กันยายน 2566

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
วันที่ 29 สิงหาคม 2566 >> แมวชื่อฮองเฮาตาย เนื่องจากป่วยเป็นโรคไต

*** ขออภัยหากมีภาพที่ไม่เหมาะสม *** 
เรื่องของแมว ที่ชื่อฮองเฮา

วันที่ 29 สิงหาคม 2566 แมวสุดรักอีกตัวของเราที่ชื่อ ฮองเฮา จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ (ปี 2566 แมวเราตายไป 3 ตัวแล้วนะ) จากที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 7 ตัว เราเสียใจ ร้องไห้ และเศร้าแม้ว่าเราจะรับรู้อาการของป่วยของฮองเฮามาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้บางแล้วหากว่าวันหนึ่งฮองเฮาต้องจากไป แต่เราก็ไม่คิดว่าฮองเฮาจะจากไปเร็วขนาดนี้ มันคงเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตสมคำที่ว่ารู้วันเกิด แต่ไม่รู้วันตาย เรื่องมีอยู่ว่าช่วงเดือนต้นมิถุนายน 2566 เราสังเกตเห็นความผิดปกติของฮองเฮา ขนของฮองเฮาดูยุ่งๆ พองๆ เราก็คิดว่า เออ..เป็นเพราะลูกๆ ไม่เคยได้ออกไปโดนแสงแดดหรือเปล่า อาจจะเป็นโรคขาดวิตามิน แต่ฮองเฮาก็ยังดูปกติ เดินเล่น กินได้ ดูไม่ซึม ไม่หงอย ยังวิ่งหนีได้ วิ่งไล่จับกันได้ เรียกชื่อก็ร้องตอบ ยังคุยกับสามีอยู่เลยว่าฮองเฮาจะเป็นอะไรไหม ขนดูแปลกๆ เราแค่สงสัยแต่ก็ยังไม่ได้วิตกกังวลอะไรมาก

จนมาถึงปลายเดือนช่วงวันที่ 21-22 มิย 66 ฮองเฮาเริ่มมีอาการขนแตก แบบขนไม่เรียบไม่เนียนสวย ตั้งแต่แถวสะโพกไปถึงขารอยชัดเจนมากกว่าเดิม แต่ยังไม่ผอมมาก เราก็คุยกับสามีว่าน่าพาฮองเฮาไปเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพนะ ก็ค้นหาข้อมูลและโทรไปสอบถามโรงพยาบาลสัตว์เรื่องค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าค่าตรวจสุขภาพประมาณ 2,800 บาท ช่วงนั้นประจวบกับที่เราเทียวเข้าเทียวออกโรงพยาบาลทุกอาทิตย์เลยต้องพักเรื่องของฮองเฮาไว้ก่อนเพราะเรากำลังเตรียมตัวจะเข้ารับการผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดี เลยคิดว่าจะรักษาตัวเองก่อน หายยุ่งแล้วจะพาฮองเฮาไปตรวจสุขภาพ

ช่วงเดือนกรกฎาคมเริ่มเห็นว่าฮองเฮาผอมลง มีอาการขนแตก ไม่เรียบสวย เหมือนก่อน เริ่มนอนทั้งวัน เราก็เอะใจแล้วว่าฮองเฮาป่วยเป็นโรคไตหรือเปล่า จนจับอ้าปากดูเหงือกว่าซีดหรือไม่ เหงือกและฟันก็ยังไม่ซีดนะ กลิ่นปากก็ยังไม่มี เลยทำให้เราสับสนว่าใช่โรคไตจริงหรือไม่ (แต่ก่อนเราเคยเลี้ยงแมวเปอร์เซียตัวแรก และเป็นการเลี้ยงแมวอย่างจริงจังครั้งแรกในชีวิตของเรา พอนางอายุ 14 ปี ก็ป่วยเป็นโรคไต ตามสภาพร่างกายที่เสื่อมลง รักษาหมดไปเป็นหมื่นๆ ก็ไม่หาย ต้องพาไปให้น้ำเกลือ 2-3 วันครั้ง ครั้งละ 500-600 บาท ตลอดระยะเวลาที่นางป่วยเป็นโรคไต 2-3 เดือน จนนางตาย)

วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 วันนี้เป็นวันที่เราต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด ก็เปิดกล้องวงจรปิดดูลูกๆ แทน พบว่าช่วงค่ำฮองเฮานางออกมาเดินเล่นอีกห้องแล้วอ้วก ขย้อน มีน้ำมีเศษอาหาร แต่ยังกระโดดขึ้นโต๊ะ ได้อยู่

วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ฮองเฮามีอาการนอนทั้งวัน นอนขดตัวตามเก้าอี้ ตามพื้น มีเดินได้บ้างปกติ แต่ไม่ได้เดินทั้งวันแบบแต่ก่อน ดูผอมลงกว่าเดิม
 
วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 - 8 สิงหาคม 2566 ฮองเฮายังนอนทั้งวัน ดูไม่ร่าเริง หน้าตาซูบผอม เริ่มเดินแบบขาหลังไม่มีแรง

จนวันที่ 27 สิงหาคม 2566 ฮองเฮาผอมลงเยอะ เริ่มมีกลิ่นปาก หูซีด เหงือกซีด เราเรียกก็ร้องตอบแบบแผ่วเบาจนเราทนไม่ได้ต้องพาไปหาหมอเพื่อเจาะเลือดตรวจว่าฮองเฮาเป็นโรคไตจริงหรือไม่ ระหว่างพาลูกไปหาหมอเราก็ร้องไห้ สงสารลูกสุดหัวใจ

*** รูปฮองเฮา ถ่ายวันที่ 27 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 น. *** (ก่อนฮองเฮาตาย 2 วัน)




แต่...พอไปโรงพยาบาลที่เคยรักษาหมอแจ้งว่าน้ำหนักฮองเฮา 2.9 กิโล มีอาการขาดน้ำ ไม่สามารถหาเส้นเลือดเพื่อเจาะเลือดตรวจได้ หมอแนะนำให้เราไปรักษาต่อที่อื่น เพราะร้านเขาไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และเครื่องมืออุปกรณ์ไม่พร้อม เราก็สอบถามว่าแถวนี้มีให้เราพาฮองเฮาไปรักษาต่อที่ไหนบ้าง หมอแนะนำโรงพยาบาล 3D PET ตรงถนนสรงประภา บอกว่าที่นั่นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สามารถ Walk in ได้เลย เราเลยลองไปดู



บรรยากาศดูดี และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียบพร้อม เราแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าแมวป่วยวิกฤตใกล้ตายแล้ว ขอให้ช่วยเหลือด่วน เจ้าหน้าที่ก็รีบพาฮองเฮาเข้าห้อง ให้น้ำเกลือ และทางโรงพยาบาลนี้สามารถเจาะเลือดฮองเฮาไปตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคได้ ผลคือฮองเฮาเป็นโรคไต ตรงตามที่เราคาดคะเนจริงๆ ผลเลือดพบว่าค่าไตสูง ผิวหนังมีอาการแห้งน้ำ น่าจะเป็นเพราะพอฮองเฮาป่วยน้องก็ไม่ค่อยกินอะไร นอนทั้งวัน หมอเรียกเราไปพบและแจ้งอาการของฮองเฮาว่าน้องพร้อมไปได้ทุกเมื่อ แต่ค่าไตขนาดนี้ยังอาจรักษาต่อได้ ตอนนี้หมอให้ดมอ็อกซิเจน ให้น้ำเกลือ เพื่อดูว่าร่างกายฮองเฮาจะสามารถขับของเสียออกจากร่างกายเองได้หรือไม่ โดยเรารอหมอให้น้ำเกลือฮองเฮา 11.00 - 12.00 น. หมอบอกว่าต้องรอ 9 -12 ชั่วโมง เพื่อดูว่าฮองเฮาจะฉี่และอึเองได้หรือไม่ ถ้าแมวยังสามารถอึ ฉี่ เองได้แสดงว่าไตยังโอเคอยู่ เราก็โอเคนะก็สอบถามเรื่องแอดมินเพื่อให้ฮองเฮานอนค้างคืน หมอประเมินราคาและแจ้งว่าคืนละ 5,000 ต้องนอนห้องปลอดเชื้อ แต่...ก่อนจะเข้าแอดมินต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจโรคอื่นๆ ที่อาจจะเป็นโรคติดเชื้อ โรคติดต่อไปยังแมวตัวอื่นได้ เบื้องต้นเราแจ้งว่าแมวเราเลี้ยงระบบปิดไม่เคยให้ออกไปเดินเล่นที่ไหน เลี้ยงอยู่แต่ในบ้าน เท้าไม่เคยได้แตะดิน แตะหญ้า และอาบน้ำ ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิทุกปี แต่หมอยังคงยืนยันว่าต้องตรวจไม่งั้นก็เข้าพักในห้องปลอดเชื้อไม่ได้ ต้องไปอยู่ห้องธรรมดาแทน ซึ่งตอนนี้มีน้องแมวเป็นหวัดอยู่ 1 ตัว เราก็แบบ...เอิ่ม...ถ้าเราพาฮองเฮาเข้าไปนางยิ่งอ่อนแอ อาจส่งผลให้ลูกเราติดเชื้อได้ เลยปรึกษากับสามี และมีความเห็นร่วมกันว่าเราจะพาฮองเฮากลับบ้านไปสังเกตอาการที่บ้านแทน 



ค่ารักษาฮองเฮา วันที่ 27 สิงหาคม 2566 รวมทั้งสิ้น 2,090 บาท



คืนวันที่ 27 สิงหาคม 2566  ฮองเฮายังเดินได้อยู่ แต่เดินแบบไม่ค่อยมีแรง ขาปัด นางเดินไปนอนหลบมุมอยู่ข้างผนังห้อง เราทำใจไว้บ้างแล้วหากสักวันหนึ่งแมวเราต้องตาย แต่นี้ฮองเฮาเพิ่งอายุแค่ 9 ปี เราไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่าระบบร่างกายภายในเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะเป็นอะไรบ้าง เห็นแล้วก็สงสารลูกจับใจ เราร่ำลาฮองเฮาพูดพร่ำบอกด้วยความที่ไม่อยากให้นางเป็นห่วง ไม่อยากให้ลูกเกิดมาเป็นสัตว์เดรฉานอีก บอกฮองเฮาว่าไม่ไหวก็หลับไปเฉยๆ นะลูก ขอให้หนูไม่ทรมาน ลูบหัว ลูบตัวนางอยู่แบบนั้น เพราะไม่อยากให้ฮองเฮารู้สึกโดดเดี่ยว ส่วนเจ้าสัวแมวที่เป็นแม่ของฮองเฮาก็มานอนเฝ้าดูลูกมันใกล้ๆ ทุกคืน เหมือนมันจะรู้ว่าลูกมันป่วย ไม่สบาย


วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ระหว่างวันฮองเฮาดูเหมือนเดิม นอนทั้งวัน มีลุกไปหลบมุมบ้าง ตอนเย็นฮองเฮาดูน่าตาสดใสขึ้น ดูมีเรี่ยวแรง และนางอึออกมา 2 ก้อนเล็กๆ อยู่แถวบริเวณที่นางนอน และฉี่เองได้แต่ฉี่รดตัวเองนะ เหมือนคนป่วยติดเตียงที่ไม่สามาถเดินไปฉี่ อึ ในกะบะทรายได้คงจะกระโดดเข้ากะบะทรายไม่ไหว สามีเราต้องเช็ดตัว ทำความสะอาดให้เพราะตัวนางเหม็นฉี่ ตอนเช็ดตัวนางส่งเสียงร้องดังแบบคนมีแรงอยู่นะ แต่เสียงก็แหบพร่ายังกับคนแก่ เราก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อยว่าเออ..ลูกเราดูน่าตาสดใส ร้องเสียงดังได้ อึ ฉี่ ได้เอง แสดงว่าระบบในร่างกายยังสามารถขับของเสียเองได้

วันที่ 29 สิงหาคม 2566 (ฮองเฮาก็จากไปดาวแมว) ตอนเย็นหลังเลิกงานรีบกลับบ้านจะไปเช็ดตัว ทำความสะอาดให้ฮองเฮาเพราะเราว่าฮองเฮาต้องฉี่รดตัวเองอีกแน่ สามีเป็นคนจะเข้าไปเช็ดตัวฮองเฮา ปรากฎว่าฮองเฮาตายแล้ว นอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน นอนลืมตา ไม่มีคราบน้ำลาย คราบเลือด ไม่มีรอยอึ รอยฉี่บริเวณที่ฮองเฮานอนตาย สามีเราบอกว่าเรียกก็แล้ว เขย่าตัวก็แล้วตั้งหลายรอบ ก็ไม่มีการตอบสนอง ตัวฮองเฮายังไม่แข็ง ไม่เย็นเฉียบยังอุ่นนิดๆ ตัวนิ่มอ่อนปวกเปียก แสดงว่าลูกเพิ่งตายได้ไม่นาน เพราะตัวไม่แข็งทื่อ เรายังอุ้มลูกดูอยู่เลย ว่าฮองเฮาตายจริงๆ เหรอ แต่มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากปาก น่าจะเป็นกลิ่นของแมวที่เป็นโรคไต ปากจะมีกลิ่นเหม็นมากเหมือนกลิ่นเน่าๆ กลิ่นของเสีย 
หลังจากจัดการห่อศพ เราจ้างคนเดิมเขาฝังในราคา 300 บาท คนรับจ้างฝังคิดราคาค่าบริการตามน้ำหนักของสัตว์ (น้ำหนักตัวฮองเฮาตอนตายคือ 2.9 โล ตอนฮองเฮายังมีชีวิตน้ำหนักอยู่ที่ 5.15-5.05 กิโล)ถือว่าอ้วน แน่นมากแล้วสำหรับเรา

*** ฮองเฮาอายุได้ 9 ปี วันที่ 9 มกราคม 2557 - 29 สิงหาคม 2566 ***





รูปนี้พอมาย้อนดูเหมือนเป็นลางยังไงก็ไม่รู้ แมว 3 ตัวที่อยู่ในกรอบสีแดง ตายพร้อมกันภายในปี 2566



ฮองเฮาตอนแรกเกิด ตอนเล็กๆ ฮองเฮากับฮ่องเต้จะเราแยกลำบากมาก เพราะสีเหมือนกัน ลายคล้ายกัน ต้องจำลายตรงหน้าเอา พอโตขึ้นมาลายเด่นชัดทำให้ไม่สับสนเหมือนตอนเด็ก













ฮองเฮาคนสวยของแม่





ฮองเฮากับ ฮ่องเต้ เรานึกว่ามันเป็นฝาแฝดกัน เพราะตอนเล็กลายบนตัวใกล้เคียงกันมาก พอโตขึ้นลายเริ่มเด่นชัด ทำให้ดูง่ายว่าตัวไหนฮองเฮา







ทุกครั้งที่แมวเราตาย เราจะรีบไปถวายสังฆทานเพื่อส่งให้ดวงวิญญาณของเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี เราได้แต่ภาวนาขอให้ฮองเฮาไปสู่ภพภูมิที่ดี หมดเวรหมดกรรมในชาติภพของสัตว์เดรัจฉาน



Create Date : 08 กันยายน 2566
Last Update : 15 กันยายน 2566 9:26:16 น.
Counter : 259 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปัญญา Dh, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณnewyorknurse

  
เป็นแมวบ้านๆ นะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 14 กันยายน 2566 เวลา:6:43:35 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 14 กันยายน 2566 เวลา:11:10:03 น.
  
น้องแมว น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้อ้อน งอน น่ารัก ซน.. เราคนเลี้ยง
จึงผูกพันธ์ มีความเป็นห่วงกันเสมอครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 กันยายน 2566 เวลา:20:06:39 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก