การหาอัตตาที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมนุษย์ ครั้งพุทธกาล ...
การหาอัตตาที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมนุษย์ ครั้งพุทธกาล โดยพระเจ้าปายาสิ...
ความเชื่อทางศาสนาในเรื่องของอัตตามีผลต่อมนุษย์มากทั้งในอดีตและในปัจจุบันทัศนะคติ ต่าง ๆ ที่ส่งผลมาถึงพฤติกรรมของมนุษย์ส่วนใหญ่ ล้วนมีพื้นฐานมาจากความเชื่อเรื่องอัตตาเป็นแรงบันดาลใจทั้งนั้น เช่น ความเชื่อเรื่องโลกหน้า ความเชื่อเรื่องผลของกรรมดีกรรมชั่วที่มนุษย์ทำไว้ ความเชื่อเรื่องสวรรค์ นรก เทวดา เปรต อสุรกาย ความเชื่อเรื่องพระเป็นเจ้า สร้างโลกและจักรวาล
ความเชื่อเรื่องอัตตานี้ตามทัศนะของศาสนาฮินดูมีความเชื่อว่า สรรพสิ่งเกิดมาจากปรมาตมันหรือพระพรหมหรือท้าวมหาพรหมเป็นผู้สร้าง พระพรหมมีฐานะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครข่มเหงได้ รู้สิ่งทั้งปวง เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอิสระ เป็นผู้สร้าง เป็นผู้บันดาล ผู้ประเสริฐ ผู้ บงการ ผู้ทรงอำนาจ เป็นพระบิดาของสัตว์ที่เกิดมาแล้วและกำลังจะเกิด ท่านบันดาลสัตว์ทั้งหมดขึ้นมา และสิ่งที่สร้างขึ้นมานั้นก็มีภาวะเป็นชีวิตนิรันดรไม่มีวันดับสูญ อ้างอิง (ที.สี.(ไทย) ๙/๔๒/๑๗)
ในบรรดาความเชื่อเหล่านั้น ความเชื่อเรื่องอัตตานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกนำมาพิสูจน์และนำมาอภิปรายกันเป็นหัวข้อหลัก เมื่อพระพุทธศาสนาเริ่มก่อตัวเผยแผ่คำสอนใหม่ ๆ ในยุคเริ่มแรกขณะที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ได้มีเจ้าผู้ครองนครแห่งหนึ่งพระนามว่า เจ้าปายาสิ ปกครองเสตัพยนคร ทรงได้พยายามพิสูจน์หาอัตตาหรืออาตมันที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมนุษย์ หลายวิธีการด้วยกัน แต่เมื่อทรงค้นหาสิ่งที่เรียกว่าอัตตาหรืออาตมันไม่พบ
วิธีการพิสูจน์ค้นหาอัตตาที่เจ้าปายาสิทรงกระทำในอดีตนั้น โดยได้ค้นหาจากบุคคลต่าง ๆ ที่กำลังจะตาย หรือแม้กระทั่งการฆ่านักโทษเพื่อการค้นหาอัตตาโดยเฉพาะมี ๘ วิธีการด้วยกัน คือ ๑. พิสูจน์กับผู้ประพฤติอกุศลกรรมที่ใกล้ตาย ๒. พิสูจน์กับผู้ประพฤติดีเป็นกุศลกรรมที่ใกล้ตาย ๓. พิสูจน์กับญาติสายโลหิตที่ประพฤติดีในขณะป่วยหนัก อ้างอิง (ที.ม.(ไทย) ๑๐/๓๐๗/๒๘๕)
การพิสูจน์จากบุคคลทั้ง ๓ ประเภทนี้ โดยการสั่งผู้ใกล้จะตายว่าถ้าตายไปแล้วให้กลับมาทูลด้วยว่าโลกหน้ามีจริงหรือไม่ ถ้าไม่กลับมาทูลแสดงว่าโลกหน้าไม่มีจริง
๔. พิสูจน์โดยใช้ตรรกะกับสมณะพราหมณ์ ผู้ประพฤติดีที่ยังต้องการได้ชีวิตในโลกนี้ไม่รีบฆ่าตัวตายไปรับผลบุญในชาติหน้า โดยจะเห็นได้จากนักบวชที่มีศีลประพฤติธรรมดี แต่ยังมีความต้องการจะมีชีวิตในโลกนี้อยู่ นั่นเมื่อแสดงว่าโลกหน้าไม่มี ท่านเหล่านั้นจึงไม่รีบตายไปเพื่อเกิดเสวยรับผลกรรมดีในภพหน้านั้น อ้างอิง (ที.ม.(ไทย) ๑๐/๓๐๙/๒๘๘.) ๕. พิสูจน์โดยการจับมนุษย์ที่มีชีวิตใส่หม้อให้เสียชีวิต โดยวิธีสั่งให้ราชบุรุษจับนักโทษประหารที่ยังมีชีวิตอยู่ใส่ลงในหม้อแล้วทำการปิดปากหม้อ ใช้หนังที่ยังสดอยู่รัดไว้อย่างแน่นหนาแล้วใช้ดินเหนียวพอกหม้อให้หนาแล้วนำไปต้มยังเตาไฟ เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควรคาดว่านักโทษนั้นจะตายแล้ว จึงยกหม้อนั้นลงจากเตาไฟทำการกะเทาะดินออกค่อย ๆ เปิดฝาหม้อตรวจดูว่า บางทีจะเห็นชีวะของบุรุษนั้นออกมาบ้าง แต่แล้วพวกเขาก็ไม่เห็นชีวะ (อัตตา) ของนักโทษนั้นออกมาแต่ประการใด อ้างอิง (ที.ม.(ไทย) ๑๐/๓๑๑/๒๙๐)
๖. พิสูจน์ด้วยวิธีชั่งน้ำหนักของนักโทษขณะที่ยังมีชีวิตอยู่กับขณะที่ตายแล้ว วิธีพบว่าน้ำหนักของนักโทษนั้นขณะที่ยังมีชีวิตอยู่มีน้ำเบาแต่หลังจากตายแล้วมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้ามีอัตตาจริง ตอนที่มีชีวิตอยู่ซึ่งมีอัตตาซ้อนอยู่ด้วย น่าจะหนักกว่าตอนตายที่อัตตาออกจากร่างไปแล้ว
๗. พิสูจน์ด้วยการฆ่ามนุษย์โดยมิให้ผิวหนังเนื้อ เอ็น กระดูก และเยื่อในกระดูกชอกช้ำพระองค์ได้รับสั่งให้ราชบุรุษพิสูจน์ศพคนที่ตายแล้วนั้นด้วยวิธีจับศพนั้นนอนหงายบ้าง นอนคว่ำบ้าง นอนตะแคงข้างนั้นข้างนี้บ้างเป็นต้น เพื่อจะดูชีวะของผู้นั้นหลุดออกมาจากร่างกายของคนที่ตายนั้น ทางด้านใด แต่แล้วก็ไม่เห็นชีวะของผู้ตายออกมาจากของศพนั้นเลย
๘. พิสูจน์ด้วยวิธีเชือดผิวหนังของนักโทษอาชญาเด็ดขาดที่ละชั้น ๆ ไป ครั้นไม่พบชีวะในชั้นของผิวหนัง จึงสั่งให้เฉือนหนัง เฉือนเนื้อ ตัดเอ็น ตัดกระดูก ตัดเยื่อในกระดูกของผู้นั้น แต่บทสุดท้ายก็ไม่พบชีวะของเขาอีก อ้างอิง (สํ.นิ.(ไทย)๑๖/๔๗/๙๔)
ดังนั้น เมื่อพระองค์ได้ทรงทดลองกับมนุษย์ด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อจะค้นหาอัตตาให้พบ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงทำให้พระองค์สรุปว่า ไม่มีอัตตา เมื่ออัตตาไม่มี โลกหน้าจึงไม่มี เพราะไม่มีผู้จะไปเกิดในโลกหน้าและเมื่อเป็นเช่นนั้น เทวดาผู้ที่จะเสวยผลกรรมดีและสัตว์นรกผู้ที่จะเสวยผลกรรมชั่วของตนก็ต้องไม่มีเช่นกัน ดังนั้นกรรมดีกรรมชั่วก็ต้องไม่มีไปด้วย
แต่ทฤษฎีการพิสูจน์หาอัตตาหรืออาตมันของเจ้าปายาสินี้ ถูกพระกุมารกัสสปะ อธิบายชี้แจงให้เห็นว่า มีความบกพร่องและมีความเข้าใจผิดจึงไม่สามารถพิสูจน์ในเรื่องนี้ได้
เพิ่มเติมได้ที่ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค ปายาสิราชัญญสูตร
ปล.ช่วงนี้เข้าหาธรรมะเล็กน้อย สัญญาณจากแดนไกลกว่าพันไมล์ ไม่มีการตอบสนอง ฮาๆๆๆๆ... ไม่ออกเลย ได้แค่ กระซิกๆๆๆๆ...อยู่ในใจเงียบๆ อย่างเหงาๆ กะแมวตัวน้อยๆ
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ
Create Date : 10 มิถุนายน 2552 |
|
55 comments |
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 0:18:30 น. |
Counter : 2182 Pageviews. |
|
|
|