Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 1532163 - 7 เรื่องไม่ลับของราชวงศ์หมิง

7 เรื่องไม่ลับของราชวงศ์หมิง

ต่อจากคราวที่แล้วที่กล่าวมาทั้งสามอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับราชวงศ์หมิงก่อนหน้านี้ทั้งเรื่องราวจูหยวนจาง ปักกิ่งมหานครต้องมนต์ และกำแพงเมืองจีนครั้งนี้จะเหลืออะไรที่เราไม่รู้บ้างมาติดตามกันต่อได้เลย

เจิ้งเห่อแม่ทัพเรือและนักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์เดินทางไปไกลถึงแอฟริกา
ห้าสิบปีก่อนที่วาสโก ดา กามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกสที่เดินเรือถึงแหลมกู๊ดโฮมไปไกลจนชายฝั่งทวีปแอฟริกา แต่ก่อนหน้านั้นมีการวางแผนที่จะใช้กองเรือไม้ขนาดมหึมาโดยการนำของมหาอำนาจอย่างจีนเดินทางไปบริเวณน่านน้ำดังกล่าวด้วย ภายใต้คำบัญชาของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงมีเจิ้งเห่อเป็นผู้บัญชาการเรือ
เจิ้งเห่อเกิดในปีค.ศ.1371 ในครอบครัวชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน เจิ้งเห่อถูกคุมตัวและถูกตอนโดยไพร่พลของราชวงศ์หมิง และถูกส่งตัวเข้าไปรับใช้ในราชสำนัก ที่นี้เขาได้กลายเป็นกุนซือเป็นที่ไว้วางพระทัยของหย่งเล่อก่อนที่พระองค์จะได้เป็นจักรพรรดิหลังจากที่ผู้มีพระคุณของเจิ้งเห่อลาจากโลกไป เขาได้รับหน้าที่เป็นคณะขันทีในพระราชวังต้องห้ามก่อนที่จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นแม่ทัพเรือระหว่างปีค.ศ.1405 ถึง 1433
เจิ้งเห่อเดินทางไปทั่วเจ็ดย่านน้ำ ซึ่งกองเรือของประกอบไปด้วยเรือ 62 ลำ ลูกเรือ 27,800 คน เดินทางไปตามเส้นทางการค้าเรื่อยไปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดียตะวันออกกลางจนถึงแอฟริกาตะวันออกผ่าน 36 อาณาจักรเห็นชอบส่งเครื่องบรรณาการเจริญสัมพันธไมตรีโดยดีต่อจีน แต่หลังจากการสวรรคตของจักรพรรดิหย่งเล่อ จักรพรรดิพระองค์ใหม่ทรงให้ยกเลิกเสียเพราะการเดินเรือนั้นใช้ค่าใช้จ่ายมากและสิ้นเปลือง

เมื่อเครื่องลายครามของราชวงศ์หมิงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมไปทั่วโลก
โรงงานผลิตในมณฑลเจียงซี เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มีช่างผู้ชำนาญใช้ดินและเคยส่งออกไปยังเปอร์เซีย การรังสรรค์เครื่องเคลือบสมัยราชวงศ์หมิงเป็นสินค้าที่นิยมอย่างมาก การทำหม้อนั้นมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น แม่ลายมังกรเล่นเมฆบางส่วนถูกออกแบบและส่งออกไปยังโลกอาหรับและไปไกลถึงยุโรป เมื่อวาสโก ดา กามาเดินเรือถึงจีนในปีค.ศ.1497 จักรพรรดิมาดูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกสทรงสั่งให้เขากลับมาโดยเขาได้นำสินค้าล้ำค่ากลับมาด้วยสองสิ่งคือ เครื่องเทศและเครื่องลายคราม สองปีนับจากที่วาสโก ดา กามากลับมาพร้อมเครื่องกังไสสิบสองชิ้น ตลอดช่วงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในราชวงศ์หมิงการส่งออกเครื่องลายครามต้องหยุดชะงักลงมีการกระตุ้นให้เกิดการผลิตเครื่องลายครามกังไสแบบจีนอีกครั้งในฮอลแลนด์

ราชวงศ์หมิงฉีกกฎธรรมเนียมโดยการใช้เงินกระดาษแทนการใช้เหรียญ

โดยปกติการแลกในระบบเศรษฐกิจจะเริ่มด้วยเหรียญ โลหะมีค่าและที่สุดจลลงด้วยการใช้เงินกระดาษ ในจีนเงินกระดาษถูกนำมาใช้ในสมัยราชวงศ์ถังคริสตวรรษที่เจ็ดถึงราชวงศ์ซ้องคริสตวรรษที่สิบเอ็ด โดยช่วงกลางราชวงศ์หมิงอย่างไรก็ดีความไม่มีเสถียรภาพของเงินกระดาษถูกแทนที่ด้วยเหรียญเงินจากการนำเข้ามาจากจักรวรรดิสเปนและญี่ปุ่นในปีค.ศ.1639 การพิพาททางการค้าในฮิโรชิมาและความขัดแย้งทางการทูตกับสเปน ลดการกักตุนสินค้านำเข้า ซึ่งเกิดวิกฤตอันรุนแรงต่อผู้นำราชวงศ์คนถัดไป

สุดท้ายราชวงศ์หมิงถูกโค่นล้มโดยอดีตคนส่งสาส์น
ช่วงต้นศควรรษที่ 17 ภัยคุกคามอันใหญ่หลวงของราชวงศ์แผ่มาจากแมนจูเรียตอนเหนือของกำแพงเมืองจีนกองทัพใช้จ่ายเงินจำนวนมากต่อภัยคุกคามจากแมนจู รัฐบาลหมิงได้ขึ้นภาษี ซึ่งละเลยภาคส่วนอื่นๆ ของจีน ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้คนที่ทำงานในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ หลี่จื้อเฉิงซึ่งเป็นผู้ส่งสาส์นอยู่ทางตะวันตกของซีอานหลักจากที่เขาลาออกจากกองทัพ ไปร่วมมือกับกองโจร กลายเป็นผู้นำการชุมนุมของกลุ่มชาวนา ค.ศ.1644 หลี่ได้บุกยึดกรุงปักกิ่งซึ่งถูกทอดทิ้งไร้แม่ทัพดูแล ฉงเจินจักรพรรดิองค์สุดท้ายแขวนพระศอในอุทยานหลวงหลี่ได้รับชัยชนะ อู่ซานกุ้ยแม่ทัพราชวงศ์หมิงได้ให้ความร่วมมือกับพวกแมนจูในการปราบกบฎทำให้แมนจูมีอำนาจและครอบครองจีนได้

ทั้งหมดคือเรื่องราวทั้งเจ็ดของราชวงศ์หมิงที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน เมื่ออ่านๆ ไปทบทวนดีๆ จะเห็นว่าอำนาจ วาสนา เมื่อมีมากสักวันก็ต้องหมดไป เราอย่ายึดติดกับสิ่งเหล่านี้เป็นดี