|
เที่ยวน้ำตกให้ปลอดภัย
ภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นนับวันจะมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายมากขึ้นทุกที ซึ่งก็คงจะเนื่องมาจากภาวะที่มนุษย์ช่วยกันทำให้โลกร้อน ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุล เราจึงควรที่จะต้องตื่นตัวอยู่เสมอในทุกสภาวการณ์ เพื่อจะได้รับมือกับวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที หรืออย่างน้อยก็ผ่อนหนักให้เป็นเบา
ซึ่งข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยนั้นทำได้ไม่ยาก หากจะลองนำเอาประสบการณ์การเดินทางของนักเดินทางมืออาชีพ และนักเดินป่ารุ่นก่อนๆเหล่านี้นำไปใช้กันดู
1. ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเข้าไปดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ www.tmd.go.th ซึ่งในเว็ปไซต์ดังกล่าว มีรายละเอียดสภาวะอากาศประจำวัน พยากรณ์อากาศใน 3 วันข้างหน้า และในรอบสัปดาห์ แบ่งเป็นภาค กลุ่มจังหวัด ให้ตรวจสอบกันก่อนออกเดินทาง
2. ตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศจากภาพถ่ายดาวเทียมง่ายๆ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า ภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งทางเว็บไซต์ จะค้นหาเว็บไซต์ที่แสดงภาพถ่ายดาวเทียมขึ้นมาให้ท่านคลิกเข้าไปดูได้ ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมจะแสดงภาพแผนที่ประเทศไทย แสดงภาพกลุ่มเมฆ และกลุ่มพายุให้เห็นว่าปกคลุมอยู่บริเวณจังหวัดใดและมีปริมาณมากน้อยเพียงใด โดยภาพถ่ายดาวเทียมจะเปลี่ยนแปลงทันสมัยทุกวัน การเช็คภาพถ่ายดาวเทียมก่อนเดินทางไปนั้นจะเป็นประโยชน์มากกับช่างภาพ เพราะจะสามารถรู้ได้ว่าท้องฟ้าจะสดใสมีแสงแดดหรือไม่ หากบริเวณที่จะเดินทางไปมีกลุ่มเมฆมากหรือมีพายุที่กำลังจะเคลื่อนผ่าน ก็จะได้มีการเตรียมตัวและใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น
3. การปฏิบัติตนขณะลงเล่นน้ำตก หรือกิจกรรมอื่นๆในสายน้ำเช่นการล่องแก่งด้วยเรือยาง ล่องแก่งด้วยเรือคายัก ให้สังเกตระดับน้ำในลำธารและสีของสายน้ำ หากน้ำมีระดับเพิ่มขึ้น หรือสีของน้ำเปลี่ยนจากน้ำใสเป็นสีแดงขึ้น ขุ่นขึ้น กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงขึ้น ให้รีบขึ้นจากสายน้ำทันที หรือถ้าหากกำลังล่องแก่งก็ให้พักเรือเข้าฝั่ง หยุดพักดูจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย ระดับน้ำไม่สูงเพิ่มขึ้น จึงค่อยเดินทางต่อ
4. พยายามสังเกตและฟังเสียงที่ดังผิดปรกติ เพราะน้ำป่าที่เชี่ยวไหลหลากล้นลงมาจากบนภูเขานั้น จะก่อให้เกิดเสียงดังขึ้นกว่าเสียงของสายน้ำปรกติ ซึ่งช่วงระยะเวลาสั้นๆนั้น อาจเป็นช่วงนาทีชีวิตที่จะสามารถหนีรอดจากน้ำป่าที่บ่าไหลได้ หรือเตรียมตัวมองทางหนีทีไล่ไว้ให้พร้อมเผื่อเกิดวิกฤติขึ้นมา จะได้หนีขึ้นที่สูงได้ทัน
5. การลงเล่นน้ำตกควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด เช่นไม่ลงเล่นน้ำในบริเวณเขตหวงห้าม ซึ่งอาจจะมีอันตรายจากน้ำวน หรือกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง ซึ่งสถานที่ดังกล่าวอาจมีป้ายเตือน ป้ายห้ามแจ้งเอาไว้ และไม่ควรปีนป่ายขึ้นไปตามริมหน้าผาน้ำตก หรือบนพื้นที่อันตรายเพราะอาจลื่นพลัดตกลงมาได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำเตือนของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานที่อย่างเคร่งครัด
6. หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปตั้งแค้มป์ในป่า ไม่ควรตั้งแค้มป์ใกล้ชิดริมลำธารมากเกินไป เพราะในตอนกลางคืนขณะพักผ่อนนอนหลับ อาจจะมีน้ำป่าบ่าไหลลงมาก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่ง เพราะจะมองไม่เห็นทิศทางที่จะหนีเอาตัวรอด จึงควรเลือกทำเลตั้งแค้มป์ที่ปลอดภัยจากระดับน้ำ หรือพ้นจากหุบเขาที่เคยเป็นร่องน้ำเก่า หรือช่องทางน้ำไหลเดิมแม้จะเป็นร่องน้ำที่แห้งไม่มีน้ำแล้วก็ตาม
7. หากอยู่ท่ามกลางฝนตก หรือฟ้าคะนองในธรรมชาติ ควรปิดโทรศัพท์มือถือหรือวิทยุ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าฝ่า หากไม่จำเป็นแล้วการทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ควรสวมเครื่องประดับที่ทำจากโลหะติดตัวไป
8. ในสายน้ำหรือตามโขดหินริมลำธารที่ส่วนใหญ่เปียกน้ำอยู่ตลอดเวลานั้นค่อนข้างจะลื่น ควรระมัดระวังในการเดิน และควรใช้รองเท้าเดินป่าที่กระชับ พื้นรองเท้าควรเป็นยางชนิดอ่อน และมีดอกยางซึ่งจะเกาะพื้นหินพื้นดินได้ดีกว่ารองเท้าพื้นแข็ง
9. ไม่ควรอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่เปียกหรืออยู่ในน้ำที่หนาวเย็นเป็นเวลานานๆ เกินไป เพราะร่างกายจะค่อยๆสูญเสียความร้อน และอาจจะเป็นตะคริวจมน้ำ หรือเป็นไข้ขึ้นได้
เพียงข้อปฏิบัติง่ายๆ เหล่านี้ก็จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติของท่าน เป็นไปอย่างมีความสุขและปลอดภัยยิ่งขึ้น ขอให้โชคดีมีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวทุกคนครับ.
ที่มา : เมเนเจอร์ออนไลน์ +บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด...คลิกที่นี่
Free TextEditor
Create Date : 09 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 11:54:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|