" I tried my hardest just to forget everything -- Because of you ... "
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
เบื้องหลังบุรุษผู้สามารถ...มักจะมีบุรุษผู้สามารถอีกคน..อยู่เสมอ

..........ในโลกสมัยใหม่ ไม่มีใครหรอกที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ได้ด้วยลำพังตัวคนเดียว

.......กฎข้อหนึ่งที่สำคัญยิ่งของการเริ่มต้น Teamwork
นั่นคือ การวางตำแหน่งของคนให้เหมาะสม
เพราะหากวางตำแหน่งไม่เหมาะสมแล้ว สิ่งที่จะเกิดตามมาคือ ขวัญและกำลังใจของคนในทีมถดถอยลง
ทำให้ทีมเล่นได้ไม่เต็มความสามารถ
ฉะนั้นองค์กรจะต้องวางคนในตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด
โดยเริ่มตั้งแต่ตัวคุณ
หากเป็นคนจัดทีม คุณจะต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ตัวเองก่อน
คุณจะต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง
หรือว่าหาสิ่งที่เรียกว่าเป็นพรสวรรค์ของตัวเองให้พบ (สำคัญว่าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีพรสวรรค์กับเขาบ้างหรือเปล่า น่ะซิ!!)
เมื่อพบว่าตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร
หัวใจของคุณจะร่ำร้องออกมาเองว่า คุณเหมาะกับที่ตรงนี้นี่เแหละ..
ต่อจากนั้นคุณก็ต้องรู้จักทีมของคุณ
นั่นคือต้องรู้วิสัยทัศน์ จุดประสงค์ วัฒนธรรม
หรือประวัติศาสตร์
ถ้าคุณไม่รู้ว่าทีมกำลังจะไปที่ไหน
และทำไมถึงต้องไปที่นั่น
.......คุณก็คงไม่รู้ว่าจะเริ่มจากจุดไหน

ต่อมา คุณก็ต้องรู้จักสถานการณ์
เพราะถึงแม้ว่าวิสัยทัศน์ขององค์กรเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะแน่นอน
แต่นักสร้างทีมที่ดีย่อมรู้ว่า ขณะนั้นทีมอยู่ตรงจุดไหน เงื่อนไขของสถานการณ์เป็นอย่างไร
และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลย
คือ คุณต้องรู้จักเพื่อนร่วมทีม
เพื่อการวางตำแหน่งของเขาให้เหมาะสม

คุณจะต้องประเมินประสบการณ์ ทักษะ อารมณ์ ทัศนคติ ความปรารถนา
ทักษะเกี่ยวกับคน วินัย ความแข็งแกร่งทางด้านอารมณ์ และศักยภาพของแต่ละคน
เพื่อจะได้วางคนในตำแหน่งที่เหมาะกับเขามากที่สุด

เพราะสิ่งที่บ่งชี้ถึงการเป็นผู้นำทีมที่ยิ่งใหญ่
ก็คือ การจัดวางคนในตำแหน่งที่เหมาะสม

การจะช่วยคนให้บรรลุศักยภาพ และสามารถใช้ประสิทธิผลของพวกเขาอย่างสูงสุดนั้น คุณต้องดึงพวกเขาออกมาจากจุดที่เขาคุ้นเคย
หรือสะดวกสบาย
แต่ก็ต้องไม่ให้เกินความสามารถของเขา
การจูงใจคนให้ยอมเดินออกมาจากความคุ้นเคย
จะนำไปสู่ความสำเร็จ

การสร้าง Teamwork ที่ดีนั้น ทำได้ไม่ง่ายนัก
แต่ถ้าทำได้ดี ผลตอบแทนจะกลับมาเป็นก่ายเป็นกองแน่นอน
ดังที่ว่า “การเริ่มต้นที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง"

.......... การเป็นผู้นำที่ดี ผู้บริหารที่เก่ง
ไม่ใช่แค่เก่งในเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องรู้จักถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ให้แก่ลูกน้องได้ด้วย
เขาสำเร็จ เราก็สำเร็จ

.......สร้างทีมจากคนหลายคน มารวมตัวทำงานกันได้
แต่เมื่อบางคนไม่เต็มประสิทธิภาพตามจุดงานบางอย่าง เป็นหน้าที่ตรงที่ผู้นำต้อง coaching & counseling แก่ลูกน้อง...

......ยิ่งสูง ก็ยิ่งหนาว
การที่คุณขึ้นมาอยู่บนที่สูง คุณต้องมองให้ไกล
ต้องพาองค์กรไปให้ถึง
รากฐานที่ดีและมั่นคงเท่านั้นจึงจะเป็นเสมือนขุมกำลังที่ช่วยขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ
แม้นในสมรภูมิ แม่ทัพยังต้องอาศัยคนทั้งกองพลเพื่อพิชิตชัยชนะ
ผู้บริหารก็ย่อมต้องอาศัยการสนับสนุน
และความร่วมมือจากคนในองค์กรเพื่อผลักดันไปสู่ความเจริญด้วยเช่นกัน

.......ดังนั้น อีกหน้าที่หนึ่งที่จะขาดเสียมิได้
นั่นคือ การฝึกสอนให้ลูกน้องได้ดี มีศักยภาพในการทำงาน
และมีประสบการณ์ที่ดี
มีมุมมองในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คงไม่มีแม่ทัพคนไหนหรอกที่จะคว้าชัยได้ด้วยกำลังคนเพียงคนเดียว

.....ในสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจ
เกือบทุกองค์กรนอกจากจะไม่สามารถ “ปั๊มคน” เพื่อมาช่วยแบ่งเบาความรับผิดชอบแล้ว
ยังมีความต้องการในการ “เร่งผลิต” บุคลากรให้สามารถตอบสนองกระแสธุรกิจอยู่ตลอดเวลา

.....ข้อดีของการพัฒนาคนในลักษณะดังกล่าว มีมากมายเช่น ก่อให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างคนต่อคน
ที่เรียกว่า Learning Organization
และเมื่อพนักงานมีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้นแล้ว
ย่อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเช่นกัน
เมื่อผลตอบสนองกลับคืนให้ลูกน้องเหล่านั้นได้เลื่อนตำแหน่ง
หัวหน้างานก็ย่อมได้รับความชื่นชม

.........ที่สำคัญ หัวหน้าที่ดี ย่อมทำให้ลูกน้องรู้สึกอยากทำงานด้วย
และไม่ต้องการย้ายไปทำงานที่อื่น

...ท้ายสุด วัฒนธรรมในการทำงานจะเป็นไปในเชิงบวกมากกว่าในเชิงลบ
เพราะการทำงานร่วมกันและแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีให้แก่กัน
ย่อมก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง


From “Book is capital” – “จุดเริ่มต้นของ ทีมเวิร์ค”
& From “Fundamentals โดยฉัตรชัย บุนนาค”
เรื่อง “Coaching & Counseling ทักษะและความเชี่ยวชาญที่ผู้บริหารควรมี



Create Date : 22 มิถุนายน 2550
Last Update : 22 มิถุนายน 2550 13:43:55 น. 4 comments
Counter : 525 Pageviews.

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งคับ...ไม่มีใครเก่งคนเดียว


โดย: Kurt Narris วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:14:33:23 น.  

 
เห็นด้วยครับ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่หัวหน้างานไม่มีทักษะเกี่ยวกับเรื่องบุคคลเลย
สั่งงาน โดยใช้อำนาจ
ชอบให้ลูกน้องประจบประแจง
ลำเอียง
แต่ในบางแง่ เขาก็มีส่วนดีเหมือนกันนั่นหล่ะครับ
คิคิคิ
ถ้าจะทำงานด้วยกัน ก็ต้องเมินส่วนเสียไปบ้างมั้งครับ เนอะ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:15:49:27 น.  

 


จริงค่ะ มีทีมที่ดี งานก็ไปได้สวย อุปสรรคหนักหนาแค่ไหนก็ร่วมกันฟันฝ่าได้สบาย..


โดย: pataramin วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:19:01:11 น.  

 
พูดถึง learning organization แล้ว
คิดว่า น่าจะทำให้ทั้งประเทศเป็นองค์กรแบบนั้นด้วย

เวลามีเหตุการณ์อะไร ก็มาร่วมคิด ร่วมแก้ ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกัน

พัฒนาไปด้วยกัน

คนมีตำแหน่งสูงในประเทศ ก็แบ่งงานให้คนคุมหน่วยงานต่าง ๆ ตามความสามารถ ไม่ใช่ตามโควต้า

มีคอรัปชั่น มีโกง ก็เรียนรู้ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ผู้นำทำผิดจริยธรรม ก็ร่วมคิด ร่วมแก้ ไม่ให้คนแบบนี้ขึ้นมาได้อำนาจอีก ไม่ใช่ไปเอาอำนาจนอกกติกามายุ่งด้วย... แบบนี้แสดงว่า ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย


โดย: Plin, :-p (Plin, :-p ) วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:22:23:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

icechick
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพลง “ Because Of You ”

นักร้อง “ Kelly Clarkson ”



เนื้อเพลง


I will not make the same mistakes that you did

will not let myself cause my heart so much misery

I will not break the way you did You fell so hard

I learned the hard way, to never let it get that far

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I lose my way

And it's not too long before you point it out

I cannot cry

Because I know that's weakness in your eyes

I'm forced to fake a smile, a laugh

Every day of my life

My heart can't possibly break

To take your heart away

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I watched you die

I heard you cry

Every night in your sleep

I was so young

You should have known better than to lean on me

You never thought of anyone else

You just saw your pain

And now I cry

In the middle of the night

Over the same damn thing

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

-------

ขอขอบคุณ:: http://www.esnips.com, Blog ป้ามด

________________

________________

________________

________________


LifE MessageS '' Zz ~~*

----

>> 1st Day : ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้ ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม...

---

>> 2nd Day : อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา และอย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

---

>> 3rd Day : ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”

---

>> 4th Day : นึกไว้เสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง

---

>> 5th Day : ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ

---

>> 6th Day : ชม เกินจริง = เป็นโทษ || ติ เกินเหตุ = เสียน้ำใจ

---

>> 7th Day : ยิ่งงานหนักเท่าไร ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต

---

>> 8th Day : การทำงาน ย่อมต้องมี "อุปสรรค" ทุกคนจึงกลัวอุปสรรค แต่อุปสรรค... กลัว "คนทำจริง"

---

>> 9th Day : ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

---

>> 10th Day : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

---

>> 11st Day : หัดทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้

---

>> 12nd Day : จิตใจของคุณก็เหมือนกับไข่ 1 ฟอง ที่ดูภายนอกแล้วแข็งแกร่ง. . . . . แต่เมื่อคุณลองกระเทาะ เปลือกออกมา ก็จะเห็นว่าคนๆนั้นๆ. . . . . . ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคุณเลย

---

>> 13rd Day : เขียนชื่อคนที่เราเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ

---

>> 14th Day : พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่

---

>> 15th Day : ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้

---

>> 16th Day : แค่.. "ซื่อสัตย์" และ "เก่ง" คงไม่พอ (อยู่ไม่ได้) ต้อง.. "ทันเกม" และ "มีปฏิภาณไหวพริบรอบคอบ" ด้วย

---

>> 17th Day : อย่ากลัวที่จะลงโทษคนที่ทำผิด...

---

>> 18th Day : อย่าขีดเส้นวงกลมรอบตัวเอง...

---

>> 19th Day : มันเป็นกรรม.. ที่เราต้องทำใจให้ได้ว่า.. "ไม่มีใครเข้าใจอะไรใครได้ง่ายๆ ..."

---

>> 20th Day : ความจริงย่อมคือความจริง ไม่มีวันตายจาก..

---

>> 21st Day : จะอยู่ช้าอยู่เร็วก็ยังไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้ก็ใช้เวลาทำในสิ่งที่อยาก

---

>> 22nd Day : เงินไม่มาก ...แต่บั่นทอนกำลังใจ

---

>> 23rd Day : นโยบายอยู่เหนือเหตุผล...

---

>> 24th Day : ทิฐิ..อยู่คนละฝั่งกับเหตุผล

---

>> 25th Day : จุดประสงค์จริง ๆ คือ...ความราบรื่นของการทำงานไม่ใช่หรือ?

---

>> 26th Day : ยศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความเพียร มีสติ มีการงานสะอาด

---

>> 27th Day : ใคร่ครวญก่อน แล้วจึงทำ!

---

>> 28th Day : ..เป็นผู้สำรวม มีชีวิตอันประกอบด้วย เมตตาธรรม คุณธรรม และ..ไม่ประมาท

---

>> 29th Day : หากคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ นั่นคือต้นทุนที่เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ

---

>> 30th Day : มีบางคน ยอมตายอย่างพร้อมใจ ก็ไม่ปรารถนาทำเรื่องต่ำช้าให้เป็นที่อัปยศ อดสู นั่นจึงเป็นวีระบุรุษที่ยอมตาย โดยไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ย่ำยี

---

>> 31st Day : จงเคารพ บูชา พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จงอย่า อ้อนวอน ขอร้องให้ท่านช่วย!

---

>> 32nd Day : จิตใจ มิใช่สิ่งที่ฝึกฝนได้ด้วย "ตำรา" แต่จะต้องฝึกฝนโดยผ่านการต่อสู้จริง ๆ โดยผ่านการปฏิบัติที่เป็นจริง

---

>> 33rd Day : การลำเอียง เข้าข้างตัวเอง เป็นอุปสรรคของการพัฒนาจิตใจ

---

>> 34th Day : ศัตรู มักอยู่ในพวกเดียวกัน

---

>> 35th Day : จงอย่ากลัว การมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

---

>> 36th Day : หัดวางตัวเอง ให้อยู่ในฐานะ "คู่ต่อสู้" และสร้างความหวั่นไหวให้กับจิตใจคู่ต่อสู้

---

>> 37th Day : ก้าวหน้าไปอีกขั้น ยิ่งทำให้ชีวิตลำบากไปกว่าเดิมหรือเปล่า? ...แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะวิบากแค่ไหน ก็ต้องเดินไปอยู่ดี!!

---

>> 38th Day : ปัญหา...ที่ได้ยินมักจะบอกว่า..."ไม่รู้" ถ้าไม่รู้ แล้วจะจัดการได้อย่างไร? โดยเฉพาะ ภายใต้ทรัพยากรจำกัด และพลิกผันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

---

>> 39th Day : แผน ไม่เคยหยุดนิ่ง กลยุทธ์ต้องเท่าทัน หรือดักหน้าด้วยซ้ำ คำว่า "พอ" เท่ากับ "ไม่มี" มีแต่ว่า "แค่นี้" จะทำให้ดีได้อย่างไร!

---

>> 40th Day : มองปัญหาต่างกัน ผูกไปถึงการมองสาเหตุ และการแก้ไขที่ต่างกัน หลักวินิจฉัยเหมือนกัน หรือต่างกันไม่มาก ผลออกมาก็จะต่างกันไม่มาก แต่ถ้าหลักวินิจฉัยต่างกัน + มีอัตตา ก็จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคได้ในองค์กร

---

>> 41st Day : ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การครอบครอง

---

>> 42nd Day : น้ำที่ลึกและใสจึงจะมีปลา ป่าที่รกและทึบจึงจะมีสัตว์ คนที่มีคุณธรรม ความมั่งคั่งถึงจะมาเยือน

---

~~ To Be Continue ...

From Me...

-----------

CrediT For Every Good Msg. :: Everywhere, Fw Mails & Some Person


Seconds

Friends' blogs
[Add icechick's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.