En-hedu-Ana is a title and means "The High Priestess [named]Ornament of the Sky" 'en'=High Priestess'hedu'=Ornament 'Ana'=of the Sky/Heaven or of the God of the Sky/Heaven

จากข้อความข้างต้นแปลความหมายของชื่อเจ้าหญิงผู้นี้ได้ว่าชื่อของสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้เป็นนักบวชสตรีชั้นสูงซึ่งเครื่องประดับแห่งท้องนภาโดยมีคำว่า En แปลว่านักบวชสตรีชั้นสูงhedu แปลว่าเครื่องประดับ ana แปลว่าท้องนภาหรือเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าหรือสรวงสวรรค์

เมื่อรู้ความหมายของชื่อสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้แล้วมาทำความรู้จักเธอกันให้มากขึ้นจะดีกว่าเจ้าหญิง En-hedu-Anaเธอเป็นลูกสาวของ ซากอน ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นราชาองค์แรกที่รวมสองอาณาจักรเข้าด้วยกันคือซูเมอร์และอัคเคเดียนกลุ่มดังกล่าวสืบทอดสิ่งที่ทำมากว่าห้าร้อยปีพระราชาทรงแต่งตั้งพระธิดาของตนขึ้นเป็น“En”หรือนักบวชหญิงชั้นสูงแห่ง Nanna เทพแห่งดวงจันทร์ในเมือง Urเมืองโบราณของซูเมเรียน (ตอนใต้ของอิรัก) แต่มีคนเข้าใจผิดว่าเธอคือเจ้าหญิงแห่งซูเมเรี่ยนเพราะเธอประทับเป็นนักบวชอยู่ในเมืองที่เป็นของซูเมเรี่ยนแต่อย่าลืมว่าเธอเป้นธิดาของกษัตริย์ซากอนแห่งอัคเคเดี่ยนที่ถูกคือเธอเป็นอัคเคเดียน)ตำแหน่งที่สูงของเธอและภูมิหลังของราชวงศ์จึงอธิบายได้ว่าทำไมจึงมีพระนามของเธอปรากฎอยู่ในบทที่ชื่อnin-me-sara

เหรียญเล่าเรื่อง เจ้าหญิงทำการถวายเครื่องเซ่นสรวงบูชาเทพเจ้า ซึ่งถูกค้นพบโดย 

Sir Leonard Woolley ในปีค.ศ.1925

ในฐานะเจ้าหญิงที่กำเนิดในวงศ์ที่มีโอรสธิดาจำนวนมากซึ่งอาจจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์และยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบวชชั้นสูงด้วยเหตุที่เธออยู่ในตำแหน่งที่สูงมีอำนาจมีความอิทธิพลความทะนงตนซึ่งแสดงความเป็นตัวเธอลงไปในบทสวดดังกล่าวทิ้งไว้ให้พวกเราได้ทราบถึงรายละเอียดบางส่วนในชีวิตของเธอ

แมนดา โฟร์แมนเป็นนักประวัติศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์นานนับพันปีบอกว่าเจ้าหญิง En-hedu-Ana เป็นทั้งเจ้าหญิงนักกวี นักเขียนหญิงที่มีตัวตนราว 2285-2250ก่อนคริสตกาลเป็นธิดาของราชาซากอนแห่งอัคเคเดียนของเมโสโปเตเมีย ซึ่งเกิดจากการรวบรวมทั้งตอนกลางและตอนใต้อยู่อย่างเป็นปึกแผ่น

En-hedu-Anaได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบวชชั้นสูงโดยพ่อของเธอเพื่อพิสูจน์ให้เห็นสิทธิของราชาในการปกครองจักรวรรดิ

En-hedu-Anaอาจจะมีส่วนในการต่อการหลอมรวมคนทั้งสองกลุ่มเป็นหนึ่งจักรวรรดิการเป็นนักบวชชั้นสูงของเธออาจเป็นส่วนหนึ่งของงานรวมอาณาจักรที่ใช้พลังทางศาสนาเข้ามาร่วมด้วยก็เป็นได้เจ้าหญิงองค์นี้มิได้โดดเด่นในเรื่องของอำนาจเท่านั้นเธอยังมีความสามารถทางการเขียนอีกด้วย มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆเมื่อย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน

อย่างที่แมนดากล่าวไว้การที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถได้ขนาดนี้นับว่าน่าตื่นเต้นพอสมควรทำให้ย้อนไปมองว่าหลายพันปีก่อนผู้คนอาจเป็นมีความรู้เรื่องสิทธิทางเพศแต่ยกย่องทุกคนที่สามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้เช่นกัน