Nokia N9 มี(เกือบ)ทุกอย่าง ยกเว้น ?!? . . . ใครสนใจรุ่นนี้อยู่ต้องอ่านนะครับ
ย้อนกลับไปในงาน Nokia Connection 2011 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Nokia ได้เปิดตัว Nokia N9 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน MeeGo ที่สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับเหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบมือถืออย่างมากมาย เพราะเชื่อว่า Nokia มาถูกทางที่นำ MeeGo มาใส่ลงในสมาร์ทโฟนของ Nokia พร้อมนวัตกรรมใหม่ของสมาร์ทโฟนที่วัสดุทำมาจาก "โพลีคาร์บอเนต" (Polycarbonate)
แต่แล้วทุกอย่างก็ริบหรี่ลงเมื่อ Nokia ประกาศเตรียมจะโละทิ้งทั้ง MeeGo และ Symbian แล้วหันไปให้ความสำคัญกับระบบปฎิบัติการ Windows Phone ของ Microsoft แทน แต่อย่างน้อย ทาง Nokia ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุน MeeGo ไปถึงปี 2015 ซึ่งก็คือ Nokia N9 เพียงรุ่นเดียว และเป็นรุ่นสุดท้าย
ในประเทศไทย กระแสตอบรับของ Nokia N9 ถือว่าดีมากเลยทีเดียว เพราะหลายๆ คนมองว่าด้วยตัวเครื่องที่สเปคค่อนข้่างแรง ตัวเครื่องที่มีดีไซน์เฉพาะทาง และหวังที่จะเป็นทางเลือกใหม่ในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน แทนที่ Android, Symbian หรือแม้กระทั่ง iOS ของ iPhone ด้วยก็ตามด้วยความที่เป็น Hero Product ของ Nokia และความคาดหวังที่ต้องการกลับมาทวงบังลังก์แชมป์สมาร์ทโฟนใหม่อีกครั้ง ดังนั้น สุดท้ายตัวแปรที่สำคัญที่สุดก็คือราคา ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของคนไทยไปแล้ว ที่ต้องการสินค้า และราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งตอนนั้นมีการคาดเดาต่างๆ นานา ว่า Nokia N9 น่าจะเคาะราคาขายที่ประมาณ 15,000 บาท ก่อนงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ทาง Nokia ได้ประกาศราคา Nokia N9 16GB ผ่านทางหน้าเว็บ ในราคา 18,900 บาท แถมหูฟัง Nokia BH 505 และ Nokia N9 64GB ที่ 20,900 บาท แถมลำโพง Nokia Play 360 สร้างความผิดหวังให้กับผู้ที่รอคอยเป็นอย่างมาก เพราะในราคาแบบนี้ สามารถหาซื้อสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ได้ที่มีสเปคทั้งความเร็ว, หน้าจอแสดงผล รวมถึงระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่มีอนาคต และเป็นที่แพร่หลายในวงกว้างมากกว่าเชื่อว่า Nokia Thailand เองคงลำบากใจในการเอา Nokia N9 มาฟาดฟันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด เพราะราคานี้ถูกทาง HQ ควบคุมราคา เพราะในต่างประเทศ ราคา Nokia N9 แทบมีความแตกต่างจากในไทยไม่มากหนัก เว้นแต่ในแถบยุโรปที่มีราคาที่แพงกว่ามาก อันเนื่องมาจากค่าครองชีพ และภาษีแต่ละประเทศที่สูงลิบลิ่วแม้แต่ในประเทศไทย ที่มีข่าวหลุดออกมาว่า ตัวแทนจำหน่าย มีการต่อรองราคา Nokia N9 ในราคา 16,xxx บาท ซึ่งตอนแรกทาง Nokia Thailand เห็นว่ามีความเป็นไปได้ในการทำราคานั้น แต่แล้วสุดท้าย Nokia Thailand กลับลำไม่ปรับราคาลงตามที่มีการเสนอแนะ โดยให้เหตุผลว่า มั่นใจในสินค้าว่าจะขายได้ เพราะจะไปลุยคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นกลุ่มใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ในเมื่อเอา Nokia N9 มาแข่งขันเรื่องราคาและของแถมไม่ได้ เลยเลือกที่จะทำแนวการโปรโมท ที่ไปทางไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะงานเปิดตัว Nokia N9 ก่อนหน้างาน Thailand Mobile Expo เพียงไม่กี่วัน โดยธีมของงาน ได้กำหนดเซเลป หรือ กลุ่มคนที่ทาง Nokia เห็นว่าตรงคอนเซ็ปกับคำว่า "ก้าวกระโดด.. 9 Galleries กับ Nokia N9" อาทิ โป๊ป ธนวรรธน์, พลอย หอวัง, เมย์ พิชญ์นาฎ, เป๊ก ผลิตโชค ซึ่งหากใครได้ติดตามข่าว Nokia N9 ที่แถลงข่าวไปนั้น แทบไม่ได้ยิน หรือมีข่าวออกสื่อเลยว่า กลุ่มคน 9 คนนี้ มาทำอะไร???
เมื่อย้อนกลับไปกับสถานะการณ์ที่คล้ายๆ กับ Nokia N9 ก็คือ Nokia E7 ที่วางจำหน่ายไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในราคา 20,800 บาท พร้อมกันนี้ ได้จัดงานขึ้นที่มีชื่อว่า "Nokia E7: Passion for Success" ที่โฟกัสไปเป็นสมาร์ทโฟนสุดฉลาดสำหรับนักธุรกิจ ในงานได้เชิญนักธุรกิจและเซเลป ที่ประสบความสำเร็จในแต่ละสาขาอาชีพทั้ง 7 ท่าน ผู้ที่เป็นไอดอลแห่งความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ โดยมีงานเลี้ยงสุดอลังการ ณ ห้องรอยัล แกรนด์บอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล แต่แล้วจนรอด มีการปรับราคาลงอีกอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขาย จาก 20,800 >> 19,990 >> 16,990 และราคาลงดิ่งสุดๆ เมื่อไม่นานมานี้ที่ 12,990 บาทเท่านั้น แต่แล้วกระแสก็ไม่นำพาอะไรไป
คงอาจจะเป็นเพราะ Nokia โฟกัสสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กับกลุ่มนักธุรกิจมากเกินไป จนรู้สึกว่าผู้ใช้งานลังเลเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อ รวมกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ Nokia ที่ยังวางจำหน่ายเหมือนขัดแข้งขัดขาตัวเอง จนเป็นที่มาในการปรับราคาแบบ Clearance Sale ซึ่งบางครั้งทำให้เรามองนึกว่า Nokia Thailand กำลังทำอะไร หรือตีโจทย์ไม่ชัดเจนตัวไหน หรือว่าทำตลาดกับกลุ่มที่มีฐานะทางสังคมมากไป จนคนทั่วไปรู้สึกยากที่จะสัมผัส และเอื้อมถึง
เมื่อจบงานลง Nokia เองก็อยากจะทราบกระแสของ Nokia N9 ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็คือการวัดจากยอดจองที่เปิดจองในงาน Thailand Mobile Expo ซึ่งจากข่าวประชาสัมพันธ์ได้เปิดให้จอง Nokia N9 พร้อมของแถม จำกัดเพียง 500 เครื่องเท่านั้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ เหมือนจะเป็นการสร้างกระแสให้เร้าใจผู้ที่อยากจะจับจอง ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของ Nokia N9 นั้น ดูน่าตื่นเต้น
แต่เมื่อจบงานลง มีผู้ให้ความสนใจจอง Nokia N9 เพียงแค่ประมาณ 200 กว่าเครื่องเท่านั้น นั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนอะไรบ้างอย่างออกมาได้อย่างชัดเจน กลุ่มคนประมาณ 200 คนนี้ จะได้รับเครื่องประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ ส่วนคนทั่วๆ ไปที่ไม่ได้จองเครื่องในงาน และจะหาซื้อเครื่องตามร้านทั่วไป สามารถซื้อได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ Nokia N9 ไม่สามารถหาซื้อตามร้านค้าได้ทันที ทั้งๆ ที่มีจะกลุ่มคนที่จองได้รับเครื่องไปแล้ว นำมารีวิวจนอาจจะทำให้ใครหลายคนเกิดความต้องการใช้งาน แต่ด้วยกระแสสมาร์ทโฟนอื่นๆ ทั้งแอนดรอยด์ หรือแม้กระทั่ง iPhone 4S ที่จ่อวางขายในช่วงปลายปีนี้
สิ่งที่น่าห่วงสำหรับผู้ใช้งาน Nokia N9 ในประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับใครหลายคนที่ไม่เน้นการแชท แต่เป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับคนที่เอาไปใช้งานด้าน Messaging อย่างโปรแกรมยอดฮิตอย่าง WhatsApp ว่า Nokia N9 ไม่รองรับการใช้งาน WhatsApp อันเนื่องมาจากผู้ผลิตไม่ได้พัฒนาโปรแกรมบน Platform MeeGo ทั้งนั้น แทบจะหาโปรแกรมที่ชดเชย และเป็นที่แพร่หลายไม่ได้เลย
ทั้งหมดนี้ เหมือนจะเป็นเป็นความโชคร้ายที่ Hero Product อย่าง Nokia N9 ที่ Nokia หวังจะสร้างกระแส และเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งานในไทยได้ แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่างนั้น ยากที่จะแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนในไทย ที่มีเจ้าตลาดอย่าง Samsaung ครองส่วนแบ่งการตลาดเฉพาะสมาร์ทโฟนอย่างเดียวก็เกือบ 50% แล้ว ดังนั้น Nokia คงจะหวังสมาร์ทโฟนรุ่นล่างๆ กลางๆ อย่าง Nokia 500, Nokia 600 Nokia 700 และ Nokia 701 ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ยังคุ้นเคยกับสมาร์ทโฟนที่หน้าตา อินเตอร์เฟส เดิมๆ หรือคล้ายไปทางแอนดรอยด์มากขึ้น ในราคาที่เริ่มต้นเพียง 6,600 บาท ไล่จนไปกระทั่ง ประมาณหมื่นต้นๆ ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ รองรับการใช้งาน 3G ที่ครบทุกย่านความถี่ที่มีใช้ในไทย ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นจุดเด่นที่ใครหลายคนจับจองเป็นเจ้าของ
สุดท้าย ผมจำคำพูดหนึ่งในทวิตเตอร์ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่แระ นิยามของ Nokia N9 ในไทยที่ตรงที่สุดในความเห็นส่วนตัวของผม ขอยกคำพูดของคุณ @nuuneoi ปิดท้ายว่า "Nokia N9 มีทุกอย่าง ยกเว้นอนาคต" ที่มาบทความ :
ขอบคุณบทความดีๆจาก MxPhone ครับFree TextEditor
วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:9:17:46 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
