Group Blog
 
 
สิงหาคม 2548
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 

เที่ยวไปงงไปกับนาย dont : หลวงพระบาง เมืองผู้ดี 1/2








กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ (นับได้เป็นปีแล้วล่ะครับ) ผมได้มีโอกาสอันดีได้เที่ยวที่เมืองหลวงโบราณแห่งหนึ่ง สวยดีมาก งวดนี้ได้ไปทัวร์หรูแต่ไม่ต้องจ่ายตังค์ครับ พ่อแม่พี่น้อง พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก ฮิ๊ววว ช่างแตกต่างจากรอบอื่น ๆ จริง ๆ

เช่นเคยครับ ไปกับนาย dont ก็ต้องเที่ยวไปงงไป ดังนั้น ท่านผู้ปกครองควรพิจารณา (Parental Advisory) ก่อนให้บุตรหลานเชื่อนะครับโดยเฉพาะหากท่านพบตัวอักษร (PA) 5 5 5 เราเน้นฮาครับ

ประเทศลาว หรือ สปป ลาว (สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว หรือ Lao People's Democratic Republic) เป็นประเทศพี่น้องของเรา หลาย ๆ คนชอบว่าล้าหลัง และมักจะใช้คำว่า "ลาว" แทนคำว่า เชย และไม่ทันสมัย ไม่ฮิพ ฮอพ แต่ผมก็เห็นคนที่ว่า ๆ เนี่ย ก็แอบฟังหมอลำ เท้าขยับรัวเชียว แถมยังกินส้มตำ บอกแม่ค้าขอปลาร้าเยอะ ๆ อีกต่างหาก เหอ เหอ เช็ดปากเชียวนะครับ น้ำลายไหลละสิ

จริง ๆ ประเทศลาวเป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้องกับไทยมาหลายปี ประวัติศาสตร์คงไม่พูดถึงหรอกนะครับ เท่าที่ได้สัมผัส ชาวลาวส่วนใหญ่นิสัยน่ารักมากครับ

ประเทศลาวตั้งอยู่ข้าง ๆ ประเทศไทยนี่ล่ะ ด้านซ้ายของแม่น้ำโขง เมืองหลวงปัจจุบันคือ เวียงจันทน์ (Vientiane) ซึ่งอยู่ด้านชายแดนจังหวัดหนองคาย เดินทางไปง่ายมากครับ แค่มีเงิน หนังสือเดินทางไทย หรือบัตรประจำตัวประชาชนไทย และสำเนา (ปกติมีแค่สำเนาก็ได้ครับ กันเอง) เตรียมเงิน 100 บาท ก็สามารถทำ "บัตรผ่านแดน" ข้ามแดนไปเที่ยวเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวกโยธิน ส่วนผู้ที่จะไปหลาย ๆ วัน เที่ยวเยอะ ๆ ก็ต้องไปด้วยการทำ VISA ครับ หากไปผ่านแดนที่ จ. หนองคาย ก็ทำได้โดยใช้รูปถ่าย 2 ใบ Passport และเงินอีก 2,000 บาท ก็ได้แล้ว แต่ถ้าไปทำที่สถานฑูตใช้เวลา 1 วัน ราคา 600 บาท ถ้าเอาเร็วก็ 800 บาทรอรับได้เลยครับ

อะ ลืมตัว เผลอมีสาระซะแล้ว ...



ที่เห็นคือภาพแผนที่ประเทศลาวครับ ได้มาจากใน net จะเห็นหลวงพระบางอยู่กลาง ๆ ค่อนมาด้านบน ๆ หน่อยครับ

หลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าที่อยู่กลางหุบเขาน้อยใหญ่ รูปสี่เหลี่ยมน่ะครับ ส่วน Vientiane นั่นคือเวียงจันทน์ เป็นเมืองหลวงปัจจุบันครับ





เรามาเริ่มกันที่สนามบินเช่นเคยครับ สนามบินหลวงพระบาง ตอนนี้มีเที่ยวบินจากเมืองไทยบินตรงไปถึงเลยครับ ทั้ง บางกอกแอร์เวย์และการบินไทย สำหรับ low cost อื่น ๆ นี่ไม่แน่ใจครับ น่าจะยังไม่มีหรอก

ตัวสนามบินเหมือนกับสนามบินต่างจังหวัดของไทยครับ เจ้าหน้าที่ให้ความสะดวกค่อนข้างดีครับ คนพูดจะออกเป็นเสียงคล้ายคนอิสานแต่ว่าฟังยากกว่ามากทีเดียว แต่ละส่วนของประเทศลาวก็มีสำเนียง หรือแม้แต่คำศัพท์ที่ใช้ บางคำก็ต่างกันครับ

สำหรับหลวงพระบางนั้น เป็นเมืองหลวงเก่า ประชากรส่วนใหญ่จะค่อนข้างเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือผู้ใกล้ชิดเดิม ลักษณะคำพูดหรือกริยาจะค่อนข้างสุภาพอ่อนหวานกว่าครับ (ไม่ได้ชิมนะครับ ฟังเอา)

สนามบินครับ เป็นลานกว้าง ๆ (อ้าว ก็สนามบินที่ไหนก็เป็นงี้ทั้งนั้นแหละ) หน้าตาคล้าย ๆ ประเทศไทยเลยครับ





....1 ชั่วโมงผ่านไป... หลับไปหลายท่าแระ เราก็มาถึงโรงแรมครับ....

เอ่อ ถนนที่ลาวนั้น ต้องทำใจครับ เพราะว่าค่อนข้างธรรมชาติไม่ได้ปรุงแต่ง (แปลว่า เป็นทางลูกรัง) แล้วก็มีเส้นทางชมวิว และท่องเมืองค่อนข้างแยะ (แปลว่า ไม่รู้มันจะขับวนอ้อมไปมาทำไม) ช่วงนั้นที่ไป พอดีได้รับการสถาปนาเป็นเมืองมรดกโลก องค์การ UNESCO ได้มาปักป้ายมรดกโลกไว้ตั้งแต่ปี 2538 ครับ และให้สตางค์เป็นทุนปรับปรุงเมือง ทำถนนในเมืองใหม่ แต่ทาง อบต ของท้องถิ่นเค้าตัดสินใจว่า เค้าจะค่อย ๆ พัฒนาไปช้า ๆ ซึ่งทำให้เห็นว่าอนาคตของเมืองนี้ย่อมจะทันสมัยและสะดวกสบายมาก (แปลว่าในตอนนี้ ถนนจะหายไปครึ่งนึง รถโคตรจะติด และฝุ่นไม่ต้องซื้อครับ มีแจกพร้อม 5 5 5) รวมทั้งยังรักษาบรรยากาศความเป็นเมืองหลวงโบราณได้อย่างดีครับ

ผมได้พักที่โรงแรมระด้บห้าดาวแห่งหนึ่งครับ เดิมเป็น วังเก่าของเจ้าลาวองค์หนึ่งครับ ที่นั่นเค้าเรียกกันว่า เจ้ามหาชีวิต เดิมเป็นเจ้าเมืองหลวงพระบาง พระนามเจ้าศรีสว่างวงศ์ ซึ่งชาวลาวกาว (ลาวที่หลวงพระบางเค้าเป็นลาว เผ่า หรือชนชาติ "กาว" ครับ ← เค้าว่ากันว่านะครับ ผมเปล่าว่า ) โรงแรมที่ว่า ชื่อโรงแรมเดอะแกรนด์หลวงพระบาง ตั้งอยู่นอกเมืองแค่ 3-4 กิโลเมตรเท่านั้น (จริงอ่ะ... ตอนนั่งรถมาเนี่ย...มันเหมือนไกลเลยครับ) ซึ่งตาม style เที่ยวไปงงไปกับนาย dont เราจะไม่มีข้อมูลสำคัญ ที่เด็ก ๆ ไปทำรายงานได้ เสียใจครับ

ภาพโรงแรมจากมุมไกลครับ แม้ว่าจะทำเลียนแบบอาคารเก่าลาว แต่ว่าการตกแต่งเหมือนของไทย-ประมาณแบบล้านนาแบบนั้น่ะครับ-อย่างประหลาด...





ลืมเล่าต่อ อาคารที่เห็นและสระน้ำที่เห็นนี้เป็นส่วนของโรงแรมที่สร้างขึ้นใหม่ครับดูจะเป็นสไตล์บาหลีประยุกต์ดู oriental มากครับ สวยด้วยสถาปัตยกรรมกึ่งเก่า (แต่สร้างใหม่) ตัวโรงแรมอยู่บนริมฝั่งด้านหนึ่งของแม่น้ำโขง บรรยากาศดีเลยครับ จัดเป็นช่วงที่เห็นคุ้งน้ำโขงช่วงที่ (เค้าว่ากันว่า) สวยที่สุด

คูน้ำรอบ ๆ ตัวอาคารโรงแรม หรูอลังการ เหมือนอยู่ในเมืองไทยเลยครับ แต่น้ำในคูดูสีขุ่น ๆ พิกล แต่จริง ๆ ก็ใสครับ สงสัยว่าสีมันคงจะแดงตอนลมพัดฝุ่นมามั้งครับ





โรงแรมนี้ เจ้าของที่แท้จริงเป็นชาวต่างชาติครับ แต่ผู้จัดการโรงแรมในขณะนั้นเป็นชาวไทยนิสัยสุดยอดน่ารัก (จริง ๆ ครับ) รู้ใจคนไทยมาก ๆ ครับ (อันนี้ไม่จริงแล้ว หึ หึ) ครับ

ต้นไม้ต้นไร่เหล่านี้ ผมรู้สึกว่าเห็นแล้วผูกพันกันอย่างประหลาด ได้ความว่า เค้าย้ายมาจากเมืองไทยมาทำงานในโรงแรมนี้เช่นกันครับ การตกแต่งภายในก็เป็นแบบประมาณเรือนไทยเรือนลาวประยุกต์ น่ะครับ ดูเหมือนอาคารเก่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วสร้างใหม่ทั้งหมดครับ

สังเกตว่ามีการปลูกบัวเป็นระยะ ๆ แต่ไม่มีดอกเท่าที่ควร ไม่แน่ใจว่าทำไมครับ หรืออาจจะโดนตัดไปทำอย่างอื่นก็ไม่รู้

เอาใจฝรั่งมาก ๆ มีที่ให้นอนอาบแดดยามเย็นด้วย มองเห็นคุ้งน้ำพอดีเลยครับ





บริเวณด้านหน้า ใกล้ ๆ lobby จะมีสวนน้ำพุเล็ก ๆ ครับทำให้บริเวณร่มรื่น และช่วยให้อากาศเย็นลงในฤดูร้อนครับ

พ้นจาก lobby โรงแรมก็เข้ามาเจอบ่อน้ำพุเลยครับ





อาคารที่สร้างขึ้นใหม่เหล่านี้แม้ว่าจะสวยเพียงใด แต่ก็ไม่เท่ากับอาคารหลังที่เห็นในภาพ เนื่องจากเป็นวังเก่าของเจ้าลาวองค์นี้ครับ ความงามของตัววังเองน่าจะอยู่ที่ความเรียบง่าย โล่งสบายรับลมแม่น้ำโขงที่พัดผ่านมาทางหน้าต่างครับ

ด้านหน้าของตัววังเป็นต้นลีลาวดี (ชื่อเดิม และชื่อแบบเป็นทางการ: ลั่นทม) ซึ่งเป็นไม้ประจำชาติของลาวครับ แต่ชาวลาวเค้าเรียก ดอกจำปา นะครับ เดี๋ยวคุยกันจะไม่เข้าใจ

ต้นลั่นทมหน้าอาคารวังเก่าครับ ท่าทางจะหลายสิบปีแล้วล่ะ หน้าตาดูมีอายุทีเดียว





วังเก่า เจ้ามหาชีวิตครับ เจ้าศรีสว่างวงศ์ และวงศานุวงศ์ครับ (แหม จะใช้ราชาศัพท์ระดับไหนดีล่ะเนี่ย ไม่ได้เป็นสมมติเทพแบบไทยซะด้วย ผู้รู้โปรดแจ้งด้วยนะครับ)

ภาพวังเก่าครับ หน้าตาคล้าย ๆ บ้านพักตากอากาศของทางราชการแถว ๆ ชายทะเลเลยครับ แต่ก็ใช้วัสดุชั้นดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น พื้นเป็นไม้สักทองหนา ขัดมันวับ





บริเวณนี้ เดินไปได้ถึงริมตลิ่งสูงริมลำน้ำโขงครับ ตลิ่งสูงนี้ ทางคนที่อยู่แถว ๆ นั้นเค้าบอกว่า มันเป็นมานานแล้ว แต่ก่อนน้ำหลากมาก ตัววังจะไม่ไกลจากน้ำขนาดนี้ ตอนนี้ตลิ่งสูงมาก

วิวจากคุ้งน้ำครับ วิวนี้จะสวยมากขึ้นยามพระอาทิตย์ตกดิน (มากกว่านี้) แต่ว่า กล้องดิจิตอลผมมันเป็นรุ่นตาฟาง ถ้ามืดจะมองไม่เห็น ง่ะ....





บริเวณพี้นสวนปูด้วยหินทรายครับ หินทรายเป็นส่วนสำคัญของอารยธรรมลุ่มน้ำโขงทีเดียวครับ เหล่าประสาทหินและอาคารเวียงวังต่าง ๆ จะเป็นหินทรายเสียส่วนใหญ่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นบริเวณที่สร้างขึ้นใหม่เลียนแบบของเดิมหรือของเก่าแท้ ๆ (เข้าใจว่าเป็นอย่างแรก) ให้ความรู้สึกสงบจริง ๆ

ดอกลั่นทมหล่นเกลื่อนกลาดบนลานหินทราย... (นี่ผมเอาเท้าเขี่ย ๆ ออกไปบ้างแล้วเนี่ย อุ๊บ ทำลายบรรยากาศ)





ท้องฟ้าของเมืองหลวงพระบาง นั้นก็ไม่ได้ต่างจากท้องฟ้าเมืองไทยเลยครับยังคงความสวยงาม ฝุ่นละอองในอากาศก็ไม่มาก เสียแต่อากาศออก จะร้อนไปหน่อย

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม เห็นเงาของเมฆหรือเปล่า... ดูฟ้าแล้วเหงาแฮะ...




พระอาทิตย์ตกอีกฝั่งแม่น้ำครับ ชาวบ้านเค้าว่าแม่น้ำนี้คือแม่น้ำโขงครับ

ยามอัสดง





จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไปครับ บริเวณด้านข้างริมโขงมีซุ้มขายเครื่องดื่ม ราคาพอ ๆ กับเมืองไทย แต่ว่า ราคาตามโรงแรม 5 ดาวนะครับ กำลังจะไปสั่งมาเหล้ามาจิบดูตะวันตกดิน ก็ชะงัก แล้วขอเปลี่ยนเป็นแค่เบียร์เย็น ๆ แทนทันที เอิ๊กส์...

ซุ้มเครื่องดื่มที่ว่าครับ บริเวณนี้เป็นลาน มองออกไปเห็นคุ้งน้ำ หันด้านหน้าไปทางเดียวกับหน้ามุขของวังเก่าเลยครับ






วิวของภูมิสถาปัตย์ ของโรงแรมครับ มองจากหน้ามุขของวังเก่า ออกไป จะเห็นคุ้งโขงที่ว่านี้ และลานกว้าง (สร้างใหม่) ด้านซ้ายมือเป็นอาคารเล็ก ๆ เป็นห้องอาหารและห้องประชุม ด้านขวาที่เห็นรำไรเป็นตัวโรงแรมครับ

ออ ชาวลาวเค้าเรียกแม่น้ำ"ของ" นะครับ ไม่ออกเสียงเป็น "โขง"แบบของเรา เวลาฟังจะงง ๆ (ตาม concept blog เล็กน้อย)

คุ้งน้ำนี้จะเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานครับ

ครับ คาน สาว ๆ ที่อ่านไม่ต้องตกใจครับ เคล็ดดี เพราะเราจะ "ลงคาน" ไม่ได้ขึ้นคานนะคร๊าบบบ

ภาพวิว panosonic เอ๊ย panoramic แบบหลอก ๆ ครับ....

ไหนนะครับ...ไม่ต่างจากภาพธรรมดาเหรอครับ เอ๊า!! ก็บอกแล้วไงว่าหลอก ๆ น่ะ...บ๊ะแล้ว





ทางเดินยามค่ำคืนของโรงแรม

กลางคืน อากาศค่อนข้างหนาวครับ ควรเตรียมเสื้อ sweater บาง ๆ ไปด้วย หากจะไปนั่งชมวิว แต่ว่า ที่สำคัญกว่า sweater ก็คือ ยากันยุง พกไปหลาย ๆ ซองเลยครับ แล้ว อย่าได้ทำเป็นเปิดหน้าต่างทำเป็นจะเอาลมธรรมชาติเป็นอันขาด ยุงที่นี่ตัวโตมาก

โคมไฟแบบนี้ก็คุ้นใช่ไหมครับ คนตกแต่งโรงแรมนี้มาจากเมืองไทยแหงม ๆ โคมไฟกระดาษสา หนา ๆ ที่เห็นนี้ ได้รับความนิยมมาก (ในช่วงนั้น) ครับ ร้านในเมืองขายกันแยะเลย ราคาแพงด้วย เป็นราคาแบบ USD ครับ

ดาวกระดาษ ส่องแสงสีส้มเหลือบเหลือง ตอนเดินผ่านโรมันถึกมากครับ





สาเหตุที่ดอกบัวหายไป ชัด ๆ ครับ

ดอกบัวพวกนี้น่าจะเป็นเพศชายครับ ทราบไหมครับว่าทำไม....
ลองเอา mouse ลากข้างล่างดูนะครับ



[เพราะคุณดอกบัวชอบลงอ่างกับคุณดอกลั่นทมนะสิครับ เอิ๊กส์ ]





สำหรับท่านที่อ่านอาจจะงงว่า เป็นประชาสัมพันธ์โรงแรมรึเปล่าเนี่ย ทำมาบรรยายซะละเอียด อันที่จริง ผมพาเที่ยววังเก่า และคุ้งน้ำนะครับ ไม่ได้พูดถึงเรื่องของโรงแรมเป็นสำคัญแต่อย่างใด แบบนี้เมืองไทยเค้าเรียกแปลงสินทรัพย์เป็นทุนครับ




อ่านต่อตอน 2/2





[สมุดเยี่ยม]







 

Create Date : 06 สิงหาคม 2548
26 comments
Last Update : 3 ธันวาคม 2549 0:16:03 น.
Counter : 1184 Pageviews.

 

มาอ่านครับ เขียนได้สนุกดี

 

โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า 6 สิงหาคม 2548 16:29:23 น.  

 

อ๋าย... อยากไปครับ...

พึ่งอัพเสร็จ ต้องออกไปข้างนอกก่อน...

เด๋วคืนนี้มาอ่านต่อนะครับพี่ Don't...

ขอบคุณครับ...

 

โดย: namit 6 สิงหาคม 2548 16:46:04 น.  

 

คล้าย ๆ เมืองไทยเลย

 

โดย: wmvcore 6 สิงหาคม 2548 16:49:34 น.  

 




ดูเงียบ ๆๆมาก ไม่เหนคนเลย
อิอิ

 

โดย: หนี่หนีหนี้ 6 สิงหาคม 2548 16:58:36 น.  

 

อิอิ อ่านแล้วหนุกดีค่ะ ตกลงว่าถ้าไปที่นั่นต้องเรียก น.โขง ว่า ของใช่ไหมคะ (อีกแม่น้ำนึงไม่ขอเอ่ยชื่อค่ะ สะเทือนใจ )

ปล.งั้นดอกบัวคงจะสุขน่าดู เพราะที่เห็นนี่... ลั่นทมเต็มอ่างเลยนะคะ

 

โดย: สายลมโชยเอื่อย 6 สิงหาคม 2548 17:29:15 น.  

 



... แวะมานั่งอ่านด้วยคนค่ะ บรรยายสนุกดีค่ะ แล้วนุชจะ
แวะมาบ่อย ๆ นะค่ะ ...

 

โดย: Vannessa 6 สิงหาคม 2548 17:59:33 น.  

 

น่าไปเที่ยวมากเลย

ดอกลั่นทมหน้าวังเก่า สีสวยมากค่ะ
มีรูปใกล้ๆไหมคะ ลั่นทมสีแดงน่ะค่ะ

แปะตอนสองเมื่อไหร่ จะตามมาดูอีก

 

โดย: ~มณีลัลลา~ 6 สิงหาคม 2548 18:43:29 น.  

 

คุณ dont เขียนเล่าเรื่องสนุกดีจังค่ะ อารมณ์ขันเยอะดี
คงต้องมาติดตามอ่านบ่อยๆ แล้ว

เพิ่งสังเกตว่าแผนที่ประเทศลาวรูปร่างเหมือนแม่มด
หันหน้าด้านข้างมาทางประเทศไทยเรา
เห็นจมูกโด่งแหลม ด้านบนมีหมวกแม่มดด้วย

มีหลายคนแนะนำว่าหลวงพระบางน่าไปเที่ยว
เพราะบ้านเมืองยังเงียบสงบน่าอยู่

มีภาพสวยๆ หลายภาพเลยค่ะ ชอบมาก
เช่น ภาพวิวพระอาทิตย์ตกดินที่คุ้งน้ำ ภาพท้องฟ้า
แล้วก็ภาพ่ทางเดินที่มีดอกลั่นทมโปรยหล่นอยู่

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ

 

โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) 6 สิงหาคม 2548 18:46:19 น.  

 

ไปไหน ไปด้วย
โรงแรมสวยนะคะ
ยังไม่ค่อยงงเท่าไหร่ อย่างนี้ต้องมาลองงงต่อตอนสองค่ะ

 

โดย: SevenDaffodils 6 สิงหาคม 2548 19:52:29 น.  

 

แวะมาอ่านและเที่ยวไปด้วยค่ะ อ่านแล้วขำกล้องดิจิตอลรุ่นตาฟางจัง ไม่รู้ว่ารุ่นนี้ซื้อมานานหรือยังค่ะ สงสัยจะเป็นรุ่นเดียวกะที่นิดใช้ด้วยมั้งค่ะ ฮี่ ฮี่

 

โดย: JewNid 6 สิงหาคม 2548 20:11:49 น.  

 

เมืองหลวงพระบาง เป็นเมืองมรดกโลก ..

คล้าย ๆ กับสุโขทัย อยุธยา ของเราก็เป็นมรดกโลก

เคยคุยกับพี่คนนึงที่เค้าไปท่องเที่ยวเมืองอารยธรรมบ่อย ๆ เค้าเคยพูดให้ฟังว่า ในพม่าก็มีสถานที่ควรค่าแก่การยกเป็นมรดกโลกเช่นกัน อย่างเช่น "พุกาม" แต่ทางรัฐบาลพม่าไม่ยินยอม เพราะว่าไม่อยากให้ UNESCO มาเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไรในบ้านเมืองของตน ถ้าจะอนุรักษ์หรือเปลี่ยนแปลงอะไรขอทำเองดีกว่าทำนองนั้นล่ะค่ะ

 

โดย: Tai-Sarunya IP: 203.107.200.128 6 สิงหาคม 2548 20:53:01 น.  

 

เคยไปเที่ยวมา 3 ครั้ง ก็สนุกดีครับ

 

โดย: noom_no1 6 สิงหาคม 2548 22:14:29 น.  

 

เยี่ยมมากเลยค่ะ อยากมีโอกาสไปเที่ยวลาวเหมือนกัน

จขบ. พาเที่ยวได้สนุกดีค่ะ สำหรับตัวเองแล้ว ไม่งงนะคะกับภาษาลาว เพราะข้อยมีเซื้อลาวอยู่แล้วน้ำ...เว้าลาวเป็นภาษาแรกว่าซ้าน...หุหุ..

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ กับภาพสวย ๆ ที่นำมาให้ชมกันค่ะ..

 

โดย: JC2002 7 สิงหาคม 2548 0:42:53 น.  

 

แวะมาแก้คำว่า "ข้อยมีเซื้อลาวอยู่แล้วน้ำ" เป็น "ข้อยมีเซื้อลาวอยู่แล้วน้อ"...

 

โดย: JC2002 7 สิงหาคม 2548 0:44:03 น.  

 

บ้าน ฉัน อยู่ใกล้ น้ำของ ที่ อ.เชียงของ เคยข้ามน้ำของไป เที่ยวลาว ตรงแขวงบ่อแก้ว ครั้งนึง ค่าเรือ 20 บาท เสียค่าเหยียบแผ่นดินไป 250 บาท ไปถึง แล้ว ก็งง มาทำไม เนี่ย ของขายก็เอามาจากบ้านเราทั้งนั้น เลยจ้างรถ พาไปดูวัดเล็กๆ ใกล้ๆ ลักษณะของวัดก็คล้ายกันกับวัดเก่า ทางเหนือ ค่ะ บ้านเขา ยังเงียบ และ ยังคงความเป็นตัวตน ของ ตัวเองอยู่มากๆ ทั้งที่ห่างจาก บ้านเราเพียงแต่แม่น้ำกั้น
ถ้ามีโอกาส อยากลองไปแบบล่องเรือตามลำน้ำโขง ไปขึ้นที่ เวียงจันทน์ ค่ะ เขา ว่าวิวสวยมาก

 

โดย: ไม่ได้ตั้งใจโสด 7 สิงหาคม 2548 17:29:48 น.  

 

น่าไปเที่ยวมั่กๆๆๆๆๆๆ

รูปซ้วยยย...สวยยยยย

 

โดย: ว่าน 7 สิงหาคม 2548 22:26:41 น.  

 

สวยทั้งรูป..มันทั้งเนื้อหาเอิ๊ก..เอิ๊ก..อ่านเพลินเลยครับน่าเขียนลงหนังสือ ท.ท.ท. อะไม่ได้จินี่มันประเทศลาวอุ..อุ..เอาไงดีงะ

 

โดย: Votary 8 สิงหาคม 2548 0:56:14 น.  

 

แล้วมัย ลั่นทม ต้องเป็นหญิงด้วยละฮ้า....

 

โดย: namit 10 สิงหาคม 2548 0:56:58 น.  

 

เคยเห็นบัวเป็นผู้ชายนะ แต่คนชื่อลั่นทมเป็นชายยังไม่เคยเห็นอ่ะ

หรือจะให้เป็นชายหรือหญิงทั้งคู่ มันจะเรียกฟ้าผ่าไปมั้ยครับ ช่วงนี้ฝนตกชุก ๆ อยู่ น่ากลัวนา

 

โดย: dont wanna no 10 สิงหาคม 2548 18:00:28 น.  

 

สวยจังค่ะ ภาพถ่าย...ถ่ายมุมที่แลดูธรรมชาติมาก ๆ

อยากไปลาวจัง...อยากไปดูบ้านเมืองที่ยังคงมีแต่ธรรม

ชาติมากกว่าที่กรุงเทพ

 

โดย: nagoyalover 11 สิงหาคม 2548 22:01:38 น.  

 


เข้ามาอ่านคับ

 

โดย: yyswim 15 สิงหาคม 2548 15:43:12 น.  

 

บรรยากาศดีจัง ขอบคุณที่พาเที่ยวค่า

 

โดย: Peter en Jeab 17 สิงหาคม 2548 15:00:23 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า ที่หลวงพระบางสวยมาก และตอนเช้าๆ อากาศก็ดี๊ดี

 

โดย: jan_tanoshii 20 สิงหาคม 2548 15:29:01 น.  

 

SO GOOD BUT MISS THAILAND..........

 

โดย: JEL.FRANCE IP: 84.100.56.91 20 มีนาคม 2549 22:12:06 น.  

 

มาเยี่ยมครับ

 

โดย: จากหว้ากอ IP: 202.28.27.5 27 เมษายน 2549 20:13:41 น.  

 

อ้ายๆๆๆ ข่อยอยากไปปารีส อ้ายพาข่อยไปได้บ่

 

โดย: ปิยะนุช (ปิยะนุช ) 29 พฤษภาคม 2549 12:32:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dont wanna no
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add dont wanna no's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.