าวัดกันได้แล้วค่ะ





วัดภูมินทร์

เดิมชื่อวัด พรหมมินทร์ สร้างขึ้นโดยพระเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าครองเมืองน่าน โดยมีโบสถ์ และ วิหารรวมเป็นอาคารหลังเดียวกัน ประตูไม้ทั้งสี่ทิศแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมพระเจตบุตรพรหมมินทร์ โดยมีพระอุโบสถ เป็นทรงจตุรมุข และ พระประธานจตุรพักตร์ มีนาคสะดุ้งขนาดใหญ่ตั้งสง่าอยู่ทั้งสองฟากทางเข้าพระอุโบสถ สันนิษฐานว่าเป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของประเทศ พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ ซึ่งหันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย และยังมีจิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงเขียนขึ้นในช่วงสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ปลายรัชกาลที่ 4 เป็นภาพจิตรกรรม หรือฮูบแต้ม ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น และ ภาพที่มีชื่อเสียงภาพหนึ่งคือ ภาพ ปู่ม่าน ย่าม่าน ซึ่งถือว่ามีความงดงามและประณีตเป็นอย่างมาก




































วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เดิมชื่อ วัดหลวงกลางเวียง เจ้าผู้ครองนครน่าน พญาภูเข่ง เป็นผู้สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1949 พระวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เป็นวิหารขนาดใหญ่ รูปทรง สร้างตามสถาปัตยกรรม ทางภาคเหนือ

ภายในวัดประดิษฐาน เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 รอบเจดีย์ มีรูปปั้นช้างปูนปั้น เพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปทองคำปางลีลา คือ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ซึ่งเป็นทองคำ 65 % สูง 145 เซนติเมตร ยอดพระโมฬีทำเสริมเมื่อ พ.ศ. 2442 หนัก 69 บาท เจ้างั่วฬารผาสุม เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 14 แห่งราชวงค์ภูคา เป็นผู้สร้าง เมื่อวันพุธ เดือน 6 เหนือ พ.ศ. 1969 เป็นศิลปะสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ที่หอพระไตรปิฎก ใหญ่ที่สุดในประเทศ

(ข้อมูลบางส่วนจาก วิกิพีเดีย)


















ฝั่งตรงข้ามวัดก็เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน















วัดพระธาตุเขาน้อย

ตำบลดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน เป็นวัดราษฎร์ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า และวิหารสร้างในสมัยนี้เช่นกัน

จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542


(ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)




































































วัดสุดท้ายก่อนกลับค่ะ


วัดศรีพันต้น

โบสถ์สีทองสวยงาม ตั้งอยู่กลางเมืองน่าน

















ขับรถออกจากเมืองน่านมาประมาณ 35 กม. เจอจุดชมทะเลหมอกวิวสุดอันซีนแห่งใหม่ของเมืองน่าน แต่เรามาก็บ่ายแก่ ๆ แล้วไม่มีหมอกให้เห็น Smiley ที่นี่จะมีร้านกาแฟ และขายอาหารด้วยนะคะ


ดอยตีดู้ว์  ภาษาม้ง แปลว่า ใกล้ขอบฟ้า


ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1091 (น่าน-พะเยา) ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน































































คลิ๊กที่นี่  ===> ตอนที่ 1 เดินทางจากเชียงรายไปน่าน


คลิ๊กที่นี่  ===> ตอนที่ 2 กินข้าวที่ฟาร์มเห็ด ไปดูด่านพรมแดนห้วยโก๋น นอนพักที่ปัว



ได้เวลากลับเชียงรายแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงตอนจบนะคะ


Smiley








Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2561 19:40:40 น. 9 comments
Counter : 4707 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ


 
ช่วงคุณกอไปสบาย ๆ เลย ไม่ต้องแย่งกับใคร พี่ไปช่วงเทศกาลทั้ง 2 รอบเลยค่ะ

ไปอีกรอบนะคะ เข้าพิพิธภัณฑ์ฯ พี่ก็เพิ่งได้เข้ารอบหลังเหมือนกันค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:20:36:38 น.  

 
ตอนปี 2555
ผ่านน่านไปเชียงม่วน ไม่มีอะไรเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:22:03:28 น.  

 
ตามมาเที่ยวน่านด้วยค่ะ
ยังไม่เคยไปเลย
เพลงเพราะมาก



โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:2:08:26 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:3:08:53 น.  

 
เมื่อก่อน ยังคิดว่า น่านมีถนนเล็กๆ คนใส่บาตร เงียบ ๆ ท่าม
กลางสายหมอกที่ปกคลุมทั่วเมือง
น่าน...

พอดูภาพ อ้าวไม่ใช่แล้ว เป็นเมือง
ใหญ่พอประมาณ

ใจก็ยังคิดว่า น่านคงจะรักษา
ประเพณี บ้านเรือนวิถีชีวิตแบบ
ดั่งเดิมไว้ เป็นจุดขาย

เห็นภาพข้างบน สวยดียังน่าไป
อยู่ครับ

ภาพกระซิบรัก... เป็นศิลปที่คนทั่วไปนิยม ชอบ เลยก๊อบกันเยอะ
เจ้าของภาพหรือคนวาดภาพ ภูมิใจแน่นอนที่ คนชอบ..

v


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:11:03:07 น.  

 
ทำไมก็ไม่รู้นะครับ เห็นอะไรเกี่ยวกับน่าน ต้องนึงถึงคุณเข็มอัปสรกับคุณรามาวดี สิริสุขะ ทุกทีไป คริๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:13:13:58 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่กอ
ขออนุญาตเรียกพี่กอไปพราง ๆ ก่อนนะคะ
จินยังไม่รู้ชื่อเล่นพี่เลย
เรียกตามพี่หนู สายหมอกไปก่อนเนอะ

หายหัวไปคราวก่อน
ถูกไข้หวัดสายพันธุ์เอบุกบ้านค่ะ
สี่คนพ่อแม่ลูก งอมพระรามตามระเบียบ
แต่ว่าวันนี้พร้อมลุยแล้วววว

จินตามไปบ่อเกลือมาแล้วน๊า
แต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้

ภาพปู่ม่านย่าม่านก็ยังคงมีเสน่ห์
ดึงดูดคนไปหา ไปน่านต้องไปหาปู่ม่านย่าม่าน
ถ่ายรูปต้นจำปาลาวหน้าพิพิธภัณฑ์
ถึงจะบอกว่าถึงน่านจริง ๆ แล้วเนอะ^^

จินไปคราวก่อน เอ่อ ก็หลายปีผ่านมาอยู่
แต่ยังทันได้เห็นงาช้างดำ ของคู่บ้านคู่เมืองน่านอยู่ค่ะ
เสียดายพี่กอไม่ได้เห็น
ไปใหม่ๆๆ อิอิ

วันนี้หมดตัวหมดใจแล้วค่า
แจกใช้หนี้เพื่อน ๆ เกลี้ยงแต่เช้า
พรุ่งนี้จินมาโหวตกับมาแปะให้ค่า



โดย: JinnyTent วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:17:46:23 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ kor_pink เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 8 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:11:55:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกอ

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ kor_pink เรียบร้อยแล้วนะคะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:17:45:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kor_pink
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]





บันทึกการเดินทาง

19 พฤษภาคม 2556 หลังจากเริ่มหัดเขียน blog มาได้สักระยะแล้ว ก็ได้รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้มีมิตรภาพอยู่มากมาย
เนื่องจาก จขบ. เป็นคนชอบท่องเที่ยวและเก็บภาพที่ไปไว้ จึงอยากแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ที่ได้พบเจอมาลงในบล๊อกแห่งนี้ค่ะ ยังไงก็ลองติดตามดูกันนะคะ ^_^

(ขอบคุณของแต่ง blog จาก ยายเก๋า(ชมพร) คุณญามี่ คุณเนยสีฟ้า และขอบคุณทุกเพลงจากท่านที่นำมาลงในยูทูป นะคะ)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายกันค่ะ


New Comments
Friends' blogs
[Add kor_pink's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.