|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
[16] Dream on a summer shore : ความฝันบนชายหาดแห่งฤดูร้อน
...
เกลียวคลื่นม้วนตัวขึ้นสู่ชายฝั่งอย่างนุ่มนวล
ในแวบแรกที่เห็น ชายหาดแห่งนี้ช่างดูคล้ายกับหาดที่อยู่แถวชายฝั่งทางเหนือที่กวินโดลีนเพิ่งจะพาไปเที่ยวเมื่อสองสามวันก่อน ชื่อของมันฟังเผิน ๆ แล้วคล้ายกับชื่อของนกอะไรสักตัวหนึ่ง
แต่แล้วหัวใจของฉันก็หล่นวูบหายไปในช่องท้องในทันทีที่ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่หาดทรายในโลกแห่งความเป็นจริง ฉันกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงทางลาดลงของเนินทรายขนาดใหญ่ที่ตระหง่านง้ำอยู่เหนือท้องทะเลสีม่วงลาเวนเดอร์อันเงียบสงบ ครั้งนี้ฉันแต่งกายในชุดปกติธรรมดา กางเกงยีนส์เลวี่สีฟ้าซีดจางกับเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง เท้าทั้งสองเปล่าเปลือยและนิ้วเท้าทั้งหมดฝังอยู่ในผืนทรายนุ่มและอุ่น
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสคล้ายเป็นผืนผ้าพันคอที่ถักทอจากเส้นไหมที่ถูกย้อมด้วยหมีกสีน้ำเงินครามแล้วยกขึ้นแขวนตากไว้กับราวตากผ้า ก้อนเมฆเหลื่อมล้ำทับซ้อนกันหลายชั้น พลิกผันรูปร่างอย่างตระการตาไปตามสายลมที่ปัดผ่านผิวแก้มของฉันเพียงแผ่วเบา นกตัวใหญ่สองสามตัวที่ดูไม่น่าจะใช่นกนางนวลกำลังโฉบเฉวียนอยู่เหนือเนินเขาที่ถูกแต่งแต้มด้วยฝุ่นทรายอันเป็นตัวกำหนดอาณาเขตของแนวหาด เสียงหัวเราะแปลกประหลาดของพวกมันสะท้อนก้องมาสู่โสตสัมผัส เสียงของเกลียวคลื่นเป็นเพียงแค่เสียงครางครืนแผ่วต่ำต่างจากคลื่นหัวแตกที่บ้าน และจังหวะสม่ำเสมอของมันเหมือนเพลงเห่กล่อมให้ง่วงงุน ฉันมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ แต่ท้องฟ้าก็สว่างไสวคล้ายเวลาเที่ยงวัน
แต่เมื่อฉันรับรู้แล้วว่าทั้งหมดนี้คือความฝันและตระหนักได้ว่าฉันกำลังนอนหลับฝันอยู่ ณ ที่ใด ความงดงามวิจิตรทั้งหลายตรงหน้าก็หมดความหมายโดยสิ้นเชิง ฉันเริ่มตื่นกลัวเหมือนทุกครั้งที่ฝันร้ายกล้ำกรายมาเยือน ฉันผุดขึ้นนั่งคุกเข่าอย่างรวดเร็วแล้วขดตัวลงหมอบต่ำเหมือนสัตว์ป่าระแวงภัย หันหน้ามองซ้ายขวา สอดส่ายสายตาหาผู้ชายคนนั้น ลมที่เริ่มพัดแรงขึ้นปัดเส้นผมยุ่งเหยิงของฉันจนกระจัดกระจายและน้ำตาเอ่อขึ้นคลอเบ้าด้วยอาการระคายเคือง อากาศรอบตัวกรุ่นไปด้วยไอเค็มชื้น แต่ในขณะเดียวกันสายลมก็พัดพาบางสิ่งบางอย่างมาด้วย อะไรสักอย่างที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม
ฉันรู้สึกได้ว่าเขาอยู่แถวนี้
ฉันยกมือขึ้นจรดหน้าผากเพื่อป้องแสงเจิดจ้าที่สาดส่องลงมาจากโค้งฟ้า กวาดสายตาไปตลอดความยาวของแนวหาด ฉันหาเขาไม่เจอ แต่จากอาการเต้นโลดรุนแรงของหัวใจบอกได้ว่าเขากำลังจะปรากฏกายขึ้นในไม่ช้าไม่นานนี้
นกยักษ์ตัวหนึ่งผละแยกจากกลุ่มแล้วบินตรงมายังทิศทางของฉันอย่างช้า ๆ ฉันจับตามองมันอยู่พักหนึ่ง แปลกใจอยู่ครามครันเมื่อเห็นว่ามันเหมือนกับกำลังบินอยู่กับที่ ทว่าในวินาทีต่อมาช่องท้องของฉันก็ปั่นป่วนรุนแรงราวกับโดนใครโยนเข่าเข้าใส่เมื่อมองเห็นขนาดตัวที่แท้จริงของมันว่ามโหฬารขนาดไหน
ฉันตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน หัวใจเต้นกระแทกอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้ฉันเห็นมันเต็มตา เงาร่างของนกยักษ์เป็นสีดำตัดกับสีฟ้าใสพิสุทธิ์ของท้องฟ้า เสียงคลื่นในทะเลระเบิดดังขึ้นมาอย่างทันทีทันใดจนแทบทนฟังต่อไปไม่ได้
โอ้ พระเจ้า ร่างนั่น ตรงนั้น ร่างที่กำลังขี่อยู่บนหลังนกยักษ์ แม้จะมองเห็นไม่ถนัดนัก แต่รู้แน่แก่ใจดีแล้วว่าเขาอยู่ในเครื่องแต่งกายสีแดงสด
เสียงกรีดร้องทะลักขึ้นมาจุกแน่นอยู่กลางลำคอเมื่อฉันเพิ่งเห็นว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นมันไม่ใช่นก มันคือมังกร มังกรตัวเป็น ๆ
ฉันหมุนตัวกลับและพยายามออกวิ่ง แต่เท้าของฉันกลับถลำลึกลงไปในกองทรายที่ละเอียดราวผงแป้งและล้มคว่ำลง ฉันตีลังกากลิ้งหลุน ๆ ตกไปตามทางลาดของเนินทรายสองสามรอบก่อนจะทรงตัวลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง และออกวิ่งมุ่งหน้าไปหาเส้นขอบฟ้าอีกฟากหนึ่ง ดวงตาของฉันเหลือกลานและปากอ้ากว้างเพื่อดูดอากาศเข้าสู่ปอดและพยายามกรีดร้องไปในเวลาเดียวกัน
ความหวาดกลัวของฉันพุ่งสู่ระดับสูงสุด ราวกับว่าอำนาจดิบแห่งความลี้ลับทั้งมวลที่ซุ่มซ่อนมานานนับร้อย ๆ ปี ไม่สิ นับพัน ๆ ปีกำลังเผยตัวตนทั้งหมดออกมาให้ฉันได้เห็นในคราเดียว
เท้าของฉันไถลไปตามพื้นทราย การทุ่มแรงออกวิ่งนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเพราะทรายบนหาดนี้อ่อนนุ่มเสียจนทำให้วิ่งไม่ออก ฉันตะเกียกตะกายมาจนถึงบริเวณแนวที่คลื่นซัดขึ้นมาบนฝั่ง พื้นทรายที่เปียกน้ำอัดแน่นอยู่ใต้ฝ่าเท้าทำให้ฉันใจชื้นขึ้น ฉันถลาตัวปลิวไปตามแนวขอบคลื่น แขนสองข้างกางออกกว้าง เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งพองลม ชายเสื้อปลิวไสวไปทางด้านหลังเหมือนมันเป็นชายของเสื้อคลุมตัวยาว เท้าของฉันย่ำลงไปในน้ำ ตะกุยจนแตกฟองฟุ้ง แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่ามีขาติดอยู่กับลำตัว หากรู้สึกเหมือนว่าฉันคือตุ๊กตาหุ่นที่กำลังเคลื่อนไหวไปตามการเชิดของใครสักคน
ลมหอบหนึ่งโถมกระแทกจนฉันเสียหลักล้มคว่ำลง มือสองข้างถลำลึกลงไปในพื้นทรายเปียก หัวกระแทกเข้ากับอะไรแข็ง ๆ สักอย่างบนพื้นที่น่าจะเป็นก้อนหินที่ฝังตัวอยู่ในทราย สายตาของฉันพร่าพรายอยู่ชั่วขณะในระหว่างที่มังกรยักษ์บินโฉบเฉวียนอยู่เบื้องบน ปีกมหึมาของมันกางกว้าง ก่อให้เกิดเงาดำอันยะเยียบเย็นทาบทับลงบนกายของฉัน พายุทรายโหมกระหน่ำจนมองอะไรไม่เห็น และแรงลมบ้าคลั่งนั้นทำให้ฉันเคลื่อนไหวไม่ได้ ทำได้เพียงลงนั่งคุกเข่าเอามือปิดใบหน้า ราวกับว่าฉันกำลังตกอยู่กลางวังวนของพายุหมุน ไม่ใช่จุดศูนย์กลางของกรวยพายุ แต่เป็นบริเวณรอบนอกที่แรงลมบ้าระห่ำมีอำนาจเหนือทุกสิ่งในโลก แม้จะมองอะไรไม่เห็น แต่ฉันรู้ดีว่าแม้กระทั่งน้ำทะเลยังเหือดแห้งหายไปเพียงเพื่อเปิดทางให้บุรุษผู้นั้นกับมังกรของเขา
แรงปะทะทวีความรุนแรงขึ้น และอากาศรอบตัวก็อบไปด้วยไอร้อนและกลิ่นสาบสางแบบเดียวกับกลิ่นคอกงูในสวนสัตว์ดับลิน ฉันรู้สึกถึงน้ำในพื้นทรายที่กำลังซึมซาบผ่านกางเกงยีนส์เข้ามาและละอองน้ำเค็มจัดที่สาดกระทบริมฝีปากและสัมผัสของเม็ดทรายละเอียดยิบใต้ฝ่ามือ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบด้าน รวมไปถึงมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลกลับกลายเป็นสิ่งไร้ความหมายเมื่อเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่ของสัตว์ประหลาดที่ร่อนลงสู่พื้นตรงหน้า
ฉันคิดว่าฉันแหกปากกรีดร้อง แต่เสียงของฉันกลับถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้น ได้ยินเพียงเสียงลมกรรโชก เสียงคำรามของมหาสมุทร ผสมผสานไปกับเสียงร้องของนกกลางคืนกับเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ในขณะที่ฉันดิ่งลึกลงสู่ความเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
(จบบทที่ 16)
******************************
ต้นฉบับ : The Wild Reel โดย Paul Brandon (1st Edition)
******************************
...
ลิงค์ตอนเก่า ๆ ที่ตกขอบกระดานไปแล้วค่ะ
[1] Dream in a field of wild flowers : ความฝันกลางทุ่งดอกไม้ป่า
[2] The artist's craft : ฝีมือจิตรกร
[3] The wild reel : เพลงเต้นรำสุดเหวี่ยง
[4] The faerie lord : เจ้าเหนือหัวแห่งภูต
[5] Dream in an ancient forest : ความฝันกลางป่าโบราณ
| |
Create Date : 18 กันยายน 2548 |
Last Update : 18 กันยายน 2548 13:21:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 536 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|