: : สี่เล่ม..4 July : : ..บันทึกวันเสาร์.. ..๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒.. The Birthday of the United States of America วันนี้มีรายการพลิกโผนาทีสุดท้ายจนด้าย... หลังจากตั้งท่าเสียดิบดี ตกลง จขบ. ไม่ได้ไปกาญจนบุรีกับเขาหรอกค่ะ ปล่อยให้พ่อของลูกไปกับลูกคนโตและลูกคนเล็ก ซึ่งจะไปสมทบเที่ยวพร้อมกับครอบครัวคุณพ่อคุณแม่สามีระหว่างทางไปเขื่อนศรีนครินทร์ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันศุกร์เย็น คุณลูกสาวคนกลางเกิดมีอาการปวดหัวคล้ายจะเป็นไข้ (เพื่อนๆ ที่โรงเรียนเป็นไข้หวัดกันระนาว) หมอตรวจแล้วก็บอกให้พักผ่อนดูอาการ แต่ไม่ได้มีอาการบ่งชี้ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรอกนะคะ... สองคนแม่ลูกก็เลยได้อยู่โยงเฝ้าบ้านกันสองคน... ไม่เป็นไร เราเองก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้ากับการเดินทางไปทำงานที่อีสานที่ต้องนั่งรถตะลอนๆ ไปตามหมู่บ้านโน้นบ้านนี้ อากาสก็ร้อนสลับฝนกระหน่ำอย่างไม่น่าเชื่อ...ฉะนั้นได้หยุดพักอยู่บ้านเฉยๆ ก็สบายดีเหมือนกัน... ราวแปดโมงเช้า หลังจากดูให้คุณพ่อคุณลูกขนข้าวของขึ้นรถไปเมืองกาญจน์เรียบร้อย (ซึ่งก่อนจะไปก็กลียุคไม่ใช่เล่น เพราะคุณลูกสาวคนเล็กเธอหาหนังสือที่จะเอาไปอ่านที่เขื่อนไม่เจอ หาอยู่ร่วมสิบนาทีก็เลยเลิกหา...) เมื่อความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง... เราก็ได้เดินเล่นชมนกชมไม้ ฟังเสียงนกเมืองกรุงในสวนหลังบ้าน ทักทายน้องหมาที่มาสอพลอขอขนมกินซักหน่อย... ขึ้นมาจัดข้าวของสุดแสนรกในห้องลูกชาย (ลูกชายใครบ้านไหนห้องไม่รกบ้างไหมเนี่ย...) อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มานั่งดูรายการ The Bachelor (รีรัน) เป็นตอนตัดสินใจว่าอีตาร้อยเอกจะเลือกใครระหว่างสาวผมทองกับสาวผมดำลูกครึ่งเอเชีย.. และแล้วก็เป็นไปตามคาด ยัยผมทองดูเสแสร้งๆ ไปหน่อย ในขณะที่ยัยผมดำดูจริงใจไม่จิงโจ้กว่ากันแบบเห็นๆ ... หนังจบสิบโมงเช้า คุณลูกสาวที่ไม่สบายก็ยังไม่ตื่น ไม่เป็นไร ปล่อยให้เธอนอนของเธอไป เราก็ลงไปสั่งแม่บ้านให้ทำโจ๊กไก่ใส่ไข่ไว้ให้เธอ (ยัยคนนี้จะตื่นราวๆ เกือบเที่ยง) จากนั้นเราก็ขับรถออกไปซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน (ตามแบบฉบับคุณแม่บ้านไงคะ...) ซึ่งก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ไปแค่เอ็มโพเรียมซึ่งอยู่ถัดไปสามซอยนี้เอง แต่พอสตาร์ทรถ..อ้าว..มีน้ำมันเหลืออยู่แค่สามขีด แวะไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ใกล้บ้าน ปกติก่อนจะไปทำงานต่างจังหวัดหลายๆ วัน เรามักจะไม่ค่อยทิ้งน้ำมันติดรถเยอะๆ... เพราะเคยอ่านที่ไหนมาก็ไม่รู้เขาบอกว่า ถ้าจะจอดรถทิ้งไว้เหลือน้ำมันไว้นิดหน่อยก็พอ กลับมาค่อยเติม... อ้าว.. เลี้ยวเข้าปั๊ม... เพิ่งรู้ว่าน้ำมันลดราคาเมื่อเช้า แต่ก็ยังลิตรละ 29 บาทกว่า (นี่ลดแล้วหรือเนี่ย...) เสร็จแล้วก็ไปเอ็มโพเรียม อือม์.. รถโล่งดีมากเพราะไปแต่เช้า... ก่อนไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็แวะไปสำรวจสถานการณ์การลดราคาของร้านรวงต่างๆ ที่ติดป้ายประกาศ End of Season Sale คงจะให้สอดคล้องกับเทศกาลลดราคาที่ฮ่องกงและยุโรปด้วยมั้ง... ดูๆ แล้วมีแต่ของไม่จำเป็นต่อชีวิตเราทั้งนั้น (ไม่ซื้อก็ไม่เดือดร้อน) ก็เลยไปดูของจำเป็นต่อชีวิตเราดีกว่า ที่ร้านคิโนะเจ้าเก่า...ที่อุตส่าห์มีเซลส์กับเขาด้วยนิ เดินไปเดินมาก็ได้มาสี่เล่ม... ได้แก่ 1. "The Festive Food of China" by Deh-Ta Hsiung (Kyle Cathie Ltd.) เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารกับความเชื่อตามวัฒนธรรมประเพณีจีน... เล่มละตั้ง 384 บาท ลดเหลือร้อยเดียว (ไม่ซื้อได้ไง...) เหตุผลจริงๆ ที่ซื้อเล่มนี้เพราะมีน้องที่ทำงานคนนึงกำลังหาหัวข้อทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมจีนอยู่ เราเลยพลอยสนใจเรื่องนี้ไปด้วย ก็เลยว่าจะเอาเล่มนี้ไปให้น้องเขาดูว่ามีข้อมูลที่พอจะใช้ประโยชน์ได้หรือเปล่า... ถ้าน้องเขาไม่ปลื้มเราก็เก็บไว้อ่านเองได้ความรู้ดีเหมือนกัน เรื่องจีนๆ นี่เราไม่ค่อยรู้สักเท่าไหร่ อย่างเช่น ในช่วงเทศกาลดอกบัว เขาจะทำหมูนึ่งบนใบบัว หรือในเทศกาลวันเกิดเจ้าแม่กวนอิมก็จะทำซุปบะหมี่มังสวิรัติ... เป็นต้น 2. "The Hershey, Pennsylvania Cookbook : Fun Treats and Trivia from the Chocolate Capital of the World" by Marilyn Odesser-Torpey (The Globe Pequot Press) เล่มนี้ราคาเต็ม 683 บาท ลดเหลือร้อยเดียวเหมือนกัน... เป็นเรื่องของช็อกโกแลตแบรนด์ดังของสหรัฐอเมริกา คือ "เฮอร์ชี" มีประวัติความเป็นมายาวนาน แถมตำราทำขนมที่ "เข้า" ช็อกโกแลตให้ด้วย เล่มนี้สีเซเปียทั้งเล่ม ดูเก๋าๆ ดี ที่เราสนใจเล่มนี้เพราะเราชอบกินช็อกโกแลตอเมริกันเจ้านี้ไม่แพ้ของประเทศอื่น โดยเฉพาะ "คิสสิส" ("Kisses") ที่มาในห่อเล็กๆรูปร่างคล้ายๆซาละเปาปลายแหลมๆ ปกติถ้าพูดถึงช็อกโกแลตนี่ ใครๆ ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ดังๆ ฝั่งยุโรปอย่าง "โกไดวา" ของเบลเยียม "แคดเบอรี" ของอังกฤษ หรือสารพัดแบรนด์ดังของสวิตเซอร์แลนด์ เช่น "ลินดท์" แต่คนอเมริกันเขาก็มีความภาคภูมิใจในโลกแห่งช็อกโกแลตของเขาละ 3. "Life's a Pitch : How to sell yourself and your brilliant Ideas" by Stephen Bayley & Roger Mavity (Corgi Books) มีคำนิยมของนักออกแบบชื่อดังของบริเทน คือ เซอร์ เทอเรนซ์ คอนราน (ลุงเทอรีได้เป็นเซอร์ตั้งกะเมื่อไหร่นี่...) โปรยบนปกเสียด้วยว่า... แหม..ถ้าผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ละก้อ..ป่านฉะนี้ไม่รู้ผมไปอยู่ไหนๆ แล้วละ... แต่เราว่า ถึงป๋าจะออกตัวว่าไม่ได้อ่าน ป๋าก็ออกจะเก่งกาจและติดลมบนอยู่แล้วนี่นา... หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แนวให้กำลังใจ แต่เป็นแนว "ฮาว ทู" สำหรับคนที่อยากพัฒนาทักษะความสามารถในตัวเองให้เฉียบคมขึ้น (เขาว่างั้นนะ) ที่เราปิ๊งเพราะชื่อหนังสือ ทำให้นึกถึงตอนที่เราทำเอเจนซีและเตรียมจะไป "พิทช์" งาน ทุกอย่างต้องตระเตรียมกันอย่างดีที่สุดเพื่อการนำเสนองานให้ลูกค้าตะลึง อึ้ง ทึ่ง และตกลงใจเลือกเราเป็นเอเจนซีคู่บุญ..555... พิทช์ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ก็คือรสชาติของชีวิต (ดีกว่าแอคเคานท์หลุดละน่า) 4. "Pardon My French : Unleash Your Inner Gaul" by Charles Timoney (Penguin Books) เป็นเรื่องเล่าของคนบริทิชที่ไปทำงานในฝรั่งเศส ก็เลยต้องฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาของบ้านเมืองนี้ไปโดยปริยาย ตานี้แกก็คงจะจับทางได้ว่า การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศนี้ไม่ใช่กล้วยๆ โดยเฉพาะการเลือกใช้คำ วัฒนธรรมการพูดและภาษา พูดและเขียนอย่างไรจึงจะไม่ดูเปิ่นเทินมันเทศ... อย่างคำว่า "เข้ายุคสมัย" ที่คนไทยชอบใช้ภาษาอังกฤษกันว่า "อิน เทรนด์" ฝรั่งเป็นงงไปตามๆ กันเพราะเขาไม่พูดกันอย่างนี้ไง เล่มนี้อ่านแล้วก็พลอยได้ความรู้ไปด้วยว่าจะใช้คำฝรั่งเศสอย่างไรจึงจะไม่ถูกยิ้มเยาะว่าเป็นพวกไร้รสนิยม อะฮ่า..คือเรากำลังฟื้นฟูภาษาฝรั่งเศสอยู่ แม้จะยังเตาะแตะอยู่ในขั้นประถม แต่ก็มุ่งมั่นจะพยายามฝึกต่อไปให้ใช้การได้จริงๆ สักที สรุปว่า การที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน จะใกล้หรือไกลก็ตามแต่... ไม่ถือเป็นวิกฤตที่น่าเบื่อ แต่กลับเป็นโอกาสอันงามสำหรับเรา ที่จะได้อยู่บ้าน ทำนู่นทำนี่ รวมทั้งการอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ทำบล็อก ฯลฯ หรือไม่ก็ออกไปร้านหนังสือโปรดละแวกบ้าน...ได้หนังสือดีๆ ที่ถูกใจติดไม้ติดมือกลับมา ...โอ้ว..แค่นี้ก็พอใจแล้ว..ชีวิตข้าพเจ้า... ว่าแล้วก็ขอลาไปท่องเน็ตก่อนละค้า ไปอยู่กลางท้องทุ่งนาห่างไกลเทคโนโลยีมาเสียหลายวัน... ...สุขสันต์วันสีม่วงสดสวยนะคะ...   Create Date : 04 กรกฎาคม 2552 9 comments Last Update : 4 กรกฎาคม 2552 18:04:22 น. Counter : 615 Pageviews. Share Tweet

เจิมจ้า   โดย: รัชชี (รัชชี่ ) 4 กรกฎาคม 2552 17:31:53 น.

Sometime live a simple life is happy, right??   โดย: รัชชี (รัชชี่ ) 4 กรกฎาคม 2552 17:35:07 น.

แวะมาอ่านค่ะ กำลังจะไปเมืองกาญจน์น่ะคะ   โดย: อุ้มสี 4 กรกฎาคม 2552 19:28:51 น.

มาแจ้งข่าวว่า อัพบล็อกแล้วครับ วันนี้เสนอตอน "สัญจรตะลอนไพร" อยู่ป่าทั้งที จะไปไหนมาไหนก็ต้องเดินสถานเดียว แต่ละคนจะต้องเตรียมอะไรติดตัวไปบ้าง คงต้องลองเข้าไปอ่านเสียแล้วครับ....   โดย: ลุงแว่น 4 กรกฎาคม 2552 21:48:23 น.

มาแปะไว้ก่อนหนึ่งเม้นท์ค่ะพี่แดง แหะ แหะ ^^   โดย: หมาน้อยอ่อนแดด (prunelle la belle femme ) 5 กรกฎาคม 2552 3:52:51 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่แดง เห็นราคาลดของหนังสือแล้ว อยากนั่งเครื่องบินลงไปเหมาสัก 2 ลังครับ 5555 ทำไมลดราคาระห่ำขนาดนี้ล่ะครับ โหยยยยยยยย ถ้าผมไปก็อยากจะซือ้หนังสือภาพวาด ภาพถ่ายนะครับ ถ้าเหลือเล่มละร้อย คงได้เหมากันหลายเล่มเลยล่ะครับ 5555   โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 5 กรกฎาคม 2552 6:16:17 น.

ถ่ายภาพชุดนี้ ก็กลัวเลนส์จะตาบอดมากเลยครับ 5555 กล้องตัวเก่าก็พังไปหนึ่งตัว เพราะผมชอบส่องพระอาทิตย์แบบนี้ล่ะครับ 55555   โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2552 7:05:03 น.

อิจฉาจังเลยค่ะ มีเวลาอ่านหนังสือได้เป็นเล่มๆ (หลายเล่ม) ปิดนี้ก็ได้เล่มใหม้มาเหมือนกัน 2 เล่ม อ่านได้ 4-5 หน้าก็ต้องปิดไว้ ทั้งๆที่ วันนี้ฝนตก.. บรรยากาศสบายเชียวค่ะ   โดย: mutcha_nu 5 กรกฎาคม 2552 9:33:16 น.

เล่มละร้อย ...น่าจะแวะไปเลือกบ้าง ไม่ยักรู้ว่าคิโนะฯ มีลดราคากับเค้าด้วย   โดย: นัทธ์ 5 กรกฎาคม 2552 17:10:41 น.