ใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิต
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
27 กันยายน 2548

เมื่อแม่ต้องกลายเปนลูกทรพี


๑.

เมื่อจำต้องกลายเปนลูกทรพี
ทำให้แม่เสียน้ำตา
แม้ว่าจะกราบกรานขอโทษ ขอโพย
แต่ก็ยังกลายเปนลูกที่ไม่ดี
อยู่นั่นเอง

..

เรื่องของเองคือ คุณยายจะทำประกันให้น้องภู
(ประกันชีวิตเส็งเคร็งที่แม่บ่ายเบี่ยงมาตลอด ตั้งแต่มีหนูขึ้นมา)
ไม่มีแม่คนไหนไม่อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก
ไม่มีใครไม่อยากสร้างหลักประกันให้ลูก

..

ไม่ว่าใครก็อยากทำได้ จัดให้ทั้งนั้น
แม่กะพ่อแว่บๆ จะทำประกันให้หนูหลายหน
แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่ได้ทำซะที
แม่คิดว่าการทำประกัน ควรมีความพร้อม
ในฐานะนกน้อยต้อยตีวิดแบบแม่กับพ่อตอนนี้
ไม่มีปัญญาแม้แต่จะทำอะไรได้
ปีละหมื่นสองหมื่น มันอาจจะเล็กน้อยสำหรับตากับยาย
หรือสายตาคนขายประกัน
แต่สำหรับเรา
เปนไปไม่ได้อย่างยิ่ง
แค่ลำพังรายจ่าย รายได้ เดือนชนเดือน เดือนล้ำหน้าไปสามเดือน
หรืออาจจะสามปี
แบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไหนจะเศรษฐกิจย่ำแย่ น้ำมันแพง
ดอกเบี้ยโหด แสนโหด
ปีหน้าหนูก็ต้องเข้าโรงเรียน ต้องเสียเงินอีกไม่รู้เท่าไหร่

..

จะต้องให้แม่กู้เงินมาส่งเบี้ยประกันด้วยหรือ

แม่บ่ายเบี่ยงการทำประกันมาหลายเจ้า
ใช่ว่าแม่จะไม่อยากทำ ไม่อยากสร้างความมั่นคง
คนที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา มีทั้งเพื่อน ญาติ คนขายประกัน
เพื่อนสนิท เพื่อนที่เคยคิดว่าสนิท
(รักจะเปนเพื่อนกะแม่อย่ามาขายประกันโดยที่แม่ไม่รีเควส)
แต่ภาระที่แม่กะพ่อมีตอนนี้มันขยับไปทำประกันไม่ไหวจริงๆ ว้อย

แม้ว่าทั้งคุณตา คุณยาย จะเคยยื่นข้อเสนอ
จะทำประกันให้หนูมาไม่รู้ต่อกี่ครั้ง
และแต่ละครั้ง มาจากตัวแทน ทั้งนั้น
มีทั้งจะทำให้ไปก่อน ปีแรก - -
(แล้วปีต่อๆไป แม่จะไปหาที่ไหนมาส่งให้หนู
อีกกี่ปี อีกกี่ชาติ กว่าจะครบยี่สิบปี)
อนาคตที่มองไม่เห็นตอนนี้แม่ตอบไม่ได้ว่าจะแบ่ง
และจัดสรรเงินที่มีรายรับเท่านี้ เพื่อเปนเบี้ยประกัน
เดือนละ สองพัน ไปได้ยังไง
ทุกวันนี้แม่ต้องส่งเบี้ยประกัน ในภาวะจำยอม
ที่ยายอีกนั่นแหละ สรรหามาให้ ตัดบัญชีมาหลายปี
ของตัวเอง หนึ่งกรมธรรม์ เดือนไม่กี่บาท
ปีนึงก็หลายอยู่ แต่ไม่เคยเบิกสักหน
เลิกก็เลิกไม่ได้ ยื้อยุด คาราคาซังอยู่ยังงั้น
ยังมีกรมธรรม์ที่ตาส่งให้รายปีอีกยี่ห้อ
แต่ก็ไม่เคยเคลมสักกะติ้ด
แม่ใช้แต่สิทธิ์ประกันสังคม เส็งเคร็ง นี่ตะหาก

..

เงินพันกว่าบาท หรือหมื่นกว่าบาท
หรับใครบางคนอาจจะดูน้อยนิด
แต่สำหรับแม่ ที่ดูะเปนภาระผูกพันระยะยาว
มันเปนไปไม่ได้เลย

..

แม่คิดว่าการเกรงใจกัน
การหัดที่จะปฏิเสธ
การพูดว่าไม่
มันไม่ได้ทำร้ายเราหรอก
หรือแม้แต่ความรู้สึกใครด้วย
คนขายหรือตัวแทนเองก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
แม่ยืนยันว่าแม่ไม่ได้เกลียดตัวแทนขายประกัน
หรือ ตัวแทนขายตรงทุกชนิด
แต่รังเกียจว่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แม่ไม่เคยเปนสมาชิก แอมเวย์ มิสตีน
เอไอเอ ไทยประกัน และอื่นๆ ที่โคตรเริ่ดในโลกนี้
แต่แม่ต้องมาข้องเกี่ยวกับไอ่พวกหน้าแหลมหน้าทนพวกนี้เสมอ
นายแน่มากที่กล้ามาขายกรู๊

๒.

แล้วดูดิ้ แม่เลี่ยง แม่หลบหลีก ไอ่พวกนี้มาตั้งนาน
จนหนูจะสองขวบแล้ว แม่ก็ไม่ได้ทำประกันสักที
ใช่ว่าแม่ไม่อยากทำนะ แม่ยืนยัน แต่แค่แม่ไม่พร้อมเท่านั้น
มาวันนึง (เย็นวาน)
คุณยายหอบเอาใบสมัครทำประกัน เอไอเอ.มา
เขียนลายมือดินสอว่า ให้แม่เซ็นต์ตรงนี้ กี่ที่ๆ
แนบเอกสาร ตรงนี้ๆ กี่ชุดๆ

แม่ก็บอกยายว่าแม่ไม่ทำ
ไม่ทำเข้าใจไหม
ยายบอกว่ายายจำเปนต้องทำ
ยายจะยอมจ่ายเบี้ยประกันให้ ปีละแค่พันกว่าบาท
(แล้วมันครอบคลุมอะไรได้เรอะ)
หัวหน้ายาย เค้าขอร้องให้ช่วยทำให้เค้าที

..

แค่นี้เอง
อินังหัวหน้าคุณยายที่โคตรพ่อโคตรแม่งจะเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว
รายได้ลำพังเงินเดือนข้าราชการไทยที่โกงกินไม่พอ
แล้วต้องมาเบียดเบียนลูกน้อง ที่อยู่ในภาวะจำยอม
ใต้บังคับบัญชาอีกไม่รู้กี่คน
เพียงเพื่อมันจะทำยอด

..

บ้าไปแล้ว

ยายบอกว่าจะยอมเสียเบี้ยให้ ปีละแค่พันกว่าบาท
(ภาระผูกพันอีกยี่สิบปี ได้แสน)
เงินแสนดอกหอยอะไรแม่ก็ไม่อยากได้ - -หรือว่าหนูอยากได้
เงินแสน อีกยี่สิบปี มันคงเลอค่ามากเลยสิวะ
แล้วไอ่จำนวนเงินแค่นี้ ขอกันกินมากกว่านี้
ยายบอกว่าซื้อเพราะตัดความรำคาญ

...

แล้วมีเหยื่ออีกกี่คนที่จำทนเพราะความรำคาญ
พวกอมีบ้าทางอารมณ์พวกนี้ วะ
ห๊า

ไอ่เงิน พันกว่าบาทนี่ ถ้าแม่มานั่งจ่ายให้หนู
ทำไมแม่จะจ่ายไม่ได้
แต่ทำไมแม่ต้องไปทำให้มันด้วย(วะ)

ก่อนไปทำงาน ยายบอกว่าให้แม่เซ็นต์ให้หน่อย
มันจะได้จบๆไป

แม่บอกว่าไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ
ยายบอกเค้าไปก็แล้วกัน ว่า น้องภูมีแล้ว ทำไปแล้ว
ก็ว่าไป

..

ถึงตอนนี้ ยายไม่ยอม
เรา ทั้งแม่ทั้งยาย มีปากมีเสียงกัน
เพราะความที่เกรงใจมัน
เพียงเพราะมันเปนผู้บังคับบัญชา
ยายเสียใจ ที่ขอร้องแม่แค่นี้ แม่ให้ไม่ได้
แม่ผิดมากใช่ไหม
แม่กราบกราน ยกมือไหว้
..
"หนูขอโทษ ถ้าหนูจะทำให้แม่เสียใจ
หนูทำให้แม่ไม่ได้จริงๆ
หนูยอมไม่ได้ เรื่องอะไรจะต้องไปยอมให้เค้ามาเอาเปรียบ
แม่ก็บอกเค้าไปสิว่าน้องภูมีแล้ว เต้ทำให้แล้ว
ยังงั้นหนูจะไปพูดกะเค้าเอง"

(เชี่ย เอ้ย)

ยายเสียใจ ที่แม่ไม่เข้าใจ
แม่เองก็เสียใจ ที่ ทำให้ยายเสียใจและไม่เข้าใจด้วย
เรื่องราวบานปลายใหญ่โต
แม่กลายเปนลูกที่ดื้อ และไม่เข้าใจ
ยืนยันแต่ว่า แค่นี้ทำให้แม่ไม่ได้ใช่ไหม
จะเอาชนะแม่ใช่ไหม
(เปนงั้นไป สิวะ)

แม่ได้แต่ บอกว่า

หนูทำให้ไม่ได้จริงๆ แม่
หนูขอโทษ


..

แม้ว่ายายจะยกเหตุผลมาอีกเท่าไหร่
ตาเข้ามาไกล่เกลี่ย ว่า มันอะไรนักหนา
บอกเค้าไปสิว่าไม่ทำ
ยายยืนยันว่าต้องทำ และต้องทำให้ได้
ยายรับปากเค้าไปแล้วว่าจะช่วย แล้วจะมองหน้ากันยังไง
คนทำงานด้วยกัน
(มันนั่นแหละที่ต้องไม่กล้ามองหน้าเรา ไม่ใช่เราซะหน่อย)
แล้วจะให้ยายเสียมากกว่านี้หรอ?

ดูดิ้ ยังจะกล้ามาขายแพงกว่านี้อีกคนเรา
ถ้ายายไปทำให้คนอื่นเบี้ยจะยิ่งสูงมากกว่านี้
เออหนอ คนเรา

เปนถึงนายคน ยังจะมาเอาเปรียบลูกน้องแบบนี้
เชี่ยจริงๆ ไม่รู้จะด่ามันว่ายังไง
ยายยืนยันว่า ยังไง ก็ต้องเสียเงินให้มันแน่ๆ
เพราะยายไม่ใช่รายเดียว
ยังมีลูกน้องอีกหลายคน ที่ต้องกล้ำกลืนแบบนี้
คิดหรอว่ายายสบายใจ
แต่ขอซื้อความสบายใจได้ไหม
เงิน แค่พันกว่าบาท
ก็ซื้อๆทิ้งไปซะ

..

งั้นแม่ก็ทำให้คนอื่นไปละกัน
ไม่ต้องทำให้น้องภูหรอก เพราะยังไงหนูก็ไม่ยอม
หนูขอโทษแม่จริงๆ หนูทำให้แม่ไม่ได้


๓.

ยายออกจากบ้านไปด้วยความร้าวรานใจ
และแบกอะไรต่อมิอะไรไปเต็มแอกเต็มบ่า
แม่ก็อยู่บ้าน ได้แต่ทอดถอนใจ
ถึงยังไง นาทีนี้แม่ก็ไม่ยอม

ตาบอกว่าทำไมไม่ทำให้มันจบๆไปซะ
เอ๊
บอกว่าไม่ยอมๆ
เรื่องอะไร
ฝันไปเหอะว่ามันจะได้เงิน (กรู)
หรือในนามของลูกกรู
เชี่ย


ลูกเอ๋ย
นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
อีกไม่รู้เท่าไหร่ ที่เราจะเจอคนจ้องเอาเปรียบเรา
แม้ว่าเราไม่ได้ เบียดเบียนเค้าเลยก็ตาม
ชีวิตหนูยังอีกยาวนัก
ถ้าทำได้ แม่กะพ่อจะสร้างความมั่นคงในชีวิต
ให้หนูแน่ๆ หนูไม่ต้องกลัว
อีกหน่อยหนูจะเห็นเอง
หนูต้องเรียนรู้หลบ หลีก หรือวิ่งชน
หนูก็เลือกเอา
แม่น่ะถนัดชนแบบถากๆมากกว่า
แดกดันมันไปแบบนี้แหละ
มันดีแต่กรูไม่ยอมซะอย่าง บังคับให้เราจ่ายได้หรอ
เชี่ย

อีกหน่อยแม่เองก็คงเจอภาวะจำยอมแบบนี้อีกหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะค่าแป้ะเจี้ยะ โรงเรียนหนู
งานการกุศล ค่านู่นค่านี้
นี่ขนาดไม่ได้สังกัดหน่วยงานไหน และรัฐอิสระยังเจอะขนาดนี้
วันก่อน มีคนแจกซองผ้าป่ามาให้บ้านเรา ๖ ซอง
คนให้มันไม่คิดเอาซะเลย
เชี่ยจริงๆ บอกบุญได้บาปแท้ๆ
เอาซองมาวางกองให้ยาย จ่าหน้าให้คนในครอบครัว
๖ คน มีตา ยาย แม่ พ่อ น้าเม่น น้องภู
ใช้ส้นตีนคิดหรอ
ถ้าเรายอมให้เค้าเอาเปรียบ เค้าก็จะเอาเปรียบเราอยู่อย่างนั้น
การช่วยเหลือ เพื่อนฝูง กัน
คนละประเด็นกับการตอดเล็กตอดน้อย จ้องเอาแต่ได้แบบนี้
คนสมัยนี้แมร่งงงงงงงง
กวนส้นตีนแม่จริงๆ
อย่าให้เจอนะมึ้ง
แม่จะด่าให้
(นี่ยังไม่ทันด่าเลย)


๔.

หนูขอโทษนะแม่




 

Create Date : 27 กันยายน 2548
5 comments
Last Update : 27 กันยายน 2548 12:30:15 น.
Counter : 688 Pageviews.

 

หวัดดีคะ แม่น้องภู วันนีดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะคะ คนขายประกันนี้เป็นอย่างงี้จริงๆคะ บางที่ก้อมารบกวนเราตลอดเวลาและไม่เคยคิดจะเข้าใจเราเลย (แถมอรื่องของแม่น้องภูยังเป็นเรื่องของเจ้านายอีก)
เฮ่ยยย แต่ชั่งมันเถอะคะ

 

โดย: asariss 27 กันยายน 2548 13:11:03 น.  

 

อ่านแล้วเซ็งแทนเลยนะคะ

เป็นเราก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน

เจอแบบนี้ น่าเบื่อเนอะ

 

โดย: คุณป้ายังปิ๊ง 27 กันยายน 2548 15:48:06 น.  

 

เข้าใจค่ะ

ล่าสุดเราก็มีน้องรู้จักกันห่างๆมาขายประกัน
ไม่รุจะพูดไงดีเหมือนกัน
ประกันอันที่มีอยู่ก็ซื้อเพราะเพื่อน(ห่างๆ)
แถมซื้อได้ไม่กี่ปีเพื่อนก็เลิกสนใจ
เป็นการทำประกันที่ห่วยสุดๆ

ส่วนเรื่องซองผ้าป่า
ใส่ไปซองละ 20 ก็พอค่ะ แล้วแม็กซ์รวมกันไว้
คนนี่ก็แปลกจริงๆนะ
บ้านเราเคยได้สี่ซอง เพราะเค้าบอกว่าทำงานกันทุกคน
แต่อันนี้น้องภูก็ได้ด้วย แปลกจริงๆ

 

โดย: ชมทะเล 27 กันยายน 2548 17:56:29 น.  

 

ถ้าไม่พร้อมไม่ต้องทำครับเห็นด้วย สำหรับแม่ ไว้ทำเรื่องดี ๆ ใช้คืนให้วันหลังก็ได้ครับ

 

โดย: ultraman seven 27 กันยายน 2548 21:44:07 น.  

 

เฮ้ย กรณีแบบนี้ขอเลือดขึ้นหน้าด้วย
ขอผสมโรง
เชี่ยจริง ๆ
คนอย่างนี้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าคนได้ไงเนี่ย
แค่อ่านยังกรุ่น ๆ ไปด้วยเลย


เราก็ทำให้แม่ร้องไห้บ่อยเหมือนกัน
กรรมคงตามสนองเข้าสักวัน เร็ว ๆ นี้แหละ เห็นแววแล้ว

 

โดย: Eeyore 4 ตุลาคม 2548 10:30:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดช.ภูผา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใช้ชีวิตละเรียนรู้ชีวิต
[Add ดช.ภูผา's blog to your web]