โบรกแนะเก็งกำไร 19 หุ้นเด่น ดัชนีฟื้นตัวต่อระยะสั้น ตลาดทั่วโลกสดใส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.43 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก โบรกคาดดัชนีฟื้นตัวต่อในระยะสั้น หลังความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปเริ่มผ่อนคลายลง ขณะที่วานนี้ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐปิดพุ่งแรงต่อเนื่อง แนะเก็งกำไร 19 หุ้นเด่น ได้แก่ PTTCH ,DTAC, PS ,BANPU, KBANK , LPN, SPALI, AH, TISCO, LH, LANNA, TICON, STEC, TCAP, SAT, BWG, BH, TVO และ AOT เป็นต้น
บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ฟื้นตัวต่อในระยะสั้น แต่ยังน่าติดกรอบ 1040-1050
ภาพรวมตลาดดูดีต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังการประกาศความร่วมมือกันระหว่างธ.กลางหลายแห่ง อาทิ Fed, ECB, BoJ ในการปล่อยกู้ดอลลาร์ระยะ 3 เดือน แก่ธพ.ในยุโรปเพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเงินประสบภาวะชะงักงัน ส่งผลให้บรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้น ตัวโดยเฉพาะในยุโรปที่ปิดบวกกัน 2-3% ส่วนดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า186 จุด มอง SETI ในวันนี้จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกได้ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี คาดกรอบการปรับขึ้นจะยังติดแถว 1040-1050 ท่ามกลางความเปราะบางของตลาดจากสภาพปัญหาหนี้ยุโรป และความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังไม่คลี่คลาย
กลยุทธ์การลงทุน: อาจเข้าเก็งกำไรระยะสั้นได้ แต่เน้นการทยอยขายในช่วงดีดตัวของตลาดมากกว่า แนวต้าน : 1042-1048 แนวรับ : 1020-1010
การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-50% : เงินสด 75-50%
ถือต่อในพอร์ต:PTTCH
หุ้นที่ปรับออก : TISCO, AH, BGH, IT
หุ้นที่ปรับเข้า :
1. DTAC เก็งกำไร FV (under review) รับข่าว 3G เชิงพาณิชย์
2. PS เก็งกำไร FV ปี 55 = 21.40 บาท ลุ้นดีดตัวตามภาพรวม+รอมาตรการบ้านหลังแรก
3. BANPU เก็งกำไร FV = 866 บาท ลุ้นดีดตัวฯ + ราคาถ่านหินทรงตัวสูง
4. KBANK เก็งกำไร FV = 176.60 บาท แนวโน้มเติบโตสินเชื่อดีต่อเนื่อง
ทดสอบ 1,050 จุด...น่าจะเล่นได้ถึงต้นสัปดาห์หน้า
KGI มองหุ้นไทยวันศุกร์ปรับขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้าน 1,050 จุด หลังจาก ธ.กลางยุโรป ประกาศว่าจะร่วมกับ ธ.กลางของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ และอังกฤษ เพื่อปล่อยกู้สกุลดอลล่าร์ฯ อย่างไม่จำกัดจำนวนในช่วงไตรมาส 4/2554 ทั้งหมดสามรอบ ซึ่งข่าวนี้ได้ลดแรงกดดันต่อธนาคารในยุโรปในระยะสั้น หลังจากหลายธนาคารเผชิญข่าวลือเรื่องขาดสภาพคล่องและการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือและเมื่อผนวกกับแนวโน้มที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดถัดไปจาก IMF-EU เรามองว่าในสัปดาห์หน้าข่าวสารในยุโรปจะนิ่งขึ้น กดดันตลาดน้อยลง และนักลงทุนจะกลับไปสนใจที่ฝั่งสหรัฐฯ แทนในสัปดาห์หน้า นักลงทุนควรติดตามการประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ในวันที่ 20-21 ก.ย. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI เชื่อว่าจะไม่มีการประกาศมาตรการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม (QE) เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แย่มากขนาดนั้น และเงินเฟ้อยังเป็นความเสี่ยง (ล่าสุดเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น0.4% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.2% จากเดือนก่อนหน้า) อย่างไรก็ดี การเก็งกำไรของตลาดก่อนหน้าการประชุมดังกล่าว ผนวกกับสถานการณ์ในยุโรปที่ดีขึ้นในระยะสั้นๆ น่าจะส่งผลให้ทางขึ้นของ SET มีต่อเนื่องไปยังต้นสัปดาห์หน้า
ส่วนปัจจัยในประเทศ เมื่อวานนี้ผู้ว่า ธปท. ชี้ว่าแม้ความเสี่ยงเงินเฟ้อในประเทศยังอยู่ แต่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจภายนอกมีสูงขึ้นเช่นกัน และดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ยลบด้วยเงินเฟ้อ) ไม่จำเป็นต้องเป็นบวกในทุกๆ ช่วงเวลา ซึ่งเราตีความว่ามีโอกาสสูงที่ กนง. จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้วในช่วงที่เหลือของปี 2554 ซึ่งเมื่อผนวกกับความเชื่อมั่นในประเทศที่ยังดี ก็จะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มบ้านและที่ดิน กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์
กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้ง เราได้แนะให้กลับเข้าตลาดเมื่อวานนี้ และแนะให้ถือพอร์ตหุ้นใหญ่ๆ ไว้ต่อจนถึงต้นสัปดาห์หน้า ส่วนพอร์ตลงทุน เราแนะนำให้ถือหรือซื้อเพิ่มในหุ้น Domestic plays หุ้นที่เราชอบได้แก่ KBANK*, DTAC*, LPN, SPALI, AH และ TISCO* ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ให้ชะลอไว้ก่อน เนื่องจากเราคาดว่าหลังประชุมเฟดวันที่ 21 ก.ย. อาจมีข่าวลบจากต่างประเทศเข้ามาอีกได้
บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ยังเน้นเล่นสั้นตามรอบต่อไปก่อน
ดังนั้นตลาดบวกขึ้นจึงยังไม่น่าไล่ซื้อ!!
แนวโน้ม ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงสดใส หลังจากสถานการณ์หนี้ในยูโรโซนเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งจากการที่ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนียืนยันจะไม่ปล่อยให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งธนาคารกลางยุโรปยังประกาศแผนการที่จะร่วมกับธนาคารกลางอื่นๆ ในการทำให้การกู้ยืมเงินดอลลาร์ของสถาบันการเงินในยูโรโซนทำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ในวันนี้ SET ก็ยังมีโอกาสที่จะขยับบวกต่อเนื่องได้ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอ่อนแอเกินคาด ขณะที่สถานการณ์หนี้สินในยูโรโซนก็ยังต้องติดตามต่อไปว่าจะคลี่คลายได้มากขึ้นจริงหรือไม่ ทำให้ FSS ยังคงคาดว่าการขยับขึ้นของ SET ยังมีกรอบที่จำกัดอยู่ และยังมีแนวโน้มที่จะกลับไปแกว่งตัวลงอีกครั้งได้ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศก็ยังคงมียอดขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังคงอ่อนค่าลงอยู่ ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังแนะนำเป็นเพียงการเข้าเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบไว้ก่อน
กลยุทธ์: แนะนำเพียงเทรดดิ้งตามรอบ (ลงซื้อ-ขึ้นขาย) หุ้นน่าสนใจเช่น LPN, LH, LANNA, TICON, STEC, TCAP, TISCO, SAT, BWG, BH, TVO และ AOT เป็นต้น
Create Date : 16 กันยายน 2554 |
Last Update : 16 กันยายน 2554 11:22:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 359 Pageviews. |
|
|
|
| |