ธารธรรมใสเย็นยิ่ง สุขได้
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
การปฏิบัติธรรม คือ การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

การปฏิบัติธรรม คืออะไร เป็นคำถามแรกที่ครูอาจารย์ถาม
นึกคำตอบขึ้นมาทันทีว่า คือการปฏิบัติ เพื่อลด เพื่อละ เพื่อทำลายกิเลส
แต่คำตอบนี้ควรเป็นคำถามสำหรับการปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไรมากกว่า

..ยังมีอีกนัยความหมายหนึ่งที่ชัดเจน ยังมีอีกนัยความหมายที่จะช่วยส่งเสริม
การปฏิบัติให้ถูกต้อง และตรงตามข้อปฏิบัติของธรรม

การปฏิบัตินั้นคือ การกระทำกาย การกระทำวาจา และการกระทำใจ
ธรรมะ คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
การปฏิบัติธรรม คือการกระทำกาย การกระทำวาจา การกระทำใจ ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ครูอาจารย์ที่ให้กรรมฐานเรา หรือ หนังสือตำราที่เราค้นคว้าอยู่
ก็ควรศึกษาว่า คำสอนของครูอาจารย์นั้น ของหนังสือตำรานั้นๆ
มีจริงและปรากฏในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่
ทั้งในเรื่องทาน ศีล สมาธิ ภาวนา ก็เช่นเดียวกัน ถ้ามีจริงและปรากฏอยู่ใน
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็มั่นใจได้ว่า การปฏิบัติธรรมนั้น
"เป็นการปฏิบัติธรรม" ที่เราปฏิบัติอยู่นั้น ตรง และจะสามารถให้ผลได้ตามสมควรแก่ปฏิบัติ
ถ้าคำสอนนั้นไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ก็ควรรู้ว่าคำสอนของผู้นั้น ของตำรา
นั้นๆ เป็น"อุบาย" เพื่อให้เข้าถึงคำสอน
หรืออาจจะคลาดเคลื่อนจากธรรมนั้นไปเสียก็ได้ และยังไม่อาจถือว่า
เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าได้โดยตรง ผู้ปฏิบัติจึงจำต้องเป็นผู้ฉลาด
ต้องเรียนรู้ให้มากในคำสอนของพระพุทธเจ้าเสียก่อน

การปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์หรือจะเพื่อความสุขในภพนั้น
มิใช่เป็นสิ่งที่จะกระทำได้ได้โดยง่าย
เว้นไปจากพระพุทธเจ้าเสียแล้ว ไม่มีบุคคลใดเลยจะเข้าใจและสั่งสอน
หมู่สัตว์ผู้มืดบอด ให้พบกับทางสว่างคือปัญญานี้ได้

...ดังนั้น "การปฏิบัติธรรม" การกระทำตรงตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผู้ปฏิบัติจะต้องรู้และเข้าใจ และควรศึกษาให้มาก

ท่านทั้งหลายการได้มาเกิดเป็นมนุษย์ นั้นเป็นของยาก
การได้มาพบกับคำสังสอนของพระพุทธเจ้า นั้นก็เป็นของยาก
การได้มาปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นั้นก็เป็นของยาก
แต่การจะรู้ถูกเข้าใจถูกและปฏิบัติตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
... นั้นยากกว่านั้น
คนในสมัยพุทธกาลบางคน ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มาพบพระพุทธเจ้า
ได้มาฟังธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่ก็มิได้รู้ถูกเข้าใจถูก
ในคำสั่งสอน กล่าวอ้างว่าการปฏิบัติที่ผิดว่านี่คือปฏิบัติธรรม ก็มีปรากฏอยู่
จึงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างหนึ่งว่า การปฏิบัติธรรมที่ถูกและตรงนั้น
มิใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเองโดยง่าย

ถามตัวเองเสมอๆ ว่าครูอาจารย์หรือพระภิกษุ หนังสือตำรา
หรือผู้กล่าวให้การปฏิบัติแก่เราอยู่ ว่าคำสอนหรือข้อปฏิบัตินั้น มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ขอให้เป็นผู้ฉลาดให้มาก
ในอุบายคำสอนของครูอาจารย์นั้น
และถ้าคำสอนของครู อาจารย์ที่อ้างว่านำมาจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
นั้นมีจริงและปรากฎในคำสังสอนของพระพุทธเจ้า
ก็ให้เลือกปฏิบัติของครูอาจารย์นั้น

อนึ่ง การปฏิบัติธรรม มิได้หมายถึงต้องออกจากเรือน เท่านั้น
การรักษาศีล นั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรม
การให้ทาน นั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรม
การทำสมาธิ นั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรม
การเจริญเมตตา นั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรม
การกระทำหรือกิจใดๆก็ตาม ที่มีปรากฏในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
เราทำกิจอันนั้นอยู่ นี้เป็นการปฏิบัติธรรมอยู่ด้วยทั้งหมด ทั้งสิ้น

แม้ท่านทั้งหลายที่ได้กำลังอ่าน ได้กระทำการพิจารณาด้วยปัญญา
คำว่า "การปฏิบัติธรรม คือ การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า"
ที่ข้าพเจ้าได้นำมาจากครูอาจารย์ ที่ข้าพเจ้าได้แสดงนี้อยู่
...นี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรม
ขอท่านจงพิจารณาดูเถิด ...

เราจะรุ้ได้อย่างไรว่า คำสอนนี้ ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
สิ่งแรก ที่เราควรจะรู้คือ เหตุและผล
คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นคำสอนของเหตุและผล
การปฏิบัติก็เช่นกัน แม้ในกิจวัตรอื่นๆ ย่อมมีผลด้วยกัน
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น มีสิ่งหนึ่งที่เป็นสัจจะ
คือ คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น จะเป็น"จริง" อย่างเดียวเท่านั้น
ไม่มีเทวดา มาร พรหม หรือผู้ใดจะกล่าวคัดค้านได้เลย

เมื่อเราปฏิบัติอยู่ก็จะต้องเป็นผู้ฉลาด คือต้องรู้ว่าถ้าเราปฏิบัติตามนั้น
ผลที่ได้จากการปฏิบัตินั้น ย่อมได้รับผลตรงตามนั้นหรือเปล่า

ถ้าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า การปฏิบัตินั้น ย่อมได้รับผล"ตรง" ตามการปฏิบัติ
แต่ถ้าเป็นอุบาย ผลที่ได้อาจไม่ตรงตามผลการปฏิบัติตามทางของพระพุทธเจ้า
เช่น การเจริญวิปัสสนา หากจะมีผู้อื่นมากล่าวว่า ท่านจงเอาสิ่งอื่นๆ เช่น
ความสงบ ความเป็นธรรมชาติ เอาร่างกาย เป็นอารมณ์ในการเจริญวิปัสสนา
ดังนี้จะถือว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าหาได้ไม่
เพราะวิปัสสนาผู้ปฏิบัติ ต้องมีรูปนาม หรือ ขันธ์ห้า เป็นอารมณ์เท่านั้น
ดั่งนี้ หลายคำสอนของผู้กล่าวอ้างก็ยกเอาแต่หัวข้อธรรม แต่อรรถ และเนื้อความ ทั้งความหมายมิได้นำมาด้วย เห็นว่าการปฏิบัติของตนนั้นได้ผล
แต่จะเป็นผลอื่น หรือคนละผลจากการปฏิบัตินั้นก็เป็นได้
หรือเปรียบดั่งตำราการว่ายน้ำ ถ้าครูสอนถูก และเราเพียรตามคำที่ครูสอน
อย่างไรเสียย่อมเราว่ายน้ำได้ และเราย่อมรู้ได้ว่าทำไมถึงว่ายน้ำได้
และหากว่ายไม่ได้ เราก็อาจต้องหาครูผู้สอนคนใหม่ ถ้าว่ายได้เราก็จะเข้าใจ
ว่าทำไม ครูคนก่อนไม่สอนอย่างนี้ๆ หรือถ้าลองมาหลายครูแล้วก็ยังว่ายน้ำ
ไม่ได้อีก ก็ลองกันมาพิจาราตัวเรา มีความบกพร่องตรงใหนหรือเปล่า
กายของเราพิการหรือเปล่า กำลังความของเรายังน้อยไปหรือเปล่า ดั่งนี้

แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนนั้นถูกหรือผิด
เรื่องนี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสั่งสอนไว้แล้วว่า
ท่านไม่ได้ทรงสอนว่าไม่ให้เชื่อ แต่ทรงตรัสว่า ไม่ให้ปลงใจเชื่อ
คือให้ฟังด้วยดี ว่าถ้าเชื่อแล้ว ถ้าปฏิบัติแล้ว เหตุอันใดจึงได้รับผลเช่นนั้น
รวมถึงต้องทราบด้วยว่า เหตุอันใดจึงไม่เป็นเช่นนั้น

การปฏิบัติเท่านั้น จะทราบชัด สละเวลาทดลองพิสูจน์ดูตามคำสอนนั้นๆ
จะชัดแจ้งเองว่า ทำไมถึงผิดหรือถูก

สิ่งสำคัญอันหนึ่งที่จะควรดำรงให้มีอยู่ในใจของตน
คือการยึดถือเอาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง เป็นบาท เป็นฐาน
จากนั้นก็แสวงหาครูอาจารย์ หรือคำสอนหรือตำรา ที่นำมากล่าวอ้าง
ลองนำมาเทียบเคียงในพระไตรปิฎก ถ้าตรงกันก็ให้เชื่อไว้ครึ่งหนึ่ง
แล้วปฏิบัติเพื่อยืนยันอีกครึ่งหนึ่ง

..เป็นสิ่งที่ยาก สำหรับการที่จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด
ความเพียร ความเป็นผู้มีศีล การคบกับสัปบุรุษ การเป็นผู้มีกัลยาณมิตร ที่ดี
ย่อมจะช่วยส่งเสริมรวมไปถึงสนับสนุน ความคิดเห็นให้ตรงตามพระสัทธรรม
ของพระพุทธองค์ได้โดยง่ายขึ้น

_______________________________
ที่มาข้อคิดธรรมจาก อาจารย์สัญชัย พรหมฤาษี


Create Date : 27 ธันวาคม 2552
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 16:54:40 น. 2 comments
Counter : 1268 Pageviews.

 
ไม่ว่าจะผ่านไปสักกีปี
ยังมีความปรารถนาดีมามอบให้
แม้ว่าอยู่ห่างไกลยัง
มีน้ำใจส่งถึงกัน
ปีนั้นปีนี้ปีไหน
ยังมีพลังใจเติมฝัน
สืยทอดมานานวัน
ขอให้สุขสันต์ทุกวันไป

จากไผ่ค่ะ


โดย: chabori วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:16:23:08 น.  

 
ทําตามคําสอน:-)


โดย: ณัฐวุฒิ IP: 101.108.114.52 วันที่: 2 มีนาคม 2556 เวลา:12:26:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใจพรานธรรม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว
เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย

..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง
เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว
ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง
ใครสร้างท่านไม่ได้

พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น
จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย
ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
S! Radio
Express 4
เพลง ทานตะวัน ---ฟอร์ด
ศิลปิน รวมศิลปิน : Express
อัลบั้ม Express 4
ดูเนื้อเพลงคัดลอกโค้ดเพลงนี้
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
Friends' blogs
[Add ใจพรานธรรม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.