หุ้นเทคนิคเด่น ภาคบ่าย บล.ฟิลลิป บล.เอเซียพลัส
PTTEP 154.50 ยืนยันว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA(5) วันได้ตัด EMA(10) วันขึ้นมาได้ และทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้น ประกอบกับ Indicator ทุกตัวให้ค่าสัญญาณบวก แนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยในระยะสั้นมีแนวรับ 153.00-152.00 บาท และมีแนวต้านที่ 160.00-163.00 บาท Cut Loss หากปิดต่ำกว่า 150.00 บาท
PTT 296.00 เส้น EMA(5) วัน ตัด EMA(25) วันขึ้นมา เป็นสัญญาณเก็งกำไรระยะสั้น แนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยในระยะสั้นมีแนวรับ 294.00-292.00 บาท และมีแนวต้านที่ 300.00-310.00 บาท Cut Loss หากปิดต่ำกว่า 287.00 บาท
ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย บล.เอเซียพลัส
เมื่อก่อนน้ำขึ้นให้รีบตัก เดี๋ยวนี้น้ำขึ้นขอให้รีบลด สถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง คาดกระทบ GDP ไปอีก1-2 ไตรมาส ถ่วงให้ SET ผ่าน 978 จุดยาก กลยุทธ์ให้รอตลาดปรับฐานแล้วเก็บ Global Plays TOP, PTT, IVL, PTTGC และ Domestic Plays ที่ได้รับผลกระทบน้อย CPF, GFPT, SCC, SCCC, DCC, RATCH, TTW, MAKRO, BIGC
สำรวจตลาด :
*ช่วงบ่ายดัชนีหุ้นยุโรปมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากศุกร์ที่ผ่านมาที่ดัชนีขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 10 สัปาดห์ ตามความคาดหวังว่าผู้นำเยอรมันและฝรั่งเศษ จะเปิดเผนแผนแก้ปัญหาหนีสาธารณะในยุโรปอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดแนวทางที่ยั่งยืนในการแก้ไขปัญหากรีซ, การตกลงกันในเรื่องแนวทางการเพิ่มทุนธนาคารพาณิชย์ในยุโรป (ทั้งในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงินเช่น ให้กู้ยืมและช่วยเหลือเพิ่มทุน ซึ่งล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องมีการตัดบัญชีหนี้สูญของธนาคารพาณิชย์ที่ถือพันธบัตรกรีซ หลังเจ้าหน้าที่ของ EU ออกมาเผยว่า ขณะนี้กำลังมีการพิจารณาให้เจ้าหนี้เอกชนของกรีซยอมรับการปรับลดมูลหนี้ของกรีซลงราว 30-50 %) และการนำเสนอแผนเร่งรัดการประสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในยูโรโซน ในการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป 23 ต.ค.54นี้ ประเด็นนี้น่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นเอเซียในวันนี้โลกสดใส ในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้น Global Plays อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยอาจขยับขึ้นไม่ได้มากนัก เพราะยังมีปัญหาภายในจากวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจบลงง่ายๆ
* สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้นำมาซึ่งความสูญเสียต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ผลกระทบจากความเสียหายจากหลายภาคส่วน จะนำมาซึ่งการปรับลด GDP Growth และประมาณการกำไรในภาค Real Sector ลง ซึ่งนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้กล่าวว่า อุทกภัยครั้งรุนแรงในขณะนี้เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่อ GDP ประมาณ 1.0-1.7% และอาจจะมีผลกระทบสูงกว่านี้ได้หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อ
* ล่าสุดคันดินกั้นน้ำที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครได้แตกลงแล้ว และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้มีการออกประกาศให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร หยุดการเดินเครื่องจักรทุกชนิด และหยุดสายการผลิต ส่วนคนงานให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ ส่งผลรอบนอกตอนบนของกรุงเทพยังคงมีความเสี่ยงสูง หากน้ำทะลักจนจมนวนครและไหลบ่าออก จะลงไปท่วมสถาบัน เอไอที และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ศูนย์รังสิต ตลาดไท รวมถึงสวนนิคมบางกระดี่ที่อยู่ในส่วนล่าง และอาจลุกลามเข้าสู่พื้นที่ดอนเมือง สายไหม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมใช้มาตรการให้เฮลิคอปเตอร์นำวัสดุอุปกรณ์เข้ามาปิดรอยรั่วเป็นการเร่งด่วน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งก็ยังคงต้องติดตามและเอาใจช่วยต่อไปอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน :
*SET Index ปรับเพิ่มขึ้นเกิน 978 จุดยาก แนะรอหุ้นปรับฐานแล้วเข้าสะสม Global Plays TOP, PTT, IVL, PTTGC และ Domestic Plays ที่ได้รับผลกระทบน้อย/ไม่ได้รับผลกระทบ CPF, GFPT, SCC, SCCC, DCC, RATCH, TTW, MAKRO, BIGC
Create Date : 17 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 17 ตุลาคม 2554 14:03:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 423 Pageviews. |
|
|
|
| |