เห็นภาพประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน นั่งหัวโต๊ะของ“โต๊ะกลม CEOs สหรัฐ-จีน” ที่ซีแอตเติล

 ขออนุญาตกรุงเทพธุรกิจรายวันนำข้อมูลนี้ รวบรวมไว้เพื่อการศึกษา

เห็นภาพประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน นั่งหัวโต๊ะของ “โต๊ะกลม CEOs สหรัฐ-จีน” ที่ซีแอตเติล/สุทธิชัย หยุ่น

ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี หากใครบอกว่าผู้นำจีนจะมานั่งร่วมเสวนา กับผู้นำทุนนิยมตะวันตกพร้อมกับนักธุรกิจระดับชาติของจีน ในบรรยากาศเป็นกันเองอย่างนี้คงจะไม่มีใครเชื่อ เพราะลีลาท่าทีของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมา “มั่วสุม” กับนักล่าเงินและกำไรสูงสุดของระบบทุนนิยมย่อมเป็นเรื่อง “นอกคอก” ของยุคสมัยนั้น

แต่วันนี้ สีจิ้นผิง ฉีกกฎกติกาเก่า ๆ ของพรรคฯไปหมดสิ้น ประกาศท่ามกลางผู้นำธุรกิจสหรัฐและจีน ว่าปักกิ่งจะลดกฎเกณฑ์ทั้งหลายให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนของต่างชาติ

ว่าแล้วก็ประกาศว่าได้สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 300 ลำด้วยเงิน 38,000 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ขณะที่โบอิ้งบอกว่าจะตั้งศูนย์ซ่อมสร้างเครื่องบินแห่งแรกในต่างประเทศที่จีน

โครงการตั้งศูนย์เครื่องบินของโบอิ้งในจีน ไม่เป็นที่พอใจของสหภาพแรงงานที่อเมริกานัก นักการเมืองพรรครีพับบลิกันหลายคน รวมถึงนายโดนัล ทรัมป์ มหาเศรษฐกิจมะกันที่กำลังเป็นตัวเต็ง ของผู้สมัครตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคนี้ออกมาต่อต้านเรื่องนี้เพราะจะเป็นการแย่งงานจากคนอเมริกัน

แต่จีนยืนยันว่าจะเปิดประตูกว้างสำหรับการลงทุนจากสหรัฐไม่ว่าจะในระดับใหญ่ กลางหรือเล็ก

สีจิ้นผิงยื่นมือมาให้นักธุรกิจสหรัฐอย่างอบอุ่น ก่อนจะบินไปวอชิงตันเพื่อพบกับประธานาธิบดีบารัก โอบามาเพื่อการเยือนอย่างเป็นทางการ และถกกันในหลายประเด็นทั้งเรื่องความร่วมมือและความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงความมั่นคงด้านอินเทอร์เน็ต

โดยเฉพาะประเด็นที่สหรัฐกล่าวหาว่าจีนทำจารกรรมข้อมูลของสหรัฐ ผ่านกลเม็ดทางออนไลน์ แต่จีนยืนยันกระต่ายขาเดียวมาตลอด ว่าทางการจีนไม่เคยทำและไม่สนับสนุนให้ทำอย่างนั้น

ภาพผู้นำจีนนั่งเรียงแถวยาวกับ CEOs จาก General Motors, Amazon, Apple, Honeywell, Microsoft, และ Walt Disney ของสหรัฐ

และ CEOs จาก Alibaba, Wanxiang Group, Tencent, Lenovo, ENN Energy Holding, Cosco, Shuanghui Group เป็นต้น

ย่อมเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่ตอกย้ำว่าวันนี้ จีนยืนตระหง่านในเวทีโลกไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างเต็มภาคภูมิ

และต้องการจะสร้าง “สูตรใหม่” แห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ ที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกันอย่างจริงจังแล้ว

ถ้าสีจิ้นผิงไม่มั่นใจในเวทีโลกจริง คงไม่แสดงอารมณ์ขันแบบที่ผู้นำจีนในอดีตไม่เคยทำมาก่อน

ในคำปราศรัยที่ซีแอตเติลหลังจากไปถึง สีจิ้นผิงแทรกเรื่องการปราบคอร์รัปชันของเขา ให้คนอเมริกันที่ฟังได้เข้าใจว่าเขาทำจริง เพื่อกวาดล้างการโกงกินในบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อขจัดศัตรูทางการเมืองอย่างที่นักวิเคราะห์ตะวันตกบางคนพาดพิงมาเสมอ

“นี่ไม่ใช่หนังทีวีซีรีส์ House of Cards นะครับ”

คนฟังปรบมือกันเกรียว เพราะคิดไม่ถึงว่าผู้นำจีนคนนี้จะดูหนังทีวีมะกันโด่งดังเรื่องนี้ และนำมาสอดแทรกในคำปราศรัยทางการได้อย่างนิ่มนวลเสียด้วย

ถ้าไม่เชื่อว่า สีจิ้นผิงติดตามสหรัฐทุก ๆ ด้านรวมถึงเรื่องบันเทิง เขาก็ยืนยันด้วยการเอ่ยถึงหนังเรื่อง Sleepless in Seattle ให้ได้ประหลาดใจกันไปทั่ว

เห็นหรือยังว่าจีนวันนี้ไม่ใช่จีนเมื่อวานจริง ๆ/จบ

.................................................................................................................................

ขออนุญาตผู้จัดการรายวันนำข้อมูลนี้มารวบรวมไว้เพื่อการศึกษา

โอบามาเปิดทำเนียบขาวจัด'รัฐพิธี'ต้อนรับปธน.จีน ตอกย้ำปักกิ่งคือ'มหาอำนาจ'

//www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000108484

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ให้การต้อนรับแบบรัฐพิธีต่อ สี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่เดินทางเยือนทำเนียบขาวในวันศุกร์(25ก.ย.) ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า สี และจีนได้รับการปฏิบัติจากวอชิงตันในฐานะชาติมหาอำนาจ ท่ามกลางประเด็นถกเถียงสำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นสิทธิมนุษยชน จารกรรมทางไซเบอร์และความทะเยอทะยานทางอาณาเขตในทะเลจีนใต้ของปักกิ่ง

       ทำเนียบขาวให้การต้อนรับนายสี ด้วยการยิงสลุต 21 นัดและแถวทหารกองเกียรติยศเต็มรูปแบบ ย้ำถึงความสำคัญของการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการคราวนี้ แต่โอบามาก็ไม่ได้เพลามือในประเด็นต่างๆ

วอชิงตันและปักกิ่งมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นสอดแนมและคำกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเขตแดนพิพาทในทะเลจีนใต้ของจีน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายมีความจำเป็นเพื่อค้ำยันเศรษฐกิจโลกทั้งมวล และสหรัฐฯหวังโน้มน้าวปักกิ่ง ชาติปล่อยมลพิษระดับต้นๆของโลก ให้คำมั่นใหม่ๆเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน

       "เพื่อความร่วมมือระหว่างสองชาติ ซึ่งผมเชื่อและรู้ว่าคุณก็เห็นด้วย เราต้องจัดการกับความเห็นต่างอย่างตรงไปตรงมา" โอบามากล่าวระหว่างพิธีต้อนรับ โดยมีนายสียืนอยู่ข้างๆ

ผู้นำสหรัฐฯย้ำว่าวอชิงตันให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและพาดพิงเป็นนัยๆต่อคำกล่าวหาที่ว่าสายลับของจีนล้วงข้อมูลบริษุทต่างๆของอเมริกาเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า พร้อมเรียกร้องให้คลี่คลายประเด็นขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างสันติ ซึ่งชัดเจนว่าเป็นพูดถึงความทะเยอทะยานด้านอาณาเขตในทะเลจีนใต้ของปักกิ่ง ที่ก่อข้อพิพาทกับเหล่าชาติเพื่อนบ้านในเอเชีย

       ด้านนายสี ไม่ได้พูดอย่างโต้งๆ แต่เตือนถึงความจำเป็นที่แต่ละฝ่ายต้องเคารพสิทธิอธิปไตยของกันและกัน และความสำคัญของการร่วมมือทางเศรษฐกิจ "เราไม่มีทางเลือก ยกเว้นแต่ต้องแสวงหาความร่วมมือที่เราต่างเป็นฝ่ายชนะทั้งคู่" สีกล่าว "ปล่อยให้เราจับมือกันทำงานด้วยความแน่วแน่ เพื่อเขียนปฐมบทใหม่ในความสัมพันธ์จีนและอเมริกา"

การเดินทางมาเยือนของนายสีคราวนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนที่กำลังสั่นสะเทือนตลาดโลก และคำเตือนว่าการเคลื่อนไหวสู่อัตราแลกเปลี่ยนตามกลไกตลาดที่ล่าช้าของจีนจะนำมาซึ่งความตึงเครียด อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวคาดหวังสำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงสร้างสรรค์อย่างน้อยๆ 1 หัวข้อ นั่นได้แก่ภาวะโลกร้อน ส่วนการฝ่าทางตันในประเด็นอื่นๆดูเหมือนยังเป็นไปไม่ได้ แม้ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อาจได้ข้อตกลงเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ก็ตาม

       ก่อนหน้านี้ โอบามา ได้ให้การต้อนรับและพูดคุยกับนายสี อย่างไม่เป็นทางการในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(25ก.ย.) โดยผู้นำทั้งสองได้ถอดเนคไทออก และเดินสนทนาอย่างเป็นกันเองจากอาคารปีกตะวันตกของทำเนียบขาว ข้ามถนนเพนซิลเวเนียไปยังเรือนรับรอง แบลร์ เฮาส์

เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายคาดหวังว่า บทสนทนาที่เริ่มขึ้นอย่างไม่มีพิธีรีตองนี้จะช่วยให้ผู้นำสองชาติมหาอำนาจทั้งในทางเศรษฐกิจและการทหารของโลก ได้หาเวลาแลกเปลี่ยนมุมมองซึ่งกันและกันอย่างผ่อนคลาย

       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่ายังมีปัญหาหลายด้านที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และคำมั่นของ สี่ จิ้นผิง ที่ว่า “จีนจะผงาดอย่างสันติ” ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยให้ความขัดแย้งต่างๆ คลี่คลายลงได้บนโต๊ะอาหารค่ำสุดหรู ซึ่งจะมีทั้งกุ้งล็อบสเตอร์อบเนยจากรัฐเมน และเนื้อแกะย่างจเบน โรดส์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงภายในของ โอบามา ได้กล่าวถึงงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำอย่างเป็นตัวส่วนตัวระหว่าง สี่ กับ โอบามา เมื่อวันพฤหัสบดี (24) ว่า “เป็นโอกาสที่ทั้งสองได้ละวางประเด็นปัญหา และได้แลกเปลี่ยนมุมมองความเป็นไปของโลก ซึ่งมุมมองเหล่านั้นก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงรู้สึกว่าการสนทนามีประโยชน์และมีความสำคัญ”

       วอชิงตันมองว่า ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ซึ่งเริ่มต้นภารกิจเยือนสหรัฐฯ ด้วยการไปพบปะนักธุรกิจชั้นนำที่นครซีแอตเติล ถือเป็นผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดคนหนึ่งของจีนในรอบหลายสิบปี โดยสามารถกระชับอำนาจทางการเมือง การทหาร และการบริหารประเทศ ได้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่ไม่เคยมีผู้นำจีนคนใดทำได้หลังจาก เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นต้นมาากรัฐโคโลราโดเป็นเมนูไฮไลต์

ประเด็นสำคัญๆที่ โอบามา และ สี่ จิ้นผิง จะมีการพูดคุยกัน ยังรวมไปถึงโครงการนิวเคลียร์อิหร่านและเกาหลีเหนือ ความสัมพันธ์ระหว่างพลเมือง นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีข้อตกลงเพื่อลดความเสี่ยงในการกระทบกระทั่งระหว่างอากาศยานทหารทั้ง 2 ชาติด้วย

Create Date : 25 กันยายน 2558		0 comments
Last Update : 26 กันยายน 2558 7:55:11 น.
Counter : 1719 Pageviews.
Share Tweet