จากดินแดนแห่งตำนานเล่าขานทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว การสังเวยชีวิตของเชลยศึกนับพันๆ คน ให้กับทางรถไฟสายมรณะ
เป็นภาพที่ติดตราตรึงในความทรงจำของคนทั่วไปที่มีต่อจังหวัดกาญจนบุรี
แม้ว่าปัจจุบันสถานที่ในประวัติศาสตร์เหล่านี้
จะเปลี่ยนสถานภาพตัวเองจากภาพรอยจารึกความโหดร้ายและความน่าเศร้าสลดใจ
มาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรำลึกถึงอดีต แต่ก็ยังเป็นความงดงามที่เจือความขมขื่น
แต่ในอีกมุมหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี
กลับให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล
ไม่มีเรื่องเศร้าหรือร่องรอยสงครามมาหลอกหลอน ด้วยอากาศเย็นบนยอดดอย
ทิวทัศน์สีเขียวของพรรณไม้บนแนวเทือกเขาตะนาวศรีที่ทอดยาวตั้งแต่ด่าน
เจดีย์สามองค์จรด จ.ระนอง แลเห็นชายแดนไทยพม่า ที่มีธงชาติของบ้านพี่เมืองน้อง
(ไทย-สหภาพพม่า) โบกสะบัดอยู่ลิบๆ แสงดาวที่ส่องสกาวสุกสดใสนับหมื่นดวง
ต่างเปล่งแสงท้าทายสายตาให้จ้องมองจนเวลาล่วงเป็นวันใหม่ กับหนทาง 399 โค้ง
สิ่งเหล่านี้ล้วนสถิตอยู่ที่ "ต.ปิล๊อก"
ตำบลเล็กๆ ใน อ.ทองผาภูมิ ของจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสงครามมาก่อน
ที่มาที่ไปของคำว่า
"ปิล๊อก" มีหลายทาง
แต่ไกด์ที่รับหน้าที่พาชมตำนานเหมืองแร่เก่าเฉลยว่า
ด้วยบริเวณดังกล่าวมีการล้มตายจากการเข่นฆ่า และไข้ป่าอย่างมาลาเรีย
ทำให้หลายคนหวาดกลัวและบ่งชี้ว่าสถานที่นี้มี "ผีหลอก"
แต่ด้วยสำเนียงที่ผิดเพี้ยนของชาวพม่าที่พูดคำว่าผีหลอกไม่ชัด
(เหมือนโฆษณาครีมถนอมผิวที่เด็กชาวเขาร้องว่าผีหลอกๆ ที่แท้ผิวลอก) จึงกลายเป็น
"ปิล๊อก" ไปในที่สุด
ในอดีตเมื่อราวๆ
เกือบ 50 ปีก่อน "ปิล๊อก"
เป็นสถานที่ทำเหมืองแร่ดีบุกและแร่วุลแฟรมที่รุ่งเรืองมาก
จนกลายเป็นแหล่งการค้าและการขายแรงงานขนาดย่อม แต่เมื่อมีรุ่งก็ต้องมีดับ ราว
พ.ศ.2527 ความไม่คุ้มทุนในการทำธุรกิจเริ่มก่อเกิด
และหากดันทุรังทำต่อไปก็มีแต่จะสูญเปล่า เหมืองแห่งนี้จึงต้องปิดตัวลงในปี 2529
และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันงดงามตระการตา ที่อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แทน โดยในปีหน้า 2551
จะมีการทำพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ปิล๊อกที่บริเวณเนินช้างศึกอันเป็นที่ตั้ง เหมืองเก่า
และยังคงมีร่องรอยของการขุดเหมือง และอุโมงค์เหมืองแร่ให้เห็นถึงทุกวันนี้
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปิล๊อกก็คือ
การพักแรมค้างคืนที่เนินกูดดอยและเนินช้างเผือก มีทั้งแบบบ้านพัก และกางเต็นท์นอน
แต่อย่างหลังจะให้ความรู้สึกผ่อนหลายและสัมผัสธรรมชาติได้มากกว่า
เพราะเมื่อตกดึกการหุงหาอาหารจะให้บรรยากาศคล้ายๆ
กับการพักแรมเมื่อครั้งเข้าค่ายลูกเสือตอนวัยเยาว์ การหุงหาอาหารต้องทำเอง
บางกลุ่มก็ทำกับข้าว บางกลุ่มก็ย่างบาร์บีคิวกินอย่างเอร็ดอร่อย
พอตกดึกได้ที่แสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์ลับตา
ดาวดวงน้อยนับหมื่นนับล้านดวงก็ค่อยๆ ทยอยขึ้นสู่ฟากฟ้าที่ทาทับด้วยสีดำสนิท
มีเพียงแสงจากดาว พระจันทร์ และสายลมกระโชกแรงหนาวถึงขั้วหัวใจเท่านั้น
ที่สร้างบรรยากาศให้ค่ำคืนกลายเป็นคืนแห่งความสุข แม้จะไร้แสงไฟจากชุมเมือง
อีกสิ่งที่ปิล๊อกทำให้จิตใจผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดีก็คือ
การเดินเท้าขึ้นดอยกว่า 100 เมตร ไปชมพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าที่ดอยต่องปะแล
โดยระยะทางห่างจากที่พักประมาณ 300 เมตร ระยะเพียง 100 เมตรที่ว่า
บางคนอาจมองเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว
แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็ทำให้หอบและเสียเหงื่อได้เช่นกัน
แต่เมื่อถึงยอดเขาภาพที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำให้ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง
เวิ้งภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกบางตา สลับด้วยทิวเขาไล่สี จากสีเขียวอ่อน เขียวเข้ม
น้ำเงิน จนลับขอบฟ้าเป็นน้ำเงินผสมหมอกขาว
ตัดกับสีแสดของแสงพระอาทิตย์ที่ทอแสงประกายสุดท้ายก่อนจะลับหาย
จิตใจสงบนิ่งเพื่อซึมซาบความงามที่เห็นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ถ้ามาปิล๊อกแล้วไม่พูดถึง น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ที่อยู่ห่างจากอุทยานฯ เพียง 5
ก.ม. ก็คงเสียเที่ยว "จ๊อกกระดิ่น"
เป็นภาษาถิ่นที่แปลได้ว่า น้ำไหลจากหน้าผาสู่ลานหิน (ความสูงประมาณ 30 เมตร)
ความสวยงามของสายธารเล็กๆ นี้ อยู่ที่สีของน้ำที่มีทั้งครามและเขียวอ่อน
พร้อมด้วยเนินทรายสีนวล
เสมือนสระน้ำอันวิจิตรในป่าหิมพานต์ให้ผู้ที่ใช้ความอุตสาหะก้าวย่างมาถึง
ได้สัมผัสกับสายน้ำเย็นและทัศนียภาพของป่าที่โอบอุ้ม
การเดินทางในทริปนี้สิ้นสุดลงที่บ้านอีต่อง
หมู่บ้านสุดท้ายสุดชายแดนไทย แต่ไม่ได้กันดารอย่างที่คิด
ความเจริญเริ่มรุดเข้ามาทำให้วิถีชีวิตอันสงบเงียบต้องแปรเปลี่ยนไป
ที่แวะพักชมวิวของบ้านอีต่องคือ เนินเสาธง
ที่มีธงไตรรงค์ของไทยและผืนธงของพม่าสะบัดล้อลมเคียงคู่กันที่จุดประสาน
สัมพันธ์ไมตรีนิจนิรันดร์
ถ้าวันไหนอากาศปลอดโปร่งจะสามารถเห็นเวิ้งทะเลอันดามันในฝั่งพม่าที่อยู่เลยไปเพียง
50 กม. เท่านั้น
เทศกาลหยุดยาวอย่างช่วงปีใหม่ ใครยังไม่มีที่ไป
เหมืองปิล๊อกเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากสัมผัสลมหนาวให้หนำใจ
แต่อย่าลืมพกเครื่องอุปกรณ์กันหนาวไปด้วย เพราะกลางคืนอุณหภูมิอยู่ที่ 10 องศากว่าๆ
เท่านั้น!
ข้อมูลจาก //hilight.kapook.com/view/18965
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
+บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด...คลิกที่นี่