It is not how much we have, but how much we enjoy, that makes happiness.

<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2555
 

แบกเป้ ปีนเขา กินลม ชมวิว ที่ Jasper National Park of Canada ตอนที่ 2

วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 (2012) ตรงกับวันชาติแคนาดา

เพื่อนในกลุ่มเรามีอยู่หนึ่งคนที่ตื่นเช้ามาก ตื่นตั้งแต่ 5.30 น. ได้เห็นประโยชน์ของการตื่นเช้าก็วันนี้เอง จริงๆนะ (ทั้งๆที่พ่อและแม่บอกมาตลอด) เราเก็บ Tent และเตรียมอาหารกลางวัน ออกเดินทางจาก Campground เวลา 8.30 น....ทำเวลากันจริงๆพวกเรา... Tent อื่นๆยังนอนไม่ตื่นกันเลย แต่เราออกแล้วแต่เช้า...เริ่มต้นก่อนคนอื่นมีชัยไปกว่าครึ่ง

พวกเราเข้าไปดาวทาวน์กันเพื่อหาอะไรดื่มช่วงเช้า อาหารเช้าของพวกเราคือ คลัวซอง อร่อยมากอ่ะ...อารมณ์แบบนั้นเลย ส่วนตัวเรานั้นเข้า Tim Hortons เพราะเป็นรถชาดที่เราชอบล่ะ...ไม่ได้เดินเข้าร้านพื้นเมืองเพื่อชิมรถชาดของเขานะ ครั้งหน้าเวลาไปไหนจะพยายามลองชิมอะไรแปลกๆของพื้นเมืองเขาซะหน่อย...ทำไงได้เป็นคนที่กินอะไรยากกกกกกกกกกกกกกกมาก เลยต้องทำใจกับการเที่ยวทุกทริปเลย









แผนปีนเขาวันนี้มีสองที่ ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำมาเมื่อวาน เริ่มที่แรกด้วย Maligne Canyon ซึ่งอยู่ไปทางเหนือของ Jasper...เส้นทางนี้เราเลือกที่จะเดินไปและกลับคนละเส้นทาง ที่นี่ขอบอกเลยว่า...สวยจริงๆๆๆ ทาชันก็จริง แต่ที่นี่ทำทางไว้ให้ปีนเขาดีมากกกกกกกกกก...ดื่มด่ำกับธรรมชาติไปได้เรื่อยๆจริงๆๆ แถมตลอดทางยังมีป้ายบอกข้อมูลต่างๆของต้นไม้แต่ละชนิดด้วย













เราก็เพิ่งได้มาเห็นน้ำที่ไหนออกมาจากซอกหินครั้งนี้นะ แต่อยากมาเห็นสุดคงเป็นหน้าหนาวอ่ะ พูดไปงั้นแหล่ะ ถึงตอนนั้นมาเดินคงแข็งเป็นท่อนไม้พอดี ขนาดไปหน้าร้อนก็ยังเย็นนิดๆๆๆ พอเดินไปหน่อยก็ร้อน แต่พอหยุดพักก็เย็นอีกล่ะ เป็นแบบนี้สลับกันไป...ขามาเดินทางต่ำ ที่ราบหน่อย แต่ขากลับปีนขึ้นเขาสูงชันทีเดียว...แต่พอเห็นบรรยากาศแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าคุ้ม แม้มันจะดูน่ากลัวกับความเวิ้งว้างไปบ้าง...สามารถมองเห็นวิวทั่วทั้งเมือง Jasper จากมุมนี้ ปีนเขาไปเส้น 7S (มั้งถ้าจำไม่ผิด) ...ทางกลับนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมมาเดิน อาจจะเพราะไม่มีใครรู้ก็ได้มั้ง ว่าวิวมันหน่ะ สุดยอดเลยเพ่!!!!!!!













เราใช้เวลาปีนเขารวมเวลาไปกลับทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็โอเคนะ ไม่แย่มาก...มองการณ์ไกลแล้วว่า อันตัวข้าพเจ้านั้นต้องเดินรั้งท้ายแน่นอน และก็เป็นจริงดั่งคิดด้วยแหล่ะ เราไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยไง มันเลยเหนื่อยง่าย ต่อไปจะพยายามออกกำลังใจเยอะๆล่ะ จะได้เดินตามเพื่อนทัน

หลังจากเห็นป้าย “ระวังหมีดำ” มาเยอะมาก คราวนี้ก็ได้เห็นตัวเป็นๆล่ะ..มันเดินอยู่ข้างทาง และไม่กลัวผู้คนด้วย ทั้งๆๆที่หมีดำอันตรายมาก แต่ไม่รู้ชินคนรึเปล่า พวกเราไม่ลงไปถ่ายรูป แค่ขับผ่านแล้วถ่ายก็พออ่ะ...คนที่ลงไปถ่ายรูปส่วนมากคือ ชาวอินเดีย...จริงๆๆๆๆนะ เจอแต่กลุ่มชาตินี้ เราอ่ะกลัวแทนเลย...เพื่อนในกลุ่มเห็นหมีดำกำลังเดินไปทางจุดแวะพักกินข้าว...เพื่อนเลยขอแวะบอกกับนักท่องเที่ยวคนอื่นว่า “ระวังหมีดำนะคะ มันกำลังเดินมาทางนี้ค่ะ”...จากจุดหมีเดินมาถึงจุดแวะพักกินข้าว ไม่น่าเกิน 100 เมตร...น้ำใจงามจริงๆๆๆ ขอชื่นชมเพื่อน คนที่นี่บอกว่า หมีมีหลายประเภท ถ้าคุณเจอหมีดำ ต้องทำเสียงดัง อย่าวิ่ง ปรบมือไป แต่ค่อยๆเดินถอยหลัง ไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจะปลอดภัย



มุ่งหน้าต่อไปยัง Maligne Lake ตามมาดูเพราะชื่อเสียง...พวกเราไม่ได้กลับเข้าไปดูขบวนพาเหรดนะ เพราะเวลาไม่พอ ไปทำกิจกรรมที่เราอยากทำกันดีกว่า... ระหว่างทางก็แวะ Lake อื่นๆไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ







กว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ได้...ก็ต้องขับรถเลาะ Lake มา หวาดเสียวเป็นระยะๆ...และแล้วเราก็มาถึง Maligne Lake...แมลงเยอะมากๆๆๆๆ และ Lake ไม่ประทับใจพวกเราเท่าไหร่ คือ วิวดูธรรมดาเมื่อเทียบกับ Lake อื่นๆ...แถมค่านั่งเรือชมวิวก็แพงเว่อร์ๆๆๆๆๆ...มีที่เดียวในสถานที่นี้ที่พวกเราเห็นตรงกันว่าสวย คือ “ที่จอดรถ” ตั้งแต่ผ่านมาไม่มีที่จอดรถที่ไหนสวยเท่านี้อีกแล้ว จริงๆๆๆนะ







ในเขต Jasper นั้นจะมีป้ายเตือนระวังสัตว์ไม่กี่ประเภท หนึ่งในนั้น คือ Moose (ไม่แน่ใจนะ) เห็นเตือนตลอดระหว่างทาง...แต่ทั้งทริปอ่ะเจออยู่ตัวเดียว และครั้งเดียวนี่แหล่ะ...ในที่สุดก็ได้เห็นตอนขากลับนั่นเอง...ถ่ายระยะไกลเอา เพราะรถติด



ที่ปีนเขาแห่งที่สอง จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร รู้แต่ว่าอยู่ใกล้ Campground ที่เราไปพักเมื่อคืนเลย...ตอนเริ่มเดิน เจอนักปีนเขาถามว่าเพิ่งปีนใช่ไหม...แล้วเขาก็บอกว่ายังอีกยาวไกล พร้อมทำหน้าเหนื่อยๆ...เราก็คิดแค่ว่า แหมไม่ให้กำลังใจกันเล้ย จนเมื่อปีนไปได้สักพักจึงรู้ว่า...ทางปีนเขาที่นี่โหดกว่าที่แรกเยอะ...มีทั้งโคลน แฉะ และชัน มีความหวาดเสียวระหว่างทางเรื่อยๆ ยุงยักษ์ก็เยอะมหาสาร ขนาดฉีดสเปรย์กันยุงแล้วนะ ยังจะมาเกาะอีก เฮ้อ...พวกเราปีนเขาลูกเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เพื่อขึ้นไปดูวิว...เจอนักปีนเขาทีมอื่นๆก็แวะทักทายคุยเฮฮากันไป สนุกสนานมากกกกกกกกกกกกกก อ้อ...ที่นี่มี Rafting ด้วยนะ...แต่เรากลัวน้ำคงขอบาย





































เราชอบการปีนเขาที่นี่มาก...มันคือการปีนเขาจริงๆๆๆ ที่ต้องผ่านด่านความโหด สบาย เสียว สวยงาม ขรุขระ และอื่นๆเต็มไปหมด นี่แหล่ะสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิต พวกเราใช้เวลาปีนเขา รวมไปกลับสองชั่งโมง ระหว่างเดินเกือบถึงข้างล่างแล้วฝนเริ่มปรอยๆๆๆ พอขึ้นรถกันปุ๊บ คราวนี้ตกหนักเลยเชียว...ดีนะรอดไป...พยากรณ์อากาศวันนี้บอกว่าฝนจะตกนะ ช่วงบ่ายๆ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...รู้ก็ตอนที่มันตกนี่แหล่ะ

หลังเสร็จสิ้นภารกิจปีนเขาด้วยความสุขในหัวใจแล้ว...ก็มุ่งหน้าต่อไปยัง Hostel...พวกเราขับรถมาได้แป๊บนึกขึ้นมาได้ว่า ตายล่ะไม่ได้เติมน้ำมัน ตอนนี้เหลือแค่เศษหนึ่งส่วนสี่เอง...ไม่อยากเสียเวลามากเดินหน้าต่อไปเลยล่ะกัน...ท่ามกลางความตึงเครียด เราก็ได้นอนหลับแต่บอกเพื่อนนะว่า “ถ้าถึงปั้มเมื่อไหร่บอกด้วย จะจ่ายเงินให้” แล้วก็หลับต่อ...วินาทีนั้นเกิดความเงียบงันทั้งรถ ทุกคนไม่พูดอะไรกัน ความเครียดเข้าครอบงำ...เราไม่รู้สึกตัว...มารู้ตัวอีกทีก็มาถึง The Columbia Icefield อีกครั้ง...เพราะเพื่อนบอกว่าเราต้องหาคนช่วยที่นี่แล้ว น้ำมันจะหมดเต็มที...แวะจอดตรงศูนย์บริการลูกค้าตรงข้ามถนนกัน...ติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อยปุ๊บ ก็ได้ร้องดีใจกันถ้วนหน้า เจ้าหน้าที่จะแบ่งขายให้ แต่ขายได้เต็มที่ $50 ต่อ 20 ลิตรเท่านั้น...อืม...ก็แพงเอาเรื่องอยู่นะ แต่ ณ วินาทีนั้นก็ดีกว่าต้องจ้างรถมาลากไปเติมน้ำมันล่ะกัน...บอกขอบคุณเจ้าหน้าที่ พร้อมสัญญากันมาครั้งหน้าจะมาขึ้นรถบัสล้อยักษ์อุดหนุนกัน...เจ้าหน้าที่บอกว่า เหตุการณ์น้ำมันหมดเกิดขึ้นทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละสามสี่ราย...ก็แหมนะ...เราไม่ใช่คนท้องที่จะล่วงรู้ได้อย่างไรว่า ปั้มน้ำมันที่นี่หายากมากกกกกกกกกกกกกกกกก




เอาล่ะ...ทีนี้ก็ได้เวลาไปนอนที่ Hi-Rampart Creek Hostel กันแล้ว...ตรงข้ามกันเป็น Cmapground...คิดในใจเลยว่า อยากนอนอีกง่ะ สนุกดี จ่ายถูก ได้บรรยากาศสุดๆๆๆ...ระหว่างทางเกิดเรื่องระทึก...อยู่ๆหมีดำก็วิ่งข้ามถนนไวมากๆ ตรงทางก่อนถึง Hostel ประมาณไม่กี่นาที...อารมณ์นั้นกลัวหมีดำมากกกกกก ได้แต่หวังว่ามันจะไม่มาทักทายพวกเราที่ Hostel นะ...มารู้ก่อนไปไม่เท่าไหร่ว่ามันไม่มีห้องอาบน้ำนะ...มีแต่ส้วมหลุม...ผิดแผนเลย ตอนแรกคิดว่า Campground ไม่มีที่อาบน้ำกะว่าจะไปอาบน้ำที่ Hostel กัน...แต่นี่สลับกันเลยเชียว...จ่ายค่า Hostel ไปประมาณคนละเกือบ $30 ต่อคืน เป็นห้องรวมหญิง ห้องละหกเตียง...ดีนะที่ทุกคนอาบน้ำกันมาจาก Campground แล้ว...อาหารเย็นสำหรับวันนี้ คือ อาหารที่เรากินไม่หมดจากเมื่อวาน และมาม่าต้มยำกุ้ง...ด้วยว่าฝนตกหนักมากๆๆๆๆ เราเลยนอนกันเร็ว และเข้าห้องน้ำแค่หนึ่งครั้งก่อนนอน (เพราะห้องน้ำไกลจากที่พัก)




















 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2555
2 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2555 11:31:23 น.
Counter : 1808 Pageviews.

 
 
 
 
สวัสดีครับ
ดูอาหารคุ้นตาจัง
 
 

โดย: จิรโรจน์ วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:35:27 น.  

 
 
 
มาม่าค่ะ...
 
 

โดย: pinkhug วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:06:25 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pinkhug
 
Location :
Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add pinkhug's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com