Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
12 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
Munich : มิวนิค

นานๆ ที จะเจอชื่อหนังที่แปลออกมาเป็นภาษาไทยแล้วไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปจากชื่อภาษาอังกฤษมากนัก เหมือนอย่าง "Munich : มิวนิค" ก็ได้ความรู้สึกแปลกๆไปอีกแบบ เพราะเรานึกว่า จะเป็น "มิวนิค แผนล้างสังหารโลก" อะไรประมาณนี้นะ

ได้ดูตัวอย่างหนังเรื่องนี้มาหลายครั้งเหมือนกัน ดูๆ แล้วเหมือนจะเป็นหนังเครียดๆ กะว่าจะไม่ดูแล้วหละ เพราะไม่ชอบดูหนังเครียดๆ แต่ไม่ค่อยมีหนังเรื่องอะไรให้ดูเท่าไรช่วงนี้ ก็เลยไปดูกัน คราวนี้ไปดูที่เมเจอร์ที่เซ็นทรัลเวิร์ด ปกติที่นี่จะฉายโฆษณาและตัวอย่างหนังนานกว่า 30 นาที เราก็เลยหาอะไรทานก่อนเข้าโรง และเข้าช้าไปประมาณ 20 นาที เพราะไม่อยากดูโฆษณานานๆ ผลปรากฏว่าพลิกล็อก เพราะคราวนี้หนังฉายเลย ทำให้เราพลาดตอนแรกๆ ไปนิดนึง เสียดายเหมือนกัน เมเจอร์นะเมเจอร์ ไม่น่าทำเราเลย







ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน ปี 1972 (ยังไม่เกิดเลยเรา) หรือ กันยาทมิฬ ที่มีการจัดกีฬาโอลิมปิกที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันตะวันตก ได้เกิดเหตุการณ์ช็อกโลกโดยที่นักกีฬาของอิสราเอล 9 คน โดนกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์หัวรุนแรงลักพาตัวไป หลังจากที่มีนักกีฬา 2 คน โดนสังหารไปก่อนหน้าแล้ว ผ่านไป 21 ชั่วโมง.......ก็มีประกาศออกมาแจ้งว่า ทั้งหมดเสียชีวิต.........

และภารกิจแก้แค้นโดยหน่วยราชการลับของอิสราเอลหลังเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้น นำโดย แอฟเนอร์ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหนุ่ม ที่ถูกเรียกตัวมาให้เป็นหัวหน้าหน่วยเพื่อรับงานปฏิบัติภารกิจลับที่ไม่สามารถบอกใครได้ แอฟเนอร์ จะต้องทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง รวมทั้งภรรยาที่กำลังตั้งท้องไว้ ก่อนที่เค้าจะไปทำตามใบสั่งที่ได้มา รายชื่อทั้ง 11 ราย เป็นภารกิจเค้าที่จะต้องปฎิบัติให้สำเร็จ โดยมีเงินในกล่องนิรนามที่ธนาคารสวิสเป็นตัวช่วย และทุกงานจะต้องมีใบเสร็จ...............

แอฟเนอร์ มีลูกทีมอีก 4 คน ที่ต้องร่วมมือกัน ภารกิจแรกสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยที่มองเหมือนว่าไม่ค่อยเป็นมืออาชีพเท่าไร โดยมี สตีฟ เป็นคนขับรถ, ฮานส์ ผู้มีความสามารถในการปลอมแปลงเอกสาร, โรเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด และ คาร์ล ผู้เงียบขรึม ซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดร่องรอยของคนอื่นๆ

เมื่อภารกิจแรกผ่านไปก็ต้องมีภารกิจต่อ ๆไป แอฟเนอร์จะสามารถพาลูกทีมผ่านพ้นภารกิจต่อๆ ไปได้สำเร็จไหม ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มสงสัยเค้ามั้ย แล้วภารกิจนี้จะช่วยให้อิสราเอลมีสันติได้ไหม ทั้งแอฟเนอร์และลูกทีมเริ่มมีความหวาดหวั่นและความกลัวกันไป เค้าจะต้องต่อสู้ทั้งจิตใจตัวเอง ลูกทีม และคนฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งคนที่ให้ภารกิจเค้าด้วย...........มิวนิค จะให้คำตอบเอง

หนังเรื่องนี้เราว่าไม่ค่อยกดดันเราเท่าไร เพราะเหมือนดูไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดไคลแม็ก ทีแรกนึกว่าจะเครียดซะอีก แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล่ามากกว่า แล้วก็ไม่กล้าล้วงลึกอะไรมากเท่าไร รายชื่อ 11 คนที่ถูกตามสังหาร เราก็ไม่ค่อยรู้ต้นเหตุว่าทำไมอิสราเอลจึงเลือกรายชื่อเหล่านี้ หรือทำไมต้องเลือกแอฟเนอร์มาทำภารกิจนี้ ทำไมต้องลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อการณ์นี้

อย่างที่ในเรื่องบอก เมื่อคนแรกตายไป ก็จะมีตัวตายตัวแทนที่โหดและแกร่งกว่ามาแทนเสมอ ก็เปรียบเทียบเหมือนกับประเทศเรา ปากก็บอกกันว่าไม่เอานายกคนนี้เพราะโกง ไม่เอาสส คนนี้เพราะโกง พอคนนี้ออกไป คนใหม่ก็เข้ามาแทนที่ และโกงมากกว่า เหอๆ เกี่ยวกันไหมเนี่ยเรา

เข้าเรื่องหนังต่อดีกว่า ......เราชอบการนำเสนอบางอย่างในเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น ฉากที่มีการแจ้งรายชื่อนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้ง 11 คนที่เสียชีวิตในรายการข่าวทีวี สลับไปกับการแจ้งรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องบงการในแผนมิวนิคที่จะต้องโดนสังหารต่อไป ทำให้ได้อารมณ์ไปอีกแบบ 11 คนแรกตายอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และ 11 คนหลังจะต้องตายแบบรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป

มีใครชอบอะไรในเรื่องนี้บ้าง แต่เราว่ามันยังไม่เข้มพอที่จะได้หนังออสการ์นะ อ้อ.......แล้วก็จบแบบ งง อ่ะ


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2549 21:49:26 น. 10 comments
Counter : 602 Pageviews.

 
ดึกๆ ยังอุตส่าห์มา update blog อีก ขยันจิงๆ ไม่ค่อยเป็นขาหนังออสก้าอ่า เลยเฉยๆ กะเรื่องนี้ ท่าทางจะเป็นหนังเรื่อยๆ เจงๆ ด้วย เหอๆๆ ดีนะ ยังไม่ไปดู


โดย: Tazz IP: 210.86.220.206 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:38:38 น.  

 
แอฟเนอร์ น่าจะใช้ death note เนอะ
สะดวกสบายดี ไม่ต้องเหนื่อยด้วย

ฆ่าคนแล้วจะเอาใบเสร็จที่ไหนอ่ะ?
ใครจะออกให้รึ? อยากรู้จัง?ๆๆๆ



โดย: เหมือนจะไม่คิดถึง IP: 202.5.83.65 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:23:35:21 น.  

 
ชอบที่หนังไม่บีบคั้นคนดูมากนักนะคะ ดูไปเรีอยๆ เหมือนการติดตามชีวิตของตัวเอก ดูตัวเอกค่อยๆ เปลี่ยนแปลง

ชอบสารของหนังเรื่องนี้ค่ะ

แต่ดูเหมือนสปีลเบิร์กอยากจะให้คนดูคิดเอง จึงส่งตอนจบไม่สุด
คืออยากให้คนดรู้สึกว่า "แล้วจะเป็นยังไงต่อ"


โดย: rebel วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:6:56:32 น.  

 
ธรรมะสวัสดีวันมาฆบูชาครับ..

ว้าว รอบบนี้หนังเครียดแหะ เท่าที่ตามประวัติมาเหมือนกัน
เขาว่ากันว่า ..จุดพีคที่สุดของ สปริลเบริคผ่านมาแล้วกับเรื่องซิลเดอร์ ลิสต์ครับ พอมาทำเรื่องนี้เลยเกิดการเปรียบเทียบกัน เหมือนการเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ อย่างที่คุณหลังจอว่านั่นแหละ เขาสร้างปมตามเหตุการณ์จริง แต่ว่าในความเป็นจริงกลับสู้หนังเรื่องอื่นไม่ได้ในเรื่องของการดึงดูดใจนี่แหละ

ว่าไปออสการ์นี่เขาอิงตามยุคสมัย ปีก่อนเน้นไปที่อัตชีวประวัติส่วนบุคคล ที่เขาได้ๆ กันนะครับ อย่างเรย์ ที่ได้นักแสดงนำดาราฝ่ายชายไป นั่นก็แสดงแทนนักร้องพิการทางสายตา น่าประทับใจมาก

มาปีนี้เวทีออสการ์ก็ไม่ได้เน้นไปในแนวของ Minich เลย อุอุผมว่าหนังเกย์ อย่าง Brokeback mountain ยังเป็นที่โจษขานมากกว่า อาจเป็นเพราะด้วยฝีมืออั้งลี่ด้วยมั้งครับ แก้เก่งมากก คุณหลังจอคงได้ดูหนังก่อนผมเสียอีกเผลอๆที่นี่อาจไม่ได้ดูอีกด้วย หนังออสการ์อ่ะ ถ้าไม่แนวตลาดจริงผมคงไม่ได้ชื่นชม ถ้าเป็นแนวบู๊แหลก หรือขำกลิ้งนั่นแหละ ขายดิบขายดี (ก็คนลงทุนเขาอยากได้ตังก์เรานี่เนอะ..เฮ้อ)

Munich ยังถือว่าเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ เหมือนความเป็นยิวของลุงสปิวเบอร์คจะฟุ้งซ่านขึ้นมาตอกย้ำสถานการณ์ตรึงเครียดของอิสลาเอลกะปาเลสไตน์ ยิ่งช่วงนี้กระแสอิสลามต่อต้านตะวันด้วยภาพล้อการ์ตูนศาสดามูฮัมหมัด ซึ่งเขาทำน่าเกลียดจริงๆ ถ้ามาทำกับพวกเราชาวพุทธเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน อย่าง..กรณียัยไป่หลิง ไปโน้มพระศอพระพุทธรูป โอบกอด ทำอย่างไม่เคารพเลย ดูภาพคราวแรกก็ตกใจ เฮ้ยบ้าไปกันใหญ่แล้ว ศรัทธาความเชื่อและศาสนาเป็นอีกเรื่องหนึ่งมีละเอียดอ่อนมากครับห้ามไปยุ่งเกี่ยวเลย

อุอุเห็นคุณหลังจอโม้เพลินไปเรื่องนายกได้ เราเลยเผลอตาม ไม่รู้เป็นไงเนอะยิ่งคุยยิ่งเข้าตัว ไม่อาว

สงสัยหลังประกาศออสการ์ผมคงได้ดูหนังพวกนี้อ่ะครับ


โดย: จิรัติการ IP: 58.147.117.108 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:21:38 น.  

 
โดยส่วนตัวไม่เข้าใจในตัวเนื้อเรื่องเท่าไหร่นักว่าหนังต้องการจะสื่ออะไร แต่เท่าที่ดูแล้ว ความรู้สึกของตัวเองคือ หดหู่ ชอบตอนสุดท้ายที่พระเอกบอกว่าเมื่อเราฆ่าคนหนึ่ง ก็จะมีคนที่เก่งกว่าขึ้นมาแทนที่ แล้วก็ต้องฆ่ากันไปไม่รู้จบ

ดูจบแล้วสิ่งที่ชอบที่สุดคือภาพ สวยดี ชอบภาพประมาณนี้


โดย: omo IP: 203.209.78.74 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:51:31 น.  

 
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ





โดย: จิรัติการ IP: 58.147.112.239 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:40:45 น.  

 
งงตอนจบตรงไหนอะคะ?


อยู่ในระดับชอบ แต่ไม่ถึงกับรักค่ะ


เราว่าเรื่องนี้สปีลเบิร์กเป็นกลางดี (ในระดับหนึ่งน่ะนะคะ)


ไม่มีใครผิด แต่วิธีการผิด


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:44:24 น.  

 
เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูอ่ะ เลยยังไม่อ่าน
รู้สึกว่าหนังมันน่าจะเครียด เลยเก็บไว้ก่อน
เด๋วดูแล้วค่อยกลับมาอ่าน นะนะ


โดย: ต่าย* (Nessa ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:36:29 น.  

 
คิดถึงนะ...


โดย: เหมือนจะไม่คิดถึง IP: 202.5.82.122 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:14:35 น.  

 


โดย: Nunobi 8-) IP: 58.136.76.15 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:20:28:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลังจอ
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผ่านมาเพื่อผ่านไป โลกยังกว้างทางยังไกล ครั้งหนึ่งใช่ไหมที่เรารู้จักกัน
Friends' blogs
[Add หลังจอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.