Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
""ที่มาข้อมูล :


กิน วิตามิน อย่างไรจะไม่เกิดโทษ


คนที่มีสุขภาพปากและฟันแข็งแรง กล้าที่จะยิ้มด้วยความมั่นใจ ถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก ฟันแท้ของเรานี่เอง ที่ถือเป็นฟันที่แข็งแรงที่สุดยิ่งไม่มีฟันผุด้วยแล้ว ยิ่งต้องรักษาสุดชีวิตกันเลย แต่ก็มีคนจำนวนมากที่มีปัญหากับฟันแม้ฟันไม่ผุ

โดยเฉพาะฟันที่มีสีเหลืองจนถึงน้ำตาลดูไม่สวยงาม การฟอกฟันจึงเป็นทางออกที่ช่วยให้สีของฟันดูดีขึ้น แต่ถ้าฟันมีสีคล้ำมากการเคลือบฟันก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ได้ผล คำถามมีอยู่ว่าหลังจากฟอกหรือเคลือบฟันแล้ว ฟันยังแข็งแรงเหมือนเดิมหรือไม่ คอลัมน์นี้มีคำตอบให้คุณ แต่ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจถึงการฟอกและเคลือบฟันกันก่อน

การฟอกฟันมีมานานแล้ว คนที่มีฟันเหลือง สีน้ำตาลอ่อนๆ อาจเป็นมาแต่กำเนิด หรือมีสาเหตุจากยาบางชนิดตั้งแต่ในวัยเด็ก หรืออาหารที่กินอยู่ทุกวัน เช่น ชา กาแฟ หรือการสูบบุหรี่ก็มีส่วนทำให้ฟันมีสีคล้ำขึ้น

ก่อนการฟอก หรือเคลือบฟัน ทันตแพทย์จำเป็นจะต้องขัดและขูดหินปูนออกก่อนจนฟันสะอาด การฟอกสีฟัน คือการทำให้สี (pigment) ที่สะสมอยู่ในเนื้อฟันหลุดออกมา โดยโครงสร้างของฟันหากมองด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเนื้อฟันมีลักษณะเป็นท่อเล็กๆ และมีสีอยู่ในท่อฟันเหล่านี้ การฟอกฟันจะใช้สารฟอกฟันจำพวกเปอร์ออกไซด์ เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (ผสมสารอื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้กับฟันและปลอดภัยภายในช่องปาก) มีลักษณะคล้ายเจลเหนียว (Bleaching gel) ที่จะทำให้สีหลุดออกมา ซึ่งต้องทำหลายครั้งจึงให้ผลที่ต้องการ

การฟอกฟันนี้มี 2 ประเภท คือทำที่คลินิค และทำเองที่บ้านซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้รายละเอียดในวิธีการและข้อควรระวัง การฟอกฟันไม่ใช่การเอากรดมากัดเนื้อฟันอย่างที่หลายคนเข้าใจ ดังนั้นหลังจากฟอกฟันจึงไม่มีผลกับโครงสร้างของฟัน

อีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่มีสีฟันค่อนข้างเข้มคล้ำ จนบางครั้งไม่กล้ายิ้มกับใคร จึงเลือกวิธีเคลือบฟัน ซึ่งทันตแพทย์จะใช้วัสดุเฉพาะสำหรับการเคลือบฟันมาติดที่ฟัน  เช่น วัสดุอุดฟันที่ซึ่งสามารถเคลือบฟันเสร็จภายในครั้งเดียว มีราคาถูกกว่า แต่ไม่ค่อยสวยงามและไม่ค่อยแข็งแรง จึงมีวัสดุอีกชนิดหนึ่งเป็นเซรามิก(ceramic) ที่เป็นอีกทางเลือก โดยมีราคาแพงกว่า แต่สีสวยกว่าใกล้เคียงสีเนื้อฟันจริง และแข็งแรงกว่า การเคลือบฟันแบบนี้ ผู้ที่จะทำต้องแน่ใจพอสมควร เพราะจำเป็นต้องกรอผิวเนื้อฟันด้านหน้าออกประมาณ 0.6-1 มิลลิเมตร หลังจากนั้นแพทย์ก็จะพิมพ์ฟันเพื่อส่งไปทำผิวฟันด้วยวัสดุกึ่งเซรามิกที่แล็ป ให้ได้ตามรูปแบบของฟันจริง แล้วจึงนัดมาติดฟันอีกครั้ง ดังนั้นถ้าตัดสินใจทำเคลือบฟันแล้วเท่ากับต้องยอมรับการเสียผิวเนื้อฟันด้านหน้า และต้องใช้ฟันที่เคลือบไปตลอด หากชำรุดแตกหักก็ต้องซ่อมแซมส่วนที่เคลือบนั้นเพื่อให้ฟันสมบูรณ์ดังเดิม

หลังจากเคลือบฟันแล้วคุณภาพฟันจะแข็งแรงหรือไม่นั้น อยู่ที่สองปัจจัยหลัก คือ หนึ่ง… ความสามารถของทันตแพทย์ และสอง…พฤติกรรมการใช้ฟันของเจ้าของฟัน ผู้ที่เคลือบฟันแล้วต้องใช้ฟันอย่างทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น เพราะการเคลือบฟันจะทำให้เนื้อฟันส่วนหนึ่งถูกกรอออกไป แล้วปิดทับด้วยวัสดุดังกล่าว การเคลือบฟันจึงไม่เหมาะกับคนที่นอนกัดฟัน  หรือชอบใช้ฟันหน้าบดแทะอาหารแข็งๆ  เมื่อเคลือบฟันแล้วควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานใหม่ด้วย มิเช่นนั้นอาจทำให้ฟันที่เคลือบไว้แตกชำรุดและต้องกลับมาหาทันตแพทย์ให้ช่วยซ่อมแซมอยู่ร่ำไป

ดังนั้นผู้ที่ฟันมีสีไม่ขาวสวยเหมือนคนอื่น หากต้องการจะปรับเปลี่ยนสีฟัน ด้วยวิธีฟอกสี หรือเคลือบฟัน ก็คงต้องปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะด้านก่อนตัดสินใจ อย่าลืมว่าฟันที่มีสีสวยไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการดูแลให้มีฟันแข็งแรง รักษาสุขอนามัยในช่องปากให้ดีด้วย อย่าให้เหมือนคำพังเพยที่ว่า “สวยแต่รูปจูบไม่หอม” เสียล่ะ

 

Create Date : 22 สิงหาคม 2553
Last Update : 22 สิงหาคม 2553 0:54:19 น. 0 comments
Counter : 217 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tanadatcmi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tanadatcmi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.