โรคไต
เป็นโรคที่เป็นฝันร้ายทำให้เจ้าของแมวหลายคนต้องเสียใจและโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้ลูกรักต้องป่วย เพราะความเข้าใจว่าโรคไตเกิดจากการกินอาหารเค็ม เช่น ปลาทู อาหารเม็ดบางยี่ห้อ ซึ่งก็เป็นความจริงที่แก้ไขได้ยากมาก เพราะสาเหตุหลักๆ มาจากอาหาร ส่วนสาเหตุรองลงมา คือ สารพิษบางชนิด เช่น น้องแมวไปกินยาเบื่อที่คลุกไว้สำหรับหนู หรือยาฆ่าแมลงอื่นๆ อาการที่เจอทันทีจะเป็น ชัก อาเจียน น้ำลายฟูมปาก ฯลฯ แต่ว่าอาการต่อเนื่องหลังจากนั้น คือสารพิษนั้นไปทำลายตับ และไต ซึ่งจะส่งผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษที่ได้รับ ถ้าเป็นไปได้หลังจากได้รับสารพิษ ควรดูแลอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา

การทำงานของไตนั้นเกี่ยวข้องกับหลายๆ ระบบ ที่รู้กันมากที่สุดและเป็นหน้าที่หลัก คือการขับของเสียออกมาพร้อมปัสสาวะ (มีเยอะมากซะจนนิ้วมือ และนิ้วเท้านับไม่พอเลยล่ะ คิดให้ง่ายเข้าไว้ คือสารที่ร่างกายใช้ประโยชน์ไม่ได้ หรือมีมากเกินความต้องการนั่นเอง) เช่น
โปรตีน(ที่ร่างกายแปรรูปไปแล้วใช้ประโยชน์ไม่ได้) ยกตัวอย่าง เพื่อจะหลีกเลี่ยง โปรตีนที่ว่ามาได้แก่ เลือด ผม ขนสัตว์ เครื่องใน(ปกติแมวคงไม่กินของแบบนี้แต่อาหารสำเร็จรูปบางยี่ห้อจะผสมโปรตีนพวกนี้เข้าไป เพื่อให้อาหารนั้นๆ มีปริมาณโปรตีนสูงขึ้น แต่แมวย่อยได้น้อยมากหรือย่อยไม่ได้เลย ทำให้ร่างกายต้องรับภาระหนักเพื่อขับของเสียพวกนี้)

สารเคมี เป็นข้อที่แก้ได้ยากมากเพราะว่ามาในรูปสีผสมอาหารสัตว์ สารถนอมอาหาร ข้อนี้มีทางแก้ทางเดียวคือ ไม่กินอาหารที่ผสมสี หรือไม่ใช้สารเคมีถนอมอาหาร (อาหารที่มีลักษณะแบบนี้ จะแพงเอามากๆ และที่ดีจริงดังที่โฆษณา ก็มีอยู่ แค่ 2-3 ยี่ห้อ แต่คาดว่าในอนาคตจะมีมากขึ้นเพราะเมื่อก่อนนิยมใช้เพราะไม่รู้ว่ามีข้อเสีย พอค้นคว้าเรื่องสารเคมีไปนานๆ บริษัทที่รับผิดชอบมากพอ ก็พากันแก้สูตรอาหารของตัวเองเรียบร้อย ขอบคุณนะคะบริษัทที่มีความรับผิดชอบ)


น้ำ เตรียมน้ำสะอาดไว้ให้พอตลอดวัน (แต่ว่าการบอกให้น้องแมวกินน้ำให้มากๆ มันเป็นไปไม่ได้อ่ะ)

แร่ธาตุ อีกราวๆ 10-20 ชนิด (จำไม่ได้ทั้งหมด) ถ้ากินอาหารหลากหลาย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ ยกเว้นธาตุโซเดียม การขับโซเดียมจะเพิ่มการทำงานของไตมากกว่าปกติ (อันนี้รู้กันอยู่แล้ว) แก้ง่ายๆ ด้วยการกินน้ำ เพราะว่าในตอนที่ไตขับน้ำออก จะพาโซเดียมออกไปตามปกติ โดยที่ไตไม่ต้องทำงานหนัก (อย่าหวัง น้องแมวคงไม่ยอมกินน้ำเพราะเราบอกว่าเค็มมาก กินน้ำเยอะๆ นะลูก)
และเก็บของที่ร่างกายมีไว้ไม่พอมาใช้ใหม่อีกรอบ คิดตามนี้แล้ว ไตก็เหมือน รีไซเคิล บิล ในร่างกาย

หน้าที่นอกเหนือจากนี้ เป็นหน้าที่เสริม ส่วนที่เด่นๆ ได้แก่

สร้างฮอร์โมนไปกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด
เปลี่ยนเซลล์ในระบบภูมิต้านทานให้ทำงานได้เต็มที่


เพราะฉะนั้นถ้าไตเสื่อมเมื่อไหร่ ระบบที่ว่ามาทั้งหมดก็เสียไป ทำให้ร่างกายขับของเสียไม่ได้ เก็บกักสารที่ใช้ประโยชน์เอาไว้ไม่ได้ การสร้างเม็ดเลือดลดลง และระบบภูมิต้านทานลดลง
สัญญาณที่บอกว่าแมวเป็นโรคไต
1. อันดับแรก คือ กินน้ำและ ปัสสาวะมากและบ่อยผิดปกติ
2. ไม่ค่อยทานอาหาร และนน.ตัวลดลงเร็วมากๆ ตัวแห้ง
ข้อ 1 และ 2 เป็นเพราะว่าไต ไม่สามารถเก็บน้ำเอาไว้ได้ตามปกติแล้ว
3. ปากเหม็น และมีแผลหลุม ในปากและลิ้น รวมไปถึงตัวเหม็น(เพราะของเสียที่สะสมในร่างกาย)
4. ซีด หรือว่าเหลือง (ร่างกายขาดเลือด และไม่สามารถขับของเสียที่เป็นส่วนเกินออกไปได้แล้ว)




เมื่อไหร่จะเรียกว่าเกิดโรคไตวาย
ภาวะไตวาย วัดกันที่การทำงานของไตว่าเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ ไตนั้นทำงานได้ดีแม้ว่าจะเหลืออยู่เพียง 1 ข้าง (ไม่งั้นเค้าจะบริจาคไตกันได้ไงจริงมะ) เมื่อไตถูกทำลายไปมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ในชีวิตประจำวันคนเราเองก็ทำร้ายมันอยู่ทุกวัน ด้วยการกินสารเคมี และถึงใช้ชีวิตถูกต้องตามหลักโภชนาการแค่ไหน ร่างกายก็ต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา วิธีเดียวที่จะป้องกันการเกิดโรคไตได้ คือ ให้ไตทำงานน้อยที่สุด
เริ่มด้วย เลือกก่อนว่าเราทำอะไรกับแมวที่รักได้บ้าง

1. กินอาหารเม็ดที่ดีต่อสุขภาพ (จืดหรือไม่อร่อย แต่ดีต่อสุขภาพ)
2. ตรวจว่ามีน้ำสะอาดให้เหมียวกินตลอดทั้งวัน(ง่ายที่สุด แต่ผลขึ้นกับเหมียวว่าจะกินน้ำมากหรือน้อย)
3. ทำอาหารให้กินที่ปลอดภัยกับสุขภาพ (เป็นแม่ครัวเองเลย น่าจะอร่อยกว่าอาหารเม็ด แต่ต้องแลกด้วยเวลา และความพยายาม)


นอกเหนือจากนี้ มันจะขึ้นอยู่กับน้องแมว และเจ้าของทุกคนว่า ทำอะไรกันมาบ้าง บางเรื่องเราอาจแก้ไขได้ แต่บางอย่างก็เกินจะลงมือทำได้ เพราะว่ามันไปเปลี่ยนชีวิตเค้ามากเกินไป แทนที่จะดีขึ้นอาจแย่ลง ทุกอย่างต้องอิงกับตัวแมวเป็นหลัก ถ้ามีอะไรเล่าสู่กันฟังก็ยินดีรับฟังคะ




Create Date : 24 มกราคม 2550
Last Update : 24 มกราคม 2550 17:45:38 น.
Counter : 651 Pageviews.

1 comments
  
มาเจิมแล้วจ้า วันก่อนไม่มีเวลา

ปกติไปถามหมอ หมอไม่บอกละเอียดอย่างนี้หรอก

แบบนี้เคลียร์ดี

วันหลังมีอะไรจะถามหมอแก้วแทน
โดย: JingleJ (JingleJ ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:16:49:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MOMIJI_99
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มกราคม 2550

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
24 มกราคม 2550