: : เพลินใจในสวน..บนภาพวาด : :
Distracted : Edward Frederick Brewtnall/Philip Gale Fine Art, Chepstow
คนเรามีสิทธิ์เลือกสรรความสุขและความพอใจในวิถีทางต่างๆ กันตามแต่รสนิยมจะพาไป...
คนชอบอ่านชอบเขียน ยามว่างมักจะหมดไปกับการเดินท่อมๆ ตามร้านหนังสือ อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ... คนชอบอะไรศิลป์ๆ ก็ชอบวาดรูป ถ่ายรูป เดินชมแกลเลอรี่ศิลปะ หรือเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์... คนชอบสังคม ก็ชอบสังสันทน์เฮฮา ช็อปปิ้ง เต้นระบำ ร้อง'โอเกะ ฯลฯ ...คุณแม่บ้านแม่เรือนก็ชอบทำกับข้าว เย็บปักถักร้อย... หรือบางคนมีพรสวรรค์และพรแสวง ชอบหลายอย่าง ก็เลยทำอะไรนู่นนี่มากมายไม่หยุดหย่อน เรียกว่าความสามารถรอบด้านจริงๆ...เพื่อนบล็อกที่เรารู้จักในนี้ก็มีอยู่หลายคนที่เข้าข่ายทำนองนี้ คิดอยากทำอะไรๆ (ในสิ่งที่ดี หรืองานการ) ก็รีบๆ ทำเถอะเพราะชีวิตนี้มันช่างสั้นนัก ตื่นเช้าขึ้นมาอีกวัน...ถามตัวเองทุกวันว่าวันนี้มีแผนการจะทำอะไรบ้าง อะไรที่เมื่อวานยังไม่ได้ทำ หรือทำยังไม่เสร็จ วันนี้จะลุยโลดให้เสร็จได้ละเปล่า...
แต่ที่แน่ๆ... ทุกๆ เช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลกอีกวัน นั่นแปลว่า เราเหลือวันบนโลกนี้น้อยลงไปอีกวันหนึ่งแล้ว.. นี่คือความจริง...
เคยมีน้องในที่ทำงานมาปรึกษาว่า เธอจะเรียนต่อปริญญาเอกดีไหม หรือจะเรียนโทอีกใบนึงดี ตอนนี้เธอรู้สึกว่าชีวิตมันเรื่อยๆ เปื่อยๆ ดูว่างเปล่า... เธอเป็นคนชอบเรียนจึงอยากเรียนต่ออีก ที่สำคัญ เธอไม่อยากให้วันวารผ่านไปจนถึงวันที่อายุมาก (ก็แก่นั่นแหละ) จนใกล้จะลาโลก แล้วย้อนนึกกลับมาเสียดายว่า โธ่..รู้งี้น่าจะได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน..ไม่น่าขี้เกียจเลยเรา (นั่นเป็นคำพูดของน้องเขานะคะ..แต่เราก็เคยคิดทำนองนี้บ้างเหมือนกัน..555...)
เราก็บอกเธอให้ลองคิดดูว่า มันเป็นสิ่งที่ดีนะที่อยากเรียน การใฝ่เรียนใฝ่รู้นั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นสัญชาตญานที่แสดงศักยภาพในการวิวัฒน์ของมนุษย์ และเป็นข้อพิสูจน์ว่า คนเราทุกคน พัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา ถ้าคิดจะทำ แต่ถ้าถามว่าจะเรียนดีมั้ย เรียนอะไรดี ใครจะมารู้ดีเท่าคนที่คิดจะเรียน เราจึงแนะให้เธอค้นหาตัวเองให้เจอ ลองจดรายการจุดดีจุดด้อยแบบทำ SWOT ถามตัวเองว่าชอบทำอะไร สนใจทางไหน ทำอะไรได้ดีกว่าอย่างอื่น และอะไรที่ทำแล้วฝืนใจ ทำเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ชอบ ที่สำคัญ ให้จินตนาการตัวเองในอนาคตด้วยว่า อีกสิบปีข้างหน้า เธออยากจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เป็นอะไร...คิดให้ได้แล้ว GO FOR IT!
ณ วันนี้ น้องเขาก็เข้าโปรแกรมปริญญาเอกสมใจนึกไปแล้วเรียบร้อย เจอกันทุกวันก็เห็นใบหน้ายิ้มอิ่มสุข เราก็พลอยยิ้มไปกับเธอ... เธอมีความสุขเพราะพอใจกับชีวิตที่รักเรียน และเราก็จะยิ่งยินดีไปกับเธอด้วย ถ้าเธอค้นพบสิ่งที่เป็นตัวเธออย่างแท้จริง...
...ความสุข อยู่ที่ความพอใจ... ตราบใดที่ยังไม่พอใจอะไรสักอย่าง ไอ้โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้เรื่อง ได้ร้อยจะเอาพัน ได้พันจะเอาหมื่น... คิดอย่างนี้มีสักเจ็ดหมื่นล้านก็คงไม่มีความสุข... แต่ถ้าเป็นคนที่พอใจกับอะไรง่ายๆ ไม่ต้องถือกระเป๋าใบละหมื่น ถุงผ้าลดโลกร้อนเนื้อหนา คุณภาพดี ที่รับแจกฟรีมาก็ใส่ของได้ดีเหมือนกัน... แถมยังสบายใจไม่ต้องกลัวใครจ้องเขม่น...โอ้..โลกนี้ช่างไร้ทุกข์
เพราะอะไรๆ ก็เป็นความสวยงาม รื่นรมย์ในชีวิตได้ทั้งนั้น สุดแต่เราจะเลือก
ข้าพเจ้าเองเป็นพวก "สุขนิยม" ความสุขของเราเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ไม่เรื่องมาก... ขัดส้วมเสร็จ ส้วมสะอาดเอี่ยมก็..โอ้..สุขจัง... เห็นน้องตูบนอนหลับตาพริ้มอิ่มแปร้...ก็แฮปปี้... หรือไม่ต้องทำไรมาก นั่งเขียนบล็อกตามใจคิดของเราอย่างนี้ ... ก็สุขเหลือหลาย...
แต่เราก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีรสนิยมแบบ "เขียวนิยม" ด้วย คือมีความสุขและความพอใจเป็นที่ยิ่งเมื่อได้อยู่กับ "สวน"... จะเป็นการชมสวน ทำสวน เที่ยวสวน ดูหนังเกี่ยวกับสวน ฟังคนเล่าเรื่องสวน อ่านหนังสือเกี่ยวกับสวน หรือถ่ายรูปสวน ก็ชอบทั้งนั้น... และเราก็ดีใจทุกคราวที่ได้อ่านหนังสือที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับสวนในมุมมองที่ต่างๆ กันของผู้เขียน เป็นการเปิดโลกทรรศน์ให้เราได้รู้จักสวนในสิ่งแวดล้อม บรรยากาศ และอารมณ์หลากหลาย...ที่ล้วนรื่นรมย์
Summer by the Sea : Beatrice Parsons/Christopher Wood Gallery, London
Blue is my best beloved color ; I love it as the bees love it. Every blue flower is mine ; and I am as pleased as with a tribute of praise to a friend to learn that scientists have proved that blue flowers represent the most highly developed lines of descent. These learned men believe that all flowers were at first yellow, being perhaps only developed stamens ; then some became white, others red ; while the purple and blue were the latest and highest forms. The simplest shaped flowers, open to be visited by every insect are still yellow or white, running into red or pink. Thus the Rose family have simple open symmetrical flowers ; and there are no blue Roses - the flower has never risen to the blue stage. In the Pea family the simpler flowers are yellow or red ; while the highly evolved members, such as Lupines, Wistaria, Everlasting Pea, are purple or blue, varying to white. Bees are among the highest forms of insect life, and the labiate flowers are adapted to their visits ; these nearly all have purple or blue petals - Thyme, Sage, Mint, Marjoram, Basil, Prunella, etc.
- From OLD-TIME GARDENS by ALICE MORSE EARLE, 1901
คนชื่นชอบดอกไม้ คงเคยสังเกตเห็นว่า ดอกไม้สีฟ้านี้หายาก จัดเป็นสีแปลกที่สวยแบบ "วีไอพี" ก็ว่าได้ เราอ่านเจอในหนังสือเล่มที่บอกไว้ข้างบน เขาบอกว่านักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า ดอกไม้สีฟ้า นับเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดในเรื่อง (รูปทรงและ) สีสันของดอกไม้... เขาเชื่อว่า ดอกไม้ทุกดอก เริ่มต้นจากการเป็นสีเหลืองก่อน จากนั้นก็ไปเป็นขาวบ้าง แดงบ้าง สีม่วงและสีฟ้าจะเป็นสีที่มาทีหลังสุด...
ดอกไม้รูปทรงธรรมดาๆ ที่กลีบดอกบานต้อนรับแมลงภู่หรือผึ้งนั้น มักจะมีสีแดงหรือสีชมพู มีดอกไม้เพียงไม่กี่ชนิดที่มีสีม่วงสีฟ้า แม้แต่กุหลาบก็ยังไม่เคยมีสีฟ้า นักพฤกษศาสตร์ใช้คำซะหรูเชียวว่า...แม้กุหลาบยังมิอาจยกระดับตนเองขึ้นสู่ความเป้นดอกไม้สีฟ้า...
ฮึ..มีแอบเคือง..เราชอบกุหลาบนะ ไหงมาสบประมาทกันแบบไม่ไว้หน้ากันเลย..
เราไม่ใช่นักพฤกษศาสตร์ คงไม่อาจวิพากษ์ในเชิงวิชาการได้มากมายนัก เอาเป็นว่า เราชอบโทนสีม่วงหรือฟ้าครามนี้อยู่แล้ว เมื่อได้เจอดอกไม้สีแบบนี้ก็พาให้ตะลึงลาน ปลาบปลื้ม ลืมโลกภายนอกไปเลย...
ดอกไม้สีฟ้าหรือสีม่วงที่เรารู้จัก มีไม่กี่ชนิด เท่าที่พอจะนึกหน้าตาออกและจำชื่อได้... ก็มี พวงคราม พยับหมอก แวววิเชียร ไวโอเล็ต ฟอร์เก็ตมีน็อต ไอริส มอร์นิ่งกลอรี่ ไฮเดรนเยีย แอสเตอร์ กล้วยไม้สีม่วงก็มีหลายอย่าง เช่น แวนด้า มาดาม ช้างกระ ฯลฯ ดอกไม้พื้นๆ สีม่วงสีฟ้าก็มี ต้อยติ่ง และดอกหญ้าเล็กๆ สีม่วงที่ขึ้นตามพงหญ้ารกๆ...
Sweet Peas : Beatrice Parsons/Christopher Wood Gallery, London
June in a garden on the North-east Coast is not at all like June in most other English gardens. Here, this lovely month, instead of bringing warm and genial weather, often gives us fogs and sea-mists ; soft white clouds that gather up and roll across the lawn like smoke. The mist-wreaths sometimes hang about for days : night and morning the fog-horns sound, the garden hardly smiles, the very birds sing quietly - a mute is on the strings.
But a wind springs up, the clouds are blown away. Now dazzling sunshine bathes the whole a garden in a flood of light. The copse, the cliff, the meadows, and the sea laugh joyously beneath a blue and radiant sky. All day long the bees are humming, larks are singing, and the yellow hammers never cease their long-drawn musical sighs.
Never was there such a garden for scent and colour. The commonest flowers are dowered here with gifts and virtues hitherto unknown. The salt breath of the sea has filled the buds and flowers with its own vigour. How scarlet are the big perennial Poppies, how snowy white the clumps of Daisies, white as foam-flowers on the crest of waves. One must believe that in a sea-coast garden both scent and colour become more deep, more powerful, more vivid, and brilliant.
- From SEA-COAST GARDENS AND GARDENING by F.A. Badswell, 1908.
สวนบริเวณชายฝั่งทะเล ก็เป็นบุคลิกอีกรูปแบบหนึ่งของสวนแบบอังกฤษ ซึ่งดูไม่น่าจะทวีความสลักสำคัญอะไรนักหนา..เพราะสวนไม่ว่าอยู่ใกล้ทะเล ทะเลสาบหรือแม่น้ำ มันก็เป็นสวนต้นไม้ดอกไม้ที่ต้องปลูกอยู่บนดินอยู่ดี หนำซ้ำ อังกฤษเป็นเกาะ ไม่ว่าสวนจะอยู่ตรงไหนของประเทศก็ดูเหมือนจะติดทะเล ใกล้ทะเล หรือไม่ห่างจากริมทะเลมากนักทั้งนั้นแหละ... เนื่องจาก คนอังกฤษ หรือจะให้ครอบคลุมอย่างถูกต้อง.."คนบริทิช" เป็นชนชาติที่มีการให้ความสำคัญกับรายละเอียดกระจุ๊กกระจิ๊กในชีวิตเยอะกว่าชาติอื่นๆ ดังนั้น เขาจึงจับประเด็น "สวนริมทะเล" มาเป็นหัวข้อได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว...
ภูมิอากาศแบบชายฝั่งทะเลอังกฤษ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า มีความอบอุ่น (เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม) มีความกดอากาศต่างกันจนทำให้เกิดหมอกทั้งริมฝั่งและในทะเล ในฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี สวนริมฝั่งทะเลจะมีดอกไม้นานาชนิดเบ่งบานไม่แพ้ในแผ่นดินใหญ่ เช่น ป๊อปปี้ เดซี่ ดอกไม้หอมก็มี Pinks และ Honeysuckles (ไม่แน่ใจชื่อไทยๆค่ะ)
...บันทึกวันสีแดง... ..๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒..
เมื่อคืนเขียนๆ บล็อกนี้ไม่จบ ง่วงจนเขียนคำว่า another เป็น together ซะงั้น..เลยต้องยอมรับสภาพแล้วปิดคอมฯ นอน ตื่นเช้ามาปิดไฟรอบบ้าน เก็บขยะไปทิ้ง ทักทายสองตูบผู้เฝ้าบ้าน หยิบหนังสือพิมพ์ในตู้จดหมาย..โอ้ว..เจอโปสการ์ดสวยงามสองใบจากฮาวาย เป็นคุณ tuktikmatt นั่นเอง เธอไปราชการงานเมืองอะไรสักอย่างเพียงไม่กี่วันที่มลรัฐเกาะงามแห่งนี้ แต่ยังอุตส่าห์มีเวลาสอยโปสการ์ด เขียน ติดแสตมป์ และเมล์มาให้เราสองใบรวด..ขอบคุณคุณติ๊กด้วยนะคะที่นึกถึงกัน
เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็มีน้องที่ทำงานคนนึงเพิ่งกลับมาจากการไปรับปริญญาที่อังกฤษ รู้ว่าเราชอบโปสการ์ดเลยซื้อโปสการ์ดสวยเท่มาฝากหลายใบให้ผู้รับได้ยิ้มปลื้ม ไม่เขียนส่งใส่ตู้ก็ไม่เป็นไร แค่นึกถึงกันก็พอใจแล้วเรา
ข้าพเจ้าเองช่วงนี้ก็ยุ่งอีรุงตุงนังจนไม่มีสติจะเขียนโปสการ์ดหาใครเลย ไปนราธิวาสคราวนี้น่าจะมีเวลาเขียนส่งเพื่อนพ้องได้บ้าง แต่คงส่งได้เฉพาะในประเทศเพราะแสตมป์ต่างด้าวหมดเกลี้ยงเลย
พูดถึงบล็อกที่เขียนในวันนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือสวยงามชื่อ THE FRAGRANT GARDEN edited by Sheila Pickles เป็นการนำข้อเขียนในมุมคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับสวนจากนักเขียนหลายคนมารวบรวมและนำเสนอไว้ พร้อมกับภาพเขียนสวยงาม ประมาณว่า For the Love of the Garden ถูกใจเราผู้ชื่นชอบสวนยิ่งนัก
ไม่รู้ว่าบล็อกนี้จะเป็นบล็อกท้ายสุดก่อนไปใต้หรือเปล่า คงจะใช่ละ ถ้ามีอะไรเราก็จะมาหยอดไว้ท้ายบล็อกเรื่อยๆ จนกว่าจะกลับ..เอาเป็นว่าขอร่ำลากันตรงนี้เลยละกัน ถ้าไม่มีปัญหาอุปสรรคอื่นใด กลับมาวันศุกร์สิ้นเดือน คงได้มาทักทายกันใหม่หน้าบล็อกนะคะ...
...สุขสันต์วันสีแดงสดใสค่ะ...
...บันทึกวันอาทิตย์..ยามเย็น... ..๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒..๑๙.๑๒ น..
เพิ่งกลับเข้าบ้านมาได้สักพักนึง...เหนื่อยจัง...แต่ขอบันทึกไดอารีประจำวันนี้ไว้สักหน่อยว่า..วันนี้เป็นวันแรกที่เรามีโอกาสได้พัฒนาสมองซีกขวาอย่างเป็นงานเป็นการเป็นครั้งแรก... คือปกติ เราก็จะพยายามใช้มือซ้ายกับมือขวาคู่ขนานกันไปในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เช่น พิมพ์งาน ขับรถ หยิบของ ไม่ค่อยได้ใช้มือซ้ายทดแทนการใช้งานของมือขวาอย่างเต็มๆ มือสักที...
สมัยทำงานที่องค์การมหาชนย่านตลิ่งชัน เจออาจารย์ท่านหนึ่ง สามารถเขียนหนังสือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา ลายมือไม่ต่างกันเลย...(เป็นดร.สายวิทย์) ถามอาจารย์อย่างทึ่งว่าทำได้อย่างไร...อาจารย์บอกว่าฝึกเอา ใครๆ ก็ทำได้ ทำแล้วรู้สึกดีนะ... เราหัดเขียนหนังสือมือซ้ายบ้าง สงสัยสมองจะสับสน เพราะกลายเป็นเขียนตัวอักษรกลับหน้ากลับหลัง (แบบที่ต้องอ่านในกระจก) เสียนี่...
เราอ่านเจอคำแนะนำในหนังสือว่า ถ้าไม่อยากสมองฝ่อ สมองเสื่อม หรือขี้หลงขี้ลืม ก็ต้องใช้งานสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาให้เท่าเทียมกัน แม้จะถนัดมือหนึ่ง ก็ควรหัดใช้อีกมือหนึ่งเสมอๆ ด้วย... ถ้าเป็นทักษะที่ใช้มือขวาชินอยู่แล้ว การมาเริ่มใช้มือซ้ายเป็นไปได้ยากและช้ากว่ามาก แต่วันนี้เราเพิ่งพบว่า ถ้าเป็นทักษะใหม่ที่เราไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ลองเริ่มต้นจากศูนย์ด้วยมือซ้าย...โอ้โฮเฮะ...ทำได้แฮะ แล้วลองมาใช้มือขวามั่ง ปรากฎว่าเงอะงะเชียว ต้องกลับไปใช้มือซ้ายอย่างเก่า...
ทักษะที่เราว่านี้คือ ...การตีปิงปอง...นั่นเอง
เราเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่ค่อยได้เล่นปิงปอง เคยเล่นก็อกๆ แก็กๆ ตีไม่เคยถูกลูกก็เลยเลิกไป...มาวันนี้ คุณลูกสาวคนเล็กเธอลากตัวไปตีปิงปองระหว่างที่รอพี่ชายตีเทนนิส เราก็เลยตกกระไดพลอยโจน..เอาก็เอา...ตีด้วยมือที่ถนัดคือมือขวา ตีไปๆ ก็ไม่ได้เรื่อง ลองเปลี่ยนเป็นมือซ้าย...เฮ้...ตีได้ดีกว่ามากเลย... สรุปก็คือว่า...หากมีโอกาสใดที่จะสามารถใช้งานสมองซีกขวาสลับกับสมองซีกซ้ายบ้าง...ก็น่าจะเป็นการดี... .... แล้วเพื่อนๆ ละคะ...ได้ลองใช้งานมือข้างที่ไม่ถนัดดูบ้างหรือยัง...ลองดูซิคะ...รับรองว่าทำแล้วมันดีจริงๆ เหมือนกับเราได้ดึงเอาพลังงานแอบแฝงในร่างกายเรามาใช้งาน ทำให้กลไกในร่างกายเราทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น...ว่าเข้านั่น.. ... สุขสันต์เย็นวันอาทิตย์นะคะ...
Create Date : 26 กรกฎาคม 2552 |
|
23 comments |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2553 22:05:00 น. |
Counter : 877 Pageviews. |
|
|
|
พยายามลองนั่งนึกดูว่า
มีดอกไม้สีฟ้าอะไรบ้างที่ผมรู้จัก
คิดได้แวบแรกก็มี ไฮเดรนเยียนี่ล่ะครับ
มาแล้วหนึ่งชื่อครับ 555