It is not how much we have, but how much we enjoy, that makes happiness.

<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
28 มิถุนายน 2555
 

บินเดี่ยว คิดเดี่ยว ฉายเดี่ยว เกือบสายเดี่ยว ตอนที่ 2 Montreal

วันที่ 11 มิถุนายน 2555

อุณหภูมิ 28 C ณ เกือบห้าโมงเย็น ร้อนระอุ แบบแดดแผดเผาผิวเลยทีเดียวเชียว อากาศช่างแตกต่างเหลือเกินกับเมือง Quebec City โผล่ขึ้นมาจากรถไฟ ก็ให้ความรู้สึกว่า โอ้ฉันอยู่ใน Harry Porter ใช่ไหม (แอบคิดเอง) ออกมาด้านนอกสถานีรถไฟปุ๊บ ก็ไปตามแผนที่จาก IPhone เดินไปเรื่อยๆๆๆ



Hostel ไม่ไกลมากเท่าไหร่ สะดวกดี อยู่ใกล้ subway อีกต่างหาก เช็คอินเสร็จ ทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็เริ่มเดินทาง



โดยโปรแกรมวันนี้นั้น ไม่เป็นไปตามแผนเลย เริ่มจากอยากจะไปที่ "จัตุรัสกลางเมือง" เหมือนที่หาข้อมูลไว้ แต่ด้วยว่าไปถึงค่อนข้างเย็น แล้วก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ที่รู้ๆๆเดินผ่านถนนสายช้อปปิ้ง ที่บรรยากาศเหมือนนิวยอร์กมาก แต่ดูสะอาดกว่า เป็นระเบียบกว่า ในความรู้สึกของเรานะ นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกกกกกกกกกก เดินกันขวักไขว่ไปหมด เมืองมันไม่ใหญ่เท่านิวยอร์กนะ แต่น่าอยู่กว่ามากในความคิดเรา เมื่อจุดหมายแรกไม่สำเร็จ ก็เดินไปเรื่อยๆๆๆแล้วก็มาเจอกับ McGill University อยู่ย่านดาวทาวเลย สะดวก ร่มรื่น เลยนั่งเล่น นั่งกินขนมแป๊บ และก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายใหม่ โดยเลือกใช้ subway





subway เราซื้อ One Day Pass ผ่านเครื่องแบบนี้ ด้วยราคา $8 นับเวลาตั้งแต่ที่เราซื้อรวม 24 ชั่วโมง subway จะมีสี่สาย สี่สี คือ น้ำเงิน เขียว เหลือง และส้ม(ที่ยาวที่สุด) จุดหมายที่จะไปนี้ บอกตามตรงเป็นความเหง้าส่วนตัวโดยแท้ เพราะเราดูรูปผ่าน FB ไอ้จ๋า แล้วแบบว่า จะไปตามอันนี้แหล่ะ แต่พอไปถึงกลับเจอแบบนี้ อันนี้คือ Biodome เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับชีวิตพืชและสัตว์ เอ่อ!!!!!!! แบบว่ามาแล้วแต่ถ่ายแค่ด้านนอกอ่ะนะ เพราะเวลาไม่พอ ขอเอาบรรยากาศและป้าย แบบไทยนิยมล่ะกัน ไปตั้งไกล ถ่ายมาประมาณนี้แหล่ะ เพราะเย็นมากแล้ว โปรแกรมพรุ่งนี้เยอะ







เสร็จแล้วจะไปต่อที่ Parc du Mont Royal หรือ Mont Royal Park นั่นเอง วางแผนไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตก ออกจาก Mont Royal Subway ก็ต้องต่อรถเมล์ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าควรขึ้นป้ายไหน สับสนข้อมูลในมือถือมาก สรุปรถเมล์ก็ผ่านไปต่อหน้าต่อตา เหลือทิ้งไว้เพียงลมและฝนเริ่มโปรยๆๆๆ เลยตัดสินใจว่า กลับดีกว่า อากาศไม่เป็นใจ พรุ่งนี้ลุยใหม่ล่ะกัน...ภาพหน้าสถานี เก้าอี้ใหญ่น่านั่งมากกกกกกกกกกก อยากนั่งอ่ะ กับร้านขายดอกไม้น่ารัก





วันที่ 12 มิถุนายน 2555
ด้วยความที่จอง 10 เตียง อึดอัดมาก เตียงใหญ่จริง แต่ตื่นมาปวดหลังโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ห้องน้ำมีห้องเดียว เก่ามากด้วย แต่สถานที่อ่ะดีมาก เราต้องตื่นแต่เช้า เพราะโปรแกรมมีหลายที่ กลัวเก็บไม่หมด เอากระเป่าไปฝากไว้ที่สถานีขนส่ง ค่าฝาก $4 ไปลงที่ Berri-UQAM เป็นสถานีที่ใหญ่ต้องหาทางออกดีๆ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมีพนักงานคอยบริการเรื่องถามทางอยู่ประปราย สถานีนี้เป็นสถานีที่เชื่อม subway สามสายด้วยกัน



บัตร One day pass ของเราเกิดปัญหาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คืออยู่ๆมันก็แสกนไม่ได้อ่ะ ไม่รู้ทำไม เข้า subway อ่ะเข้าได้ แต่...พอไปถึงจุดต่อรถเมล์ รถเมล์ก็ไม่ยอมให้ขึ้น พอไปถามเจ้าหน้าที่ที่ subway ก็ถามหาใบเสร็จ และเราไม่ได้ติดใบเสร็จที่ซื้อเมื่อวานมา มันอยู่ในล็อคเกอร์ เซ็งเลย ไม่อยากเสียเวลา เลยต้องจำใจซื้อใหม่อีกใบ เพราะเทียบแล้ว เราเดินทางเยอะ คุ้มแน่นอน เดินไปขึ้นรถเมล์ด้านหลังของ Mont Royal Subway นะ มันจะมีป้ายรถเมล์อยู่...การบริการของเจ้าหน้าที่ Subway ไม่ประทับใจอย่างแรง ไม่ยิ้มแย้ม ไม่พูดดีเท่าไหร่ ฮึๆๆๆๆๆๆ

ป่ะ... เริ่มต้นที่ Parc du Mont Royal หรือ Mont Royal Park ลงผิดหนึ่งป้าย แต่ก็โอเคเดินย้อนกลับมาได้ ก็เดินๆไปตามป้ายนั่นแหล่ะ ผิดทิศบ้าง แต่ก็ได้เห็นวิวเยอะดี





เราเลือกที่จะเดินไปแค่ตรง Kondiaronk Lookout เพราะแค่นี้ก็ทำให้เรา แบบตะลึงตึงโป๊ะล่ะ วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกก เห็นแล้วมีความสุข ก็ดื่มด่ำกับมันเพียงเล็กน้อย เราไม่ได้เดินต่อไปอีกทีนึงนะ เพราะว่ามันเดินอีกประมาณกิโลนึงเลยล่ะ โปรแกรมที่วางไว้จะไม่ครบเอา ก็เลยปล่อยมันไป





รถเมล์ที่ผ่าน Parc du Mont Royal จะมีจุดแวะชมวิวสองที่ ที่ที่สองคือเหมือนรูปด้านบน แต่ที่แรกคือข้างทางที่รถผ่านแบบนี้ แต่เราไม่ได้แวะนะ



นั่ง Subway ต่อไปยังสถานี Place-D'Armes ไปเริ่มต้นเดินทัวร์ตามหนังสือแนะนำ เริ่มจาก Place d’Armes ซึ่งเป็นรูปปั้น ด้านหลังรูปปั้นก็จะเป็นธนาคาร BMO ที่ใหญ่และเก่าแก่ ด้านข้างก็จะเป็นตึกสีแดง ชื่อ New York Life Building และบริเวณรูปปั้นก็จะมีรถม้าไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย





ตรงข้ามรูปปั้นก็จะเป็นโบสถ์ Basilique Notre-Dame เสียค่าเข้า $5 เราก็เสียเพื่อเข้าไปดูนะ มันดูมืดๆไปหน่อย แอบขลังๆ





ติดกับโบสถ์เป็น Old Seminary ตึกที่เก่าแก่ที่สุด (อันนี้เขาเปิดปรับปรุง เลยไม่ได้ถ่ายมา)

เดินไปตามทางด้านข้างโบสถ์ ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย น่ารัก เจอประตูเหล็กสีดำปุ๊บ เดินเข้าไปทันที มันเรียกว่า Rue Le Royer เป็นคอนโดแห่งแรกของเมือง มีสวนหย่อมน่ารัก ผู้คนมากินมื้อกลางวันที่นี่ เดินทะลุไปก็จะไปเจอถนนสายช้อปปิ้งของจริงกันล่ะ

ระหว่างทางเจอนายแบบถ่ายนิตรยสารด้วย หล่อมากกกกกกกกกกกกกกก นั่งถ่ายบนช้อปเปอร์ เท่ห์โคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แอบอยากนั่งซ้อนท้ายโดยฉับพลัน รักเลยง่ะ









เดินไปเดินมาไปทะลุท่าเรือ อารมณ์นั้นหิวมาก Mac อยู่ไหนอ่ะ ?????? ต้องรีบเดินซะแล้ว เดินๆๆไปตรง Quai Jacques Cartier เดินเลียบแม่น้ำดูวิวไปเรื่อยๆ





และก็เจอเจ้านี่ที่เราอยากไปดูนั่นเอง ฮึ่มๆๆๆๆๆๆ มาอยู่นี่เองนะ นี่ยังโชคดีได้เห็นมุมไกลก็ยังดีอ่ะ...ปลายสุดทางเดินเป็นหอนาฬิกา







เดินลัดเลาะออกจากริมน้ำมาเรื่อยๆ ท่ามกลางความปั่นป่วนของตา เดินไปตามแผนที่กันต่อล่ะกัน ก็ไปดูโบสถ์อีกที่หนึ่ง เป็นโบสถ์เล็กๆที่เก่าแก่ย่านนั้น เดินมาเรื่อยๆๆ ผ่าน Marche Bonsecours ซึ่งเป็นห้าง ก็ไม่ได้น่าเดินเท่าไหร่สำหรับเรานะ เดินตามแผนที่ในหนังสือไปเรื่อยๆ หิวก็หิว ข้อเสียอย่างรุนแรงของเราคือ กินอาหารฝรั่งไม่ได้ มันเลี่ยน ในที่สุดฟ้าก็ประทาน ...เราเจอร้าน Mac แล้ว ประหนึ่งว่า โอ้! ฉันเจอเนื้อคู่แล้ว ช่วงนั้นมีนักศึกษามาประท้วงค่าเล่าเรียนกันด้วย...นั่งกินไปสักพักฝนก็ตกลงมา









จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ คือ The Underground City ซึ่งเราต้องขึ้น Subway ไปลงที่สถานี Square-Victoria ถามใครก็ไม่รู้ ขึ้นมาโผล่เป็นแบบนี้



จริงๆแล้ว มันเดินทะลุถึงกันได้หมด เพียงแต่เราไม่รู้จักทางเท่านั้นเอง หรือเรียกง่ายๆว่าหลง มันน่า เดินไปเรื่อยๆๆๆก็เจอ มันจะทะลุถึงกันหมดกับห้าง Eaton Centre





แวะกินเกี๊ยวซะหน่อย รถชาดแบบว่า ชื่อร้าน Tiki-Ming รับแต่เงินสดซะด้วย อาจจะอร่อยของเขา แต่ไม่ถูกปากเราง่ะ



เห็นอัตราแลกเปลี่ยนประเทศไทยด้วย แอบอินเตอร์เหมือนกันเนอะบ้านเรา สงสัยไปเที่ยวบ้านเขาเยอะรึเปล่าเนี่ย



จบทริปที่นี่ด้วยความโหยหา...เพราะรู้สึกใช้เวลาน้อยไป ชอบเมืองนี้มากนะ...มันมีดีหลายอย่างเลยอ่ะ...เดินทางไปถึง Greyhound ตอนเกือบห้าโมงเย้น แต่เรามีตั๋วหกโมงเย็น เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ขึ้นได้ด้วยอ่ะดีๆๆ...เราก็ไม่รุ้เนอะว่าตั๋วที่จองมันเป็นแบบไหน แต่เราได้ขึ้นรถบัสสีน้ำเงิน เพื่อนบอกมันคือ Express สะดวกสบายทุกอย่าง มีปลั๊กชาร์ตแบตด้วย แบตเราหมด แต่ไม่รู้ที่ชาร์ต แล้วงี้เพื่อนที่รอรับที่ Ottawa จะรุ้ไหมนะว่าเราถึงเวลาใหม่แล้ว เอาวะ...ไปวัดดวงที่ Ottawa เอา กับเพื่อนสุดเลิฟ หญิงพิน...คิดถึงแกที่สุดเลย ลาแล้วนะ Montreal ไม่รู้จะมีตังค์มาเยือนใหม่รึเปล่า คงเก็บตังค์ไปเที่ยวที่อื่นแทนก่อน




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2555
1 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2555 11:43:22 น.
Counter : 1490 Pageviews.

 
 
 
 
กว่าจะอัฟได้...มีปัญหาโปรแกรมอ่ะ...เมื่อวานอัฟเกือบเสร็จล่ะ แต่ดันขึ้นมาแค่ข้อความ...วันนี้ก็เกิดปัญหาเหมือนเดิมเลย เลยต้องอัฟทีล่ะนิด
 
 

โดย: pinkhug วันที่: 28 มิถุนายน 2555 เวลา:10:48:01 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pinkhug
 
Location :
Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add pinkhug's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com