เมษายน 2549

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
== ภูเขา หิมะ ชอคโกแลต และ มีดพก : Chapter 2 : สองเท้าบนสะพาน
ก่อนอื่นใด ที่หายไป เพราะว่างานเยอะมากครับ ผมมี essays หลาย modules แถมยังมี dissertation อีกตัวนึงเต็มๆ ใจผมอยากจะทำให้เสร็จครบทั้งแปดวันนะครับ แต่ช่วงนี้ เหนื่อยจริงๆ ผมไม่มั่นใจว่าจะทำตอนต่อไปเมื่อไหร่

ยังไงก้ขอโทษคนที่ติดตามนะครับ วันนี้มา อัพตอนที่ 2 หวังว่าคงยังไม่ลืมบรรยากาศในตอนที่ 1 นะครับ พร้อมแล้ว เชิญครับ



Chapter 2สองเท้าบนสะพาน

(รอโหลดวิดีโอสักครู่นะครับ เพลงเพราะมาก อยากให้ฟังครับ)


เช้าวันนี้ที่ Geneva อากาศสดใสดีจังเลย แปลกนะครับ ในเดือนกุมภาพันธ์แบบนี้ทำไม อากาศถึงดีมากๆ ไม่หนาวจนเกินไป ไม่เหมือนที่อังกฤษ ที่นั่นอึมครึมได้ทั้งวี่ทั้งวัน
ผมจับรถไฟจาก Geneva มาลงที่ใจกลางประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของบ้านเมืองในสมัย Medieval Era Luzern ครับ

ระหว่างทาง ผมได้เริ่มเห้นหิมะขาวโพลนเป้นระยะๆ ยิ่งรถไฟแล่นไปไกลเท่าไร ก้เริ่มเห็นหิมะ มากขึ้นๆเท่านั้น แต่ในใจผม ยิ่งเห้นหิมะ เท่าไหร่ ก้ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นทุกขณะ หนาวทั้งกายหนาวทั้งใจ

เมื่อมาถึง Luzern สิ่งที่ไม่อยากจะเจอก็ต้องเจอ นั่นคือบรรยากาศที่แสนจะหนาวเหน็บ เมฆหมอกปกคลุมทุกบริเวณ มีก็เพียงบางขณะที่พอเห็นแสงอาทิคย์ทอดผ่านทะลุกลุ่มเมฆมายังทะเลสาบเบื้องล่าง

ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมอากาศหนาวเย็นเพียงหนี ในทะเล ฝูงนกฝูงหงส์ ถึงไม่หนาวกันบ้างเลย มันต่างว่ายวนไปวนมาดูผู้คนที่สัญจรด้านบน

ที่ที่แรกที่เด่นที่สุดในเมืองลูเซิน คือ สะพานไม้เก่าแก่กว่าพันปี Chapel Bridge นั่นเอง สะพานนี้แม้จะได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้งหลายครา แต่ความเก่าและคลาสสิก ยังมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย

ผมเคยมายืนอยู่ตรงนี้เมื่อ ห้าปีที่แล้ว

น่าแปลกใจที่สะพานแห่งนี้ ได้เรียกวันเวลาและความทรงจำเก่าๆของผมที่มีมาแล้วกว่าครึ่งทศวรรษ
พอผมยืนอยู่บนสะพาน ผมกลับจำภาพที่เคยเดินข้ามสะพานนี้กับครอบครัว กับกลุ่มทัวร์ที่มาเที่ยวด้วยกัน นึกถึง ฟองดูมื้อแรกที่มาสวิสเซอร์แลนด์ นึกถึง นาฬิกาเรือนแรกที่ซื้อที่นี่ นึกถึงมีดพกที่เคยซื้อไว้ เมื่อวันวาน

มันเหมือนความทรงจำทั้งหมดของผมถูกเก้บไว้ในลิ้นชัก และถูกแช่แข็งด้วยหิมะเก้บไว้ที่เมืองนี้ รอวันนี้ ที่ผมได้กลับมาอีกครั้ง และ เปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำ และทันใด ภาพอดีตก็พรั่งพรูสู่ตัวผม อย่างไม่ทันตั้งตัว

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองคือ เมืองนี้เล็กมาก และมีส่วนเมืองเก่าที่ไม่ให้รถเข้าสัญจร ดังนั้น ตรอกซอกซอยต่างๆถึงมีความน่ารัก และ มีเสน่ห์อย่างที่หาที่ใดเหมอืนไม่ได้ง่ายนัก

ผมเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความหนาว สองเท้าก็ย่ำหิมะไปเรื่อยๆ ใจก็โลดแล่นไป พร้อมจะเก้บเอาความทรงจำในวันนี้ให้ได้มากที่สุด ก่อนจะยัดเข้าใส่ลิ้นชัก แล้วรอไว้วันหน้าที่จะได้กลับมาเยือน

จุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องไปเมื่อมาเมืองนี้นั่นคือ อนุสาวรีย์สิงโต ที่นี่ผมก็เคยมาแล้ว มาอีกที มันก้ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงไป จะเปลี่ยนก็แค่ บ่อน้ำด้านล่างของสิงโต ที่ผมเคยมาโยนเหรียญอธิษฐานในอดีต ได้กลายเป้นผืนน้ำแข็งแล้ว

พอตกเย็น ผมเดินเล่นในบริเวณเมืองเก่าอีกรอบ เดินเพลินไปเรื่อยๆ ท้องฟ้าก็อำลาพระอาทิคย์ และ เตรียมต้อนรับพระจันทร์ เพื่อมาทำหน้าที่ส่องแสงสว่างในยามราตรี

Luzern ในเวลานี้ ช่างเงียบสงบดีนัก
ร้านรวงพากันปิดหมด ได้แต่เพียงเปิดไฟหน้าร้าน แสดงสินค้าของร้านตนเท่านั้น
ผมเดินข้ามสะพานไม้อีกครั้ง เพื่อกลับไปยังโรงแรม

ชายวัยกลางคนคนนึงเพิ่งเดินผ่านตัวผมไปอย่างรีบเร่ง....
คนเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่มีใครอื่นอีกเลยบนสะพานแห่งนี้ นอกจากผม

ผมหยุดอยู่กลางสะพานและเก็บเอาภาพทะเลสาปลูเซินไว้ครั้งสุดท้ายก่อนแสงอรุณในวันใหม่จะขึ้นมาทักทาย

บรรยากาศ ณ วินาทีนี้ช่างสงบสงัดนัก ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงลมหนาวที่พัดผ่านมาเป้นระยะๆ
และเสียงกระแสน้ำไหล ผ่านสะพานไปตามทิศทางของมันอย่างช้าๆ

แล้วบรรยากาศอย่างนี้ ก็ทำให้ผม
อดคิดในใจไม่ได้ว่า

"หรือบนสะพานไม้เก่าแก่แห่งเมืองแสนเสน่ห์แห่งนี้
จะมีเพียงแค่สองเท้าคู่นี้ ที่เหยียบย่ำมันอยู่เท่านั้น"







Create Date : 06 เมษายน 2549
Last Update : 8 ธันวาคม 2554 17:46:58 น.
Counter : 486 Pageviews.

16 comments
  
ชอบบรรยากาศที่เล่าผ่านตัวอักษรเหล่านี้ครับ
ชอบสวิสมากๆอากาศดี วิวสวย
โดย: Zantha วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:9:55:17 น.
  
ชอบจัง
คุณเล่าได้เห็นภาพ
ทั้งภาพทั้งเพลง
บล็อกนี้โรแมนติคจัง..

เดี๋ยวกลับไปเก็บบล็อกอื่นๆก่อน...
สวัสดีนะคะ
โดย: prncess วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:10:07:05 น.
  
ไม่ได้เที่ยวไหนเลยคับ อาศัยมาอ่านแล้วจินตนาการตาม
โดย: 90210 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:11:22:21 น.
  
แวะผ่านมาทักทายกันในเช้าวันใหม่ครับ

ชอบมากๆเลยเข้ามาดูอีกรอบ ประทับใจ มีความสุขที่ได้มาเห็น
โดย: ตี๋น้อย IP: 221.218.141.31 วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:7:08:32 น.
  
แวะมาเที่ยวด้วยค่ะ ดูมิวสิคเพลินไปเลยค่ะ
โดย: jeab&michelle วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:17:54:24 น.
  
จขบ in love แหงมๆ
โดย: แฟนพี่บีม วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:19:30:35 น.
  
เป็นหนุ่มน้อยที่มีอารมณ์สุนทรีจริงๆค่ะ
โดย: parachute วันที่: 9 เมษายน 2549 เวลา:7:33:17 น.
  
วีดีโอคลิ้ปทำดีจัง โรแมนติกมาก ๆ นะ แล้วก้อเพลงเพราะจริงๆ ด้วย...

ขอแอ้ดไว้ใน friend's blog นะคะ
โดย: เพนกวินช่างคุย วันที่: 9 เมษายน 2549 เวลา:13:42:43 น.
  
แวะมาเป็นเพื่อนเหงาคับ

อ่านแล้ว.. มันจิ๊ดๆ หัวใจ ไงไม่รุ

โดย: ชื่อ เทน นี่แหละ IP: 124.120.163.239 วันที่: 10 เมษายน 2549 เวลา:9:16:48 น.
  
สวัสดีวันปีใหม่ไทยจากจีนแดนไกล นำความ สดชื่นสดใส แข็งแรง ร่ำรวย ราบรื่น มีโชคมีลาภ ถึงคุณและครอบครัวตลอดไปน๊ะครับ
โดย: Zantha วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:14:01:04 น.
  

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
โดย: parachute วันที่: 14 เมษายน 2549 เวลา:11:54:19 น.
  
สุขสันต์วันสงกรานต์ค้าบ
โดย: ตี๋น้อยคับ วันที่: 17 เมษายน 2549 เวลา:3:37:51 น.
  
มีตอนต่อไหมครับ
โดย: Zantha วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:7:17:21 น.
  
hello youngboi..sa by d nakub,beautiful blog nakub.u r travel more than me nakub.
nxt trip to swizz i'll show u unzeen swizz nakub not tourist place but more exciting..eh eh
โดย: tom of thailand IP: 80.218.136.12 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:9:28:46 น.
  
^
^
i kinda know what kinda places you're gonna take me to. hehehe
โดย: coombe lane's guy IP: 194.82.121.38 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:22:02:59 น.
  
จอยเพิ่งกลับมาจากอังกฤษเหมือนกันคะ

จอยไปเที่ยวมา

หนุกจนไม่อยากกลับไทยโล้ยยยยยยยยยยยยยยยยฃ
โดย: joinping วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:26:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

coombe lane's guy
Location :
Bangkok,  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



I ain't easy to find, I am one of a kind!