Group Blog
All Blog
|
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 >> แมวชื่อเหล่งเล้ง โดนหมารุมกัดตาย *** ขออภัยหากมีภาพที่ไม่เหมาะสม *** เรื่องของแมว ที่ชื่อเหล่งเล้ง ยังไม่จบกับเรื่องราวอันแสนทุกข์ทรมานใจของเรา ปี 2566 เกิดเรื่องราวต่างๆ ถาโถมเข้ามาอย่างมากในชีวิตมีทั้งเรื่องเสียใจ เรื่องสุขภาพ ปัญหาครอบครัว และเรื่องเสียเงิน พยายามไม่เครียดค่ะ เพราะทุกปัญหามีทางออก เอ๊ะ...หรือว่าทุกทางออกมีปัญหา เราเข้มแข็ง แข็งแกร่งมากกว่าที่คนอื่นคิด และเราจะต้องผ่านพ้นทุกปัญหาไปได้ด้วยตัวของตัวเอง เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ช่วงวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2566 แมวเราหลุดออกจากบ้านไป 2 ตัว ตามหาและจับกลับมาได้ 1 ตัว ช่างเป็นโชคดีของแมวที่ชื่ออังเปา ช่วงที่ตามหาเดินถามตามบ้านโน่น บ้านนี้ สามีเราหันไปเห็นอังเปาพอดีเลยตามจับกลับมาได้ แต่ก็นะ..อังเปาคงตื่นตระหนกตกใจกลัว (ก็แน่ละแมวเราถูกเลี้ยงระบบปิดมาตลอด ไม่เคยได้ออกนอนบ้านไปเห็นเดือนเห็นตะวัน คงจะทั้งหิว ทั้งกลัว)ตอนจับตัวอังเปาทำท่าจะวิ่งหนี คุณสามีเลยโดนแมวข่วน (ส่งผลให้ต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ากับบาดทะยัก ไว้จะเขียนรีวิวไว้ในตอนต่อไป) วันที่ 3-4 พฤษภาคม 2566 ก็ยังไม่เจอเหล่งเล้ง เราเครียดจนความดันขึ้น นอนไม่หลับ จนเก็บเอาไปฝันว่าเห็นหน้าเหล่งเล้ง ในฝันเหล่งเล้งมายืนจ้องหน้าแล้วร้องเรียกเราเสียงดัง จากนั้นเราก็สะดุ้งตื่นจากฝัน พอเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 เรากับสามีก็รีบออกตามหาเหล่งเล้งอีกครั้ง เดินถาม เดินตามหาจนทั่วในพงหญ้าก็ไปดู ในใจก็กลัวลูกจะหิว เพราะเราเลี้ยงแมวแบบระบบปิดไม่เคยออกไปไหนเลย คงเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว กลัวงูเหลือมมากิน กลัวโดนหมากัด คิดไปต่างๆ นานา จนเราเดินไปถึงร้านขายของชำและสอบถามเขา ก็ถึงบางอ้อ พี่เขารีบบอกเลยว่าเพื่อนเขาส่งรูปถ่ายมาในไลน์ว่าแมวสีส้มของใครไม่มีปลอกคอ ส่งต่อๆ กันมา เห็นหมารุมขย้ำเมื่อตอนห้าทุ่มของคืนวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เขาเปิดรูปให้เราดู เรานี้น้ำตาร่วงเลย แมวเราเอง เหล่งเล้งลูกแม่ แค่เห็นลายที่ขาลูกเราก็จำสี จำลายขนแมวเราได้ (และเดี๋ยวนี้เราไม่ใส่ปลอกคอให้แมวแล้ว เพราะเคยเจอเหตุการณ์ที่ปลอกคอไปติดค้างกับเขี้ยวแมว ทำให้แมวเราหุบปากไม่ได้ น้ำลายยืดไหลย้อยเต็มปาก เรากลับมาจากที่ทำงานตกใจมาก ดีว่าแมวเราไม่ตาย ดีที่เรากลับมาทัน หลังจากนั้นเราเลยไม่ใส่ปลอกคอให้แมวอีกเลย)พี่ร้านขายของชำบอกว่าเพื่อนช่วยเข้าไปไล่หมาที่รุมกัดแมว แต่เห็นท่าแล้วแม่ไม่น่ารอดเพราะนอนนิ่งเลย แถมดึกมากแล้ว ไม่รู้จะเอาไปฝังที่ไหน เลยเอามาวางไว้แถวริมถนนกะว่าเช้าจะมาฝัง ปรากฏว่าพอเช้ามาร่างแมวก็หายไป (เออ..แม้กระทั่งซากศพของลูกเรา เราก็ไม่ได้เห็น ไม่รู้ว่าหมามันมาลากไปขย้ำอีกรอบ หรือใครเก็บไปทิ้ง หรือแมวเรายังรอดไม่ตาย ไอ้เรานี้คิดไปต่างๆ นานา จนทุกวันนี้ยังคงรอเผื่อว่าเหล่งเล้งจะรอดกลับมาบ้านได้) จนทุกวันนี้ยังโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เลี้ยงดูเขาไม่ดี ทำให้เขาหลุดออกไป เราพูดขอโทษเจ้าสัว แมวที่เป็นแม่ของเหล่งเล้งตลอดว่าขอโทษที่ดูแลลูกเธอไม่ดี ขอโทษที่ทำให้ลูกเจ้าสัวตาย *** เหล่งเล้งอายุได้ 9 ปี วันที่ 9 มกราคม 2557 - 3 พฤษภาคม 2566 ***  เหลือไว้แต่ความทรงจำในใจแล้วนะลูก แมวสีส้มตัวเดียวของเรา ทุกวันนี้ยังโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่เลี้ยงดูเขาไม่ดี ทำให้เขาหลุดออกไป  นี่เป็นภาพสุดท้ายที่ถ่ายเหล่งเล้งไว้ได้ นางซุกอยู่ในตู้เสื้อผ้า พอผ่านไม่กี่วันก็เกิดเรื่องเศร้า  4 กุมารของแม่เมื่อยามแรกเกิด เลี้ยงกันมาแบบตีนไม่เคยได้แตะดิน    เหล่งเล้งกับแม่ของนางที่ชื่อเจ้าสัว        เหล่งเล้งกับพี่น้องฝาแฝดของนางที่ชื่อ ฮ่องเต้กับฮองเฮา    คิดถึงเหล่งเล้งสุดหัวใจ ลูกโดนหมากัดตาย ก่อนตายลูกคงทั้งทรมานและตกใจกลัวสุดขีด แม้แต่ร่างลูกเราก็ไม่มีโอกาสได้เห็น แม่ได้แต่ภาวนาขอให้หนูไปสู่ภพภูมิที่ดีนะลูกนะ หลังเกิดเหตุการณ์แมวหลุดออกจากบ้าน บ้านที่เราเลี้ยงแมวไว้เราตัดสินใจทำประตูใหม่ และติดกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้านตรงหน้าประตูเลย เอาไว้ดูลูกๆ ทุกวันนี้ลูกๆ ที่เหลืออยู่สุขสบายดี มีไล่ตบกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ตามประสาแมว
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก |
||||||||||||||
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เหล่งเล้งคงหมดเวรหมดกรรม ไปเกิดในภพภูมิที่ดีแล้วค่ะ