hblog
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 

ชะตาของบี๋น้อย ตอนที่ 1

วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจพิกล นั่งเขียนอะไรเอาไว้ดีกว่า นานๆทีจะมีอารมณ์แบบนี้สักที ก็สัปดาห์ที่ผ่านมาน่ะสิ อาการแพ้ท้องกำเริบ รู้สึกว่าอึดอัด อาหารไม่ย่อย ทานน้อยก็ไม่ย่อย ไม่ทานก็หิว พอทานไป 3 คำก็อิ่ม บางทีก็หิวแต่ก็ไม่อยากทาน พอคิดถึงกับข้าวที่ชอบกลับรู้สึกเวียนเกล้า คลื่นเหียนเอาซะงั้น เล่นเอาวันๆ ไม่ต้องทำอะไร วนเวียนอยู่กับตู้เย็น แล้วก็หาๆของที่จะทานได้ ลองทานของในตู้ที่มีอย่างละคำ แต่รสชาติก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ตอนนี้ลิ้นเราได้เปลี่ยนรสชาติของอาหารทุกอย่างไปแล้ว ชอคโกเลตยี่ห้อไหนก็จืดไปหมด โดนัท Krispy Kream ที่ชอบนักชอบหนา ก็ดูไม่น่าอร่อย ขนมเค้กก็จืด กับข้าวไทยๆ รสชาติแซบๆอย่างต้มยำกุ้ง ก็กลายเป็นน้ำต้มยำขมๆ ข้าวสวยหอมๆก็กลายเป็นกลิ่นน่าเวียนหัว อาหารผัดทอดต่างๆก็ดูไม่น่าหม่ำ ต้มจืด มันก็ยิ่งจืดกว่าเดิม คำเดียวก็ทานไม่ลง เฮ้ออ.. เกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ตอนอยากลดน้ำหนักก็ไม่รู้ แม้แต่ตอนลด นน. ก่อนแต่งงาน ยังทานได้มากกว่านี้ซะอีก ตอนนั้นยังทานสลัดได้ไม่อั้น ทานน้ำสลัดได้ทุกรส ตอนนี้ผักก็ขมไปหมด ดูไม่น่าหม่ำซะเลย แย่จัง สงสัยบี๋น้อยคนนี้จะไม่ชอบกินข้าว สมกับเป็นเด็กนอกจริงๆลูกชั้น วันๆ ขอขนมปังแผ่นนึงราดนมข้นหวานกะฝรั่งสด 1 ลูก สบายใจ (แอบคิดในใจว่าเจ้าตัวเล็กต้องชอบไปเที่ยวเมืองนอกเหมือนมี๊มันแน่ๆ คิๆๆ)


จนถึงวันนี้อาการเหล่านี้ก็ยังไม่หายไป แต่เราก็รับมือกับอาการได้ดีขึ้น ก็ทำอะไรแล้วรู้สึกว่าจะไม่แพ้ก็ทำ ถ้ารู้สึกว่าจะแพ้ก็หยุดเท่านั้นเอง ตอนนี้ทำได้แค่นี้แหละ


วันที่ผ่านๆมาเป็นการรับความรู้จากเพื่อนๆ (ที่มีลูกแล้ว และอยากมีลูก และไม่อยากมีลูก) ทุกสารทิศเกี่ยวกับการคลอด ที่อยากรู้ก็เพราะว่ารู้สึกว่าพุงเริ่มจะตึงๆ และคงจะตึงขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยคิดว่าเจ้าบี๋น้อยคงจะโตขึ้นเรื่อยๆ แล้วในที่สุดก็ต้องออกวิ่งวุ่นอยู่รอบๆเรา ว่าแล้วก็ต้องคิดวิธีพาเจ้าบี๋น้อยออกมาอย่างปลอดภัยซะก่อน เริ่มด้วยว่าจะผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติ ก่อนละกัน


เริ่มเก็บสถิติกันเลยดีก่า นับกันดูสิว่ามีเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกี่คน แล้วคลอดกันไปแล้วกี่คนและคลอดแบบไหนกันบ้าง โอะโอ คลอดธรรมชาติ 50% แล้วก็ผ่าคลอด 50% เท่าๆกันเลยหรือนี่ เอ.. งั้นแบบไหนทรมานกว่ากันนะ มายก๊อด เสียงเทไปอยู่ที่คลอดธรรมชาติ ทรมานทุกราย เริ่มจาก เจ็บมาก เจ็บสุดๆ เจ็บที่สุดในชิวิต แล้วก็เจ็บจนทำร้ายสามีในห้องคลอด โอ้ มาย ก็อด น่ากลัวทุกรายเลยอ่ะ แล้วมีเตือนว่า ถ้าอยากเจ็บแบบรุ่นแม่ๆ ก็ลองดู แล้วค่อยมาขำๆ หลังคลอด เหอๆ แล้วผ่าคลอดละ โหวตกันมาว่า ไม่เจ็บเลย ดีมาก ขอแนะนำ ผ่าดีกว่า ไม่ต้องรอปากมดลูกเปิด และ สบายดีเร็วด้วย แต่ข้อเสียติงมาว่าเจ็บแผลหน่อยนะ มีแผลเป็นนิดหน่อย ประมาณนี้ โอ้ พระเจ้า เครียดๆ เอาไงดีๆ คิดไม่ออกจริงๆ ก็มี๊กลัวมีดอ่ะ อยากเป็นแพนด้าจริงๆ ออกมาเป็นแนวหนอนๆ แล้วเลี้ยงในถุงหน้าท้องจนเป็นตัวได้ไหมเนี่ย กลัวๆๆ ว่าแล้วก็หวนคิดไปถึงสารคดีลูกยีราฟที่ดูกะคุณป๊ามะคืน ยีราฟมันออกมาจากแม่ยังไงอ่ะ ยาวซะขนาดนั้น น่ากลัวอีกแว้ววว เฮ้อๆ ไม่คิดๆๆ


ในที่สุดเราก็ไม่สามารถสรุปชะตาเจ้าบี๋น้อยในการนี้ได้ว่าจะให้คลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอดดี เอาเป็นว่าบี๋น้อยก็หวั่นใจต่อไปก่อนละกันนะลูกว่าหนูจะออกมายังไง หนูก็ทำตัวดีๆละกัน อิอิอิ มี๊เตือนว่าทำตัวดีหนูจะได้ออกมาดูโลกแบบสบายๆ ฮ่ะๆๆๆ


อีกเรื่องที่กังขาอยู่กะคือวันคลอด หมอกำหนดมาว่าจะคลอดวันที่ 29 ธันวา พอใครถามก็บอกไปตามที่หมอบอก เราก็คิดว่าดีเหมือนกันเป็นวันหยุดเอกชน ใครๆก็หยุด ป๊ะป๋าก็หยุด คุณตาก็หยุด หยุดกันให้หมด (ยกเว้นหมอนะฮะ) เราก็จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงตัวเล็ก แต่บางคนไม่คิดอย่างนี้น่ะสิ เค้ามาบอกว่าน่าจะเกิดปีใหม่นะบ้าง ทำไมเกิดปลายปีบ้าง หรือไม่ก็อั้นไว้แล้วคลอดวันที่ 1 ปีใหม่ได้ไหม อยากจะบอกว่าเรื่องแบบนี้เค้ากำหนดกันได้ไหมอ่ะ ที่ไหนเค้าสอนอั้นลูกอะ เวลาดูทีวี ก็เห็นว่าพอถึงเวลาคลอดหมอก็บอกให้ "เบ่งค่ะ แรงๆค่ะ อีกทีค่ะ" ไม่มีใครบอกคนบนขาหยั่งว่า "อั้นไว้ค่ะ อั้นไว้ อย่าเพิ่งเบ่งค่า..เก็บไว้อีกวันค่า " สักคน เวลาเรียนเตรียมตัวคลอดเค้ามีสอนวิธีอั้นลูกด้วยหรอยะ เฮ้อ.. เค้าคิดอะไรกันนะคนที่ค้านเรื่องวันเกิดบี๋น้อยเนี่ย มี๊ชักฉุนๆซะแร้ว แหมมม


ตอนนี้ก็อ่านหนังสือพวกคู่มือคุณแม่ตั้งครรภ์ และสารพันแมกกาซีนเกี่ยวกับแม่และเด็กและคุยกะเพื่อนๆที่ผ่านประสบการณ์อันโชกโชน ยิ่งอ่านมากรู้มากก็เครียดมาก แต่ละอาการที่ในหนังสือสาธยายมานั้นก็น่ากลัวทุกอย่าง แพ้โน่นนี่ พุงลายแล้วไม่หายงี้ ลูกอาจเป็นโน่นนี่ นอนไม่หลับ นมคัด สโพกขยาย (ขยายแล้วขยายเลย) งี้ ฮอร์โมนเปลี่ยนมากแพ้ท้องนานผิดปกติงี้ ปวดห้องน้ำทุกชั่วโมงงี้ เส้นเลือดขอดงี้ เป็นริดสีดวงงี้ น่ากลัวทุกสิ่งอย่าง อ่านแล้วสารอะดรินาลีนพุ่งดีแท้ เลิกอ่านก่อนละกัน ไว้ลืมๆแล้วค่อยว่ากันอีกที เหอๆๆ ตอนนี้อ่านนิยายง่ายๆ หนุกๆไปก่อนละกัน จิดใจจะได้ลั๊ลลาหน่อย หลังจากแพ้ท้องมาเป็นเวลาหลายวัน ก็อยากให้จิตใจผ่อนคลายบ้างอ่ะนะ


หิวอีกแล้ว ไปดูว่ามีอะไรหอมๆกินดีก่า ตอนนี้จมูกดี ดมได้ว่าอะไรหย่อย อะไรไม่หย่อย คริๆ รู้สึกว่ามีไรหอมๆรออยู่ในตู้ ไว้วันหลังมาเขียนใหม่ละกัน หมอนัดเดือนหน้าวันที่ 14 น่าจะมีอะไรดีๆมาเขียนบ้างล่ะ




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2551
1 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 15:59:10 น.
Counter : 528 Pageviews.

 

เข้ามาเพราะ "ทอดมันข้าวโพด" (แบบว่าของโปรดเหมือนกันค่ะ แต่เบื่อตอนทอดแล้วมันกระเด็นเนี่ยแหละ) ค่ะ แล้วก็เลยมาอ่านเรื่องเบบี๋

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

เรื่องคลอดจะคลอดแบบไหนนั้น ถ้าคุณแม่และทารกในครรภ์ไม่มีปัจจัยเสี่ยงล่ะก็ คุณหมอทุกคนก็แนะนำให้คลอดธรรมชาติค่ะ แต่ถ้าคุณแม่มีปัจจัยเสี่ยง คือ มีโรคประจำตัว มีความดันสูง เบาหวาน ครรภ์เป็นพิษ ฯลฯ หรือทารกในครรภ์ไม่อยู่ท่าที่จะคลอดได้อย่างปลอดภัย, ทารกไม่แข็งแรง หรือมีความผิดปกติอื่นใด คุณหมอก็มักจะให้ผ่าคลอด

ผ่าคลอดนั้นมีข้อดีที่สำคัญที่สุดคือ ทารกแทบจะไม่บอบช้ำอะไรเลย ไม่เหมือนคลอดธรรมชาติที่ทารกจะถูกบีบจากมดลูก แม่เจ็บ...ลูกก็เจ็บเหมือนกันค่ะ ข้อเสียคือ...แม่จะต้องพักฟื้นนานหน่อย และมีแผลเพราะต้องเปิดหน้าท้อง

ส่วนคลอดธรรมชาติ แม่จะเจ็บปวดมากตอนคลอด แต่ไม่ต้องเปิดหน้าท้อง ไม่มีบาดแผล (ยกเว้นแผลฝีเย็บ) พักฟื้นน้อยกว่าค่ะ ส่วนข้อเสียก็คือ ทารกจะบอบช้ำจากการคลอดมากกว่าทารกที่ผ่าคลอด

ตอนนี้อย่าเพิ่งไปกังวลเลยค่ะว่าจะคลอดแบบไหน เพราะมันบอกไม่ได้จนกว่าจะใกล้คลอดนั่นแหละค่ะ เหมือนกำหนดคลอดนั่นแหละ บางทีก็ไม่ได้เป๊ะๆ หรอกค่ะ เพราะอาจจะคลอดก่อนหรือหลังกำหนดเจ็ดวัน บางรายก็มากกว่านั้น

ฉะนั้นตอนนี้สำคัญที่สุดขอให้คุณแม่ทำใจให้เบิกบาน บำรุงตัวเองมากๆ นะคะ

 

โดย: คีตาญชลี 30 พฤษภาคม 2551 0:39:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


leona_girl
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นมือใหม่หัดเขียน blog อันมีแรงบันดาลใจจากลูกน้อยตัวจิ๋วในท้อง เพื่อเก็บความทรงจำอันมีค่า เอาไว้อ่านเองและฝากความในใจถึงเพื่อนๆ

ใครถูกใจบล็อกนี้ ช่วยเม้นท์ไว้ด้วยนะคะ นอกจากจะเป็นกำลังใจให้คนเขียนแล้ว ยังได้เพือ่นเพิ่มอีกคน

ฝากเนื้อฝากตัวใน blog นี้ด้วยนะค๊า..
Friends' blogs
[Add leona_girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.