ชายมะกันฟ้องหมอ วินิจฉัยผิดว่าเป็นเอดส์-กินยามากว่า 9 ปี
อดีตทหารผ่านศึกวัย 43 ปี จากอเมริกาฟ้องร้องค่าเสียหายจากโรงพยาบาล คลินิก และแพทย์อีกหลายรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวินิจฉัยโรคของเขา โดยทั้งหมดวินิจฉัยว่าเขาเป็นเอดส์ ซึ่งมันบั่นทอนจิตใจ ทำให้เขาต้องกินยาและรับการรักษาที่ไม่จำเป็นมาถึง 9 ปี ! เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์รายงานถึงกรณีการฟ้องร้องของนายบ็อบบี้ รัสเซลล์ ทหารผ่านศึกชาวอเมริกันจากรัฐเคนตักกี วัย 43 ปี ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงฟาเย็ตต์ เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม เรียกร้องค่าเสียหายจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเคนตักกี บลูกลาสแคร์คลินิก กรมอนามัยแขวงฟาเยตต์ และแพทย์ผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย ที่ผิดพลาดต่อการตรวจสุขภาพและผลการตรวจเลือดของเขา โดยผลตรวจในปี 2004 บ่งว่าเขาผลเลือดเขาเป็นบวก คือติดเชื้อเอชไอวี
แม้จะบ็อบบี้จะทักท้วงในตอนนั้นว่าผลการตรวจเลือดครั้งก่อนหน้าของเขาก็ยังเป็นปกติดี และแม้แพทย์จะส่งเขากลับไปตรวจเลือดอีกครั้ง โดยผลตรวจคราวนี้ตอบกลับมาในช่วงระหว่างการรักษาตัวว่าผลเลือดเขาเป็นลบ แต่กลับไม่มีคนไหนสนใจจะอ่านผลวินิจฉัยครั้งที่สองอย่างละเอียดสักครั้ง ในทางกลับกัน แพทย์ไม่รอช้าส่งตัวเขาเข้ารับกระบวนการรักษาทันที ทั้งกินยาต่าง ๆ ถึงวันละ 12 เม็ด ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต แนะเขาห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้ไม่ติดเชื้อ ซึ่งนั่นทำให้บ็อบบี้ตัดสินใจคบหาและมีความสัมพันธ์แต่กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ โดยตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา เขาคบหากับผู้ป่วยติดเชื้อด้วยกันอยู่ 3 ราย นอกจากนี้บ็อบบี้ยังเก็บตัวไม่ติดต่อกับที่บ้านหรือญาติ ๆ เพราะไม่ต้องการให้คนที่เขารักต้องมาเห็นเขาค่อย ๆ ป่วยทรุดโทรมลงและตายจากไป เขากล่าวว่าทุกสิ่งเหล่านี้บั่นทอนทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตเขามาก เขาถึงขนาดคิดจะฆ่าตัวตาย และได้วางแผนจัดการงานศพของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
และแล้วความจริงก็เริ่มปรากฏว่าเขาอาจไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวีจริงอย่างที่โรงพยาบาล คลินิก และแพทย์หลาย ๆ รายยืนยัน เมื่อเขาต้องยื่นหลักฐานต่อกรมสวัสดิการทหารเพื่อขอรับสวัสดิการก่อนที่จะโดนตัดออกจากบัญชี เนื่องจากทางกรมระบุว่าไม่สามารถมอบสวัสดิการส่วนนี้ให้ได้ เพราะไม่ปรากฏว่าเขาเป็นจะเป็นผู้พิการหรือผิดปกติในทางใดทางหนึ่งอันจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ บ็อบบี้ผู้คิดว่าตนสมควรได้สวัสดิการเพราะเป็นเอดส์ จึงได้กลับมาย้อนดูหลักฐานทางการแพทย์ของตนอีกครั้งและได้พบว่า นอกจากการผลตรวจครั้งนั้นที่บอกว่าเขามีเลือดบวกแล้ว ยังไม่มีแพทย์คนไหนที่ส่งตัวเขาไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างละเอียดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นทำให้หลักฐานการแพทย์ประกอบการขอสวัสดิการของเขาไม่สมบูรณ์นั่นเอง
เมื่อประกอบกับผลตรวจการตรวจเลือดตามหลังในครั้งที่สองที่ระบุว่าเขาปกติแข็งแรงดี บ็อบบี้จึงเชื่อมั่นว่าตนจะต้องถูกวินิจฉัยโรคผิดแน่ ๆ และได้เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สภาพจิตใจเขาย่ำแย่ที่สุดในชีวิต ถอยห่างจากครอบครัวที่เขารัก แถมยังเอาตัวเองไปเสี่ยงต่อติดเชื้อเอชไอวีจริง ๆ ด้วยการคบหามีสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ร่างกายก็ทรุดโทรมลงเพราะกินยาจำนวนมากเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ป่วยอะไรเลย
อย่างไรก็ดี ในตอนนี้บ็อบบี้วางแผนจะเข้ารับการตรวจเลือดและสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยแพทย์ผู้มีชื่อเสียงนอกสหรัฐอเมริกา เพื่อรับผลการตรวจที่ถูกต้องซึ่งเขาคิดว่าควรจะได้มันมาตั้งแต่เมื่อ 9 ปีที่ผ่านมาแล้ว
(เครดิต: kapook.com)
ไอศกรีมแบบแนวๆรส เฟซบุ๊ก เอาใจคนรักโซเชียล
ในปัจจุบัน เฟซบุ๊ก กลายเป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ผู้คนต่างใช้เวลาไปกับ เฟซบุ๊กอย่างมากจนทำให้คนขายไอศกรีมที่ โครเอเชีย คิดสร้างสรรค์ไอศกรีมรส เฟซบุ๊ก นี้ขึ้นมาซึ่งเขาใช้ไอศครีมสีขาว มาผสมกับไซรัปสีน้ำเงิน ให้ดูสวยงามและคล้ายกับสีของ เฟซบุ๊ก ดูน่าลองชิมสักคำเลยทีเดียว
(เครดิต: kapook.com)
@ น่าจะมีรส Line หรือ ig ด้วยน่ะเพื่อนๆว่าม่ะ หรือใครอยากจะเพิ่มรสอะไรอีกดี>>>
Create Date : 07 กันยายน 2556 |
Last Update : 7 กันยายน 2556 9:54:22 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1565 Pageviews. |
|
|
อยากชิมไอศกรีมเฟสบุ๊คจังว่าจะรสชาดยังไงหน๊อ..