Welcome to the World of Me...
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

2012 (2009)

เมื่อประวัติศาสตร์แห่งศาสนาคริสต์และความเชื่อดั้งเดิมของโลกจากชนเผ่ามายา ถูกหยิบยกขึ้นมาผสมผสานกับจินตนาการระดับสุดยอดจากฝีมือการเขียนของ Harald Kloser และ Roland Emmerich ซึ่งคนหลังนี้ยังทำหน้าที่สร้างตัวอักษรให้กลายเป็นภาพ นำมาซึ่งอลังการความบันเทิงของหนังภัยพิบัติฟอร์มยักษ์แห่งปี ที่กล่าวถึงวาระสุดท้ายของโลก...แต่ไม่ใช่วาระสุดท้ายของมนุษยชาติ

ในคัมภีร์พันธสัญญาเดิม (The Old Testament) ของคริสตศาสนา พระธรรมปฐมกาล (Genesis) ได้กล่าวถึง "เรือโนอาห์ (Noah's Ark)" พาหนะที่พระผู้เป็นเจ้าสั่งให้ "โนอาห์" สร้างขึ้นก่อนที่จะบันดาลให้ฝนตกตลอด 40 วัน และเกิดน้ำท่วมโลกเป็นเวลา 150 วัน ก่อนที่ทุกสิ่งจะกลับเข้าสู่สภาพเดิม และมนุษย์ได้ "รุ้ง" มาเป็นเครื่องยืนยันว่า พระเจ้าจะไม่บันดาลให้น้ำท่วมโลกอีก

ทว่า ชาวมายาไม่เชื่ออย่างนั้น เพราะปฏิทินของชาวมายา ได้ระบุวันสุดท้ายของโลกไว้ตรงกับเดือนธันวาคมปี ค.ศ.2012

เมื่อวันสุดท้ายของโลกตามคำทำนายของชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดเผ่าหนึ่งของโลก มารวมกับเนื้อหาในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม การสิ้นสุดของโลกจึงหมายถึงน้ำจะท่วมโลกอีกครั้งตามจินตนาการของ Roland Emmerich

ตามมาตรฐานของหนังภัยพิบัติ ฉากตื่นตาตื่นใจของการถล่มทลายที่สร้างจาก Computer Graphic มูลค่านับร้อยล้านบาท ย่อมไม่ต้องสงสัยถึงคุณภาพของงาน ที่สวย สด สมจริง ความสนุกตื่นเต้นของการดำเนินเรื่องที่เราจะได้เห็นความย่อยยับของโลกต่อหน้าต่อตาย่อมตรึงคนดูให้อยู่กับเก้าอี้ได้ไม่มากก็น้อย ทว่า ประเด็นที่หนังเรื่องนี้หยิบยกมาอีก 1 เรื่องต่างหากที่น่าคิด

คำถามที่ว่านี้ก็คือ หากโลกจะถูกน้ำท่วมอีกครั้ง "ใครจะเป็นโนอาห์" และ "ใคร" รวมถึง "สิ่งมีชีวิตใด" ที่จะได้รับเลือกให้มีชีวิตอยู่ต่อ

ในพระคัมภีร์เดิม ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกเลือกโดยพระผู้เป็นเจ้า แต่ในภาค 2012 นี้ มนุษย์คือผู้เลือกเองว่าใครจะได้สิทธิ์ที่จะอยู่ต่อ

"ใครคือผู้ที่คู่ควรจะได้อยู่"

หนังได้สะท้อนภาพของการสร้าง "เรือโนอาห์" ที่ต้องใช้เงินมหาศาล คนพวกแรกที่ได้สิทธิ์ในการมีชีวิตต่อคือ "คนรวย" ที่พร้อมจ่ายเงิน "คนละ 1,000 ล้าน USD" คนสำคัญลำดับต่อๆ มาคือ บรรดานักการเมืองที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศต่างๆ (แน่ใจหรือว่าคนเหล่านี้สมควรได้อยู่ต่อ) ไม่นับผู้ที่ถูกคัดเลือกว่าเป็น "หัวกะทิ" ของโลก

คำถามคือ คนเหล่านี้มีค่ามากกว่าคนธรรมดาเดินดินทั่วไปจริงๆ หรือ?? อะไรคือตัวชี้วัดคุณค่าของความเป็นคน?? อะไรคือสิ่งที่จะบ่งบอกได้ว่าใครควรได้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไป??

ใครจะรับบทเป็น "พระเจ้า"??

ผมว่านี่คือปัญหาที่หนังไม่ได้นำเสนออย่างชัดแจ้ง แต่แฝงไว้ในฉากอันตระการตา คำถามที่หากคำตอบได้ไม่มีที่สิ้นสุด คำถามที่ไม่มีทางหาคำตอบที่ "ถูกต้องที่สุด" ได้หากคนๆ นั้นไม่ใช่ "พระเจ้า" เป็นประเด็นที่เราสามารถหยิบยกขึ้นมาคิดทบทวนถึงความมีคุณค่าของแต่ละชีวิต เรียกว่าขุดปรัชญาของทุกสำนักมาถกกันได้ตลอดชีวิตเลยทีเดียว

และหากในปี 2012 โลกจะต้องพินาศไปจริงๆ และมนุษย์จำเป็นต้องเลือกผู้รอดตายกันเอง วันนั้นเราคงจะได้เห็งการแก่งแย่งที่ชุ่มไปด้วยเลือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์อวกาศเลยทีเดียว




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2552
2 comments
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 14:22:13 น.
Counter : 542 Pageviews.

 

ดูแล้วลุ้นดีค่ะ ตอนกลางคืนกลับไปนอนฝันถึงอีก

 

โดย: Lilac Girl 11 ธันวาคม 2552 7:27:05 น.  

 

มีเเน่ๆ 2012 อะ หุหุ

 

โดย: 2012 IP: 222.123.177.41 14 กุมภาพันธ์ 2553 22:32:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


J.Atthaphan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to my Life, feel free to know me more.
Friends' blogs
[Add J.Atthaphan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.