Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

Second opinion / ทรงผมขัดใจแม่ 2Y3M 16.01-24.02.10

ก่อนอื่นขอบคุณกับทุกกำลังใจค่ะ ทั้งเพื่อนที่ไดเลิฟ แอลเอสคิว และบีบีเอฟซี ทำให้วันนี้ก็ไปหา second opinion จะบอกว่าอาจเป็นเพราะทำใจไปแล้ว รู้ว่าโรงพยาบาลรัฐรอนาน ทำให้ไม่หงุดหงิด จริง ๆ ตอนแรกหลังจากพฤหัสที่แล้วกินยาวันละ 1 เม็ด อาการปวดหัวกับปวดเบ้าตาก็ทุเลาขึ้น นอนหลับได้สนิท เลยไม่ค่อยเครียด อีกอย่างหลังจากไม่ได้แวะหาเพื่อน ๆ ที่บีบีเอฟซีซะนาน และซึ้งในน้ำใจเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มากมายที่ยังไม่ลืมกันก็ได้เข้าไปคุยใหม่

คนขี้เม้าส์อย่างเราได้คุยกับคนอื่นมากขึ้น นอกเหนือจากทำงานก็ทำให้สบายใจมาก และได้คุยกับเพื่อน ๆ อีกหลายคนพลังก็กลับมา ตอนแรกก็กะว่ารับสภาพ กินยาน่าจะดีขึ้น แต่หมอเนตก็แนะนำว่าน่าจะไปที่รพ. จุฬาสักครั้ง และการไปรพ.รัฐ ในเวลาราชการครั้งนี้สร้างประสบการณ์ใหม่ และความรู้สึกใหม่ให้อย่างไม่น่าเชื่อ (เคยไปรักษาเรื่องเส้นประสาทหูเสื่อมไปหนึ่งข้างที่รพ. รามาแต่เป็นคลินิกนอกเวลาพิเศษ)

ตอนแรกพี่อุ่ยกะใช้เส้นพบคุณหมอ แต่ก็คิดว่าลองไปตามปกติดูดีกว่า เลยตัดสินใจไปในเวลาราชการเอา

ออกจากบ้าน 6 โมงเช้า ตอนแรกกะว่าให้พี่อุ่ยส่งขึ้น MRT ที่หมอชิต แต่พี่อุ่ยน่ารักมาก ไปส่งถึงหน้ารพ. จุฬาเลย 7 โมงถึงรพ. เข้าไปที่ตึก ภปร. ฝั่งตรงข้ามโรงแรมดุสิต ใกล้กับ MRT สีลม ก็รับบัตรคิว (รออีก 100 คิว) 7.30 ถึงคิวก็พบพยาบาลสกรีนอาการ พยาบาลบอกว่าจะรับผู้ป่วยใหม่วันนี้อีกแค่ 3 คน ตอนแรกก็คิดเอาหล่ะซิ จะเสียเวลามาหรือเปล่า คุณพยาบาลก็น่ารักมาก (ยิ้มแย้มตลอดด้วย) บอกว่าจะโทรถามแผนกดูว่ารับได้อีกคนไหม ก็ให้นั่งรอก่อน

จน 8 โมงคุณพยาบาลก็เรียกอีกครั้งบอกว่าได้แล้ว ก็ไปเสียตังค์ 20 บาทค่าทำบัตรผู้ป่วยใหม่ บัตรที่นี่ไฮโซจัง มีถ่ายรูปติดบัตรเดี๋ยวนั้นเลย (แต่ไม่ได้เตรียมตัว ผมกระเซิงแบบป้าเลย) เป็นบัตรพลาสติกแข็งด้วย (ตอนแรกนึกว่าบัตรกระดาษทั่วไป) เสร็จก็ให้ขึ้นไปรอที่ชั้น 3 แผนกอายุรกรรม

ยื่นบัตรเสร็จนั่งรอ 8.45 พยาบาลเรียกวัดน้ำหนักส่วนสูง (เครื่องเป็นดิจิตอลขึ้นชั่งก็วัดได้ทั้งสองอย่าง) แล้วก็วัดความดันแล้วก็นั่งรออีก ระหว่างนี้ก็หิวไปชั้น 4 มีข้าวกล่องกับของว่าง ขนมจีบ ซาลาเปา ชา กาแฟขาย ได้แซนวิชมากิน

ก็รอ 15 นาที พยาบาลเรียกให้เข้าไปด้านใน สักครึ่งชม. ผ่านไปพยาบาลก็เรียกครั้งละ 3 คนให้นั่ง รอหน้าห้องตรวจ หมอที่พบเป็นหมอด้านธัยรอยด์กับฮอร์โมน จับเวลาได้ว่าคุณหมอตรวจคนละ 30 นาที จน 11 โมงก็ได้ตรวจ

หมอผู้หญิงก็ถามอาการแล้วจดบันทึกเยอะมาก มีตรวจการมองเห็นของหางตาซ้ายขวา ตรวจธัย รอยด์ จับคอแล้วให้กลืนน้ำลาย ตรวจเต้านม (ลองบีบดูก็ยังไหลทั้งสองข้าง) ตรวจท้อง หน้าท้อง ความผิดปกติของขน (ยาวผิดปกติหรือไม่) แล้วก็มีตรวจโดยการเอาค้อนเล็ก ๆ มาเคาะตามข้อแขน ขา เข่า ฝ่าเท้า (ขูดเอา) วัดความดันอีกรอบ (manual) ฟังหน้าอก

ตรวจเยอะมากถึงว่านาน ๆ กว่าประกันสังคมเยอะเลย แล้วหมอที่เดิมก็ไม่เคยจับตรวจอะไรแบบนี้ เลยทั้งสองครั้งที่ไปรพ.เดิม

สรุปคุณหมอก็ถามว่าเคยเจาะเลือดหรือยังก็บอกว่าเจาะแล้วทัยรอยด์ปกติ หมอก็แนะนำว่าให้ขอผลมาเปรียบเทียบกันด้วย แล้วคราวนี้จะตรวจโปรแลคตินด้วย (อันนี้กะว่ายังไม่บอกหมอว่าเพิ่งตรวจมา) หมอนัดฟังผลอีก 1 เดือน แต่ใจร้อนก็เลื่อนมาเร็วสุดได้ 2 อาทิตย์ หมอไม่ได้ให้ยาอะไร ยาจากรพ.เดิมกะว่างดไปก่อน


ออกมาก็ทำบัตรนัดคราวหน้า เสร็จก็จ่ายตังค์ ตกใจตรงจ่ายตังค์ ตั้งแต่มีปกส. ก็ไม่เคยเสียตังค์ค่าหมอของตัวเอง ยกเว้นทำฟัน กับตอนคลอดลูก รูดปรี๊ดไป 1500 บาท ยื่นเอกสารเจาะเลือดไปสองหลอด ที่เจาะเลือดก็ไฮโซ มีเข็มจิ้มนำแล้วเอาหลอดเลือดเสียบตามแรงดันดีมาก ไม่ต้องรอลุ้นแป๊บเดียวก็ได้สองหลอดเต็ม ๆ แล้วไอ้ข้างที่รพ.บอกว่าไม่เห็นเส้นเลือดมาวันนี้ก็โดนข้างนี้แหล่ะ

เสร็จก็แวะซื้อพายของการบินไทย แล้วเลยไปโรงอาหาร (ไม่รู้หาไรกินแถวนี้แดดร้อนมาก) ได้เล็กยำแคระมา รสชาติตามราคา 25 บาท กินไปอย่างงั้น ไม่รู้สึกหิว แต่ท้องร้อง แล้วก็ตบบราวนี่ไปอีกชิ้น น้ำเปล่าหนึ่งขวด

เดินออกมาหาทางไป MRT ก็เดิมข้ามสะพานลอยไปเจอ กิฟน่ารักอันละ 10 บาทก็เหมาครบทุกสีได้มา 30 อัน (ไม่ได้ซื้อนานแล้ว) เดินต่อไปหน้า โรงแรมดุสิต ขึ้น MRT มาลงศูนย์วัฒนธรรม ต่อมอไซด์วินอีก 40 บาทถึงออฟฟิศ บ่าย 1.30 ก็มานั่งเขียนไดต่อนี่แหล่ะ ก่อนจะเคลียร์งาน เพราะเมื่อคืนจะเขียนไดแล้วทั้ง flickr กับ ไดเลิฟมีปัญหาเขียนไดไม่ได้ต้องรีบทำก่อน

ถ้าให้เดานะ ผลสรุปน่าจะเหมือนกัน แต่การรักษาต่างกันจัง สงสัยชอบเสียตังค์และเสียเวลา หุหุหุ

ที่นี่จะรับบัตรคิวถึงแค่ 7.30 แต่ละแผนกจะเต็มคนไข้ประมาณ 200 – 300 ราย ก็อย่างที่บอกตอนแรกมาวันนี้รู้สึกดีที่เลือกที่นี่นะ เคยอ่านเจอแต่คนเจอเรื่องแย่ ๆ กับรพ.รัฐ อันนี้ก็มาบอกถึงอีกแง่มุมนึง จบเรื่องแม่ก็ต่อเรื่องลูก

16 – 17.01.10

ทรงผมขัดใจแม่


หลังสิ้นปีอากาศที่ว่าจะเย็นมันก็ไม่เย็นกลับร้อนเอา ๆ ก็บอกยายว่าตัดผมด้านหลังให้ก้านกล้วยละกัน กะว่าไอ้หยิก ๆ ที่เห็นด้านบน ๆ ก็ให้เหลือไว้

วันศุกร์ที่ไปรับลูก Oh No ผมหยิกหยองสลวยสวยเก๋ ที่หลายคนทัก มันไปหมดแล้ว เหลือแต่ผมสั้นติดหนังหัวก็ว่าได้ แบบว่าโกรธนะ แต่ไม่รู้จะโกรธใคร คิดอารมณ์เหมือนช่างตัดผมเลยเพราะปกติ ก็จะเป็นคนตัดผมให้น้องหมา แล้วด้วยความที่ตัดยาก เลยไม่อยากตัดบ่อยก็เอาซะรองหวีทุกครั้งไป

แบบว่ายายอาจจะเพลินตัดไปตัดมา แต่งทรงโน่นนี่จนมันกุดไปเรื่อยๆ แต่เรียกว่ายายก็มีความอดทนสูง แล้วก้านกล้วยก็น่ารักมาก นั่งนิ่งจนยายตัดเสร็จ ได้รูปทรงสวยงาม

แต่ตอนเห็นลูก ก็พูดไม่ออก แต่รังสีอำมหิตก็แผ่ออกมาจนยายก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
แต่ปัจจุบันก็โอเคแล้วนะ ทรงผมนี้ก็ได้เห็นก้านกล้วยอีกมุมนึง แล้วมันก็ไม่น่ารำคาญด้วย ถ้าเปรียบกับอากาศร้อนปัจจุบัน แต่ก็ดูก่อนอาจตัดแบบนี้ไปตลอดหรือไม่ก็ไว้ยาวสลับไปแล้วแต่สะดวกและโอกาส

อาทิตย์นี้ที่ว่าไอค๊อกแค๊กก็ยังไม่หายหรอกจนยาหมด ก็ไม่ไปหาหมอไหนแล้ว ได้แต่รักษาอุณหภูมิห้อง งดของทอดของเย็น ยายก็อยากให้กวาดคอ แต่แม่ว่าประสบการณ์นี้โหดไปหน่อยเคยเห็นน้องชายตอนเล็ก ๆ เรียกว่าอ๊วกและน้ำตา มันดูไม่ดีเลยแย่ เลยให้ซื้อยามา แต่ไม่ต้องกวาด ผสมสลิงกินไป ก้านกล้วยก็กินไป 3 – 4 ห่อจนไม่อ๊วก ไม่มีเสมหะ ก็ยังไออยู่ ไอแห้ง ๆ ก็เลิก ๆ เด็ดขาดแล้ว

ก็พอดีเด็กที่ยายเอามาเลี้ยงร้องงอแง จนแผลผ่ายายอักเสบไม่หายขาด (เด็กร้องให้อุ้มตลอด) ยายก็ตัดใจคืนเค้าไป แล้วก้านกล้วยก็หายจากไอ เลยตกลงไม่รู้เป็นเพราะอะไรกันแน่

อาทิตย์นี้บ้าเห่อโทมัสถึงขนาดเอาสีเมจิค (สีที่ลบไม่ออกด้วย) เขียนบนขา แล้วก็ให้แม่กับพ่อเขียนคนละข้าง วาดรูปประกอบด้วย เลอะเทอะไปหมดเลย (ดูตายังฉ่ำ ๆ อยู่ยังไม่หายป่วยดีครับ) แต่ก็ยังยิ้มได้น้ำมูกใส ๆ เยิ้ม ๆ แม่ก็เก็บภาพทรงผมใหม่อันนี้ทุกมุมเลยเก็บไว้ดู




พัฒนาการด้านวาดรูป

เดี๋ยวนี้พอเรายกยอปอปั้น ก็มีอารมณ์ฮึด อยากวาดเอง ตอนนี้ก็วาดหัวโทมัสกลม ๆ แถมตาสองข้าง จมูกจิ๊ดนึง ปากหน่อยนึง แล้วก็ขบวบรถไฟสองด้าน มีเพิ่มโลโก้ ที่เป็นเมฆที่ขาว (เรียกว่า ตั๊ด ๆ มาจากแม่ร้องเพลง) พร้อมเขียนคำว่า THOMAS (สีม่วง ๆ ที่เห็น)






ที่นอนใหม่
แพลนกันนานมากเรื่องจะหาเตียงใหม่ให้ก้านกล้วย เนื่องจากห้องยังไม่ว่าง ยังไม่มีการมูฟ เตียงใหม่ก็วางไม่ได้ จะรอก็คงนานเกิ๊น เพราะก้านกล้วยสูงเร็วมาก เตียงพับที่นอนอยู่เดิม ก็ต้องเก็บไป เพราะเห็นลูกนอนแล้วทรมานใจแม่

ก็ตัดสินใจไปซื้อที่นอนมาให้ใหม่ ก็เลือกที่มันหนา ๆ แล้วเก็บได้ด้วย แต่ต้องไม่บางเกิน ที่นอนปิกนิก จะซื้อแบบที่นอนเตียงเดี่ยวก็ไม่มีที่เก็บมาลงตัวที่ midas ลืมดูวัสดุ ดูแต่ความหนาว่า 3 นิ้ว เยอะดี ไม่ยุบ สรุปมันทำจากโฟมอะไรไม่รู้

ตั้งแต่มีที่นอนใหม่ ความยาว กว้างเท่าเตียงเดี่ยวหล่ะ ก้านกล้วยยอมนอนเล่นนั่งเล่นนั่งอ่านหนังสือเหมือนเป็นพื้นที่ของเค้า (แต่ก่อนจะเล่นบนเตียงแม่) แต่ใกล้รุ่งเช้าจะร้องมานอนบนเตียงใหญ่กับแม่นานถึง 1 เดือน แม่ก็สงสัย สุดท้ายมีร้องให้แม่ลงไปนอนด้วย โอ้วเพิ่งถึงบางอ้อว่าไอ้เตียงนี้มันแข็งหง่ะ นอนไม่สบายซะเล้ย แม่ปวดหลังไปเลย แล้วลูกหล่ะ

ก็คิดว่าไปเอาผ้านวมที่ได้แถมมากะตอนซื้อเตียงใหญ่มาปูอีกชั้น กับที่นอนฟองน้ำเสริมอีกชั้น ที่นี้เจ้าลูกชายก็นอนได้หลับสบายจนเช้าไม่มีงอแงอีกเลย จะมีบางครั้งอ้อนให้แม่ตบก้นนี่หล่ะ (เพิ่งมาเป็นตอนน้องอั่งเปามาอยู่ด้วย 1 เดือน) แม่ก็ต้องมานอนขดอยู่ที่เตียงเล็กนี้ด้วย ตบก้นไปด้วยประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง จนกว่าลูกจะตื่น



Brainy block


ก็ ๆ ยังไม่ได้พาลูกไปเข้าเรียนที่ไหน อยู่บ้านก็ต้องหาอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ พอดีได้ข่าวว่ามีลดราคาก็เลยไปเหมามาได้ราคาพิเศษเกือบ 50 % เอาชิ้นนี้มาให้เล่น ก้านกล้วยยังต่อไม่ได้ ก็ให้แม่ต่อให้ดู แต่ตัวที่หยิบแค่ 4 – 6 ชิ้นก็ต่อได้เองแล้ว แต่ชิ้นนี้แปลกก้านกล้วยไม่ชอบเท่าไหร่ เลยเก็บไปก่อน รอให้ลูกเรียกอยากเล่นค่อยเอามาเล่นใหม่ บ้านเราเน้น child center อยู่แล้ว
ส่วนอีกชิ้นรถไฟโทมัสที่ได้มาตอนคริสต์มาสยังคงเป็นของเล่นชิ้นโปรดอยู่ คราวก่อนพ่ออุ่ยต่อให้ 1 แถว พอคราวนี้แม่ไม่รู้ก็ต่อรางอลิซาเบธ (ก้านกล้วยชอบมากเป็นรถบัสมีรางสีเทาของมันเอง) มันเลยใหญ่เกินเสื่อไม่มีที่นั่งแล้ว โดนพ่ออุ่ยดุเลยว่าต่อให้เยอะเกินไป ค่อย ๆ ทำ อ้าวก็ไม่รู้นิ ต่อตามแบบอ่ะ ต่อให้แทนยังว่าอีก (พ่ออุ่ยเค้ากลัวลูกเล่นเยอะแล้วจะเบื่อเร็ว)






23 – 24.01.10

อาทิตย์นี้แม่ลองทำไข่ตุ๋นจากแบบใส่นมลงไปด้วย เนื้อเนียนดีจังเหมือนเต้าหู้หลอดเลย แต่ดันมีแค่ดอกหอม แม่ก็ใส่ลงไปแต่กลิ่นมันคงแรง ก้านกล้วยไม่ค่อยชอบกินนิดหน่อยก็ไม่เอา แต่แม่ว่าดอกหอมเนี๊ยะผัดน้ำมันหอยแป๊บนึง มันกรอบอร่อยมากเลยหล่ะ

ยังคงไม่หายไอกับน้ำมูก ก็ใส่เสื้อกล้ามกับแขนยาวแล้วปิดพัดลมกันต่อไป




พอบ่ายแดดแรง แม่ไปแกะทินนี่มาให้กิน ก้านกล้วยเพิ่งเคยกินครั้งแรก (ตั้งแต่ไอไม่ยอมกินขนมกรอบ ๆ สาหร่าย หรือแอปเปิ้ลเลย) แม่ให้เลือกก็หยิบสีชมพู ที่เหลือแม่กินหมด เพราะก้านกล้วยไม่ยอมกินแล้ว




เต้นท์

จริง ๆ แล้วเนื่องมาจากตอนหน้าฝนโน่นปีที่แล้วที่ฝนตกหนักแล้วพายุแรง กลับบ้านมาวันนึง ก็ปรากฏว่ากิ่งใหญ่ ๆ ต้นมะม่วงล้มลงมา (ด้านในผุ) แล้วไปโดนข้างบ้าน มีเรียกค่าเสียหายกันนิดหน่อย บ้านเราก็ต้นมะม่วงรอบบ้าน ปลูกริมรั้ว ใกล้สายไฟด้วยหล่ะ พ่ออุ่ยก็คิดว่าน่าจะตัดบ้างที่นี้ ช่วงที่ตัดร่มเงาก็ไม่มี แล้วก้านกล้วยจะวิ่งเล่นยังงัยดี ก็ปิ๊งไอเดียเต้นท์ ที่นี้ก็เสริชหาข้อมูลกัน

ก็มาลงที่เต้นท์ไซด์ใหญ่เลย จะได้เป็นที่จอดรถด้วย ผ้าใบจอดรถอันเก่าก็ผุพังตามกาลเวลา ที่นี้ก่อนกางเต้นท์ก็นัดช่างมาตัดต้นไม้รอบบ้านเลย ทั้งจำปี บุหงา ขนุน มะม่วง (มีช่วงสิงหามั๊งที่พ่ออุ่ยตัดเองก่อนแม่ก็ช่วยด้วย แต่ว่ามันค่อนข้างเป็นงานหนักมากก็เลยคิดว่าจ้างเค้าดีกว่า เพราะถึงใส่ถุงมือ เลื่อยก็แล้วได้แผลไปตามกัน)

ผ้าเต้นท์นี่ใช้ประมาณ 4 – 5 ปีก็ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่เราก็คิดว่าจะต่อเติมบ้านในอนาคตด้วย ถ้าไม่ใช้เต้นท์ก็ยกไปใช้ที่อื่นได้ตอนนี้เลยเอาแค่นี้ก่อน ก็งบมันน้อย หุหุ เพราะถ้าจะปูกระเบื้องก็ต้องใช้หลักแสนหล่ะ งานใหญ่ด้วย รอเก็บตังค์ก่อน



บันได

ไม่มีที่ปีนป่ายให้ลูกเล่นตอนนี้ก้านกล้วยก็มีของเล่นใหม่คือบันได ที่เหมาะกับเด็กผู้ชายอย่างก้านกล้วย ปีนขึ้นปีนลงแค่นี้ก็สนุกแล้ว นานๆ ทีก็ร้องอยากเล่นบับเบิ้ลก็เอามาเล่นกันวิ่งกระจาย




พ่อลูกเล่นกันเหนื่อยแม่มานอนพัก ก้านกล้วยก็ตามมาอ้อนอีก อีกเรื่องนึงนอกจากที่นอนใหม่ ก็มีตุ๊กตาทิกเกอร์ และหมอนกอดของแม่ (ที่ก้านกล้วยเรียกหมอนฟลาวเวอร์ ปลอกหมอนรูปดอกไม้) ที่ก่อนนอนแขนต้องกอดอียอร์ ขาต้องกอดทิกเกอร์แล้วเลยจากทิกเกอร์คือหมอนกอดฟลาวเวอร์ แต่พอหลับแล้วก็เหลือสภาพเช่นนี้หล่ะ



ว่าจะลงรูปให้หมด แต่ไดยาวมากแล้ว พอแค่นี้ก่อน ไปหาหมอมาแล้วคิดว่าเคลียร์งานเสร็จจะได้ไปเยี่ยมไดเพื่อนๆ กันบ้าง อย่าเพิ่งงอนนะจ๊ะ




 

Create Date : 05 มีนาคม 2553
1 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2553 11:14:04 น.
Counter : 521 Pageviews.

 

หายไวๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โดย: Sara K. 5 มีนาคม 2553 19:08:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jittrees
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่ผู้หญิงทำงานออฟฟิศคนหนึ่ง และเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง ที่อยากเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับลูกชายสุดที่รักให้มากที่สุด เผื่อไว้วันข้างหน้าลูกจะได้มาอ่านความเป็นไปของตัวเอง เหมือนที่ตากับยายถ่ายรูปแม่ไว้ ก็ทำให้ระลึกถึงความทรงจำตอนเด็ก ๆ ไม่มีภาพ ก็ลืมกันได้เหมือนกันนะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบล็อคนี้รูปสาระตะเยอะมากมาย


"สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ข้อความและรูปภาพทั้งหมด ที่ปรากฏบน Blogนี้้ห้ามมิให้ทำซ้ำดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด"

free counters
Friends' blogs
[Add jittrees's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.