|
"คือรัก" (บทที่ 1)
คำชี้แจงของผู้เขียน
บางท่านอาจคิดว่า..ดาเรนนี้จับจรด เขียนเรื่องนี้ไม่ทันจบก็เริ่มเรื่องใหม่
บางเรื่องเกือบจบ แต่สุดท้ายของเรื่องหดหู่มากเกินจะเขียน ผมก็ไม่เขียนต่อ บางเรื่องดำเนินเรื่องต่อไม่ได้ก็ยุติไว้ก่อน คิดได้ค่อยเขียนต่อ
นิยายบางเรื่องจบอย่างสมบูรณ์ (ทั่วๆ ไป) แต่คิดในแง่ความเป็นจริงแล้วไม่มีชีวิตไหนในโลกจะยุติเรื่องราวได้..จนกว่าจะตายนั่นแหละ
ละครทีวี เจ็ดวัน สามเรื่องหรือมากกว่านั้น ผู้ชมยังดูรู้เรื่องและติดตาม..การเขียนของผมก็คล้ายเช่นนั้น..สลับไปเรื่อยๆ หลายเรื่อง (นี้ข้อแก้ตัวชัดๆ ครับ)
ที่จริงผมเป็นนักเขียนที่ไม่มีระเบียบแบบแผนอะไร ไม่มีเค้าโครงเรื่อง นึกอะไรได้ก็เขียน จึงบางทีไปต่อไม่ได้ ตัวละครก็ชื่อเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาตามคนที่เคยรู้จักคุ้นเคย ถ้าชื่อที่ไม่รู้จักผมเขียนไม่ค่อยออก
คือรัก นี้ก็เช่นกัน ไม่ทราบจะไปได้กี่ตอน..ทีแรกกะจะให้เป็นเรื่องสั้น ทำไปทำมาลื่นไหลขยายความออกมาดังนี้..ผิดพลาดอย่างไรอภัยให้ผมนะครับ
ดาเรน..
.. คือรัก ..
บทที่ 1
กริ๊ก!..
ผมสะดุ้งตกใจกับความสะเพร่าของตัวเอง..ฟันปลอมของแม่หล่นลงกล่องที่ใส่ของมัน โชคดีที่ไม่มีอะไรบุบสลาย แม่ไม่สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว อย่าว่าแต่ไปหาหมอฟันเลย การขึ้นเก้าอี้ทำฟันยิ่งเป็นไปได้ยาก
ผมค่อยๆ แปรงฟันปลอมของแม่..ข้างบนเป็นฟันปลอมชนิดยกแผงที่มีเหงือกปลอมสวมทับเหงือกจริง (เรียกอย่างนี้หรือเปล่า..ไม่น่าใช่!) ข้างล่างปลอมแซมเป็นแห่งๆ มีส่วนเป็นโลหะยึดติดกับฟันแท้ที่เหลืออยู่..ฟันชุดนี้ทำมานานนับสิบปีแล้ว เวลาผ่านไปเหงือกของแม่หดตัว ชุดบนจึงค่อนข้างหลวมแต่ไม่ค่อยเป็นปัญหาเหมือนฟันล่างที่เกี่ยวได้ไม่สนิทเพราะสาเหตุเดียวกัน
ฟันปลอมของแม่ดูอย่างไรก็เหมือนฟันจริง ทำได้แนบเนียน ไม่สวยมากเกินไปจนดูออกว่าเป็นฟันปลอม..ที่ดูดีมากอย่างนี้เพราะทำด้วยใจ ด้วยความอาทร และความรักอย่างแท้จริง..เปล่าครับ!..ไม่ใช่เพราะลูกคนใดคนหนึ่งของแม่เป็นหมอฟัน
นานมาแล้ว..
งานชุมนุมศิษย์เก่าของโรงเรียน..มีนักเรียนที่จบไปแล้วหลายรุ่นมาร่วมชุมนุม ผมและเพื่อนๆ ปีสุดท้ายถูกเกณฑ์ให้ทำหน้าที่ต่างๆ ในงาน คุณครูและบรรดาเมียรับหน้าที่เป็นกุ๊กและเจ้าหน้าที่แทบทุกอย่างของงาน..ผม..อิ..อิ..อยู่แผนกจัดโต๊ะ เสริฟ เก็บโต๊ะและทำความสะอาดหลังเลิกงาน
ระหว่างกินอาหารมีดนตรีโดยแบนด์ของโรงเรียน นักร้องนักเรียน การแสดงต่างๆ สลับตลอดงาน..เวทียกสูงจากพื้น ด้านหน้าเป็นฟลอร์บล๊อกไม้สี่เหลี่ยมต่อกันจนกว้างพอสำหรับเต้นรำซึ่งส่วนมากเป็นการเต้นแบบวัยรุ่นมากกว่าการเต้นแบบมาตรฐาน
ขณะรอเสริฟอาหารแต่ละชุดผมอดไม่ได้ที่จะยึกยักตามเสียงดนตรีอยู่ในเงามืด มั่วๆ ไปตามจังหวะเพลง
น้องๆ.. เสียงหนึ่งดังขึ้น เล่นเอาผมหยุดกึกพร้อมเขินเล็กน้อย ห้องน้ำอยู่ทางไหน?
เอ่อ!.. งงกับคำถามแต่ปากไวตอบไป อยู่ที่เดิมครับ
ที่เดิม.. ท่าทางใช้ความคิด ที่ไหนล่ะน้อง
ก็.. แน่ใจว่าพี่หนุ่มคนนี้ไม่ใช่ศิษย์เก่าของโรงเรียน ความจริงหาไม่ยากหรอกครับ แต่ตอนนี้โรงครัวชั่วคราวปิดทางเดิน ถ้ามาจากทางตรงจะเห็นไม่ยาก แต่พี่เล่นมาด้านหลังงานก็เลยมองไม่เห็น
ตกลงผมจะได้ไปปลดทุกข์ไหมนี่.. ชี้แจงต่อเพื่อไม่ให้ผมเข้าใจหนักๆ จะฉี่น่ะน้อง..กินน้ำมากไปหน่อย
ถ้าอย่างนั้นผมพาไปเองครับ เดี๋ยวเดินสะดุดกองจานชาม ผมนึกตำหนิในใจ..น้ำอะไร..ชิ!..แอลกอฮอล์หึ่งเชียว
ความจริงพวกพี่ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎ.. นึกรู้ได้จากกลิ่นที่วกเข้าจมูกตัวเอง แต่เพื่อนคนหนึ่งพกมาด้วย..ไม่รู้จะขัดขืนอย่างไร.. เห็นผมเฉยจึงแก้ตัวต่อ สนุกๆ ครับ..เพื่อนพี่เป็นศิษย์เก่าที่นี่ เพิ่งจบปีที่แล้วเอง..
ถึงแล้วครับ.. ผมขัดขึ้นก่อนที่พี่หนุ่มรูปหล่อจะทำให้ผมเสียการงาน..สัญญาณให้เสริฟชุดต่อไปดังจากโรงครัว พี่กลับเข้างานเองได้นะครับ ผมต้องไปทำงานแล้ว ไม่รอคำตอบ ปล่อยให้แขกของโรงเรียนตัดสินใจเพียงลำพัง..คงไม่เมามากจนหาทางกลับไม่เป็น
ผมลืมพี่รูปหล่อเสียสนิท ความจริงไม่ได้จำมากกว่า..ถึงจะมีนักเรียนพนักงานหลายสิบคน แต่โต๊ะอาหารและอาหารที่ต้องเสริฟมีมากจนแทบต้องวิ่งเสริฟ บางทีอาหารร้อนๆ ยกได้ทีละชามเดินแทรกไประหว่างโต๊ะและผู้คน..ไม่แทบวิ่งละ..วิ่งเลย!
จนถึงชุดสุดท้ายเป็นของหวาน..ผลไม้กระป่อง (ทำเอง) ใส่น้ำแข็ง ไม่หนัก ไม่ยุ่งยากอะไร..นึกดีใจที่งานจะจบเสียที แต่ใจหนึ่งนึกถึงงานสุดท้ายจริงๆ ที่สาหัส..เก็บโต๊ะ ล้างถ้วยชาม ทำความสะอาดสนามสถานที่จัดงาน..ดีที่ไม่ต้องรื้อถอนเวทีและพื้นฟลอร์..เป็นหน้าที่ของนักเรียนห้าวตัวโตบรรดาหัวโจกทำพรุ่งนี้..กึ่งทำงานช่วยโรงเรียนกึ่งไถ่โทษที่เคยต้องทัณฑ์บนไว้
โครม!.. ผมว่าเดินประคองถาดมาอย่างระวัดระวังแล้ว
โทด ที น้อง ชาย แอลกอฮอล์หึ่งมาจากด้านหลัง..เดินอย่างไรไม่รู้เซกระแทกมาที่ผม
ขอโทษครับ.. ศิษย์เก่าคนหนึ่งผมเคยเห็นหน้าลุกจากโต๊ะมาขอโทษแทนคนทำเรื่อง
ผมจะไปเอามาเสริฟให้ใหม่ครับ พูดไปแล้วไม่แน่ใจว่ายังมีของหวานเหลืออีกหรือไม่
ไม่ต้องเอามาให้ใหม่หรอกน้อง พวกพี่เป็นฝ่ายทำเสียหายเอง.. มองหนุ่มขี้เมาที่นั่งฟุบอยู่กับโต๊ะ เพื่อนพี่ไม่เคยกินเหล้ามาก่อน นึกอยากแมนขึ้นมา..ขอโทษแทนมันด้วยครับ
แมน..ฮะ..ฮะ..ผมแมนคับ..ฮะ..ฮา.. หนุ่มเมาโงหัวขึ้นอ้อแอ้..ขยี้ตามองมาที่ผมทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่แล้วก็ฟุบหลับ
ไปไขก๊อกกี่เที่ยวแล้วไม่รู้..บ่อยเกินนะไอ้ป๋อง พี่ศิษย์เก่าเบิ๊ดหัวเพื่อนที่ไม่รู่สึกตัว
ผมก็คิดเหมือนกันว่าบ่อยเกิน..นายขี้เมาเกือบเดินชนกองชามหลังครัวตั้งหลายครั้ง
Create Date : 14 กันยายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 14 กันยายน 2557 17:08:19 น. |
Counter : 638 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|