|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
อานิสงส์ของการให้
ผลย่อมไหลมาแต่เหตุ ผลย่อมเป็นไปตามเหตุ ผลของกุศลทุกประการ เมื่อถึง กาลอันสมควร ย่อมต้องให้ผลเป็นสุขแน่นอน จึงไม่ควรหวังหรือเป็นห่วงในผล เพราะ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ย่อมได้รับผลตามเหตุที่ได้กระทำไว้ ทานที่บุคคลกระทำกันนั้น
พระผู้มีพระภาคทรงจำแนกไว้หลายประการ แต่ทานที่จะมีผลมาก และมีอานิสงส์มาก
นั้น ไม่ได้ทรงแสดงว่าขึ้นอยู่กับจำนวนทรัพย์เป็นสำคัญ แต่ขึ้นอยู่กับว่าทานนั้นจะต้อง
เป็นทานที่กระทำด้วยความเห็นถูก คือ มีปัญญาเห็นโทษภัยของกิเลส จึงน้อมไปที่จะ
สละสิ่งที่ตนติดข้อง เพื่อประโยชน์ตน โดยขัดเกลาความตระหนี่และความเห็นแก่ตัวเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น โดยทำให้ผู้รับเป็นสุข ทานประเภทนี้ เป็นทานบารมี เป็นการ ให้เพื่อปรุงแต่งจิตให้เป็นจิตที่ดีงาม โดยชำระ มลทินคืออกุศล ด้วยปัญญา
ปัญญา เมื่อเกิด ย่อมตามรักษาจิตไม่ให้ตกไปในอกุศล ตามรักษาจิตไม่ให้เดือดร้อนไปกับความเป็นไปของโลกธรรม ทำให้เป็นผู้ที่มั่นคงในกรรมและผลของกรรม
ในเมื่ออดีตอกุศลกรรมทำให้ต้องเป็นบุคคลผู้ยากไร้ แม้รู้ว่ามีของที่จะสละให้ผู้อื่นน้อย แต่ก็ไม่เดือดร้อนว่ามีให้น้อย หรือเมื่อไม่มีให้ ก็ไม่เดือดร้อนว่าไม่มีให้ ปัญญาทำให้เข้าใจโลก แต่ในทางธรรมแล้ว ผู้นั้นเป็นบุรุษประเสริฐ
ธรรมตามเป็นจริง ทำให้เป็นผู้ไม่ประมาท ผู้มีปัญญา แม้ว่าจะเป็นบุรุษเข็ญใจในทาง
Create Date : 17 กรกฎาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2553 12:11:18 น. |
Counter : 2135 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: majoom 19 กรกฎาคม 2553 0:28:54 น. |
|
|
|
| |
|
|