|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
20 คำถามทบทวนตัวเองก่อนเริ่มต้นปีใหม่
วันสิ้นปีมาถึงอีกแล้วสินะ . . เหมือนเวลาจะผ่านไปไวมาก ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านไปนี้ มีเหตุการณ์หลายๆ เกิดขึ้น ผู้คน . . บ้างผ่านเข้า บ้างเดินออก บางคนผ่านเข้ามาให้ให้เรียนรู้ และบางคนแวะมาทำให้เราจดจำ . . . บางคน เรายังยึดติดกับเขา แงะ แคะ แกะ เกา . . แค่ไหนก็ยังไล่ไม่ไป ล้วนเป็นเราที่ดื้อด้าน บางคน . . เราเดินจากมา เพราะรู้ดีว่าไร้ประโยชน์ที่จะยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบไหน และมันจะทำให้เรา รู้สึกดีใจ เสียใจ . . มากมาย บ้าบอยังไง สุดท้ายแล้ว . . เราก็ต้องพร้อมยอมรับ ทำความเข้าใจ และเรียนรู้ ที่จะอยู่กับมันให้ได้ . . อยู่ดี . . ชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้ล่ะนะ และเพื่อเป็นการรีเช็คตัวเอง เรามาย้อนดูกันดีกว่าว่า . . ใน 1 ปีทีผ่านมานี้ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง . .โหย . . คือ แค่หัวข้อแรกก็ยากแล้ว . . เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้หรอ ยากจุง เพราะแค่เปิดต้นปีมาก็เจอโควิดซะแระ . . แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สามารถมองหาข้อดีในเรื่องร้ายได้ . . . Think Positive อย่างน้อย . . ในยุคโควิด ที่มีคนตกงานทั้งเมือง แต่ . . เราก็ยังได้เงินเดือนปกติ และสิ้นปีได้โบนัส 1 เท่า (แม้ว่ามันจะลดจำนวนมาจาก 3 เท่าก็ตาม) กัดฟันน้ำตาไหลซิก และแม้ว่าปีที่แล้วไม่ได้ปรับเงินเดือน แต่ . . มกราคมนี้อาจจะได้ปรับ ละมังนะ . . กำลังลุ้นอยู่ ซึ่งถ้าได้ ก็จะได้ปันผลย้อนหลัง 12 เดือนด้วย
ต้นปีที่ผ่านมา ช่วงมีค. - พค. เรา Work From Homeอยู่บ้านหนีโควิด ข้อดีของไอ้การอยู่บ้านเนี่ยะ นอกจาก จะไม่ต้องตื่นเช้าลุยรถติด ฝ่า PM2.5 ไปทำงานแล้ว ยังเหมือนเราได้อยู่ดูแลแม่ไปในตัว . . นางมีเพื่อนจึงเริงร่ามาก แม้ว่าจะต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัว อาทิตย์นึงออกไปซื้ออาหารแมคโคร ตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อตุนเสบียงก็ตาม . . แต่ . . การได่อยู่บ้าน ก็ทำให้เราได้ทำอาหาร ให้แม่กินทุกวัน จนส่งเมนู 3F อย่างรื่นเริงบันเทิงเริงใจมาก . . จริงๆ โฮ๊ะ
ร้ายสุดในสามโลก จนถึงปัจจุบันนี้ ก็อีโควิดนี่แหละ . . ลุ้นมาก ถึงขั้นไปทำประกันไว้เลยทั้งแม่ทั้งลูก ยิ่งเราเป็นโรคประจำตัว เกี่ยวกับทางเดินหายใจอยู่แล้วด้วย(หอบหืด) มันยิ่งโคตรลุ้นหนัก เพราะอาการทุกอย่างมันใช่หมดเลย ขาดแค่ตัวร้อนเท่านั้นเอง . . แถมมันกลัวไปอีกว่าถ้าเราติดโควิดเนี่ยะ เราจะอาการหนักมากไหม ปอดเราปกติก็ไม่ได้ทำงาน 100% อยู่แล้วด้วย มีความกลัวหนักมาก แต่ก็แปลกที่ครึ่งปีแรกเราไม่เป็นอะไรเลย ไม่ป่วยไม่หวัด ไม่ไข้ไม่ไอ 55+ แม่ม บ้าบอ . . .
แต่ตอนนี้ . . คิดเลยนะว่า ถ้าเมริงจะเป็น ก็รีบเป็นแม่มเลยเหอะ ให้จบๆ ไปก่อนประกันตูจะหมดในเดือนมีนาคมนี้ . . ดูข่าวแล้วเครียด เหมือนมันจะควบคุมสถานการไม่ได้แล้วยังไงยังงั้น . .
บทเรียนที่ได้ในยุคโควิด คือ . . ถ้าการไม่เป็นโรค คือลาภอันประเสริฐแล้ว การไม่เป็นหนี้ และมีเงินใช้จ่าย แบบไม่เดือดร้อนเนี่ยะ เราถือว่าเป็นยอดคนที่แท้ทรูเลยจริงๆเอาจริงๆ เราถึงกับต้องมานั่งคิดเรื่องการอยู่อย่างพอเพียงเลยทีเดียว เหอๆ . . เพราะขนาดว่า เราเป็นแค่หนี้บ้านล้านหน่อยๆ หนี้บัตรเครดิต เราไม่มีนะ (เพราะเรางก จ่ายเต็มตลอด) เรายังคิดมากเลย . . เรากลัวเราตายไป แม่เราจะสามารถรับภาระหนี้สินได้ไหม . . ประกันตายที่ทำไว้ ตอนนี้ . . .แม่ได้หกแสนเองมัง ได้หนี้ครึ่งเดียวเอง . . แล้วยังคิดไปถึงว่า ถ้าตกงานล่ะ ถ้าโดนออกล่ะ จะเอาเงินที่ไหนผ่อนบ้าน บลาๆๆ สุดท้าย จึงต้องไปทำประกันเพิ่ม(กำลังดำเนินการ) รอบนี้ ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นกับเราจริงๆ (ตาย) แม่สามารถมีเงิน Cover หนี้บ้าน ที่เรากู้ค้างไว้ได้เต็มจำนวนแล้ว . . มันต้องแบบนี้แหละถึงจะวางใจได้. .
เพราะงั้น . . ถึงแม้ เราจะ Happy กับการมีบ้านมาก มีความสุขมากกว่าอยู่คอนโดฯ เยอะ ได้ปลูกต้นไม้ ได้เลี้ยงแมว สนุกสนาน ของผลผลิดข้างบ้านที่ปลูกเอง . . ก็ตามทีเถอะ . . แต่หลังจากนี้ต่อไป . . ถ้าเป็นไปได้อย่าสร้างหนี้รุงรังเลย"ชีวิตคนมันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ . . "
เราอยากขอบคุณ และขอโทษ ร่างกายตัวเอง คือ บอกเลยว่าหลังจากหมดโควิดรอบแรก . . เราเก็บกดมาก พอแม่กลับบ้านไป เรากับเพื่อนบ้านกินเที่ยวกันแบบ ไม่แคร์สังขาร เลยจริงๆ . . แบบอยากไปไหนไป . . อยากกินไรกิน เข้าเผ่าคืออะไร ทำได้สองสามวันก็หลุดอีกแล้ว . .
ต้องขอโทษนายด้วยจริงๆ ที่เราทำตัวแบบนี้ . . เราสำนึกผิดแล้ว และขอบคุณมากๆ ที่ยังอดทนกับเรา . . เราสัญญาว่าปีหน้า เราจะแคร์นายให้มาก . . . จะไม่ปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่ ทำตัวเลวร้ายสร้างเรื่องให้นายอีกแล้ว . . ขอโทษจริงๆ จากใจ . .
วันที่มีความสุขคือ ช่วงปลายเดือน พย. ที่ผ่านมา โควิดรอบ 2 ยังไม่ระบาด เราได้มีโอกาสพาแม่ไปเที่ยว ทริปนี้ประสบความสำเร็จ นางมีความสุขมากกกก . . ที่พักก็ชอบ อาหารก็ดี นอนก็หลับดี บลาๆๆเมื่อเห็นแม่เรามีความสุข ลูกสาวก็มีความสุขตาม . . ❤
ตั้งแต่ปลายปี 19 ที่เราบอกเพื่อนบ้านว่า เราเหงา เราอยากเลี้ยงแมว เราอยากมีสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้ในบ้าน . . บ้าง ไม่ใช่มีเราคนเดียว เรารู้สึกเหมือนว่าเราจะเป็นโรคซึมเศร้า ดราม่าขั้นสุด (คิดไปเอง) เพื่อนบ้านเลยเห็นใจ เอาสุดยอดพ่อพันธ์ (อีเตี้ยฉายาทำร้อยได้หนึ่ง) ไปปุดกาดในเว็บหาคู่(แมว) วันแล้ววันเล่า . . เตี้ยผู้หล่อเหลา ก็หามีผู้สาวใดสนใจไม่ . . ถถถถ . . เตี้ย สุดท้าย . . เลยไปได้แม่สาวใกล้ตัว (บ้านข้างๆ) นางสาวลูน่าจอมโหด ฉายากระโดดตบนกตายในฝ่ามือเดียว . . . 555+
ลุ้นกันอยู่สักพัก . . . สุดท้ายก็ท้อง จร้าาาาา . . . เห็นแบบนี้ เตี้ยก็มีน้ำยานะฮับ แต่ . . . . น้ำยาเตี้ย มีแค่สองดอกเองค่ะคุณ ทำเป็นร้อย ได้สองจริงๆ กร๊ากก
สองหนุ่มน้อยที่เกิดมา วันที่ 8 กรกฎาคม . . หนึ่งในนั้น เพื่อนบ้านยกให้เรา และตั้งชื่อว่าตุ๊บตั๊บ จริงๆ ตอนแรกเราจะตั้งชื่อแมวว่าฟองเบียร์กะวอดก้า แต่เพื่อนบ้านไม่อนุมัติ เราเลยเปลี่ยนเป็นตุ๊บตั๊บกับเจ๋งเป้งแทน (เจ๋งเป้งเพื่อนบ้านตั้ง)
เด็กชายตุ๊บตั๊บ หน้าตาบ้องแบ๊วน่ารักขั้นสุด แต่อ่อนมากกกก . . กินนมก็กินไม่ทันเค้า โดนแย่งตลอด . . . แถมเกิดมาขาแบะอีก จนเรากลัวว่า . . นางจะเดินไม่ได้ ต้องคอยหาเวลาไปนวดเท้าให้นางอยู่เรื่อยๆ เเต่สุดท้าย . . ไอ้อาการขาแบะก็ปกติค่ะ . . เค้าบอกว่ามันเป็นอาการปกติ ของแมวขาสั้น . . ก็นะ ตอนอีเตี้ยพ่อมันไม่เป็นแบบนี้เราเลย งงๆ
ก่อนคืนวันเกิดเราหนึ่งวัน 5 สิงหาคม คืนนั้นเรานอนไม่หลับ และอยู่ดีๆ ก็ไปเปิดเพจแมว ดูนั่นดูนี่จนเจอโพสหนึ่ง ที่บอกว่า น้องตกรถโรงเรียนค่ะ (หลุดจอง) พร้อมกับแนบรูปแมวหน้าตาตลกๆ มาด้วย 1 ตัว เท่านั้นแหละ เราหลังไมค์ไปทักแชทขอดูหน้าน้อง คนขายก็ตอบอย่างไวทั้งที่ห้าทุ่มแล้ว ส่งคลิปน้องมาให้ดู . . พอดูแล้ว เราชอบมาก ชอบในหน้าตาร้ายๆ ของนาง โทรหา สุดยอดเพื่อนบ้านทันที ตอนห้าทุ่มกว่า เพื่อนบ้านก็รับสายทันที . . เราบอกว่า . . . "เท้อออออ . . เราอยากได้ . . เอามาเป็นเพื่อนตุ๊บตั๊บ"
เท่านั้นล่ะค่ะคุณ . . อีตั๊บ มันก็มีพี่ชายคนละสายเลือดขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน เจ๋งเป้ง เกิด 15 มิถุนายน (วันเดียวกับเพื่อนเลิฟเฉยเลย) เป็นพี่ตุ๊บตั๊บ 3 Week มีอีกอย่างที่แปลกมาคือ พอสองตัวมาอยู่ด้วยกัน อีเจ๋งเป้ง ที่ซนมาก มากๆ ถึงมากที่สุดเมื่อตอนเด็กๆ กลับกลายเป็นแมวเรียบร้อย โอ๊ยยยย เรียบร้อยมาก อะไรก็ยอมน้องหมด ส่วนน้อง ที่ดูไม่สู้คนกลับกลาย เป็นแมวที่ฉลาดร้ายแกมโกง และขี้โวยวายเอาแต่ใจมาก (แต่ก็น่ารักมากด้วย)
ดังนั้น . . ถ้าถามถึงเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ ก็ต้องเป็น . . เรื่องลูกชายสองตัวนี้แหละค่ะ เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว . .
จริงๆ เมื่อต้นปี ไม่มีอะไรทำ ก็เปิดหนังดูกับแม่ไปหลายเรื่องอยู่นะ แต่เราเป็นพวกจำชื่อหนังไม่ค่อยได้ มันก็เลยไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย 5555+ พอแม่กลับ ก็อย่างว่า เราแทบไม่ได้เปิดทีวีเลย . . ทีวีที่บ้าน มันเลยเหมือน . . . มีไว้ดูเรามากกว่าเราดูทีวี . . เป็นเช่นนั้นไปอ่าาา . .
หนังจะได้ดูส่วนมากก็คือตอนเราออกกำลังกาย . . และอย่างที่สารภาพไป ว่าเราขี้เกียจและใช้ร่างกายพังมาก ทำให้เราแทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย ดังนั้น .. เมื่อไม่ได้ออกกำลังกายก็คือไม่ได้ดูหนัง (งงใจ . . เอาไปรวมกันเฉยเลย) อย่างไรก็ตาม . . ในขณะที่โม้ไปโม้มาอยู่เนี่ยะ. . ทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า เฮ้ยยยย . . เรา ตูดูซีรี่จบไปสามเรื่องเว่ยยยย . . . . . เรื่องแรกเราชอบมาก เรา งง ว่าเราพลาดเรื่องนี้มาได้ตั้งนานได้อย่างไร เพราะว่า ตอนเป็นนิยาย เราอ่านสามสี่ตลบเลย . . ทั้งภาคปกติและภาคเสริม . . เรื่องที่ว่านี่คือสามชาติสามภพลิขิตเหนือเขนยเว่ย สนุกมากกกก ฟินจิกหมอนอยู่ผู้เดว
เราว่า . . ที่เรามองข้ามมา ตั้งนาน อาจจะเป็นเพราะว่า เราดูผ่านๆ แล้วเหมือนพระเอกมันไม่หล่อ . . แต่ ใดๆ อะไรคือไม่หล่อวะ อย่างเทห์ . . . ซึนเดแระ จิบสาว หน้ามึนมากกกก. . นางเอกก็น่ารัก
อีกเรื่องคือ The world of the married โอ๊ยยย . . เป็นหนังชีวิตเครียดๆ มากมาย แต่ดันหยุดดูไม่ได้ จบ EP นึงแล้ว มันต้องดูต่อ ต้องดูต่อ . . แม่ม อย่างกะสารเสพติด . . แล้วนะทั้งเรื่อง ก็เหมือนมีแต่คนโรคจิต แถมพอดูจบแล้วทำให้ไม่อยากมีผัวไปสามวันเลย สุดอ่า
เรื่องสุดท้าย . . คือ เรื่องนี้ ค่ะ นายเย็นชากับยัยปลาหมึก เป็นเรื่องเกี่ยวกับเกม พระเอกหล่อมึนเหมือนเดิม . . นางเอกโก๊ะๆ เราชอบมาก . . ยิ่งตอนต้นปี เรามีบ้าบออยู่กับผู้(คนหนึ่ง) ที่เคยเล่าให้ฟังว่าไปแอ๊วมาจากงานแต่งเพื่อน ทีนี้ . . คุยไปคุยมา เรารู้สึกเหมือนโดนกั๊ก แบบมาๆ หายๆ เราหงุดหงิดมาก เลยอาศัยเข้าห้องออกกำลังกายให้เหงื่อออกเพื่อคลายความหงิด เปิดไปเจอเรื่องนี้ ค่ะ โอ๊ยยย ปั่นไปฟินไป กริ๊ดไป . . บ้าบอ อยู่ในห้องออกกำลังกาย . . เหอๆ . . . ไอ้สรุปสิ้นปีเนี่ยะ ยิ่งเล่า มากขึ้นเรื่อยๆ พิมพ์ไปพิมพ์มา ทำไมรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยปกติขึ้นเรื่อยๆ 55+
หนังสือที่เราชื่นชอบ มานานนม . . ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ยังเป็นนิยายเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน อนาคต เหมือนเดิม แบบว่านางเอก อยู่ยุคปัจจุบัน แล้วหลุดเข้าไปในยุคอดีตจีนโบราณ 555+ แต่ปีนี้ เพิ่มสกิลมานิดหน่อยคือ . . ต้องย้อนอดีตมาปลูกผักและทำอาหารด้วยจร้าา อ่านฟินอ่านเพลินจริงอะไรจริง ล่าสุดที่ติดหนึบนี่เลยเรื่องทุ่งรวงทอง นิยายแบบสบายๆ แก้เครียด ผสมดราม่าลงไปแแบบน้อยนิดมาก
ปกติแล้ว . . วิถีคนโสดแบบหนอน จะใช้เวลากับตัวเอง และโลกของนิยายซะส่วนใหญ่ . . แบบติดงอมแงมหนักมาก แต่ . . . . . . . ไอ้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เครียดโควิดหนักมาก ทำให้ เกิดภาวะอ่านนิยายไม่ได้ ยันกลางปีเลย คือมันอ่านไม่รู้เรื่องอ่ะค่ะ เหมือนใครมันไม่มีสมาธิ มันไม่สามารถจรดจ่ออยู่กับนิยายได้ . .
เพราะงั้น . . ถ้าถามว่าใช้เวลากับอะไรมากที่สุด ขอแบ่งเป็นช่วงๆ ช่วงครึ่งปีแรก WFH อยู่บ้านวันๆ พอว่างจากงานก็คิดแต่เรื่องอาหารค่ะ ยกให้เป็นนัมเบอร์วันเลย . . วันๆ ไม่เป็นอันทำอะไร คิดแต่ว่า จะทำอาหารเมนูอะไรดี . . แล้วนะเปิดแอร์ทั้งวัน แล้วยังอบขนมนั่นนี่ หม้อทอดไร้น้ำมันก็มี เครื่องทำน้ำแข็งใสก็ยกออกมา . . จนค่าไฟเหยียบสองพันเป็นครั้งแรกเลยค่ะ
ส่วนครึ่งปีหลัง . . กลับมาอ่านนิยายได้แล้ว (เย้) ก็เลย . . เสพติดนิยายมาก ซีรี่หนังไม่ค่อยได้ดูเลยค่ะ (เสียตังค์เนตฟลิกไปเปล่าๆ ปลี้ๆ จริงๆ) . . กับอีกอย่างที่สำคัญ คือลูกชายสองเหมียวค่ะ . . . ไหนจะต้องอกไปเดินเล่นดูนก ไหนจะต้องอาบน้ำเป่าขน ไหนจะเก็บขรี้ ต้องมีเวลาเล่นเกาคางด้วยนะ ดูดเวลาแม่ไปหมดจนไม่มีเวลา ไปคิดถึงผู้เลยค่ะ (นับว่าเป็นข้อดีจริงๆ )
สถานะทางการเงินต้องบอกว่า . . พังระเบิดระเบ้ออออ เลยจร้าาา . . พังทั้งสิ่งของรอบๆ ตัว พังทั้งเงินในกระเป๋า . . . . แบบหลายเรื่องมาก เท่าที่จำได้เลยนะ. . . เดี๋ยวก็แอร์ฟังเปลี่ยนแอร์จร้า มิซซูอินเวอร์เต้อหมื่นแปดบีทียู จำราคาไมไ่ด้ แต่ไปสอยมาที่พาวเวอบาย ไม่ใช่แอร์กระกอบ ไหนจะหลังบ้าน หลังคารั่ว คือที่รั่วเนี่ยะ ไม่ใช่เพราะอินี่ต่อเติมบ้านนะ . . แต่เป็นเพราะ AP เอาช่างมาทาสี เอาบันไดขึ้นเหยียบบนหลังคาแล้วไม่เอาอะไรรอง . . ทำให้หลังคาบุบ เราโวยวายนางเลยเอา . . แผ่นหลังคามาเปลี่ยนให้ทีนี้ พอรื้อ ไอ้ตรงรู ตรงลอนหลังคามันไม่ตรงรอยเดิมอันเก่าที่เราอุดไว้ น้ำมันเลยไหลจากราง ที่อยู่ด้านหลังเข้ามาในบ้านเป็นน้ำตก เราเสียเงินซ่อมหลังรอบมาก เริ่มจากเปลี่ยนปลั๊กให้กันน้ำได้ . . แต่หวังว่าจะช่วยได้ แต่ไม่จร้าา แม่ม . . วอนโดนไฟดูซะอีก จนต้องหาช่างมารือฝ้า อุดหลังคาจากด้านใน แล้วฝ้าอีนี่เป็นแผ่นไม้มาต่อๆ กันเรื่องมากอีกต้องทาสีทั้งหมดให้มัน เป็นสีเท่าๆ กันอีก เสียค่าทาสีอีก รวมค่าซ่อมทำสี ทำปลั๊กอันเก่า เสียไปเหนอะๆ ห้าพันพวก แล้วนะ . .
ไม่พอ ปลายปีเอารถไปซ่อม แทบจะทำช่วงล่างใหม่ทั้งหมด หมดไปสี่หมื่นบวกๆ . . . ยังๆ . .ยังต้องซื้อชั้นวางเพื่อย้ายไอ้พวก เครื่องใช้ไฟฟ้าหนีน้ำรั่วอีก ชีช้ำ . .นี่ไม่นับค่ายาที่ป่วยเรื้อรังจนถึงเดือน พย. อะนะ . . อ่อ อีกอันโทรศัพท์เครื่องรองพัง ซื้ออีกหกพันกว่าบาท เหอะๆ ไหนจะเครื่องกรองอากาศ ที่ใช้ในออฟฟิต จริงๆ มันมีอื่นๆ อีก แต่จำไม่ได้พยายามลืมๆ ไป แต่หมดไปเยอะแหละ . .
แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ช่วงต้นเดือนที่มาเล่าให้ฟังอ่ะ แม่จะมาเอาเงินไปใช้หนี้แทนป้าเว่ย เงินอันน้อยนิดที่อีนี่ กะว่าจะเก็บไปดาวรถยนต์ ยังไม่รู้เลยว่าต้องส่งให้แม่ไหม เพราะตอนนี้ เราส่งไปก็ไม่พอจ่ายหนี้ แม่ก็กล้ากู้มาให้เขาเยอะ ตอนแรกบอกสามแสนจะกู้ ตอนนี้ห้าแสน นางเลยเปลี่ยนใจไม่กู้แล้ว เดชะบุญจริงๆ . . . บางทีก้อคิดนะ หรือว่าตูเอาเงินไปถมบ้านแม่ม จะได้ไม่มีให้แม่ . . แต่นะ สุดท้ายถ้านางใจอ่อนนางก็ไปกู้อยู่ดี เฮ้อออ . . . สัตว์โลกดำเนินไปตามกรรม !!
สิ่งที่คิดว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำคือ เราอยากจะทำอาหารขาย อาจจะเป็นพวกสลัดผัก หรือพวกขนมกินเล่น ที่ออฟฟิตมีไลน์ ขายของกัน มีเพื่อนหลายคนที่รับเอาข้าวกล่องมาขาย เราอยากทำบ้าง . . . เลยคิดว่าปีหน้าจะลองทำดู
และร้านเบเกอรี่แถวบ้าน มีคอสสอนทำขนมฟรีอยู๋เรื่อยๆ แม้ว่าตอนนี้ จะถูกยกเลิกไปหลายคอสเพราะปัญหาโควิดก็ตาม เอาเป็นว่าหลังจากนี้ เมื่อพวกเราทุกคนสามารถหาวิธีรับมือกับปัญหาโควิดได้แล้ว เราคงจะมีโอกาสเกาะเพื่อนบ้านไปเรียนกับเขาบ้าง . . .
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ . . ขอย้อนกลับไปเดือน พฤษภาคมค่ะ ย้อนไปทำไมน่ะหรอ . . . . แม่ม คิดแล้วอยากเบิ๊กกระโหลกตัวเองสักที เอาไรคิดว่า . . ติดแอร์ . . ไม่ควรให้ลมแอร์มาโดนขา ไปสั่งช่าง ติดด้านข้างซะงั้น . . แอร์หมื่นแปด อินเวอร์เตอร์ในห้องนิดนึง เลยเย็นไม่ถึงใจเลย ยิ่งเป็นคนขี้ร้อนอยู่ด้วย . . ง่าวแท้ . . .
ปัจจุบันเปิดพัดลมช่วยเอาให้ลมแอร์ มันมาถึงตัว . . ไม่งั้นอีนี่ไม่พอใจ เฮ้ออ . . สุดท้ายก็คงต้อง ย้ายกลับไปเป็นมุมเดิมบนหนังตู้เสื้อผ้าน่ะแหละ แต่ว่ายังเสียดายตังค์ ย้ายแอร์ทีก็ 3000 นะ เปลืองอิ๊บบบ . . ทนๆไปก่อนละกัน
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา . . ตั้งแต่หมดโควิดช่วงแรกไป เรารู้สึกว่าสุขภาพจิตเราแย่มาก เหมือนเราเครียดจากโควิด แล้วไม่มีทางออกเราก็คิดนั่นนี่ไปเรื่อย . . จนบางครั้ง เราเผลอ . . เอาใจไปลงเล่นกับความสัมพันธ์กับใครหลายๆ คนมากเกินไป เอาใจลงไปเล่นไม่พอ ยังเอาความสุขของตัวเอง ไปผูกติดไว้กับเขาด้วย
ซึ่งมันไม่โอเคเลย . . . เรารู้ว่ามันไม่ดี แต่เรากลับบังคับตัวเองไม่ได้ . . แหละแม้ว่าจะพยายามแก้ปัญหานี้อย่างไร ทำไงก็แก้ไม่ได้ มันเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง . . เราบ้าบอถึงขั้นไปหาข้อมูล เกี่ยวกับกฎสามเหลี่ยมความรักบ้าง วิธ๊การเอาตัวเองออกมา จากความลุ่มหลงบ้าง . . ช่วงนั้นเราอ่านบทความเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ มากมายจริงๆ . . ปฏิเสธไม่ได้ว่า สุขภาพจิตมีผลต่อการดำเนินชีวิต มันส่งผลโดยตรงต่อการกระทำหลายๆ อย่างของเรา . . ซึ่งการทำอะไรตามใจ ตัวเองมากเกินไปมักส่งผลเสียได้ โดยเฉพาะร่างกายของเราเอง สุขภาพจิตและสุขภาพกายเราย่ำแย่มาก . . .
จนมาช่วงเกือบๆ จะปลายปีนี้เอง ที่อยู่ดีๆ ไอ้ความรู้สึกนั้นมันก็หายไปเองเว่ย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความชาชินของตัวเราเอง แต่อีกส่วนหนึ่ง คงเป็นเพราะเวลา . . เวลามักช่วยเยียวยายจิตใจของเราได้เกือบหมดแล้ว เราจึงสามารถย้ายจุดโฟกัสจากคนอื่น . . กลับมาที่ตัวเราเองได้ทุกวันนี้เราคาดหวังกับคนรอบข้างน้อยลงมาก ซึ่ง . . เราคิดว่า . . สิ่งนี้ . . คือความสำเร็จของเราแหละ เพราะมันไม่ง่ายเลย กว่าจะผ่านมันมาได้ เราเชื่อว่า . .จิตใจ ณ สภาวะปัจจุบันของเรา จะทำให้เรามุ่งมั่น ทำแต่สิ่งดีๆ ให้กับตัวเองในปีหน้าได้ และ เรามั่นใจว่ามันจะต้องสำเร็จ!!
เรื่องงาน . . .ต้องบอกว่าเรื่อยๆ มาเรียงๆ ค่ะ . . ทำงานที่นี่สบายๆ ไม่มีอะไรกดดัน แต่ก็ไม่มีอะไรก้าวหน้า เราซึ่งค่อนข้างสโลวไลฟ์ ไฟกลางๆ ก็พออยู๋ได้ไปเรื่อยๆ ค่ะ . . . เงินเดือนไม่มาก แต่เราไม่ใช่คนติดหรู เราอยู่แบบพอมีพอใช้ ได้เงินมาก็ใช้หนี้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน . . มันก็อยู่ได้
จากภาวะโควิดที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี . . แม้มันจะไม่มีผลกระทบกับ บริษัทเรามากนัก แต่ก็มีการจ้างคนออก 6 คน ค่ะ ระดับบิ๊กๆ ทั้งนั้น เราเลยคิดว่า ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบเราคงยังอีกนาน . . (คิดเอง)
เพราะงั้น . . ณ เวลานี้ โควิดรอบ 2 มาอีกแล้วตอนปลายปี บวกกับหนี้บ้านยังไม่หมด เราเลยตัดสินใจว่า จะเกาะงานประจำ(ที่เดิม) ที่นี่ไว้ให้แน่นๆ เลย ไม่ไปไหนแน่นอน . . . จนกว่าเราจะผ่อนบ้านหมด
เรื่องสุขภาพ ต้นปีโอเคมากค่ะ สงสัยเป็นเพราะเราใส่แมสตลอด การใส่แมส ที่กรอง PM2.5 ไว้ตลอดเวลาไปไหนมาไหน ทำให้ เราซึ่งเป็นคนแพ้ฝุ่น ไม่ป่วยเลย . . ดิ๊ดี . . แต่ . . . สุดท้ายก็ไม่รอดค่ะ ไม่รอดอีตอนเข้าหน้าฝนเนี่ยะแหละ หลังวันเกิดมาเลย แย่มากถึงมากที่สุด บวกกับ PM.2.5 กลับมาซ้ำเติมกันอีกรอบตอนปลายปี หนักเลยคราวนี้ นี่ขนาดถึงขั้นว่า ซื้อเครื่องกรองไว้ในห้องนอนตัว ไว้ที่ทำงานตัวเลยคิดดู
อันที่จริงแล้ว . . เรามีนัดกับหมอไว้ เมื่อ กพ. ต้นปี แต่ว่ากลัวโควิด เลยไม่ไป . . กินยาเองพ่นยาเองลากยาวมาเรื่อยๆ จนถึงปลายปี ยาอื่นหาได้หมด แต่ . . ยาพ่นระงับอาหารหอบหืด ขวดสีแดงมัน หาซื้อด้านนอกไม่ได้ ต้องหมอสั่งเท่านั้น . . . . สุดท้ายก็ต้องไป รพ. ไปทำนัดใหม่ ไปรอคิวใหม่ . . เจอหมอใหม่ . . .
รอบนี้ คุณหมอให้ยามากิน แล้วให้ไปเจออีกทีในสามอาทิตย์ ซึ่งก่อนจะเจอหมอ . . .ก็ดราม่ากับตัวเองกลับมาน้ำตาแตกไปรอบ คือ . . ตอนนั้นมันป่วยๆ เหนื่อยๆ ต่อเนื่อง เราเลยไม่อยากไปรพ. มันรอนาน มันเหนื่อย เลยไปคลีนิคแถวบ้านแทน แต่คลีนิคก็ด่า บอกว่าประกันสังคมมันมีงบให้แค่เท่านี้เองจะรักษาไรได้ ไล่ไป รพ. พอไปรพ. รอคิว จนจะได้คิวละ นางพยาบาลบอก เลยเวลาหมอกลับไปแล้ว ถ้าจะตรวจวันนี้ให้มาต่อคิวใหม่ . . เออ แม่ม บ้ามะ
ด่าตัวเองสิทีนี้ ว่าทำไมไม่ยอมเสียเงินทำประกันสุขภาพ ไว้ตั้งแต่ตอนอายุไม่เยอะ พอจะมาทำตอนนี้ มันก็ไม่ได้แล้ว ทำไปก็ไม่ Cover โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอยู่ดี . . ในเมื่อเลือกเองก็ต้องยอม รอคิว รพ. รัฐไปแบบนี้แหละ ต้นเหตุ . . ความดราม่า มันก็เป็นจั่งซี๊ . .
ซึ่ง ปัจจุบัน ทำใจได้แล้ว เข้าใจขั้นตอนการทำงานของ รพ. แล้ว เหมือนว่าปลงได้ . . มันเลยโอเคขึ้น . . . พอปลงได้มันก็นึกย้อนไป ว่าทำไมตอนนี้ ตูเป็นไปได้ขนาดนั้นวะ . . สงสัยแม่มป่วยติดๆกันนาน จิตใจเลยอ่อนแอ ล่าสุดไปเจอหมอมาเดือนที่แล้ว หมอบอกโอเคแล้ว ไม่ต้องมาอีก จากนั้นก็ให้ยามาตุน . . แล้วนัดเช็คอัพ อีกทีเดือน มีนาคมเลย เยี่ยม!!
ไปๆ มาๆ ตั้งแต่มีสองแสบมาอยู่ด้วย แล้วไม่เหงาเลยบ ความเหงาหายไปหมด ถ้าไม่นับตอนแม่กลับบ้านแรก แล้วเราต้องปรับตัวเพราะบ้านเงียบมาก และเราไม่รู้ จะทำอาหารให้ใครกินอะนะ . . 555+ เนี่ยะ ถ้าไม่นับเรื่องนี้ เราถือว่าเราไม่เหงาเลย . ..
จะบอกว่า . . ตั้งแต่เดือน พย. ปีที่แล้ว เราเจอเรื่องบางอย่าง เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเพื่อน ตั้งแต่ตอนนั้น . . กลายเป็นว่า เราเลิกคาดหวังอะไรกับผู้คนเลย โดยเฉพาะผู้คนที่มีชื่อว่าเพื่อน เพราะงั้น . . ถ้าใครอยากจะหายไปจากชีวิตเรา เราก็พร้อมยอมรับการตัดสินใจของเขาเสมอ . . .พออายุมากขึ้น . . มันก็เริ่มจะปลงกับอะไร ได้หลายๆเรื่อง มากตามกันไปจริงๆ นั่นแหละ🍃ข้อคิดไว้เตือนตัวเองในวันที่ชีวิต “ ข า ด ส ติ “🍃" เมื่อชีวิตถึงจุดหนึ่ง เราจะมีความสุข กับของไม่กี่อย่าง กับคนไม่กี่คน เพราะรู้ดีว่า ยิ่งแบกยิ่งทุกข์ ตายไปก็หอบอะไรไปไม่ได้สักอย่าง แบกทุกอย่างไว้ มันก็ทุกข์ วางลงได้แบบไม่ยึดติด มันก็สุข
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ของอะไรไม่จำเป็น ขายทิ้งบ้าง ให้คนอื่นไปบ้าง บริจาคบ้าง เพราะไม่รู้จะสะสมไปทำไม เก็บเอาไว้เฉพาะแค่สิ่งที่จำเป็น หรือบางอย่างที่ยังปล่อยวางไม่ได้ ที่เรายังมีความทรงจำกับมันอยู่ ก็อย่าลืมเตือนตัวเองด้วยว่า ถ้ามันเป็นอะไรไป ก็จะไม่ยึดติดกับมัน. .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เพื่อนคนไหนที่ไม่จำเป็นก็ตัดทิ้ง คบแค่คนที่อยู่กับเราในยามลำบาก เราลำบาก .. เขาก็มาเยี่ยมเรา เขาลำบาก .. เราก็ไปเยี่ยมเขา วันไหนมีความสุข . . ก็นัดกันปาร์ตี้ วันไหนมีความทุกข์ . . ก็มาให้กำลังใจกัน ส่วนที่เหลือ คบแค่รู้จ้กก็พอ !!
เพราะสุดท้ายแล้ว .. ทุกคนก็ต้องมีภาระของตัวเอง มีวันเวลาเป็นของตัวเอง เราจะพึ่งพาใครไปตลอดไม่ได้หรอก
ใครมีความสุขได้กับความธรรมดา โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร ก็เก่งที่สุดแล้ว. . ❤ “
[ บทความดีๆจากเพจ : การเดินทางของเสือ ]
ไม่ต้องถึงประโยคหรอก . .ให้สามคำ สำหรับปี 2020 นั่นก็คือ . . . เปื่อย ปม อ้วน แค่สามคำนี้ . . ก็ตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกเรื่องราวเลยจร้าาาา . .
หัวข้อนี้ . . ไม่อธิบายนะ . . . ตามนั้นเลย หวังว่าปีหน้าจะเอาตัวเอง หลุดพ้นออกมาจากสามคำนี้ได้ . . . นะหนอน เอาล่ะ ไม่ซ้ำเติมแระ เป็นกำลังใจให้แกรก็แล้วกันนะหนอนเอร้ยยยย . .
สวัสดดีหนอน . . ถ้าตอนนี้ นายยังไม่หลับ หรือถ้ามีโอกาสเข้ามาอ่าน เราอยากจะบอกนายว่า . . เรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งหมด . . มันเป็นเพราะเราทำพลาดเอง . . เราขอโทษที่ทำให้นายต้องทน ขอโทษที่ทำให้เจ็บปวด ขอโทษที่ทำให้ป่วย . . ขอโทษที่เอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป
เราไม่มีอะไรจะแก้ตัว . . .แต่ . . จากนี้ . . เราสัญญาว่า เราจะแคร์นายให้มากขึ้น . . เราจะรักนาย . . . แบบไม่มีเงื่อนไข เราจะให้นายมาเป็นที่หนึ่ง ของทุกเหตุผลที่มี . . เราจะไม่ทำให้นายฃ ต้องเสี่ยงหรือเจ็บปวดอีกแล้ว . . จริงๆ สัญญา . .
ปีหน้าเป็นปีที่ต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเลย เริ่มตั้งแต่ต้นปี คือ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ ตั้งแต่ช่วงตื่นนอนจนถึงไปทำงาน. . เนื่องจากออฟฟิตตั้งกฎใหม่ว่า ห้ามสายเกิน 8 ชั่วโมงต่อปี บวกกับห้ามลาเกินวันที่กำหนด แบบโหดมาก งงไหม . . สมมติว่า สิทธ์เราลากิจได้ 10 วัน ลาพักร้อนได้ 6 วัน รวมเป็น 16 วัน ต่อปี ถ้าเราอยากให้ตัวเองมีมีสิทธิ์ในการพิจารณาปรับเงินเดือน หรือโบนัส เราต้องไม่ลางานแบบเหมารวมป่วย+กิจ+พักร้อนแล้วห้าเกิน 16 วัน ถ้าลาเกินและยังมาทำงานสายเกินด้วย ก็คือ อดหมด ซึ่งด้วยสภาวะนี้ ถึงแม้ว่าเรายังไม่อาจรู้อนาคต ได้ว่ามันจะยังโบนัสหรือหรือปรับเงินเดือนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม . .เราคงไม่พร้อมที่จะเสี่ยง ดังนั้นก็คงต้องปรับตัวแหละ . . อีกอย่างคือ ต้องมานั่งคิดให้ได้ว่า ถ้าจะไม่ไปทำงานสาย แต่ต้อง ทำข้าวกล่อง ไปกินที่ทำงานด้วย ต้องปรับเวลานอน กับเวลาตื่นยังไง . . ไหนจะภารกิจของลูกชายอีก ต้องปรับใหม่ ทั้งหมด นี่ยังไม่ได้คิดเผื่อเรื่องทำสลัดขายเลยนะหนอนเอ้ย บันเทิงแน่ . . เป็นอันว่าจบ 20 คำถามทบทวนตัวเอง ฮ่าาาา . . ยาวเหยียด . . มีบล็อกไหนที่เขียนแล้วไม่ยาวบ้างนี่ . .ยังไงก็ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาทักทายนะคะ วันนี้ ง่วงมากจริงๆ ต้องลาไปนอนละ . . แล้วเจอกันใหม่ปีหน้าเลยเน่อออ . .สวัสดีปีใหม่จร้าาาา . . ❤ บันทึก D i a r y โดย ตัวหนอนกิ๊วๆ
Create Date : 31 ธันวาคม 2563 |
Last Update : 1 มกราคม 2564 1:19:15 น. |
|
34 comments
|
Counter : 4198 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmultiple, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณทนายอ้วน, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณhaiku, คุณauau_py, คุณkatoy, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา |
โดย: multiple วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:4:55:53 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:5:32:57 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:11:34:43 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:12:06:43 น. |
|
|
|
โดย: auau_py วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:15:45:50 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:22:40:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:22:51:50 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 ธันวาคม 2563 เวลา:23:09:23 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:4:03:36 น. |
|
|
|
โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:5:26:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:6:36:27 น. |
|
|
|
โดย: katoy วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:6:37:27 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:6:51:03 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:8:03:31 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:10:55:07 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:14:28:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มกราคม 2564 เวลา:21:51:56 น. |
|
|
|
โดย: I_am_umami วันที่: 6 มกราคม 2564 เวลา:15:31:17 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 10 มกราคม 2564 เวลา:21:23:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เอา กล้าเขียน ก็กล้าเม้นท์ ซู่ เอ๊ย สู้โว้ยยยย 555
(งานช้างขนาดนี้ ตะเอง เค้าต้องเปิด word พิมพ์แล้วแหละจ้า555)
รอแป๊บ เดี๋ยวตะเอง โดนแน่ อิอิ)