RIP: The Voice - Whitney Houston



เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนฟังเพลงสากลทั่วโลกต่างช็อคและเสียใจไปตามๆ กัน เพราะหนึ่งใน The Voice ของโลกใบนี้อย่าง Whitney Houston ได้เสียชีวิตลง เป็นปริศนาในอ่างอาบน้ำที่ห้องพักของตนเอง จนล่าสุดได้มีการเปิดเผยแล้วว่าอาจจะเสียชีวิตเพราะยา Zanax ที่ช่วยควบคุมความวิตกกังวลและความเครียดอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นยาควบคุมต้องรับประทานตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น แต่ถ้านำไปรับประทานคู่กับแอลกอฮอล์ จะกลายฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาทที่เป็นยาเสพย์ติดขนาดกำลังเหมาะได้เลยทีเดียว

แม้ว่าเธอจะต้องเสียชีวิตลง หรือชีวิตก่อนหน้านี้จะย่ำแย่มาแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องครอบครัว สามีขี้ยา และแรงกดดันมหาศาลจากเรื่องราวต่างๆ รวมถึงเสียงของเธอจะต้องพังเพราะยาเสพย์ติดจนเหลือแค่ความทรงจำว่าเธอเคยมีน้ำเสียงที่สะกดโลกอย่างมากคนนึง แต่แฟนๆ เพลงก็ยังรอคอยให้เธอกลับมาผงาดในบัลลังก์ของดิว่าระดับโลกอยู่เสมอ จนต้องหมดหวังไปในวันที่เธอได้เสียชีวิตลง

เข็มขัดสั้นคนนี้เติบโตมากับยุคที่ Divas, Pop Bubble Gum และ Boy Band Girl Group ที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ทำให้ได้ฟังเพลงของ Whitney Houston อยู่เสมอ แม้ว่าจะยังไม่รู้ความหมายว่ามันคืออะไร แต่รู้อย่างเดียวว่า ผู้หญิงคนนี้เสียงดีมากมาย เพลงเร็วฟังแล้วสนุกสนาน เพลงช้าฟังแล้วรู้สึกถึงอารมณ์ที่ไม่ต้องรู้หรอกว่าความหมายตามเนื้อหามันคืออะไร แต่ใจมันรู้แล้วล่ะว่าเพลงนี้มันเศร้าซึ้งมากเลยนะ ที่สำคัญพลังในน้ำเสียงที่กังวานแฝงไปด้วยความหวานในทุกๆ คำที่เปล่งออกมายิ่งทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ฟัง เรียกในแบบปัจจุบันได้เลยว่า มันคือความ “Classic” ที่หาใครมาเปรียบได้จริงๆ และสุดท้าย เพลงแต่ละเพลงของเธอ ผมร้องทีไรออกอ่าวออกป่า หลงคีย์สะบั้นหั่นแหลก ก็คนมันเสียงไม่ถึงแต่ใจรักก็เงี๊ยะ

แน่นอนว่า ผมเสียใจและเสียดายมากกับการจากไปของนักร้องคนนี้ และผูกพันกับหลายๆ เพลงที่ได้ฟังมาเสมอ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งเข้าทำนองว่า “มาช้าดีกว่าไม่มา” กับการเอา 10 เพลงในดวงใจของ The Voice ผู้นี้ที่ผมได้ฟังตั้งแต่เด็กจนเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลาย ณ ปัจจุบัน มาร่วมรำลึกในบล็อกครั้งนี้

ทั้งนี้นั้นไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบแต่ประการใด เพราะทุกเพลงถือว่าเป็น Masterpiece ในใจผมเท่าเทียมกันหมดทุกเพลงครับ



Saving all my love for you

นี่เป็นเพลงแรกของ Whitney Houston ที่ได้ฟัง (จากเท่าที่จำความได้) ซึ่งรู้อย่างเดียวว่า "เพลงเพราะมากกกกกก" แม้ว่าพอจะมารู้ภายหลังเมื่อพอรู้ภาษาขึ้นมาบ้างก็ร้องออกมาว่า “อ้าววววว นี่มันเพลงฉันรักและจะอึ้บกับผัวเขานี่หว่า” แต่มันก็ไม่ได้ทำลายความคลาสสิค ความไพเราะตลอดกาลที่เพลงนี้ทำออกมาได้เลยแม้แต่น้อย OK รักผัวเขาได้ก็ตามสบายครับ ขอนั่งฟังอย่างมีความสุขแบบนี้ ดีที่สุดแล้วล่ะ




How Will I Know

จำได้ขึ้นใจกับ MV ที่เล่นเอาเถิดเอาล่อกับเหล่าแดนเซอร์ แถมมีสีอะไรไหลย้อยๆ อยู่เป็นกษัย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเพลง Pop สนุกๆ แต่พลังเสียงจัดเต็มฟังแล้วอิ่มอกอิ่มใจ และจำท่อนฮุคได้เสมอแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม




Where do broken hearts go

หนึ่งในเพลงโปรดตลอดกาลของเข็มขัดสั้น ที่แม้จะเศร้าซึ้งแต่ยังให้โอกาสและยังรักเธออยู่เสมอ จะรอคอยเปรียบเสมือนบ้านที่เธอจะกลับมาทุกเมื่อ เมื่อเยาว์วัยไม่รู้หรอกว่าความหมายคืออะไร แต่ฟังทีไรรู้สึกได้ถึงความหวังดี ความอบอุ่นแกมเศร้าอยู่ทุกครั้ง พอรู้ภาษา โอย ตายๆๆๆ รักเพลงนี้อย่างมากมายเลยทีเดียว



All the Man That I Need

บัลลาดรักผู้ชายล้นใจที่ Whitney ทำออกมาแล้วทั้งหวาน ทั้งภูมิใจที่ได้รักผู้ชายคนนึงอย่างออกนอกหน้า ช่างสุขีอย่างสุดๆ ได้อารมณ์ที่ซึ้งตรึงใจมากมาย แถมใส่พลังที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ฟังเพลินทุกครั้ง และได้อารมณ์เพลงที่สวยงามทุกทีไป




I Have Nothing

แทบทุกคนในวัยเยาว์ต้องเคยได้ดูหนังเรื่อง The Bodyguard ฉากที่เพลงนี่ดังขับกล่อมขึ้นมา มันใช่เลยมากๆ คือถ้าสมัยนั้นมีกดไลค์ คงไม่ใช่แค่กด ขอกระทืบไลค์แหลกลานกันเลยทีเดียว เพราะสื่อทั้งอารมณ์หงอยเหงา เศร้าจับใจ และโหยหา เพราะถ้าคุณไม่ได้เคียงข้าง ฉันก็ไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต โอยยยย ตายไปเลยทีเดียวกับพลังเสียงที่จัดเต็ม กินใจ บาดลึก เข้าถึงแบบไม่ต้องมีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น สุดท้ายเป็นเพลงที่ที่เวลาร้องทีไร ร้องเพี้ยนให้เตะคนข้างๆ ได้เลย (ทางที่ดีเตะก่อนเลยดีกว่าครับ เพราะเพี้ยนแน่นอน)




I Will Always Love You

ต่อเนื่องกับ The Bodyguard ที่มีอีกเพลงที่คลาสสิค ไพเราะตลอดกาล และเหนือกาลเวลาที่ไม่ว่าใครที่ฟังเพลงสากลแบบทั้งแท่งหรือแค่ฟังผ่านๆ ต้องเคยได้ยินอย่างแน่แท้ และปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงนี้ไพเราะมากมายอย่างที่สุดจริงๆ กับความรู้สึกรักล้นใจที่ยังคงมีอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้เคียงคู่ แต่ความรักนั้นไม่เคยได้จางหายไปไหนในทุกๆ ช่วงเวลาของชีวิต แน่นอนว่าเพลงนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่เอาไปร้องประกวด เอาไปร้อง Cover ก็ไม่มีทางสู้ต้นฉบับได้เลยแม้แต่น้อย




When You Believe

การเจอกันของดิว่าระดับตัวแม่แห่งยุค 90 ทั้ง 2 คน ที่ไม่ได้มาปล่อยของฆ่ากันเอง แต่มาร่วมกันทำให้เพลงนี้ไพเราะมหาศาล พลังจัดเต็ม ให้ศรัทธา กำลังใจและความเชื่อมั่นที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จของชีวิต เข้ากับภาพยนตร์ The Prince of Egypt ที่เพลงนี้เป็น Soundtrack บอกเล่าเรื่องราวแทบจะทั้งหมดของเรื่องได้ดีมากมาย




My Love Is Your Love

RnB ชิลล์ๆ ที่มีจังหวะจะโคนกำลังดี ไม่ต้องใส่พลังให้มากมาย แค่ร้องเรื่อยๆ ใส่ Improvise พอเหมาะ + เข้าถึงอารมณ์รักตามเนื้อหาเพลง แค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว และเดิมทีผมไม่ค่อยชอบเพลงนี้เท่าไหร่ เพราะฟังครั้งแรกๆ เอ่อ ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อลังการอะไรแบบที่ Whitney เคยทำได้เลย แต่พอฟังมากครั้งเข้า กลายเป็นลบเพลงนี้ออกมาจากใจไม่ได้ แถมได้ความเก๋ไก๋กับท่วงทำนองที่น้อยแต่มากทุกครั้งที่ได้ฟังเลย




If I Told You That

การเจอกันของดิว่า 2 ฟากฝั่งโลก (คุณพี่ George Michael ผมก็ถือว่าเป็นดิว่านะ) ซึ่งเพลงนี้ Improvise สู้กันลืมตาย คนฟังได้ความสนุกไปมากโข แถมจังหวะจะโคน RnB ในแบบของ Producer ชื่อดังแห่งยุค 2000 อย่าง Rodney Jerkins ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่น่าโยกน่าแดนซ์มากมาย เวลาอยู่คนเดียวถ้าได้ฟังเพลงนี้ท่าไก่ตีปีกส่วนบุคคลของผมจะพร้อมทำงานทันที เพราะจังหวะมันได้จริงๆ นะ




Million Dollar Bill

นี่คือเพลงที่น้ำเสียงของ Whitney แม้จะถูกทำลายจากการใช้ยาเสพย์ติดมาเป็นแรมปีก็ตาม แต่เธอก็ยังคุมโทนของการเป็นตัวเองที่สื่ออารมณ์เพลงได้จัดจ้านอยู่เสมอ แค่ขึ้นต้นเพลงว่า “โว้วววววววววววว” แค่นี้ก็ฟินทันที สำหรับผมเพลงนี้ถือเป็นการกลับมาของเธอได้สมศักดิ์ศรีมากกว่าการร้องเพลงช้าๆ อย่าง I Look to You เสียด้วยซ้ำ และเป็นเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แถมไพเราะมากขึ้นในแต่ละครั้งที่ได้ฟังอย่างน่าประหลาดทุกทีไป



ส่วนเพลงอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้ติด 1 ใน 10 เพลงของ The Voice ผู้นี้ที่ผมโปรดตลอดกาล แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ไพเราะ เพียงแต่การฟังที่บ่อยครั้งและการจดจำส่วนตัวของผมอาจจะไม่มีเพลงเหล่านั้นปิ๊งแว้บเข้ามาในใจมากเท่า 10 เพลงข้างต้นเท่าไหร่นัก

สุดท้าย แม้ว่าเธอจะลาโลกนี้ไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับชื่อ Whitney Houston และบทเพลงต่างๆ ของเธอจะไม่มีวันจางหายไปจากผมและคนทั้งโลกที่ฟังเพลงสากลอย่างแน่นอน ผมเชื่อและหวังให้เป็นอย่างนั้นเสมอไป


Older Post: มา "ช้าง" กันให้สะใจสะโพกกับสาว Alexandra Burke


Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2555 22:41:18 น. 1 comments
Counter : 1644 Pageviews.

 
ผ่านไป 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่หายเศร้าเลยอ่ะน้องสั้น


โดย: Pekko IP: 58.11.165.102 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:44:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เข็มขัดสั้น
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเข็มขัดสั้นนะครับ ^^

แต่ละ Group Blog ที่ผมเขียน มี Concept ตายตัวชัดเจน และผมเองก็จะยังคง Concept แบบนี้ต่อไป ใครเข้ามาด่ากี๊ซก๊าซ คนนั้นมันบ้าของมันไปเองแหละครับ ผมไม่บ้าด้วยหรอก นั่งดูพวกเต้นเป็นเจ้าเข้าแทนศิลปินเหล่านั้น เพื่อเฮฮา ขำก๊าก อิเคะๆ อิไตๆ ดีกว่า 5555

และที่สำคัญยินดีมากเลยครับ ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาอ่านแล้วมี Comment ให้ผม คนที่มาดีๆ ผมดีใจมากเลยครับ และขอบคุณอย่างยิ่งที่เข้ามาอ่านและฟังเพลงจากบล็อกน้อยๆ แห่งนี้ ส่วนคนที่มาถ่อย กะมาด่าโดยตรง ก็ตามสบายครับ ที่นี่เปิด Public นี่นา ผมก็ถือว่าเขาเหล่านี้ได้มาเสพงานที่ผมสรรค์สร้างขึ้นตาม Concept แล้ว แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ที่ทำให้คนอ่านอินได้ขนาดนี้ ^^

สุดท้าย ขอขอบคุณ Pop Magazine มากๆ ครับ ที่ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการเขียน Blog นี้ขึ้นมา ^^
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
19 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เข็มขัดสั้น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.