Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
ทำไมพระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร จึงมีลูกศิษย์มากมายทั่วโลก

พระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่คุณงามความดีและวิชาความรู้ที่ท่านได้สอนหรือถ่ายทอดให้กับผู้คนทั้งหลายก็ยังตกทอดมาถึงทุกวันนี้

ข้อคิดรอบตัว
 
 
 
หลวงปู่
 
        พระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร หรือ หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ แม้ว่าท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่าน รวมถึงวิชาความรู้ที่ท่านได้สอนหรือถ่ายทอดให้กับผู้คนทั้งหลาย โดยผ่านทางคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันขนนกยูง และสืบทอดมายังพระเทพญาณมหามุนี หลวงพ่อธัมมชโย จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้
 

ทำไมพระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร จึงมีลูกศิษย์มากมายทั่วโลก?

 
        พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญนั้น ท่านคือผู้ที่ค้นเอาวิชชาธรรมกายกลับมาอีกครั้งหนึ่ง คือหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วนั้น หลักธรรมะปฏิบัติก็ยังคงมาอยู่อีกระยะเวลาหนึ่ง พอหลังจากนั้นแล้วก็จะเหลือเป็นตัวอักษรเป็นหลักทฤษฎี เป็นภาคปริยัติในหนังสือ พระไตรปิฎก แต่ผู้ที่จะเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ถึงจริงนั้นเลือนไป ก็ยังมีการปฏิบัติอยู่ในรูปแบบต่างๆ แต่ว่าผู้ที่จะบรรลุธรรมหรือเข้าถึงธรรมนั้นห่างออกไป เช่นคำว่า มัชฌิมาปฏิปทา เส้นทางสายกลาง ก็รู้แต่เพียงหลักปริยัติว่า คือทางสายกลางระหว่างความสุดโต่ง 2 อย่าง คือ ทรมานร่างกายก็ไม่เอา หมกมุ่นในกามสุขก็ไม่เอา เอาแค่ทางสายกลาง เพราะรู้อยู่แค่นี้ แต่ความจริงในเชิงปฏิบัติเส้นทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา คือการนำใจของเราดำเนินไปที่ศูนย์กลางกายที่คนไม่ค่อยทราบกันเลย พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อชาวโลกก็คือว่า การนำเอาหลักธรรมะปฏิบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เรียกว่าวิชชาธรรมกายนั้นกลับคืนมาสู่โลกอีกครั้ง
 
ท่านคือผู้ที่ค้นเอาวิชชาธรรมกายกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ท่านคือผู้ที่ค้นเอาวิชชาธรรมกายกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
 
        กว่าจะได้อย่างนั้น เรียกได้ว่าต้องทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว ท่านเองเมื่อบวชแล้วก็ปฏิบัติธรรมอยู่ 10 กว่าพรรษา มาบรรลุธรรมเอาในพรรษาที่ 12 วันเพ็ญเดือน 10 หลังจากไปศึกษากับพระอาจารย์ต่างๆ ที่ไหนใครว่าอาจารย์ไหนเก่งในเรื่องธรรมะปฏิบัติ ก็ไปร่ำเรียนศึกษามาจนหมดเลย สุดท้ายก็มาปฏิบัติเองเพราะไปศึกษาแล้วมันยังไม่ถึง หมดความรู้ครูบาอาจารย์แล้วแต่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น จุดที่บรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า จนกระทั่งวันเพ็ญเดือน 10 เมื่อปี พ.ศ. 2460 ปฏิบัติธรรมแบบทิ้งชีวิต วันนี้ถ้าไม่บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นจะขอยอมตาย ในที่สุดวันนั้นก็เป็นวันที่ท่านได้เข้าถึงธรรม ใจนิ่งอยู่ตรงกลางเห็นเป็นดวงสว่าง ที่ศูนย์กลางกายเหนือสะดือ 2 นิ้วมืออยู่ที่กลางท้อง แรกๆ ก็งงว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ปรากฏว่ามีเสียงดังขึ้นมาจากตรงกลางว่า มัชฌิมาปฏิปทา เส้นทางสายกลาง ก็เอาใจเข้ากลางไปเรื่อยๆ ก็มีดวงสว่างซ้อนๆ ขึ้นมา 6 ดวง แล้วก็เห็นเป็นกายภายในเหมือนตัวเองแต่ใสสว่าง ภายหลังจึงรู้ว่าเป็นกายมนุษย์ละเอียดและเข้าถึงกายภายในตามลำดับๆ จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายภายใน ในวันเพ็ญเดือน 10 เราจึงเรียกวันนี้ว่าเป็นวันครูวิชชาธรรมกาย จึงถือว่าท่านมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่กับชาวโลก ด้วยการนำธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภาคปฏิบัติกลับคืนมาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง ศิษย์เอกของพระเดชพระคุณหลวงปู่ก็คือ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันขนนกยูง ที่เป็นผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย เป็นผู้ที่หลวงปู่ท่านยกย่องว่าเป็น 1 ไม่มี 2 ในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของท่าน และพระภิกษุรุ่นบุกเบิกของวัดพระธรรมกายก็มี หลวงพ่อธัมมชโย เป็นประธาน ก็ถือว่าเป็นศิษย์ของคุณยายอาจารย์ต่อมา ฉะนั้นชาววัดจึงมีความเคารพบูชา กตัญญูต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่มาก เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ผู้ให้ความรู้ในวิชชาธรรมกายกับเรา
 

ในแต่ละปีมีการจัดงานรำลึกถึงท่านอย่างไรบ้าง?

 
        ถ้าเราอยากจะระลึกถึงท่าน เราก็จะมาปฏิบัติธรรมเป็นหลัก แต่ในรายละเอียดงานพิธีการอย่างอื่นนั้นขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละปีจะมีอะไร แต่เนื้อหาหลักคือมาปฏิบัติธรรมแล้วระลึกถึงท่าน ปฏิบัติบูชาเลิศกว่าการบูชาทั้งปวง เราเอาปฏิบัติบูชาที่ท่านสอนมาเป็นหัวใจหลัก อย่างอื่นก็เสริมเข้ามา เช่น ในบางปีจะมีพิธีอันเชิญรูปหล่อทองคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่าน ไปประดิษฐานที่มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี ที่อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ที่พวกเราได้ช่วยกันสละทรัพย์มาหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำแท้ เพื่อให้สาธุชนชาวพุทธได้เคารพสักการบูชากัน
 
การเคารพบูชาครูบาอาจารย์นั้นมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง?
 
        อานิสงส์จะได้ตั้งแต่ การที่เราบูชาบุคคลที่ควรบูชา ผู้ที่เป็นเนื้อนาบุญนั้นเราก็ได้บุญมาก เหมือนในสมัยพุทธกาล หลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูก็สร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีหญิงคนหนึ่งยากจนแต่มีศรัทธาอยากไปบูชาพระสถูปพระพุทธเจ้า แต่ไม่มีเงิน จะไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนอะไรก็ไม่มีแต่มีศรัทธา ซึ่งสำคัญที่สุด ก็เลยเก็บดอกบวบขมจากข้างทาง 4 ดอก ตั้งใจถือมาจะเอาไปบูชาพระสถูป พอเดินมาถึงกลางทางถูกโคแม่ลูกอ่อนวิ่งมาขวิดตายก่อน พอตายแล้วด้วยบุญที่ตั้งใจจะไปบูชาพระสถูป แต่ไปไม่ถึงนั่นแหละส่งผลให้ไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองสีเหมือนดอกบวบขมเลย ขนาดพระอินทร์เห็นแล้วก็ยังต้องชื่นชมว่าทำบุญอะไรมาถึงมีวิมานสวยงามขนาดนี้ เทพธิดาก็เขินอายไม่กล้าพูด เพราะรู้สึกว่าทำบุญนิดเดียว จนพระอินทร์ต้องคะยั้นคะยอถึงยอมพูดว่าทำบุญด้วยดอกบวบขมที่เก็บจากริมทาง แต่เพราะบูชาถูกเนื้อนาบุญ บุญถึงได้ส่งผลอย่างนี้
 
        ฉะนั้นเราเองถ้าทำบุญด้วยความตั้งใจ ไม่ใช่แค่ดอกบวบขมอย่างนี้ เตรียมทานที่ประณีตเท่าที่กำลังเราเองจะเตรียมได้ และทำด้วยความศรัทธาเลื่อมใส ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ทักขิไนยนั้นหาชื่อว่าเป็นของน้อยไม่ บุญเกิดขึ้นกับเราอย่างมหาศาล ถูกธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน เพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านปฏิบัติธรรมเข้าถึงธรรมกายของพระพุทธเจ้านับพระองค์ไม่ถ้วน เมื่อเราทำบุญกับท่านก็จะได้บุญมหาศาล
 
ทำไมจะต้องหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ ถ้าหล่อด้วยอย่างอื่นจะต่างกันอย่างไร?
 
        เราลองนึกดูว่าถ้ามีคนในโลกมาถึงแล้วบอกว่าที่นี่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงปู่ฯ ด้วยทองคำบริสุทธิ์ คนที่ไม่รู้จักมาก่อนจะรู้สึกว่าบุคคลคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ถ้าสร้างรูปปั้นให้ด้วยโลหะอะไรต่างๆ นั้นก็มักจะนึกถึงว่าคนๆ นั้นต้องเป็นคนดี ถึงได้รับการยกย่องชื่นชมอย่างนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึง แต่ถ้าหล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์แล้วถามว่ามีกี่รายในโลก แสดงว่าบุคคลนี้ต้องไม่ธรรมดาแล้ว ฉะนั้นคนที่มาสักการะจะเกิดความรู้สึกว่าใจจะเปิด ทำให้เกิดความสงสัยว่าท่านดีอย่างไร ทำไมคนถึงต้องมาหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ ก็จะเกิดความอยากรู้แล้วก็จะตั้งใจศึกษา พอศึกษาแล้วก็จะได้ต้นแบบ นี่เป็นอุบาย
 
ทำไมจะต้องหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ
ทำไมจะต้องหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ
 
        ฉะนั้นเราลองคิดดูว่า ถ้าต่อไปคนทั่วโลกมาบูชารูปหล่อทองคำของท่านเป็นร้อยล้านพันล้านคน เพราะว่าไม่ได้อยู่แค่ปีเดียวแต่อยู่ยาวเป็นพันๆ ปี งบประมาณในการหล่อสมมติว่าเป็นหลักร้อยล้านหรือพันล้าน ก็เท่ากับว่าลงทุนต่อหัวแค่คนละ 1 บาทเท่านั้นเอง ในการทำให้คน 1 พันล้านคนเปิดใจให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาประวัติของบุคคลที่เป็นต้นแบบในยุคใกล้ปัจจุบัน และทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดีด้วยการใช้เงินแค่คนละ 1 บาท ซึ่งมันสุดคุ้มเลย และองค์ท่านก็ยังคงอยู่ตลอดหลายพันปีไม่ได้สูญหายไปไหน เพราะทองคำเป็นโลหะธาตุที่บริสุทธิ์และไม่ทำปฏิกิริยากับอย่างอื่น ยกเว้นกรด จึงมีความคงทนถาวรยิ่งกว่าโลหะอื่นใดในโลก
 
ในการเดินทางไปสักการะท่านนั้นสามารถไปที่ไหนได้บ้าง?
 
        เราเรียกว่าเส้นทางมหาปูชะนียาจารย์ มีอยู่ 4 ที่ แห่งแรกคือมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี ณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี อยู่บนแผ่นดินบ้านเกิดของท่านเลย ที่ๆ 2 คือที่ๆ ท่านบรรลุธรรม คือที่วัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เราก็ไปขออนุญาตทางวัดแล้วสร้างโบสถ์คร่อมโบสถ์เดิมของท่าน เพื่อรักษาโบสถ์เดิมไว้ ที่ๆ 3 คือที่วัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม ตรงนี้คือเป็นที่ๆ ท่านสอนธรรมะวิชชาธรรมกายครั้งแรก เพราะท่านรู้ว่าที่นี่จะมีเข้าถึงธรรมได้ จึงจาริกมาที่วัดบางปลาแล้วสอนธรรมะที่นี่เป็นเวลา 4 เดือน มีพระภิกษุ 3 รูป ฆราวาสอีก 4 คน ปฏิบัติธรรมจนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย เป็นพยานในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
ท่านสอนธรรมะและมีผู้ปฏิบัติตามจนเข้าถึงพระธรรมกายได้
ท่านสอนธรรมะและมีผู้ปฏิบัติตามจนเข้าถึงพระธรรมกายได้
 
        คือถ้าเราได้คนเดียวคนอื่นก็ไม่รู้ตาม ฉะนั้นการสอนธรรมะให้มีผู้อื่นได้ปฏิบัติตามและเข้าถึงตามได้นั้น มีความสำคัญมาก เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถ้าท่านบรรลุธรรมพระองค์เดียว คนอื่นก็ไม่รู้ตาม ฉะนั้นการแสดงปฐมเทศนาของพระองค์จึงถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากๆ ที่ท่านเสด็จไปโปรดปัญจวัคคีจนกระทั่งปัญจวัคคีบรรลุธรรมตามได้ นี่คือที่สำคัญที่ท่านได้ไปแสดงปฐมเทศนา
 
        หลวงปู่ก็เหมือนกัน เราเลยถือว่าที่ๆ ท่านสอนธรรมะและมีผู้ปฏิบัติจนเข้าถึงพระธรรมกายครั้งแรกนั้น ที่วัดบางปลาจึงมีความสำคัญ ซึ่งที่นี่เป็นที่ๆ 3 ส่วนที่ๆ 4 เป็นที่ๆ ท่านละสังขาร ท่านได้อยู่สอนธรรมะและปกครองวัดมาตลอดอายุขัยของท่าน จนกระทั่งละสังขารมรณภาพที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ทั้งหมดคือเส้นทางมหาปูชะนียาจารย์ ที่ที่ท่านเกิด ที่ท่านบรรลุธรรม ที่ท่านสอนธรรมะครั้งแรก และที่ที่ท่านละสังขาร ทั้งหมด 4 ที่ คือ เส้นทางมหาปูชะนียาจารย์
 
การสวมชุดสีขาวมาเคารพสักการะท่านนั้นมีความสำคัญอย่างไร?
 
        ต้องบอกว่านี้ไม่ใช่ของใหม่ เป็นการเอาธรรมเนียมเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ในสมัยพุทธกาลเลย แต่เราละเลยไม่ใส่ใจให้ฟื้นกลับมา ในสมัยพุทธกาลนั้น เวลาชาวพุทธจะไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไปทำบุญที่วัด เขาจะใส่ชุดสีขาวกัน ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน เตรียมเครื่องไทยธรรมไปวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมกัน แสดงถึงความเคารพในพระรัตนตรัย
 
        คนเราเมื่อใส่ชุดสีขาวแล้ว จะลุกจะนั่งก็ต้องมีความระมัดระวังกลัวจะเปื้อน ก็จะมีสติระมัดระวังตัว และพอเราเห็นทุกคนที่ไปวัดใส่แต่ชุดสีขาวเหมือนกันหมดมองดูแล้วก็ใจสบาย อย่างศรีลังกาเขาก็ยังรักษาของเก่าอยู่ เวลาไปวัดก็จะใส่ชุดสีขาวกันหมด จะไม่รู้สึกแปลกตาเลยเพราะมีให้เห็นกันอยู่ทั่วๆ ไปเป็นปกติ
 
        ประเทศไทยเองก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงค่อยๆ เกิดขึ้นมาแล้ว ที่วัดพระธรรมกายคนจะมาเป็นหมื่นเป็นแสนส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุดขาว มีบ้างที่เสื้อเป็นสีขาวกางเกงอาจเป็นสีอื่นแต่เป็นส่วนน้อย และเริ่มจะเป็นสีขาวล้วนมากขึ้นๆ ยิ่งถ้าจะเข้าไปในมหาวิหารหลวงปู่นั้นเราก็ได้ตั้งกติกาไว้เป็นพิเศษว่า ให้เป็นชุดขาวๆ คือขาวล้วนๆ ห้ามมีสีอื่นปนแม้เพียงเล็กน้อย ถ้าเป็นพระนั้นไม่มีปัญหา
 
ก่อนไปร่วมงานสักการะองค์ท่าน เราควรมีการเตรียมกายวาจาใจอย่างไร?
 
        ก่อนไปร่วมงานนั้นให้เรารู้ว่าเราไปเพื่ออะไร ที่นี่ไม่มีคอนเสิร์ต ไม่มีลิเก เป็นงานบุญล้วนๆ ฉะนั้นเราเองต้องศึกษาสาระของงานบุญว่าคืออะไร ต้องคิดให้ได้ว่าเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระเดชพระคุณหลวงปู่ ในฐานะที่ท่านไปค้นเอาหลักธรรมะปฏิบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมาให้เรา ทำให้เราเองมีความเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าเป็นจริงตามนั้น นี่คือพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ซึ่งท่านเป็นพยานบุคคลคนหนึ่งที่ไม่ใช่มีแค่ท่านคนเดียว มีลูกศิษย์ท่านอีกหลายคนด้วยที่สามารถเป็นพยานได้
 
        ถ้าไม่มีหลวงปู่ จะเป็นอย่างไรยังไม่รู้เลย เพราะมีท่านอย่างนี้แหละจึงเกิดการตื่นตัวของชาวพุทธขนานใหญ่ขึ้นมาในระดับหนึ่ง จะมีใครสักกี่คนแม้มองภายนอกหยาบๆ จะทำได้อย่างนี้ ท่านคือต้นบุญต้นแบบของเราจริงๆ
 
        เมื่อเราศึกษาสาระตรงนี้แล้ว เราจะรู้ว่าที่เรามานั้นมาเพื่ออะไร คุณธรรมท่านคืออะไร แล้วเราจะได้ตั้งใจฝึกตัวเองตามแบบอย่างท่าน ท่านทุ่มเทสอนเรามาขนาดนี้ ก็ควรตั้งใจฝึกตัวเองกันต่อไป
และในวันนั้นก็ควรมาด้วยใจที่มีศรัทธาเลื่อมใสเต็มที่ ตั้งแต่เช้าก่อนงาน 7 วัน นั่งสมาธิ(Meditation)ให้ใจใสๆ ถึงวันงานก็มาด้วยใจที่ปลอดโปร่ง แม้คนจะมาก เมื่อใจเราเองสงบนิ่งเต็มที่คนมากก็เหมือนคนน้อย และให้ทุกคนมีใจเหมือนอยู่ในบุญตลอด
 
        หลังงานก็ต้องระลึกนึกถึงงานบุญนั้นด้วยความปลื้มปีติตลอด นั่งสมาธิต่ออีกอย่างน้อย 7 วัน ทำใจใสๆ บุญจะได้หลั่งไหลมาที่ตัวเราเองอย่างต่อเนื่องเต็มที่ตลอด 7 วัน คือ ก่อนงาน ระหว่างงาน และหลังงาน ให้ทำแบบนี้ ส่วนในวันงานนั้นให้เรานึกว่าเราไม่ได้มาเอาความสะดวกสบาย เหมือนการจาริกมาแสวงบุญ ฉะนั้นจะลำบากอย่างไรให้นึกถึงหลวงปู่ไว้ว่าท่านในสมัยก่อนนั้นลำบากกว่าเรามาก เราเองเมื่อมาเจอคนหมู่ใหญ่เข้า ให้เรารักษาอารมณ์ของเราให้ใสไว้ ไม่ให้หงุดหงิด เจออะไรที่ทำให้ไม่สบอารมณ์เข้าก็ให้ปัดทิ้ง อย่างไปคาดหวังอะไรมาก ทำตัวให้เรียบง่ายที่สุด



Create Date : 04 กันยายน 2555
Last Update : 4 กันยายน 2555 18:07:55 น. 0 comments
Counter : 1990 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ่นอาวรณ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.